คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
โฆษณา

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 101 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1053/2507 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การดูหมิ่นด้วยการโฆษณาต้องเป็นการกล่าวต่อหน้าบุคคลหลายคน ฟ้องที่ไม่สมบูรณ์หากกล่าวต่อหน้าบุคคลเดียว
บรรยายฟ้องว่า "จำเลยกล่าวทำดูหมิ่นนางประยูร ด้วยการโฆษณาโดยจำเลยกล่าวต่อเด็กหญิงเวียนเด็กรับใช้ในบ้านของนางประยูรว่า ให้ไปบอก อ้ายเหี้ย อีเหี้ย นายของมึงสองคน อย่ามาว่าอะไรกูมากนัก ประเดี๋ยวกูทนไม่ได้จะเอาเรื่องอีก" ดังนี้เป็นการสั่งฝากไปบอกผู้เสียหายในลักษณะพูดกันตัวต่อตัว โดยไม่ปรากฎว่าจำเลยได้กล่าวต่อบุคคลอื่นอีก จึงเป็นฟ้องที่ไม่สมบูรณ์ในความผิดฐานดูหมิ่นด้วยการโฆษณาตามมาตรา 393 เพราะมาตราดังกล่าวนี้มีความหมายถึงการดูหมิ่นในลักษณะการป่าวร้องให้รู้กันหลาย ๆ คน ฉะนั้น แม้จำเลยจะรับสารภาพก็ลงโทษไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1053/2507

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การดูหมิ่นด้วยการโฆษณาต้องเป็นการให้รู้กันหลายคน ฟ้องไม่สมบูรณ์หากกล่าวต่อหน้าบุคคลเดียว
บรรยายฟ้องว่า "จำเลยกล่าวคำดูหมิ่นนางประยูรด้วยการโฆษณา โดยจำเลยกล่าวต่อเด็กหญิงเวียนเด็กรับใช้ในบ้านของนางประยูรว่า " ให้ไปบอกอ้ายเหี้ย อีเหี้ย นายของมึงสองคน อย่ามาว่าอะไรกูมากนัก ประเดี๋ยวกูทนไม่ได้จะเอาเรื่องอีก" ดังนี้ เป็นการสั่งฝากไปบอกผู้เสียหายในลักษณะพูดกันตัวต่อตัว โดยไม่ปรากฏว่าจำเลยได้กล่าวต่อบุคคลอื่นอีกจึงเป็นฟ้องที่ไม่สมบูรณ์ในความผิดฐานดูหมิ่นด้วยการโฆษณาตามมาตรา 393 เพราะมาตราดังกล่าวนี้มีความหมายถึงการดูหมิ่นในลักษณะป่าวร้องให้รู้กันหลายๆ คน ฉะนั้น แม้จำเลยจะรับสารภาพก็ลงโทษไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 645/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หมิ่นประมาทจากการโฆษณาข้อความเสียหายทางการค้า แม้มีมูลจากข้อเท็จจริง ก็ถือเป็นความผิด
โจทก์จำเลยเคยสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาเทศบาลด้วยกัน จำเลยได้พิมพ์ใบปลิวมีข้อความว่า "โจทก์ทำการค้ากับร้านสหกรณ์สมัยนายเฉลิมเป็นผู้จัดการ รับนมและบุหรี่ไปขายแล้วไม่นำเงินมาให้ร้านสหกรณ์ 20,383 บาท และจ่ายเช็คไม่มีเงินให้ 13,878.85 บาท จำเลยเข้าไปรับงานผู้จัดการทีหลังรื้อเรื่องขึ้นมาฟ้องร้องดำเนินคดีเรียกเงินให้ร้านสหกรณ์สำเร็จ ขณะนี้โจทก์ยังคงผ่อนชำระให้ร้านสหกรณ์ตามคำสั่งศาลอยู่" แล้วจำเลยโฆษณาแจกจ่ายใบปลิวเหล่านั้น แม้ตามความจริงโจทก์ได้ถูกร้านสหกรณ์ซึ่งจำเลยเป็นผู้จัดการฟ้องเรียกเงินต่อศาลและได้ยอมความกันก็ตาม การกระทำของจำเลยก็เป็นเจตนาใส่ความหมิ่นประมาทโจทก์ ไม่ใช่เป็นการแสดงความคิดเห็นโดยสุจริต

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 645/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณาข้อความเท็จที่ทำให้เสียชื่อเสียง แม้จะเป็นเรื่องที่เคยมีการฟ้องร้องและยอมความแล้ว
โจทก์จำเลยเคยสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาเทศบาลด้วยกัน
จำเลยได้พิมพ์ใบปลิวมีข้อความว่า 'โจทก์ทำการค้ากับร้านสหกรณ์สมัยนายเฉลิมเป็นผู้จัดการ รับนมและบุหรี่ไปขายแล้วไม่นำเงินมาให้ร้านสหกรณ์ 20,383 บาท และจ่ายเช็คไม่มีเงินให้ 13,878.85 บาทจำเลยเข้าไปรับงานผู้จัดการทีหลังรื้อเรื่องขึ้นมาฟ้องร้องดำเนินคดีเรียกเงินให้ร้านสหกรณ์สำเร็จขณะนี้โจทก์ยังคงผ่อนชำระให้ร้านสหกรณ์ตามคำสั่งศาลอยู่' แล้วจำเลยโฆษณาแจกจ่ายใบปลิวเหล่านั้นแม้ตามความจริงโจทก์ได้ถูกร้านสหกรณ์ซึ่งจำเลยเป็นผู้จัดการฟ้องเรียกเงินต่อศาลและได้ยอมความกันก็ตามการกระทำของจำเลยก็เป็นเจตนาใส่ความหมิ่นประมาทโจทก์ไม่ใช่เป็นการแสดงความคิดเห็นโดยสุจริต

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 83/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณาข้อความใส่ความผู้อื่นให้เสียชื่อเสียง แม้จะอ้างว่าได้ยินมาก็ไม่เป็นเหตุให้พ้นผิด
จำเลยเป็นบรรณาธิกาผู้พิมพ์และผู้โฆษณาหนังสือพิมพ์รายวัน และโฆษณายืนยันในหนังสือพิมพ์ว่าโจทก์ข่มขืนชำเรา น.ส.เฮียง การโฆษณาเช่นนี้ไม่ใช่เป็นการแสดงความคิดเห็นโดยชอบธรรมจำเลยโฆษณาความประพฤติอันชั่วช้าทารุณของโจทก์ ผู้ใดอ่านหรือได้ยินได้ฟังย่อมรู้สึกรังเกียจโจทก์ ทำให้โจทก์เสียชื่อเสียงคนทั้งหลายดูหมิ่นเกลียดชังโจทก์ ที่จำเลยเถียงว่าจำเลยโฆษณาตามคำบอกเล่าของพี่ชาย น.ส.เฮียงนั้น ไม่ใช่ข้อที่จะให้จำเลยพ้นผิด
เมื่อข้อความที่จำเลยโฆษณาแสดงอยู่ในตัวว่าเป็นการหมิ่นประมาทโจทก์ และทำให้โจทก์ต้องเสียชื่อเสียง จำเลยจะเถียงว่าไม่มีเจตนาใส่ความโจทก์เสียหายเช่นนี้ หาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 83/2501

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา: การยืนยันข้อความข่มขืนถือเป็นการใส่ความทำให้เสียชื่อเสียง
จำเลยเป็นบรรณาธิการผู้พิมพ์และผู้โฆษณาหนังสือพิมพ์รายวันและโฆษณายืนยันในหนังสือพิมพ์ว่าโจทก์ข่มขืนชำเรา น.ส.เฮียงการโฆษณาเช่นนี้ไม่ใช่เป็นการแสดงความคิดเห็นโดยชอบธรรม
จำเลยโฆษณาความประพฤติอันชั่วช้าทารุณของโจทก์ผู้ใดอ่านหรือได้ยินได้ฟังย่อมรู้สึกรังเกียจโจทก์ทำให้โจทก์เสียชื่อเสียงคนทั้งหลายดูหมิ่นเกลียดชังโจทก์ที่จำเลยเถียงว่าจำเลยโฆษณาตามคำบอกเล่าของพี่ชาย น.ส.เฮียงนั้นไม่ใช่ข้อที่จะให้จำเลยพ้นผิด
เมื่อข้อความที่จำเลยโฆษณาแสดงอยู่ในตัวว่าเป็นการหมิ่นประมาทโจทก์ และทำให้โจทก์ต้องเสียชื่อเสียงจำเลยจะเถียงว่าไม่มีเจตนาใส่ความโจทก์ไม่มีเจตนาจะให้โจทก์เสียหายเช่นนี้ หาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1436-1439/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโฆษณาเพื่อปกป้องประโยชน์ทางการค้าโดยสุจริต แม้มีเจตนาหมิ่นประมาท ก็อาจได้รับการยกเว้นโทษ
จำเลยที่ 1 เป็นผู้รับมอบหมายจากจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นบริษัทจำกัดซึ่งมีนายโซวิชัยเป็นผู้รับมอบอำนาจ ได้ร่วมกันนำข้อความไปลงพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ว่า มีบริษัทหลายบริษัทได้ผลิตรองเท้ายางปลอมใช้ตราดาวของจำเลย ตรานี้จำเลยได้จดทะเบียนไว้ เมื่อเป็นดังนี้จึงจำเป็นต้องนำเจ้าหน้าที่ไปจับผู้ทำการดังกล่าวมาดำเนินคดี แล้วออกชื่อโจทก์ทั้ง 4(ซึ่งความจริงโจทก์ได้ถูกจำเลยนำเจ้าพนักงานไปจับมาดำเนินคดีฐานจำหน่ายรองเท้ามีตราดาวปลอมจริง) ทั้งนี้เพื่อให้ข่าวแพร่หลายไป โดยประสงค์เพื่อกันมิให้ผู้อื่นที่จะกระทำการเลียนหรือปลอม มิได้มีเจตนาอย่างอื่น เช่นนี้ ถือว่าจำเลยเจตนาต่อสู้ป้องกันตน หรือเพื่อป้องกันประโยชน์ของตน แม้ข้อความจะทำให้โจทก์เสียหาย หรือเป็นการหมิ่นประมาทโจทก์ กรณีก็ต้องตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 283(1) จำเลยจึงไม่มีโทษฐานหมิ่นประมาท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 578-589/2486

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องคดีกำไรเกินควร: โจทก์ต้องพิสูจน์การโฆษณาประกาศ
พระราชบัญญัติป้องกันการค้ากำไรเกินควร 2480 มาตรา 9,16แก้ไขเพิ่มเติม 2483(ฉบับที่ 2) มาตรา 4,7 การฟ้องคดีผิดพระราชบัญญัติป้องกันการค้ากำไรเกินควรนั้นโจทก์มีหน้าที่นำสืบแสดงให้เห็นว่าประกาศของคณะกรรมการป้องกันการค้ากำไรเกินควรได้ปิดโฆษณาไว้ยังที่ซึ่งระบุในมาตรา 7 วรรคสามแห่งพระราชบัญญัติที่กล่าวจึงจะเอาผิดจำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 364/2485

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การปรับทุกข์ส่วนตัวไม่ถึงขั้นหมิ่นประมาท - จดหมายถึงบุคคลเฉพาะ ไม่ถือเป็นการโฆษณา
เขียนจดหมายถึงผู้ที่ต้องการให้มาประกันตัวความว่า"ผู้กำกับการตำรวจปล่อยไปครั้งหนึ่งแล้ว แต่นายร้อยตำรวจไม่ถูกกันเป็นส่วนตัวแกล้งปั้นเรื่องขึ้นอีก"ดังนี้เป็นการปรับทุกข์เป็นส่วนตัว ไม่ใช่เจตนาดูหมิ่นเจ้าพนักงาน
โจทก์ไม่ฟ้องและสืบว่าจดหมายที่กล่าวหาว่าหมิ่นประมาทนี้ได้รู้ถึงบุคคลแต่สองคนขึ้นไปจึงไม่ผิด มาตรา 282(อ้างฎีกาที่ 1013/2475) จดหมายถึงบุคคลเฉพาะตัวไม่ประสงค์ให้เปิดเผยไม่เป็นการโฆษณาตามมาตรา 339(3)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 487/2483

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกล่าวหมิ่นประมาทต่อหน้าบุคคลหลายคนถือเป็นการโฆษณาตามกฎหมาย
กล่าวคำหมิ่นประมาทต่อหน้าบุคคลหลายคนดังนี้ ถือได้ว่าเป็นการโฆษณาตามความหมายในมาตรา 339
(3) อ้างฎีกาที่ 912/2476
of 11