คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ไม่โต้แย้ง

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 106 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 290/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การงดสืบพยานเมื่อจำเลยแถลงไม่ติดใจสืบ และผลของการไม่โต้แย้งข้อเท็จจริงต่อการวินิจฉัยฟ้องแย้ง
ศาลชั้นต้นได้ดำเนินการพิจารณาคดีมาโดยลำดับโดยได้สืบพยานโจทก์แล้วสืบพยานจำเลยโดยสืบตัวจำเลยซึ่งมาศาลในวันนัดสืบพยานจำเลยนัดที่สองแล้วจำเลยแถลงว่าไม่มีพยานมาศาลอีกศาลชั้นต้นจึงได้งดสืบพยานอื่นของจำเลยเพราะจำเลยได้แถลงไว้ในนัดก่อนว่าพยานจำเลยคนใดไม่มาก็ไม่ติดใจสืบทั้งพฤติการณ์ที่จำเลยปฏิบัติในคดีแต่ต้นมาส่อไปในทางประวิงคดีถือว่าการพิจารณาพิพากษาคดีของศาลชั้นต้นชอบด้วยกระบวนพิจารณาแล้ว
เมื่อจำเลยไม่ได้อุทธรณ์คัดค้านข้อเท็จจริงที่ศาลชั้นต้นพิพากษาและมิได้กล่าวอ้างคัดค้านในฎีกาข้อเท็จจริงจึงยุติตามศาลชั้นต้น และเมื่อการฟังข้อเท็จจริงเป็นเหตุให้ศาลฎีกายกฟ้องแย้งของจำเลยแล้วปัญหาที่ว่าฟ้องแย้งของจำเลยเคลือบคลุมหรือไม่จึงไม่จำต้องวินิจฉัย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 753/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเปลี่ยนแปลงจำนวนเงินในสัญญากู้ และผลกระทบต่อการบังคับคดีเมื่อไม่ได้อุทธรณ์คำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยกู้เงิน 22,500 บาท จำเลยปฏิเสธว่า ไม่ได้กู้ สัญญากู้ปลอม ศาลชั้นต้นฟังว่าจำเลยกู้จริง 2,500 บาท ส่วนเลข 2 และ คำว่า สองหมื่นโจทก์เติมลงไป จึงให้จำเลยชำระเงินแก่โจทก์ 2,500 บาท โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำเลยรับผิด 22,500บาท จำเลยฎีกา ศาลฎีกาฟังว่ามีการตกเติมจำนวนเงินให้มากขึ้นจริงแต่จำเลยไม่ได้อุทธรณ์คำพิพากษาศาลชั้นต้นที่ให้จำเลยรับผิด 2,500 บาทจึงไม่มีประเด็นสำหรับเงินจำนวนนี้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 71/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำสั่งระหว่างพิจารณาไม่ขาดอายุความ อุทธรณ์ฎีกาไม่ได้หากไม่โต้แย้ง
จำเลยขอให้ศาลชี้ขาดเบื้องต้นว่า คดีโจทก์ขาดอายุความ ศาลสั่งว่า ฟ้องโจทก์ยังไม่ขาดอายุความ อันเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา นั้น เมื่อจำเลยมิได้โต้แย้งคำสั่งแต่ประการใดแล้ว จำเลยย่อมไม่มีสิทธิจะอุทธรณ์ฎีกาในข้อนี้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 71/2505

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำสั่งศาลระหว่างพิจารณาคดีเรื่องอายุความ หากไม่โต้แย้ง สิทธิในการอุทธรณ์ฎีกาในประเด็นนั้นย่อมหมดไป
จำเลยขอให้ศาลชี้ขาดเบื้องต้นว่าคดีโจทก์ขาดอายุความศาลสั่งว่าฟ้องโจทก์ยังไม่ขาดอายุความ อันเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณานั้นเมื่อจำเลยมิได้โต้แย้งคำสั่งแต่ประการใดแล้วจำเลยย่อมไม่มีสิทธิจะอุทธรณ์ฎีกาในข้อนี้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 943/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอ้างพยานเพิ่มเติมระหว่างสืบพยาน: ศาลชั้นต้นรับคำแถลงโดยไม่ต้องทำเป็นคำร้อง หากไม่มีการโต้แย้ง
ประเด็นตกหน้าที่จำเลยนำสืบก่อน คดีอยู่ระหว่างสืบพยานจำเลย โจทก์ยื่นคำแถลงระหว่างสืบพยานจำเลย โจทก์ยื่นคำแถลงขออ้างพยานเพิ่มเติม โดยไม่ได้ทำเป็นคำร้อง และศาลชั้นต้นยอมรับคำแถลง ไม่มีใครโต้ประเด็นเถียงข้อนี้ขึ้นมาก็ต้องถือว่าการอ้างพยานเพิ่มเติมของโจทก์ไม่ขัดต่อกฎหมาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 688/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประทับฟ้องและการไม่โต้แย้งคดีอาญา ทำให้ไม่สามารถลงโทษฐานลักทรัพย์ได้ แม้มีฟ้อง
ผู้ว่าคดีได้ยื่นฟ้องจำเลยต่อศาลแขวง โดยตั้งข้อหาว่าจำเลยกระทำผิดฐานลักทรัพย์หรือรับของโจร ชั้นไต่สวนมูลฟ้องจำเลยรับในข้อหารับของโจร ศาลแขวงสั่งคดีมีมูล ประทับฟ้องฐานรับของโจร ส่วนข้อหาฐานลักทรัพย์ไม่ประทับฟ้อง โจทก์ก็ไม่ได้โต้แย้งหรือคัดค้านประการใด เมื่อจำเลยให้การรับสารภาพฐานรับของโจร โจทก์ก็แถลงไม่สืบพยาน ดังนี้คดีไม่มีทางลงโทษจำเลยฐานลักทรัพย์ได้อีก โจทก์ฎีกาขอให้ศาลฎีการับฟ้องฐานลักทรัพย์อีกด้วย ข้อฎีกาของโจทก์จึงไม่เป็นสาระแก่คดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 214,15 และประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 242(1) ต้องยกฎีกาโจทก์เสีย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 819/2501

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หน้าที่นำสืบ: การไม่โต้แย้งคำสั่งศาล และการนำสืบตามที่รับไว้ ย่อมทำให้ไม่อุทธรณ์ฎีกาเรื่องหน้าที่นำสืบได้
ในชั้นชี้สองสถาน คู่ความแถลงรับว่าตนมีหน้าที่นำสืบก่อนตามประเด็นที่ศาลกะ ภายหลังยื่นคำแถลงโต้แย้งแต่เมื่อศาลมีคำสั่งไม่อนุญาตตามที่ขอ ก็ไม่ได้โต้แย้งคำสั่งไว้ และได้นำสืบก่อนตามที่ได้รับนำสืบไว้ และจนอีกฝ่ายหนึ่งนำสืบแก้เสร็จสิ้นแล้วดังนี้จะอุทธรณ์ฎีกาคำสั่งในเรื่องหน้าที่นำสืบอีกไม่ได้ ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 226,247

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1319/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การได้กรรมสิทธิ์โดยการครอบครอง และผลของการไม่โต้แย้งการครอบครองเป็นเจ้าของ
โจทก์ฟ้องว่าที่พิพาทเดิมเจ้ามรดกได้จำนองไว้แล้วได้โอนขายให้โจทก์ได้หักกลบกับหนี้จำนองแต่ยังไม่ได้จดทะเบียนปลดหนี้จำนองและทำหนังสือสัญญาซื้อขายต่อหอทะเบียนที่ดิน แต่โจทก์ได้ยึดถือครอบครองมาโดยสงบและเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของ ขอให้ศาลพิพากษาว่าที่พิพาทเป็นกรรมสิทธิของโจทก์โดยทางครอบครอง
จำเลย (ทายาทเจ้ามรดก)ต่อสู้เพียงว่าเจ้ามรดกไม่ได้ขายและมิได้ทำใบมอบฉันทะให้โจทก์ไปโอนกรรมสิทธิดังฟ้อง เป็นแต่มอบที่พิพาทให้โจทก์ทำต่างดอกเบี้ย เจ้ามรดกและจำเลยเคยไปขอไถ่จำนองแต่โจทก์ผัดผ่อนเรื่อยมา หากโจทก์มีใบมอบฉันทะ ก็เป็นใบมอบฉันทะปลอม
ดังนี้ในชั้นอุทธรณ์ฎีกาจำเลยยกปัญหาข้อกฎหมายว่าสัญญาจำนองยังไม่ระงับไปเพราะใบมอบฉันทะไม่มีวัน เดือน ปีเป็นใบมอบฉันทะที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายขึ้นเป็นข้อต่อสู้ไม่ได้ เพราะจำเลยไม่ได้ว่ากล่าวมาแต่ศาลชั้นต้น ทั้งกรณีเรื่องนี้ก็ไม่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ศาลสูงจึงไม่รับพิจารณาให้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 816/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำสั่งระหว่างพิจารณาคดี หากไม่โต้แย้งทันที จะไม่อุทธรณ์ฎีกาได้
เมื่อโจทก์ขอถอนฟ้องจำเลยไม่ขัดข้อง ศาลชั้นต้นยังไม่ได้สั่งอย่างไร โจทก์ก็ขอดำเนินคดีกับจำเลยต่อไป ศาลสั่งอนุญาต ประการหนึ่งและเมื่อโจทก์อีกคนหนึ่งทราบนัดแล้วไม่มาศาล แต่ศาลสั่งให้ดำเนินการพิจารณาต่อไป อีกประการหนึ่ง ต่างก็เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา เมื่อคู่ความไม่เห็นด้วย และประสงค์จะอุทธรณ์ฎีกา จะต้องโต้แย้งไว้ตาม ป.วิ.แพ่ง ม. 226 มิฉะนั้น จะอุทธรณ์ฎีกาคัดค้านไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 346/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลแก้ไขหน้าที่นำสืบ และผลของการไม่โต้แย้งคำสั่ง
คำสั่งศาลที่สั่งในเรื่องหน้าที่นำสืบนั้น เมื่อสั่งให้ฝ่ายใดเป็นฝ่ายมีหน้าที่นำสืบก่อนแล้วก็ดี ภายหลังก็ย่อมมีอำนาจสั่งเปลี่ยนแปลงได้เพราะไม่มีกฎหมายใดบัญญัติห้ามไว้ และเมื่อศาลสั่งแก้แล้ว คู่ความมิได้โต้แย้งไว้ก็ย่อมอุทธรณ์ฎีกาไม่ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 226
of 11