คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ทายาท

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,314 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 324/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแจ้งสละมรดกเท็จทำให้ผู้อื่นเสียหาย
ผู้เป็นหุ้นส่วนในห้างหุ้นส่วนจำกัดตาย ทายาทของผู้ตายห้าคนยื่นหนังสือต่อนายทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทว่า ทายาทสละมรดกยกหุ้นให้จำเลยโดยไม่ระบุชื่อโจทก์ว่าเป็นทายาทด้วยเป็นความเท็จทำให้โจทก์เสียหายโจทก์ฟ้องตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 137 ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2562/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิเจ้าของรวมฟ้องแบ่งทรัพย์สิน: ไม่จำต้องฟ้องทายาททุกคน
เจ้าของรวมคนหนึ่ง ๆ มีสิทธิฟ้องทายาทคนหนึ่งคนใดของเจ้าของรวมคนอื่นให้แบ่งทรัพย์สินได้ ไม่จำต้องฟ้องทายาททุกคน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2562/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิเจ้าของรวมฟ้องทายาทแบ่งทรัพย์สิน ไม่ต้องฟ้องทุกคน
เจ้าของรวมคนหนึ่งๆ มีสิทธิฟ้องทายาทคนหนึ่งคนใดของเจ้าของรวมคนอื่นให้แบ่งทรัพย์สินได้ ไม่จำต้องฟ้องทายาททุกคน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2309/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประนีประนอมยอมความมรดก: ไม่จำเป็นต้องตั้งผู้จัดการมรดก
ทายาททำสัญญาประนีประนอมยอมความแบ่งมรดกกันแล้ว ก็ไม่มีความจำเป็นต้องตั้งผู้จัดการมรดก ศาลยกคำร้องขอตั้งผู้จัดการมรดก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2163/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การตกลงใช้หนี้มรดกและการโอนสิทธิในทรัพย์มรดก
ทายาททุกคนตกลงกันให้โจทก์ใช้หนี้มรดกและให้โจทก์ได้รับทรัพย์มรดก โจทก์ได้รับ น.ส.3 แล้วให้จำเลยซึ่งเป็นทายาทคนหนึ่งอาศัยอยู่ จำเลยหมดสิทธิที่จะเรียกมรดกซึ่งตกเป็นของโจทก์ไปแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2049/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจัดการทรัพย์มรดกโดยผู้จัดการมรดกและการบังคับสิทธิเรียกร้องของเจ้าหนี้ต่อทายาท
คดีก่อนที่จำเลยฟ้อง พ.มารดาโจทก์เพื่อให้ชำระหนี้ของผู้ตายซึ่งเป็นบิดาโจทก์หากไม่ชำระขอให้บังคับจำนองที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างนั้น เป็นกรณีเจ้าหนี้กองมรดกบังคับสิทธิเรียกร้องต่อทายาทของผู้ตายตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1737,1738 เมื่อ พ.ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกับจำเลยว่า พ.จะโอนที่ดินกับบ้านซึ่งนำมาจำนองไว้นั้นให้แก่จำเลยเป็นการชำระหนี้จำนอง เมื่อ พ.ได้รับแต่งตั้งเป็นผู้จัดการมรดก ถ้า พ.ไม่ดำเนินการก็ให้บังคับจำนองเอาทรัพย์จำนองขายทอดตลาดชำระหนี้ได้ทันที และศาลพิพากษาตามยอมแล้ว ดังนี้ ถือว่า พ.กระทำไปในฐานะทายาทของผู้ตายเพื่อจัดการเกี่ยวกับมรดกหาใช่กระทำในฐานะผู้ใช้อำนาจปกครองโจทก์ซึ่งเป็นผู้เยาว์ไม่ แม้โจทก์จะมีส่วนเป็นเจ้าของที่ดินในฐานะทายาทผู้มีสิทธิรับมรดกของผู้ตายก็ตาม กรณีไม่ต้องด้วยมาตรา 1546 ที่จะต้องได้รับอนุญาตจากศาลก่อน โจทก์จึงจะมาฟ้องขอให้ศาลพิพากษาว่าสัญญาประนีประนอมยอมความในคดีก่อนไม่ผูกพันโจทก์หาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2049/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำสัญญาประนีประนอมโดยทายาทผู้จัดการมรดก ไม่ต้องได้รับอนุญาตจากศาลหากทำในฐานะทายาท ไม่ใช่ผู้ใช้อำนาจปกครอง
บิดาตาย เจ้าหนี้ฟ้องมารดาเด็กบังคับจำนอง เป็นการฟ้องทายาทตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1737,1738 มารดาทำสัญญาประนีประนอมยอมความในคดีได้ ไม่ต้องรับอนุญาตจากศาลก่อน ไม่ใช่ทำในฐานะผู้ใช้อำนาจปกครองตาม มาตรา 1546 มารดามาฟ้องในฐานะผู้แทนโดยชอบธรรมของเด็กว่าสัญญาประนีประนอมนั้นไม่ผูกพันเด็กไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1993/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิและหน้าที่ตามสัญญาที่ผูกพันทายาทหลังเจ้ามรดกถึงแก่กรรม และอายุความในการฟ้องเรียกหนี้
โจทก์ฟ้องทายาทผู้ตายขอให้คืนเงินที่ผู้ตายกู้ยืมไปให้แก่โจทก์โดยกล่าวในฟ้องว่า ผู้ตายทำสัญญาให้โจทก์เช่าที่ดินเพื่อปลูกห้องแถวโดยสิ่งปลูกสร้างจะต้องตกเป็นของผู้ตาย ต่อมาผู้ตายได้ทำสัญญากู้ยืมเงินจากโจทก์ตกลงจะชำระคืนให้โจทก์ภายในเวลาที่กำหนด หรือเมื่อห้องที่โจทก์เช่าถูกไฟไหม้ หรืออาคารที่สร้างชำรุด และโจทก์ไม่ทำการก่อสร้างใหม่ภายใน 6 เดือน ให้ถือว่าสัญญากู้ยืมเป็นอันระงับ ผู้ตายต้องคืนเงินให้แก่โจทก์และระบุไว้ในสัญญาข้อหนึ่งว่า "ในระหว่างอายุแห่งสัญญานี้ยังมีผลใช้บังคับอยู่ ถ้าผู้ให้สัญญา(ผู้ตาย) ถึงแก่กรรม ผลแห่งสัญญานี้ผู้ให้สัญญายอมให้ผูกพันทายาทผู้รับทรัพย์มรดกรายนี้ต่อไปจนครบอายุสัญญา หรือตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ . . . . ." ตามสัญญาข้อนี้แสดงให้เห็นว่าหนี้รายนี้เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อทายาทของผู้ตายได้รับที่ดินแปลงที่โจทก์เช่าจากเจ้ามรดกแล้วกรณีแห่งคดีนี้จึงเป็นเรื่องที่โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลย (ทายาท) คืนเงินพร้อมด้วยดอกเบี้ยในฐานะที่จำเลยเป็นผู้สืบสิทธิและหน้าที่ตามสัญญาระหว่างโจทก์กับผู้ตาย ซึ่งโจทก์ถือว่าจำเลยเป็นผู้รับมรดกของผู้ตายเฉพาะที่แปลงที่โจทก์เช่าเป็นคู่สัญญากับโจทก์ กรณีมิใช่โจทก์เป็นเจ้าหนี้อันมีต่อเจ้ามรดก จะนำบทบัญญัติมาตรา 1754 วรรคสาม แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาใช้บังคับไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1993/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสืบสิทธิในหนี้ตามสัญญาเช่าซื้อและผลของการระงับสัญญาต่อการเกิดหนี้ของทายาท
โจทก์ฟ้องทายาทผู้ตายขอให้คืนเงินที่ผู้ตายกู้ยืมไปให้แก่โจทก์โดยกล่าวในฟ้องว่า ผู้ตายทำสัญญาให้โจทก์เช่าที่ดินเพื่อปลูกห้องแถวโดยสิ่งปลูกสร้างจะต้องตกเป็นของผู้ตาย ต่อมาผู้ตายได้ทำสัญญากู้ยืมเงินจากโจทก์ตกลงจะชำระคืนให้โจทก์ภายในเวลาที่กำหนด หรือเมื่อห้องที่โจทก์เช่าถูกไฟไหม้ หรืออาคารที่สร้างชำรุด และโจทก์ไม่ทำการก่อสร้างใหม่ภายใน 6 เดือน ให้ถือว่าสัญญากู้ยืมเป็นอันระงับ ผู้ตายต้องคืนเงินให้แก่โจทก์และระบุไว้ในสัญญาข้อหนึ่งว่า "ในระหว่างอายุแห่งสัญญานี้ยังมีผลใช้บังคับอยู่ ถ้าผู้ให้สัญญา (ผู้ตาย) ถึงแก่กรรม ผลแห่งสัญญานี้ผู้ให้สัญญายอมให้ผูกพันทายาทผู้รับทรัพย์มรดกรายนี้ต่อไปจนครบอายุสัญญา หรือตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้....."ตามสัญญาข้อนี้แสดงให้เห็นว่าหนี้รายนี้เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อทายาทของผู้ตายได้รับที่ดินแปลงที่โจทก์เช่าจากเจ้ามรดกแล้ว กรณีแห่งคดีนี้จึงเป็นเรื่องที่โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลย (ทายาท) คืนเงินพร้อมด้วยดอกเบี้ยในฐานะที่จำเลยเป็นผู้สืบสิทธิและหน้าที่ตามสัญญาระหว่างโจทก์กับผู้ตาย ซึ่งโจทก์ถือว่าจำเลยเป็นผู้รับมรดกของผู้ตายเฉพาะที่แปลงที่โจทก์เช่าเป็นคู่สัญญากับโจทก์ กรณีมิใช่โจทก์เป็นเจ้าหนี้อันมีต่อเจ้ามรดก จะนำบทบัญญัติมาตรา 1754 วรรคสาม แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาใช้บังคับไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1924/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจดทะเบียนที่ดินมรดกไม่ถูกต้องเมื่อทายาทไม่ได้ยื่นคำขอรับมรดก และการฟ้องแย้งสิทธิในที่ดินของทายาทที่ไม่ได้ประโยชน์จากคำพิพากษา
คดีมีปัญหาว่า การลงชื่อทายาทตามฟ้องลงในแบบ น.ส.3 ชอบหรือไม่เท่านั้น ฉะนั้น แม้โจทก์จะมิได้ระบุจำนวนเนื้อที่ที่พิพาทให้แน่ชัดว่าครอบครองจำนวนเท่าใดก็ตาม โจทก์ก็ได้บรรยายโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหา โดยบรรยายข้อเท็จจริงและคำขอบังคับทั้งข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาละเอียดพอที่จำเลยจะเข้าใจข้อหาได้ดีแล้ว ฟ้องของโจทก์ไม่เคลือบคลุม
คำพิพากษาศาลฎีกาในคดีก่อนระบุไว้ชัดแจ้งว่า "ให้แบ่งที่ดินพิพาทออกเป็น 9 ส่วน ให้โจทก์ทั้ง 3 ได้คนละ 1 ส่วน "คำพิพากษาดังกล่าวที่ให้แบ่งที่พิพาทเป็น 9 ส่วน ก็เพื่อจะกำหนดจำนวนเนื้อที่ดินที่โจทก์แต่ละคนที่ฟ้องว่าควรจะได้รับส่วนแบ่งมากน้อยเพียงใดเท่านั้น คำพิพากษาย่อมีผลผูกพันเฉพาะคู่ความคือโจทก์ทั้งสามในคดีนั้น ส่วนทายาทอื่นไม่ได้เป็นโจทก์หรือร้องสอดเข้าเป็นโจทก์ร่วม จึงไม่อาจจะถือเอาประโยชน์จากคำพิพากษานี้ได้
ทายาทอื่นมิได้ยื่นคำขอรับมรดกในที่ดินแปลงพิพาทซึ่งจะต้องปฏิบัติตามประมวลกฎหมายที่ดินว่าด้วยการได้ซึ่งที่ดินกองมรดก การที่เจ้าพนักงานจดทะเบียนใส่ชื่อทายาทนั้นลงไว้ในแบบ น.ส.3 จึงไม่ถูกต้อง โจทก์ซึ่งเป็นทายาทและมีส่วนได้ในที่ดินแปลงพิพาทจึงมีอำนาจฟ้อง
of 132