คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
จดทะเบียน

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,377 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2465/2515 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าที่จดทะเบียนแล้วย่อมผูกพันผู้รับโอนกรรมสิทธิ์ แม้มีการขายฝากและหลุดเป็นสิทธิ
เจ้าของที่ดินและตึกพิพาท เอาที่ดินและตึกพิพาทไปขายฝากในระหว่างขายฝากได้เอาตึกพิพาทไปให้จำเลยเช่า โดยผู้ซื้อฝากมิได้รู้เห็นยินยอมอนุญาต สัญญาเช่าจึงไม่ผูกพันผู้ซื้อฝากแต่เจ้าของที่ดินและตึกพิพาทกับผู้เช่ายังคงถูกผูกพันอยู่ตามสัญญาเช่า เพราะสิทธิและหน้าที่ตามสัญญาเช่าเป็นบุคคลสิทธิ เมื่อเจ้าของที่ดินขายฝากแล้วไม่ไถ่คืนทรัพย์สินที่ขายฝากหลุดเป็นสิทธิแก่ผู้ซื้อฝาก ผู้ซื้อฝากได้ขายให้แก่ผู้ซื้อ ในที่สุดเจ้าของที่ดินและตึกพิพาทได้ซื้อที่ดินและตึกพิพาทคืนมาเป็นกรรมสิทธิ์อีกครั้งหนึ่งจึงต้องถือว่า ตึกพิพาทมีสัญญาเช่าที่จดทะเบียนโดยชอบระหว่างเจ้าของที่ดินและตึกพิพาทกับจำเลยผู้เช่า เมื่อเจ้าของนำที่ดินและตึกพิพาทไปขายฝากใหม่ ผู้ซื้อฝากคนใหม่จึงต้องรับไปทั้งสิทธิและหน้าที่ตามสัญญาเช่า ซึ่งเจ้าของที่ดินมีอยู่ต่อจำเลยแม้ภายหลังผู้ซื้อฝากจะได้ทรัพย์สินหลุดเป็นสิทธิแล้วขายต่อให้แก่โจทก์ สัญญาเช่าดังกล่าวก็ยังคงตกติดมายังโจทก์อีกมิได้ระงับไปแต่อย่างใด โจทก์ผู้รับโอนถูกผูกพันตามสัญญาเช่านั้นจึงยังไม่มีสิทธิฟ้องขับไล่จำเลยออกไปจากตึกพิพาทหรือเรียกค่าเสียหาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2364/2515

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การให้โดยเสน่หาและผลของการไม่จดทะเบียน การได้กรรมสิทธิ์จากการครอบครอง และสัญญาต่างตอบแทน
สัญญาระหว่างโจทก์จำเลยมีข้อความว่า จำเลยแสดงเจตนาสละสิทธิและการครอบครอง ยกกรรมสิทธิ์ที่ดินพร้อมด้วยสิ่งปลูกสร้างให้โจทก์เข้าครอบครองต่อไป และโจทก์สัญญาจะจ่ายเงินผลประโยชน์ที่ได้จากทรัพย์สินนั้นให้แก่จำเลยหนึ่งในสามจนตลอดชีวิตของจำเลย เป็นสัญญาซึ่งจำเลยมีเจตนายกกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินให้โจทก์โดยเสน่หา โดยโจทก์มิได้เสียค่าตอบแทนแต่ประการใด แต่จำเลยคงสงวนผลประโยชน์อันเกิดจากทรัพย์สินนั้นไว้เพียงบางส่วนเพื่อใช้สอยในระหว่างที่จำเลยยังมีชีวิตอยู่ ข้อความในสัญญาที่ว่าจำเลยสละการครอบครองให้โจทก์เข้าครอบครองต่อไป คงมีความหมายเพียงว่าจำเลยส่งมอบทรัพย์สินให้โจทก์อันเป็นการปฏิบัติตามสัญญาให้เท่านั้น เมื่อทรัพย์สินที่ให้เป็นที่ดินมีโฉนดการให้จึงต้องทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ แม้จะฟังว่าเป็นคำมั่นจะให้ก็ต้องจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่เช่นเดียวกัน เมื่อไม่จดทะเบียน นิติกรรมย่อมตกเป็นโมฆะ
การได้กรรมสิทธิ์ที่ดินพร้อมด้วยสิ่งปลูกสร้างโดยการครอบครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382 ไม่จำต้องจดทะเบียน การจดทะเบียนตามมาตรา 1299 วรรคสอง จะพึงกระทำต่อเมื่อต้องการเปลี่ยนแปลงทางทะเบียนหรือจะยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้บุคคลภายนอกเท่านั้น
สัญญาต่างตอบแทนซึ่งเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความนั้นจะต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือลงลายมือชื่อฝ่ายที่ต้องรับผิด จึงจะ ฟ้องร้องให้บังคับคดีตามสัญญานั้นได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1696-1697/2515

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อขายม้ายังไม่ทำตั๋วรูปพรรณ ไม่ต้องจดทะเบียนตามกฎหมาย
โจทก์จำเลยซื้อขายลูกม้าแข่งพิพาทกัน ขณะซื้อขายลูกม้าพิพาทอายุได้ปีเศษยังเป็นม้าอ่อนวิ่งแข่งยังไม่ได้และยังไม่ได้ทำตั๋วพิมพ์รูปพรรณการซื้อขายดังกล่าวไม่จำต้องจดทะเบียนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 456 เพราะสัตว์พาหนะที่ต้องจดทะเบียนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตราดังกล่าวหมายถึงสัตว์พาหนะตามพระราชบัญญัติสัตว์พาหนะพ.ศ. 2482 ซึ่งได้ทำตั๋วพิมพ์รูปพรรณแล้วเท่านั้น(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 2/2515)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1437/2515 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ จำกัดสิทธิอุทธรณ์คดีเช่าทรัพย์สินราคาเช่าต่ำ และผลของสัญญาเช่าที่ไม่ได้จดทะเบียนต่อบุคคลภายนอก
คดีฟ้องขับไล่ผู้เช่าออกจากอสังหาริมทรัพย์อันมีค่าเช่าไม่เกินเดือนละสองพันบาท และเรียกค่าเสียหายไม่เกินสองพันบาทต้องห้ามอุทธรณ์ในข้อเท็จจริง แม้ศาลชั้นต้นจะสั่งรับอุทธรณ์ในข้อเท็จจริงและศาลอุทธรณ์รับวินิจฉัย ก็ถือไม่ได้ว่าเป็นข้อเท็จจริงที่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลอุทธรณ์หากจำเลยฎีกาในข้อเท็จจริงต่อมา ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
คดีที่โจทก์ฟ้องและจำเลยฟ้องแย้ง จะอุทธรณ์ฎีกาในข้อเท็จจริงได้หรือไม่ ต้องแยกพิจารณา แม้คดีที่โจทก์ฟ้องต้องห้ามคดีที่จำเลยฟ้องแย้งก็อาจไม่ต้องห้าม
สัญญาเช่าตึกมีกำหนดระยะเวลาเช่า 12 ปี ซึ่งผู้เช่าเสียเงินช่วยค่าก่อสร้างให้ผู้ให้เช่านั้น เป็นสัญญาต่างตอบแทนยิ่งกว่าสัญญาเช่าธรรมดา แม้มิได้จดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ก็มีผลใช้บังคับระหว่างคู่สัญญาได้เต็ม 12 ปีตามสัญญาแต่มีผลใช้บังคับผู้รับโอนตึกต่อไปได้เพียง 3 ปี เพราะมิได้จดทะเบียน เว้นแต่ผู้รับโอนนั้นจะได้ตกลงยินยอมเข้าผูกพันตนในอันที่จะปฏิบัติตามสัญญานั้นแทนผู้ให้เช่าเดิมต่อไปอันเป็นการตกลงว่าจะชำระหนี้แก่บุคคลภายนอกซึ่งจะทำให้บุคคลภายนอกคือผู้เช่ามีสิทธิเรียกร้องชำระหนี้จากผู้รับโอนซึ่งเป็นลูกหนี้โดยตรงได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 374
จำเลยฎีกาว่าโจทก์ใช้สิทธิไม่สุจริต อ้างข้อเท็จจริงที่ หาว่าโจทก์ใช้สิทธิไม่สุจริตต่างกับที่อ้างในศาลชั้นต้นแม้ศาลชั้นต้นจะสั่งรับอุทธรณ์มาและศาลอุทธรณ์จะรับวินิจฉัยให้หรือไม่ก็ตาม ก็ถือไม่ได้ว่าได้ยกขึ้นว่ามาแล้วในศาลอุทธรณ์โดยชอบ เป็นฎีกาต้องห้าม ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 115/2515 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจำนองโดยสุจริตมีผลเหนือสิทธิผู้ซื้อที่ยังมิได้จดทะเบียน แม้ครอบครองเกิน 10 ปี
เมื่อได้ความชัดแจ้งอยู่แล้ว แม้จะให้มีการสืบพยานกันต่อไป ก็ได้ความเช่นเดียวกับคำร้องขอ และคำแถลงรับของผู้ร้อง ศาลก็ชอบที่จะสั่งงดสืบพยานและพิพากษาคดีไปได้
ทำสัญญาซื้อขายอสังหาริมทรัพย์กันเอง โดยมิได้จดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ แม้ผู้ร้องซึ่งเป็นผู้ซื้อจะครอบครองอสังหาริมทรัพย์ดังกล่าวมา โดยความสงบและเปิดเผย ด้วยเจตนาเป็นเจ้าของกว่า 10 ปีแล้วก็ตาม จะยกขึ้นเป็นคู่ต่อสู้โจทก์ผู้จำนองอสังหาริมทรัพย์ดังกล่าวไว้จากจำเลย และจดทะเบียนการจำนองถูกต้องตามกฎหมาย โดยเสียค่าตอบแทนและโดยสุจริตไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 993/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิการบังคับคดีหลังคำพิพากษาถึงที่สุด แม้ยังไม่ได้จดทะเบียน โจทก์ไม่อาจยึดทรัพย์ได้ หากกระทบสิทธิผู้รับโอน
ศาลพิพากษาเสร็จเด็ดขาดให้จำเลยโอนขายที่พิพาทซึ่งเป็นที่ดินมี น.ส. 3 ให้ผู้ร้องแล้ว แม้จำเลยจะยังครอบครองที่พิพาทอยู่และยังไม่ได้แก้ทะเบียนโอนให้แก่ผู้ร้อง โจทก์ผู้เป็นเจ้าหนี้เงินกู้และเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาตามยอมก็ไม่อาจบังคับคดียึดที่ดินพิพาทอันเป็นการกระทบกระทั่งสิทธิของผู้ร้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 287 เพราะผู้ร้องอยู่ในฐานะที่จะบังคับให้จดทะเบียนสิทธิของตนตามคำพิพากษาได้อยู่ก่อนแล้วตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1300 และโจทก์ไม่อาจอ้างสัญญาประนีประนอมยอมความระหว่างโจทก์กับจำเลยนั้นมาลบล้างสิทธิของผู้ร้องเกี่ยวกับที่ดินพิพาทนี้ได้ ผู้ร้องจึงไม่จำต้องฟ้องขอให้เพิกถอนสัญญาประนีประนอมยอมความนั้นเสียก่อนมาร้องขอให้ปล่อยที่พิพาท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 993/2514

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิของผู้รับโอนที่ดินตามคำพิพากษาเหนือกว่าเจ้าหนี้ที่ยึดทรัพย์ แม้ยังไม่ได้จดทะเบียน
ศาลพิพากษาเสร็จเด็ดขาดให้จำเลยโอนขายที่พิพาทซึ่งเป็นที่ดินมี น.ส.3 ให้ผู้ร้องแล้ว แม้จำเลยจะยังครอบครองที่พิพาทอยู่และยังไม่ได้แก้ทะเบียนโอนให้แก่ผู้ร้อง โจทก์ผู้เป็นเจ้าหนี้เงินกู้และเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาตามยอมก็ไม่อาจบังคับคดียึดที่ดินพิพาทอันเป็นการกระทบกระทั่งสิทธิของผู้ร้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 287 เพราะผู้ร้องอยู่ในฐานะที่จะบังคับให้จดทะเบียนสิทธิของตนตามคำพิพากษาได้อยู่ก่อนแล้วตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1300 และโจทก์ไม่อาจอ้างสัญญาประนีประนอมยอมความระหว่างโจทก์กับจำเลยนั้นมาลบล้างสิทธิของผู้ร้องเกี่ยวกับที่ดินพิพาทนี้ได้ ผู้ร้องจึงไม่จำต้องฟ้องขอให้เพิกถอนสัญญาประนีประนอมยอมความนั้นเสียก่อนมาร้องขอให้ปล่อยที่พิพาท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 981/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ที่ดินมือเปล่า ส.ค.๑ โอนไม่ได้ตามประมวลกฎหมายที่ดิน แม้ศาลล่างบังคับให้จดทะเบียน
บทบัญญัติมาตรา 9 แห่งพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. 2497 เป็นบทบัญญัติอันเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน ถึงแม้ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์มิได้ยกขึ้นวินิจฉัย ศาลฎีกายกขึ้นวินิจฉัยได้
ที่ดินมือเปล่ามี ส.ค.1. ยังมิได้รับคำรับรองจากนายอำเภอว่าได้ทำประโยชน์แล้ว จะโอนกันไม่ได้ จึงขอให้ศาลบังคับให้จำเลยไปจดทะเบียนโอนการขายให้ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 618/2514

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจดทะเบียนรับบุตรบุญธรรม: ความสมบูรณ์แม้มีข้อบกพร่องด้านรูปแบบ หากมีเจตนาและปฏิบัติตามกฎหมาย
ผู้เยาว์อายุ 8 ขวบ บิดามารดามิได้จดทะเบียนสมรสกัน ป. รับผู้เยาว์เป็นบุตรบุญธรรม ในคำร้องขอจดทะเบียนการรับบุตรบุญธรรมบิดาของผู้เยาว์เป็นผู้ลงชื่อแทนที่จะเป็นมารดา แต่เมื่อยื่นคำร้องนี้พนักงานเจ้าหน้าที่ได้สอบถามและไต่สวนฝ่ายผู้ที่จะรับบุตรบุญธรรม และฝ่ายที่จะเป็นบุตรบุญธรรมถูกต้องตามเงื่อนไขของการจดทะเบียนแล้วทั้งมารดาของผู้เยาว์ก็ได้ลงลายมือชื่อเป็นผู้ให้ความยินยอมที่ด้านหลังคำร้องนี้ด้วย ถือได้ว่าคำร้องขอจดทะเบียนรับบุตรบุญธรรมนี้ได้ทำตามแบบโดยชอบแล้ว และการที่ช่องลายมือชื่อผู้ร้องขอจดทะเบียนในทะเบียนการรับบุตรบุญธรรมไม่มีลายมือชื่อบุตรบุญธรรม แต่ด้านหลังมีบันทึกปากคำของผู้รับบุตรบุญธรรมและผู้ให้ความยินยอม ซึ่งมารดาอันเป็นผู้แทนโดยชอบธรรมของผู้เยาว์ได้ให้ความยินยอมโดยมีลายมือชื่อเป็นหลักฐาน ความบกพร่องดังกล่าวไม่ทำให้การจดทะเบียนไม่สมบูรณ์และแม้บันทึกด้านหลังทะเบียนนั้นจะไม่ได้ลงวันเดือนปีไว้ด้วย แต่เมื่อเห็นได้ชัดว่านายทะเบียนได้ทำในวันเวลาเดียวต่อเนื่องกับรายการจดทะเบียนด้านหน้า เหตุเพียงเท่านี้ก็ไม่ทำให้การจดทะเบียนไม่สมบูรณ์เช่นกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 610/2514

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิครอบครองที่ดินก่อนจดทะเบียน และเรือนที่ไม่เป็นส่วนควบในคดีล้มละลาย
ผู้ร้องซื้อที่ดินจากจำเลยและได้ใช้สิทธิครอบครองที่ดินตลอดมาตั้งแต่ซื้อและปลูกเรือนลงในที่ดินนั้น แต่จำเลยยังไม่ได้จดทะเบียนโอนกรรมสิทธิที่ดินให้ผู้ร้อง ต่อมาจำเลยถูกพิพากษาให้เป็นบุคคลล้มละลาย เมื่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ยึดที่ดินแปลงนี้ ก็จะยึดเรือนของผู้ร้องด้วยไม่ได้ เพราะกรณีเข้าข้อยกเว้นตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 109 ซึ่งไม่ถือว่าเรือนของผู้ร้องเป็นส่วนควบของที่ดินจำเลย
of 138