พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,021 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 835/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสิ้นสุดสิทธิเช่าเมื่อผู้เช่าขายฝากทรัพย์สินบนที่ดินเช่า และสิทธิของผู้รับโอนที่ดินในการบอกเลิกสัญญา
ที่ดินที่ได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯลฯ นั้นต้องเป็นที่ดินเช่าสำหรับปลูกสร้างเคหะและที่ซึ่งต่อเนื่องเป็นบริเวรของเคหะ เมื่อผู้เช่าที่ดินได้ขายฝากเรือนที่ปลูกสร้างใช้เป็นที่อยู่อาศัยในที่ดินที่เช่านี้และปล่อยให้หลุดตกเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ซื้อฝากไปแล้ว ผู้เช่าก็ไม่ใช่ผู้เช่าซึ่งได้รับหรือรับประโยชน์ในที่ดินเช่าตามความหมายของ พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯ พ.ศ.2489 ม.16 การเช่าที่ดินรายนี้จึงไม่ได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ผุ้รับโอนที่ดิน (ที่เช่า) รายนี้ย่อมมีสิทธิบอกเลิกสัญญาเช่าที่ดินกับผู้เช่าได้ตาม ป.พ.พ. ม.566,569.570.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 835/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเช่าที่ดินเพื่อปลูกสร้างเคหะ หากผู้เช่าขายฝากแล้วไม่ไถ่คืน สิทธิเช่าจะสิ้นสุดลง ผู้รับโอนมีสิทธิบอกเลิกสัญญาและขับไล่ได้
ที่ดินที่ได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่า ฯลฯนั้นต้องเป็นที่ดินเช่าสำหรับปลูกสร้างเคหะและที่ซึ่งต่อเนื่องเป็นบริเวณของเคหะเมื่อผู้เช่าที่ดินได้ขายฝากเรือนที่ปลูกสร้างใช้เป็นที่อยู่อาศัยในที่ดินที่เช่านี้และปล่อยให้หลุดตกเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ซื้อฝากไปแล้วผู้เช่าก็ไม่ใช่ผู้เช่าซึ่งได้รับหรือรับประโยชน์ในที่ดินที่เช่าตามความหมายของ พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ พ.ศ.2489 มาตรา16 การเช่าที่ดินรายนี้จึงไม่ได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าผู้รับโอนที่ดิน(ที่เช่า) รายนี้ย่อมมีสิทธิบอกเลิกสัญญาเช่าที่ดินกับผู้เช่าได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 566,569,570
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 389/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบอกเลิกสัญญาซื้อขายไม้: หน้าที่ของคู่สัญญาและการพิสูจน์การปฏิบัติตามสัญญา
ในสัญญาบ่งว่าก่อนที่จำเลยจะส่งไม้ลงเรือเป็นหน้าที่ของโจทก์จะต้องไปทำการวัดตรวจไม้กำหนดเครื่องหมายก่อนเมื่อโจทก์ไม่อาจพิสูจน์ว่าตนได้ปฏิบัติหน้าที่ครบถ้วนแล้วและจำเลยเป็นฝ่ายผิดสัญญาแต่กลับปรากฏว่าจำเลยเตรียมเลื่อยไม้ไว้ตามสัญญาแล้วหากโจทก์ไม่ส่งคนไปวัดไม้จนกระทั่งจำเลยได้ใช้สิทธิบอกเลิกสัญญาและริบเงินมัดจำแล้วโจทก์ยังมีหนังสือขอความเห็นใจให้จำเลยผ่อนผันยืดอายุสัญญาต่อไปอีกเช่นนี้ ย่อมแสดงให้เห็นว่าโจทก์เป็นฝ่ายผิดสัญญาเองจำเลยจึงไม่ชำระหนี้ เป็นพฤติการณ์ที่จำเลยไม่ต้องรับผิดชอบหาตกเป็นผู้ผิดนัดไม่
มาตรา 204 เป็นเรื่องลูกหนี้ผิดนัดเป็นคนละเรื่องกับการบอกเลิกสัญญาซึ่งจะต้องปฏิบัติตาม มาตรา387
มาตรา 204 เป็นเรื่องลูกหนี้ผิดนัดเป็นคนละเรื่องกับการบอกเลิกสัญญาซึ่งจะต้องปฏิบัติตาม มาตรา387
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1276/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับสัญญาเช่าและการบอกเลิกสัญญาเช่าโดยไม่มีกำหนดเวลา ผู้เช่าต้องอ้างสิทธิ พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าฯ เอง
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทำสัญญาเช่าที่ดินโจทก์โฉนดเลขที่ 525 ตำบลบางยี่เรือ อำเภอธนบุรี เพื่อปลูกเรือนอาศัยอยู่ จำเลยผิดสัญญาค้างค่าเช่า 10 เดือน และให้เช่าช่วงโจทก์ได้บอกเลิกสัญญาแล้ว ขอให้บังคับ
จำเลยต่อสู้ว่าไม่ได้ค้างค่าเช่าไม่ได้ให้เช่าช่วง และชั้นฎีกาจำเลยอ้างว่าแม้จำเลยจะมิได้ยก พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯ ขึ้นต่อสู้ พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯ ก็ยังคุ้มครองจำเลยอยู่ ฉนั้นเมื่อจำเลยไม่ได้ทำผิดสัญญาเช่าโจทก์จะบอกเลิกสัญญาไม่ได้
ดังนี้เมื่อจำเลยมิได้อ้างเอา พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯ ขึ้นต่อสู้คดีจำเลยก็ไม่มีทางจะได้รับความคุ้มครองจาก พ.ร.บ.นั้น เพราะ พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯ นั้น เพียงแต่ให้สิทธิแก่ผู้เช่าเป็นพิเศษที่จะอ้างเอาบทบัญญัติแห่ง พ.ร.บ.ดังกล่าวขึ้นมาต่อสู้ตัดสิทธิมูลฐานของผู้ให้เช่าในกรณีเช่นนี้ได้เท่านั้น
ดังนั้น คดีตกเป็นกรณีเช่าสามัญตาม ป.พ.พ.และตกเป็นการเช่าโดยไม่มีกำหนดเวลา โจทก์มีสิทธิบอกกล่าวล่วงหน้าเลิกสัญญากับจำเลยได้โดยไม่ต้องคำนึงว่าจำเลยจะได้ทำผิดสัญญาหรือไม่
จำเลยต่อสู้ว่าไม่ได้ค้างค่าเช่าไม่ได้ให้เช่าช่วง และชั้นฎีกาจำเลยอ้างว่าแม้จำเลยจะมิได้ยก พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯ ขึ้นต่อสู้ พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯ ก็ยังคุ้มครองจำเลยอยู่ ฉนั้นเมื่อจำเลยไม่ได้ทำผิดสัญญาเช่าโจทก์จะบอกเลิกสัญญาไม่ได้
ดังนี้เมื่อจำเลยมิได้อ้างเอา พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯ ขึ้นต่อสู้คดีจำเลยก็ไม่มีทางจะได้รับความคุ้มครองจาก พ.ร.บ.นั้น เพราะ พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯ นั้น เพียงแต่ให้สิทธิแก่ผู้เช่าเป็นพิเศษที่จะอ้างเอาบทบัญญัติแห่ง พ.ร.บ.ดังกล่าวขึ้นมาต่อสู้ตัดสิทธิมูลฐานของผู้ให้เช่าในกรณีเช่นนี้ได้เท่านั้น
ดังนั้น คดีตกเป็นกรณีเช่าสามัญตาม ป.พ.พ.และตกเป็นการเช่าโดยไม่มีกำหนดเวลา โจทก์มีสิทธิบอกกล่าวล่วงหน้าเลิกสัญญากับจำเลยได้โดยไม่ต้องคำนึงว่าจำเลยจะได้ทำผิดสัญญาหรือไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1276/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบอกเลิกสัญญาเช่า: สิทธิของผู้ให้เช่าเมื่อผู้เช่าไม่ปฏิบัติตามสัญญา และผลของการไม่ยกเว้นข้อกฎหมาย
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทำสัญญาเช่าที่ดินโจทก์โฉนดเลขที่ 525ตำบลบางยี่เรืออำเภอธนบุรี เพื่อปลูกเรือนอาศัยอยู่ จำเลยผิดสัญญาค้างค่าเช่า 10 เดือนและให้เช่าช่วง โจทก์ได้บอกเลิกสัญญาแล้ว ขอให้บังคับ
จำเลยต่อสู้ว่าไม่ได้ค้างค่าเช่าไม่ได้ให้เช่าช่วง และชั้นฎีกาจำเลยอ้างว่าแม้จำเลยจะมิได้ยก พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ ขึ้นต่อสู้พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ ก็ยังคุ้มครองจำเลยอยู่ ฉะนั้นเมื่อจำเลยไม่ได้ทำผิดสัญญาเช่าโจทก์จะบอกเลิกสัญญาไม่ได้
ดังนี้เมื่อจำเลยมิได้อ้างเอา พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯขึ้นต่อสู้คดีจำเลยก็ไม่มีทางจะได้รับความคุ้มครองจากพระราชบัญญัตินั้น เพราะ พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ นั้นเพียงแต่ให้สิทธิแก่ผู้เช่าเป็นพิเศษที่จะอ้างเอาบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัติดังกล่าวขึ้นมาต่อสู้ตัดสิทธิมูลฐานของผู้ให้เช่าในกรณีเช่นนี้ได้เท่านั้น
ดังนั้นคดีตกเป็นกรณีเช่าสามัญตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ และตกเป็นการเช่าโดยไม่มีกำหนดเวลา โจทก์มีสิทธิบอกกล่าวล่วงหน้าเลิกสัญญากับจำเลยได้โดยไม่ต้องคำนึงว่าจำเลยจะได้ทำผิดสัญญาหรือไม่
จำเลยต่อสู้ว่าไม่ได้ค้างค่าเช่าไม่ได้ให้เช่าช่วง และชั้นฎีกาจำเลยอ้างว่าแม้จำเลยจะมิได้ยก พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ ขึ้นต่อสู้พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ ก็ยังคุ้มครองจำเลยอยู่ ฉะนั้นเมื่อจำเลยไม่ได้ทำผิดสัญญาเช่าโจทก์จะบอกเลิกสัญญาไม่ได้
ดังนี้เมื่อจำเลยมิได้อ้างเอา พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯขึ้นต่อสู้คดีจำเลยก็ไม่มีทางจะได้รับความคุ้มครองจากพระราชบัญญัตินั้น เพราะ พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ นั้นเพียงแต่ให้สิทธิแก่ผู้เช่าเป็นพิเศษที่จะอ้างเอาบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัติดังกล่าวขึ้นมาต่อสู้ตัดสิทธิมูลฐานของผู้ให้เช่าในกรณีเช่นนี้ได้เท่านั้น
ดังนั้นคดีตกเป็นกรณีเช่าสามัญตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ และตกเป็นการเช่าโดยไม่มีกำหนดเวลา โจทก์มีสิทธิบอกกล่าวล่วงหน้าเลิกสัญญากับจำเลยได้โดยไม่ต้องคำนึงว่าจำเลยจะได้ทำผิดสัญญาหรือไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 537/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
รายงานการประชุมกรรมการบริษัทไม่ใช่หลักฐานผูกมัดการบอกเลิกสัญญาจ้าง การจ่ายค่าจ้างต้องพิสูจน์
รายงานการประชุมกรรมการบริษัทแม้กฎหมายจะให้ข้อสันนิษฐานไว้ก่อนว่า เป็นการถูกต้องก็ตามก็เป็นความจริงแต่ในเบื้องต้นว่าได้มีการแถลงกันเท่าที่ปรากฎในรายงานประชุม ความจริงและผลจะเป็นอย่างไรนั้นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
ในรายงานการประชุมแม้จะปรากฎว่าอดีตผู้อำนวยการแถลงว่าลูกจ้างบริษัทได้ลาออกแล้ว ดังนี้เป็นเพียงรายงานยืนยันว่าได้มีคำแถลงดังนั้นจริงเท่านั้น ไม่ผูกมัดลูกจ้าง ความจริงที่จะเป็นผลให้ลูกจ้างออกแล้วหรือไม่นั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่งซึ่งจะต้องพิศูจน์
ในรายงานการประชุมแม้จะปรากฎว่าอดีตผู้อำนวยการแถลงว่าลูกจ้างบริษัทได้ลาออกแล้ว ดังนี้เป็นเพียงรายงานยืนยันว่าได้มีคำแถลงดังนั้นจริงเท่านั้น ไม่ผูกมัดลูกจ้าง ความจริงที่จะเป็นผลให้ลูกจ้างออกแล้วหรือไม่นั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่งซึ่งจะต้องพิศูจน์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 537/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
รายงานการประชุมกรรมการไม่ผูกมัดข้อเท็จจริง และการบอกเลิกสัญญาจ้างต้องพิสูจน์
รายงานการประชุมกรรมการบริษัทแม้กฎหมายจะให้ข้อสันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นการถูกต้องก็ตามก็เป็นความจริงแต่ในเบื้องต้นว่าได้มีการแถลงกันเท่าที่ปรากฏในรายงานการประชุมความจริงและผลจะเป็นอย่างไรนั้นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
ในรายงานการประชุมแม้จะปรากฏว่าอดีตผู้อำนวยการแถลงว่าลูกจ้างบริษัทได้ลาออกแล้ว ดังนี้เป็นเพียงรายงานยืนยันว่าได้มีคำแถลงดังนั้นจริงเท่านั้นไม่ผูกมัดลูกจ้างความจริงที่จะเป็นผลให้ลูกจ้างออกแล้วหรือไม่นั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่งซึ่งจะต้องพิสูจน์
ในรายงานการประชุมแม้จะปรากฏว่าอดีตผู้อำนวยการแถลงว่าลูกจ้างบริษัทได้ลาออกแล้ว ดังนี้เป็นเพียงรายงานยืนยันว่าได้มีคำแถลงดังนั้นจริงเท่านั้นไม่ผูกมัดลูกจ้างความจริงที่จะเป็นผลให้ลูกจ้างออกแล้วหรือไม่นั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่งซึ่งจะต้องพิสูจน์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 532-533/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนสิทธิการเช่าและอำนาจฟ้องขับไล่: เจ้าของใหม่ไม่ต้องบอกเลิกสัญญาเช่าเดิม
การบอกเลิกสัญญาเช่าที่ไม่มีอายุตาม มาตรา 566,569 นั้น
เมื่อเจ้าของเดิมได้บอกเลิกกับผู้เช่าแล้ว ผู้เช่าจึงไม่อยู่ในฐานะผู้เช่าต่อไป ต่อมาเจ้าของเดิมได้โอนตึกเช่าไปให้เจ้าของคนใหม่ๆ ไม่จำเป็นต้องบอกกล่าวเลิกสัญญาเช่ากับผู้เช่าอีก ก็มีอำนาจฟ้องขับไล่ผู้เช่าได้
เมื่อเจ้าของเดิมได้บอกเลิกกับผู้เช่าแล้ว ผู้เช่าจึงไม่อยู่ในฐานะผู้เช่าต่อไป ต่อมาเจ้าของเดิมได้โอนตึกเช่าไปให้เจ้าของคนใหม่ๆ ไม่จำเป็นต้องบอกกล่าวเลิกสัญญาเช่ากับผู้เช่าอีก ก็มีอำนาจฟ้องขับไล่ผู้เช่าได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1750/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบอกเลิกสัญญาเช่าต้องกระทำล่วงหน้าพอสมควรก่อนกำหนดชำระค่าเช่า เพื่อให้เป็นไปตามหลักกฎหมาย
เช่าห้องแถวกันโดยชำระค่าเช่าเป็นรายเดือน ผู้ให้เช่าบอกเลิกการเช่ากับผู้เช่าในวันที่ 9 ของเดือน แล้วยื่นฟ้องขับไล่ผู้เช่าในวันที่ 22 ของเดือนถัดไปเช่นนี้ยังถือไม่ได้ว่าได้มีการบอกเลิกการเช่าล่วงหน้าชั่วกำหนดเวลาชำระค่าเช่าระยะหนึ่งแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1750/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบอกเลิกสัญญาเช่าต้องกระทำล่วงหน้าอย่างน้อยหนึ่งงวดค่าเช่า การฟ้องขับไล่จึงจะชอบด้วยกฎหมาย
เช่าห้องแถวกันโดยชำระค่าเช่าเป็นรายเดือน ผู้ให้เช่าบอกเลิกการเช่ากับผู้เช่าในวันที่ 9 ของเดือน แล้วยื่นฟ้องขับไล่ผู้เช่าในวันที่ 22 ของเดือนถัดไปเช่นนี้ยังถือไม่ได้ว่าได้มีการบอกเลิกการเช่าล่วงหน้าชั่วกำหนดเวลาชำระค่าเช่าระยะหนึ่งแล้ว