คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
พิสูจน์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,273 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 276-277/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ทางสาธารณะ/คลอง: ที่ดินติดคลองยังไม่ถือเป็นที่ดินมีทางเข้าออกยาก หากไม่พิสูจน์คลองตื้นเขิน
แม่น้ำลำคลองนั้นโดยสภาพย่อมถือว่าเป็นทางซึ่งสาธารณะชนใช้สัญจรไปมา อันถือได้ว่าเป็นทางสาธารณะหรือทางหลวงตามกฎหมายเว้นแต่จะได้ความว่าแม่น้ำลำคลองนั้นตื้นเขินจากสาธารณะชนไม่อาจใช้เป็นทางสัญจรไปมาต่อไปได้
ที่ดินของจำเลยตกอยู่ในที่ล้อมแต่ด้านหนึ่งติดคลองปรากฏว่าคลองนี้เวลาน้ำขึ้นเรือเดินไปมาได้ เวลาน้ำแห้งเรือเดินไม่ได้ และมีน้ำขึ้นลงทุกวันดังนี้ เมื่อจำเลยผู้มีหน้าที่นำสืบก่อน ไม่ได้สืบให้ได้ความชัดเจนว่า คลองดังกล่าวเป็นคลองตื้นเขินจนสาธารณะชนไม่อาจจะใช้เป็นทางสัญจรไปมาได้ดังนี้ ก็จะฟังว่า คลองนั้นไม่ใช่ทางสาธารณะไม่ได้ ฉะนั้นจึงถือไม่ได้ว่า ที่ดินจำเลยตกอยู่ในที่ล้อมตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา1349

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1337/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การต่อสู้ด้วยอาวุธ การพิสูจน์เจตนาฆ่า และความผิดฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา
จำเลยเตะผู้ตายสองทีก่อนผู้ตายชักมีดออกจะต่อสู้ จำเลยชักมีดออกบ้าง ต่างเดินเข้าหากันและต่างใช้มีดแทงต่อสู้กัน จำเลยแทงผู้ตายถูกใต้รักแร้ 1 ที ผู้ตายวิ่งหนีไปล้มลงถึงแก่ความตาย ดังนี้ การกระทำของจำเลยไม่ใช่เป็นการป้องกันตัว แต่จำเลยกับผู้ตายต่างมีมีดเข้าต่อสู้แทงทำร้ายกัน ผู้ตายถูกแทงแต่เพียง 1 ที ผู้ตายวิ่งหนี จำเลยก็ไม่ได้ติดตามไปทำร้ายซ้ำเติมอีก วินิจฉัยว่าจำเลยมีผิดเพียงฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนาตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 251

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 882/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในที่ดินตาม ก.ม.ลักษณะเบ็ดเสร็จ: การพิสูจน์ว่าเป็นที่บ้านที่สวน และความรับผิดทางละเมิด
ผู้ใดจะอ้างว่าตนมีสิทธิในที่ดินตาม ก.ม.ลักษณะเบ็ดเสร็จบทที่ 42 ผู้นั้นจะต้องพิศูจน์ให้ได้ความชัดเจนว่าที่ดินนั้นเป็นที่บ้านที่สวนตามความหมายแห่งกฎหมายบทนั้นสักแต่ว่าคำเรียกว่าเป็น+วนคำเดียว หาทำให้ผู้นั้นมีสิทธิในที่มือเปล่า (ที่เรียกว่าสวนนั้น) ดีกว่าที่ไร่ที่นาไม่
โจทก์กล่าวในฟ้องว่า ที่พิพาทอยู่ในตำบลหนึ่งอำเภอหนึ่ง แต่นำสืบว่าอยู่อีกตำบล และอีกอำเภอหนึ่ง ดังนี้ เมื่อปรากฎว่าโจทก์จำเลยต่างแถลงรับแผนที่พิพาทกันแล้วว่าถูกต้อง จึงไม่มีทางที่จะสงสัยว่าพิพาทกันในที่ดินแปลงอื่น จึงไม่ใช่เป็นเรื่องนอกฟ้องนอกประเด็น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 882/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในที่ดินตามกฎหมายลักษณะเบ็ดเสร็จฯ ต้องพิสูจน์ว่าเป็นที่บ้านที่สวนจริง และการนำสืบข้อเท็จจริงต้องตรงกับที่แถลงไว้
ผู้ใดจะอ้างว่าตนมีสิทธิในที่ดินตามกฎหมายลักษณะเบ็ดเสร็จ บทที่ 42 ผู้นั้นจะต้องพิสูจน์ให้ได้ความชัดเจนว่าที่ดินนั้นเป็นที่บ้านที่สวนตามความหมายแห่งกฎหมายบทนั้น สักแต่ว่าคำเรียกว่าเป็นสวนคำเดียว หาทำให้ผู้นั้นมีสิทธิในที่มือเปล่า(ที่เรียกว่าสวนนั้น)ดีกว่าที่ไร่ที่นาไม่
โจทก์กล่าวในฟ้องว่า ที่พิพาทอยู่ในตำบลหนึ่งอำเภอหนึ่งแต่นำสืบว่าอยู่อีกตำบล และอีกอำเภอหนึ่ง ดังนี้เมื่อปรากฏว่าโจทก์จำเลยต่างแถลงรับแผนที่พิพาทกันแล้วว่าถูกต้อง จึงไม่มีทางที่จะสงสัยว่าพิพาทกันในที่ดินแปลงอื่น จึงไม่ใช่เป็นเรื่องนอกฟ้องนอกประเด็น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 789/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลักทรัพย์กระบือ: พิจารณาความใกล้ชิดของเวลาและสถานที่เพื่อพิสูจน์ว่าจำเลยลักทรัพย์หรือไม่
เจ้าทรัพย์ล่ากระบือไว้ที่ในทุ่ง เวลาประมาณ 7.00 น.พอสมเวลาจวนเที่ยงไปดูกระบือหายไป เชือกที่ล่ามมีรอยถูกตัด มีผู้พบจำเลยกำลังพากระบือนี้ เมื่อตอน 13.00 น. และที่ตรงนั้นห่างจากที่ล่ามกระบือเพียงประมาณ 25 เส้น ดังนี้ฟังว่าจำเลยลักทรัพย์ไม่ใช่รับของโจร

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 548/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิสูจน์เจตนาในความผิดฐานยักย้ายข้าว การที่จำเลยทราบประกาศห้ามขนย้ายเป็นองค์ความผิด โจทก์ต้องพิสูจน์
ความผิดฐานยักย้ายข้าวออกนอกเขตห้ามขนย้ายข้าวฝ่าฝืนประกาศของคณะกรรมการสำรวจและกักกันข้าวนั้น การที่จำเลยได้ทราบประกาศของคณะกรรมการฯลฯหรือไม่ ย่อมเป็นองค์ความผิดอยู่ด้วย ฉะนั้นในฟ้องจะต้องกล่าวไว้ด้วยว่าจำเลยได้ทราบประกาศของคณะกรรมการฯลฯนั้นแล้วและได้ประพฤติฝ่าฝืนโดยประกาศใดมิฉะนั้นจะเป็นฟ้องที่ขาดองค์ความผิด ไม่ชอบด้วย ป.ม.วิ.อาญามาตรา 158(5)
อนึ่งเมื่อจำเลยให้การปฏิเสธว่ามิได้กระทำผิดและมิได้รับว่าได้ทราบประกาศนี้แล้ว เช่นนี้ ย่อมเป็นหน้าที่ของโจทก์ที่จะต้องนำสืบว่าจำเลยได้ทราบประกาศดังแล้ว มิฉะนั้นจะเอาผิดแก่จำเลยไม่ได้ เพราะประกาศเช่นนี้แม้จะได้ประกาศในหนังสือราชกิจจาก็เป็นประกาศธรรมดา ไม่มีกฎหมายสนับสนุนหรือให้อำนาจให้มีผลเสมือนหนึ่งเป็นกฎหมายอันประชาชนจะพึ่งปฏิเสธไม่ได้
(อ้างฎีกาที่ 1176/2492)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 548/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ องค์ความผิดฐานยักย้ายข้าวออกนอกเขตห้าม: โจทก์ต้องพิสูจน์จำเลยทราบประกาศ
ความผิดฐานยักย้ายข้าวออกนอกเขตห้ามขนย้ายข้าวฝ่าฝืนประกาศของคณะกรรมการสำรวจและกักกันข้าวนั้น การที่จำเลยได้ทราบประกาศของคณะกรรมการ ฯลฯ หรือไม่ ย่อมเป็นองค์ความผิดอยู่ด้วย ฉะนั้นในฟ้องจะต้องกล่าวไว้ด้วยว่าจำเลยได้ทราบประกาศของคณะกรรมการ ฯลฯ นั้นแล้ว และได้ประพฤติฝ่าฝืนโดยประการใด มิฉะนั้นจะเป็นฟ้องที่ขาดองค์ความผิด ไม่ชอบด้วย ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5)
อนึ่งเมื่อจำเลยให้การปฏิเสธว่ามิได้กระทำผิดและมิได้รับว่าได้ทราบประกาศนี้แล้ว เช่นนี้ ย่อมเป็นหน้าที่ของโจทก์ที่จะต้องนำสืบว่าจำเลยได้ทราบประกาศดังกล่าวแล้ว มิฉะนั้นจะเอาผิดแก่จำเลยไม่ได้ เพราะประกาศเช่นนี้แม้จะได้ประกาศในหนังสือราชกิจจาก็เป็นประกาศธรรมดา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 415/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับสารภาพและการพิสูจน์ราคาฝิ่นในคดีอาญา การรับสารภาพเพียงพอต่อการคำนวณค่าปรับ
โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยนำฝิ่นผิดกฎหมายเข้ามาในราชอาณาจักร โดยได้ระบุถึงจำนวนฝิ่นและราคาฝิ่น ทั้งยังบรรยายถึงราคาฝิ่นรัฐบาลในท้องที่ตามวันเวลาเกิดเหตุ เมื่อจำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้องโจทก์ทุกประการเรื่องราคาฝิ่นตามฟ้องก็มิได้คัดค้านแต่ประการใด ดังนี้ถือได้ว่าจำเลยได้รับตลอดถึงราคาฝิ่นแล้ว แม้คดีมีอัตรโทษจำคุกถึง 10 ปี โจทก์ต้องสืบพยานให้เป็นที่พอใจว่าจำเลยได้กระทำผิดจริงก็ตามเมื่อโจทก์นำพยานมาสืบว่าจำเลยเป็นผู้กระทำผิดจริงตามฟ้องแล้วแม้จะไม่ได้สืบเรื่องราคาฝิ่นอีกก็ตาม และโดยเหตุที่ราคาฝิ่นเป็นเพียงคำนวณค่าปรับ หาใช่เป็นธาตุฐานแห่งความผิด เมื่อจำเลยให้การรับอยู่แล้วตามฟ้องจึงเป็นการเพียงพอฟังได้ว่าฝิ่นมีราคาจริงดังฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 303/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิสูจน์ความเกี่ยวข้องกับของกลาง: ภรรยาไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง จึงไม่มีความผิด
ตำรวจตรวจค้นได้เครื่องรับส่งวิทยุและเครื่องอุปกรณ์ อยู่บนบ้าน ขณะค้นเจ้าของบ้านไม่อยู่ คงอยู่แต่ภรรยาเจ้าของบ้านโจทก์ไม่มีพยานหลักฐานแต่อย่างใดเลยว่า ภรรยาเจ้าของบ้านได้เกี่ยวข้องกับวิทยุของกลาง นอกจากคำของภรรยายเจ้าของบ้านเองว่ามีคนอื่นมาเช่าห้องเล็กชั้นบนนั้น โดยบอกว่าได้พูดตกลงกับสามีแล้ว แล้วก็ชนของกลางมา รูปคดีเพียงเท่านี้จะเอาผิดแก่ภรรยาฐานมีวิทยุของกลางไว้โดยไม่ได้รับอนุญาตไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 236/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องซื้อขายหุ้นส่วน: การที่โจทก์ไม่ได้พิสูจน์ความเป็นหุ้นส่วนหรือเจ้าของตึก ทำให้ไม่มีอำนาจฟ้อง
โจทก์ฟ้องอ้างว่า โจทก์กับจีนพวกแซ่ลิ้มเข้าหุ้นส่วนกันซื้อตึกไว้ แต่การนำสืบไม่ได้ความว่าโจทก์เป็นหุ้นส่วน หรือหากจะเป็นหุ้นส่วนจริงก็ไม่ได้ความว่า โจทก์ยังคงเป็นเจ้าของตึกรายนี้ แม้เพียงเป็นผู้ครอบครองตึก ก็ไม่ได้ความ ดังนี้โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องจะแสดงว่าตึกนี้เป็นของจีนพวกแซ่ลิ้ม หรือจะให้ห้ามจำเลยไม่ให้เกี่ยวข้องกับตึกรายนี้ หาได้ไม่
of 128