คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
เพิกถอน

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,035 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 39/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พินัยกรรมธรรมดาเพิกถอนพินัยกรรมเอกสารฝ่ายเมืองได้ แม้ทำเป็นบันทึกต่อหน้าเจ้าพนักงานและพยาน
นายอำเภอได้บันทึกถ้อยคำเจ้ามรดกต่อหน้าผู้นั่งซึ่งลงลายมือชื่อเป็นพยาน 2 คน เจ้ามรดกให้ถ้อยคำขอถอนพินัยกรรมเดิม และแบ่งทรัพย์ให้บุตรหลานใหม่ แล้วลงลายมือชื่อต่อหน้าผู้นั่งที่ลงชื่อเป็นพยานและบันทึกนั้นลงวันเดือนปีไว้ด้วย ดังนี้ ถือว่าบันทึกนั้นเป็นพินัยกรรมตามแบบธรรมดา และมีผลลบล้างพินัยกรรมฉบับเก่าซึ่งเป็นเอกสารฝ่ายเมือง
ฟ้องอุทธรณ์จะลงชื่อศาลเดิมหรือศาลอุทธรณ์ก็มีผลเช่นเดียวกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 256/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิกถอนนิติกรรมซื้อขายที่ดินที่ได้มาจากการใช้เงินสินสมรสโดยไม่สุจริต และการฟ้องซ้ำ
ภริยาเอาเงินสินสมรสไปซื้อสวนแล้วโอนใส่ชื่อบุตรของตนซึ่งเกิดกับสามีก่อนโดยเสน่หา โดยสามีมิได้ยินยอมระหว่างที่สามีบอกล้างและฟ้องของให้เพิกถอนนิติกรรมนั้น ภริยากับบุตรเลี้ยงโอนขายที่ดินนั้นให้ผู้อื่น ดังนี้ สามีฟ้องขอให้เพิกถอนนิติกรรมได้ทั้ง 2 ราย
และเมื่อสามีถอนฟ้องคดีก่อน ซึ่งฟ้องภริยาและบุตรเลี้ยง มาฟ้องใหม่โดยฟ้องภริยา, บุตรเลี้ยง และบุคคลภายนอกผู้รับโอนในคดีเดียวกัน ดังนี้ไม่ถือว่าเป็นฟ้องซ้ำ
คดีโจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอนนิติกรรมได้เสียค่าขึ้นศาลตามราคาทรัพย์ที่พิพาท 4500 บาท และจำเลยฎีกาโดยเสียค่าขึ้นศาลตามราคาทรัพย์ที่พิพาทเช่นเดียวกันศาลฎีการับวินิจฉัยข้อเท็จจริงให้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 256/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิกถอนนิติกรรมซื้อขายที่ดินที่เกิดจากเงินสินสมรสโดยไม่ได้รับความยินยอมจากคู่สมรสและมีเจตนาทุจริต
ภริยาเอาเงินสินสมรสไปซื้อสวนแล้วโอนใส่ชื่อบุตรของตนซึ่งเกิดกับสามีก่อนโดยเสน่หา โดยสามีมิได้ยินยอม ระหว่างที่สามีบอกล้างและฟ้องขอให้เพิกถอนนิติกรรมนั้น ภริยากับบุตรเลี้ยงโอนขายที่ดินนั้นให้ผู้อื่น ดังนี้ สามีฟ้องขอให้เพิกถอนนิติกรรมได้ทั้ง 2 ราย
และเมื่อสามีถอนฟ้องคดีก่อน ซึ่งฟ้องภริยาและบุตรเลี้ยง มาฟ้องใหม่โดยฟ้องภริยา บุตรเลี้ยง และบุคคลภายนอกผู้รับโอนในคดีเดียวกันดังนี้ ไม่ถือว่าเป็นฟ้องซ้ำ
คดีโจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอนนิติกรรมได้เสียค่าขึ้นศาลตามราคาทรัพย์ที่พิพาท 4500 บาท และจำเลยฎีกาโดยเสียค่าขึ้นศาลตามราคาทรัพย์ที่พิพาทเช่นเดียวกัน ศาลฎีการับวินิจฉัยข้อเท็จจริงให้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1895/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิกถอนการเรียกเก็บภาษีต้องอุทธรณ์ตามขั้นตอน หากไม่ทำตามสิทธิในการฟ้องศาลเป็นอันสิ้นสุด
การฟ้องศาลขอให้เพิกถอนการเรียกเก็บภาษีร้านค้า เพราะพนักงานเจ้าหน้าที่เรียกเก็บไม่ถูกต้องนั้น ผู้เสียภาษีจะต้องเสียตามที่เจ้าหน้าที่ประเมินมาก่อนแล้วจึงอุทธรณ์ต่อข้าหลวงประจำจังหวัดหรืออธิบดีแล้วแต่กรณี ต่อจากนั้นจึงจะอุทธรณ์ต่อศาลได้ ถ้าโจทก์ไม่จัดการอุทธรณ์ตามเกณฑ์และวิธีการดั่งที่กฎหมายบัญญัติไว้แล้ว สิทธิของโจทก์ที่จะนำคดีขึ้นสู่ศาลก็หามีไม่ ศาลไม่มีอำนาจจะประทับฟ้องไว้พิจารณา และในกรณีเช่นนี้ แม้จำเลยจะไม่คัดค้านมาแต่ต้น ศาลสูงก็พิพากษายกฟ้องได้ เพราะเป็นเรื่องอำนาจฟ้องอันเนื่องว่าเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1817/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิกถอนการจดทะเบียนที่ดินที่ผิดหลง ทำให้สิทธิในที่ดินเป็นโมฆะ ผู้รับโอนรายหลังไม่สามารถอ้างสิทธิได้
เมื่อศาลมีคำสั่งให้เพิกถอนหนังสือสำคัญและรายการจดทะเบียนตาม พ.ร.บ.ออกโฉนดที่ดิน (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2486 มาตรา 12 ก็ต้องถือว่ารายการจดทะเบียนนั้นมิได้มีอยู่ ผู้ใดจะมาอ้างทรัพย์สิทธิอย่างใด เนื่องมาจากการจดทะเบียนนั้นมิได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1036/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิกถอนสัญญาปรานีประนอมยอมความเมื่อได้มาโดยแจ้งเท็จ สัญญาไม่ถือเป็นการให้โดยเสน่หา
ลูกหนี้จำต้องคืนที่ดินให้เจ้าของไปโดยรับจะปราณีประนอมยอมความเพราะลูกหนี้ได้ที่ดินมาโดยการไปแจ้งเท็จต่อ เจ้าพนักงานหอทะเบียนที่ดินนั้น หาใช่เป็นกรณีที่ลูกหนี้ให้โดยเสน่หาไม่ เจ้าหนี้จะเพิกถอนการฉ้อฉลโดยอ้างว่าเพียงแต่ลูกหนี้รู้ถึงการเสียเปรียบฝ่ายเดียวก็พอแล้วเท่านั้นไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1741/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิกถอนการโอนมรดก: ทายาทโอนโดยไม่สุจริตหลังโจทก์ครอบครองเกินอายุความ
ผู้โอนซึ่งเป็นทายาท แต่มิได้ครอบครองที่ดินมฤดกเกิน 1 ปีแล้วไปขอรับมฤดกที่ดินใส่ชื่อตนคนเดียว โดยโจทก์ซึ่งเป็นทายาทผู้ครอบครองที่ดินมฤดกอยู่ไม่ได้รู้เห็นยินยอมด้วย แล้วต่อมาได้โอนที่ดินนั้น ให้บุตรของตน ซึ่งผู้รับโอนรู้อยู่แล้วว่า เป็นที่ดินมฤดกที่โจทก์ครอบครองอยู่ ดังนี้ ถือว่าเป็นการกระทำโดยไม่สุจริตแม้เสียค่าตอบแทน โจทก์ก็เพิกถอนได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1367/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินโดยสมยอม ศาลมีอำนาจเพิกถอนได้ แม้ผู้รับโอนอ้างสุจริต
แม้ว่าจำเลยได้โอนกรรมสิทธิที่ดินไปยังผู้ร้องขัดทรัพย์ แต่ปรากฎว่านิติกรรมการโอนนั้นได้ทำโดยสมยอม ศาลมีอำนาจเพิกถอนการโอนได้.
ผู้รับโอนที่พิพาทไว้โดยเป็นการกระทำให้เจ้าหนี้เสียเปรียบหรือไม่ เป็นปัญหาข้อเท็จจริง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1367/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิกถอนการโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินเนื่องจากสมยอมกันเพื่อหลีกเลี่ยงเจ้าหนี้
แม้ว่าจำเลยได้โอนกรรมสิทธิที่ดินไปยังผู้ร้องขัดทรัพย์ แต่ปรากฏว่านิติกรรมการโอนนั้นได้ทำโดยสมยอม ศาลมีอำนาจเพิกถอนการโอนได้
ผู้รับโอนที่พิพาทไว้โดยเป็นการกระทำให้เจ้าหนี้เสียเปรียบหรือไม่เป็นปัญหาข้อเท็จจริง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 131/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ประกาศควบคุมเครื่องอุปโภคบริโภคไม่ใช่กฎหมาย การเพิกถอนการควบคุมมีผลย้อนหลังไม่ได้
ประกาศของเจ้าหน้าที่ออกตาม พ.ร.บ. ควบคุมเครื่องอุปโภคบริโภคฯ ไม่ใช่กฎหมาย ฉะนั้น เมื่อภายหลังวันโจทก์หาว่าจำเลยได้ทำผิดคือยักย้ายผ้าได้มีประกาศเลิกการควบคุมผ้า จึงมิใช่เป็นเรื่องมีกฎหมายใหม่ยกเลิกความผิด
พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องอุปโภคบริโภค ฯลฯ ระบุว่า ผู้ใดฝ่าฝืนประกาศของคณะกรรมการฯ มีความผิด หาได้มีข้อความจะพึงให้เห็นว่า จำเลยต้องมีเจตนาเพื่อมิให้ถูกควบคุมหรือเพื่อให้ควบคุมยากด้วยจึงจะมีความผิดไม่./
of 104