พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,380 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1414/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองปรปักษ์และการโอนสิทธิในที่ดิน: ประเด็นการยกข้อต่อสู้ในชั้นอุทธรณ์
โจทก์ฟ้องว่า ที่พิพาทซึ่งเป็นที่ดินมีโฉนดเป็นของโจทก์ โจทก์ซื้อจากผู้มีชื่อจำเลยเป็นผู้อาศัยเจ้าของเดิมอยู่ จำเลยไม่ยอมออก ขอให้ขับไล่ จำเลยให้การต่อสู้ว่าที่พิพาทเป็นของจำเลยได้มาโดยการครอบครองปรปักษ์ ศาลชั้นต้นพิพาทว่าที่พิพาทอยู่ในเขตโฉนดของโจทก์ จำเลยซึ่งอ้างว่าครอบครองที่พิพาทโดยปรปักษ์ ไม่เคยจดทะเบียนสิทธิที่พิพาทเป็นของจำเลย จึงไม่อาจยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้โจทก์ซึ่งได้ที่พิพาทมาโดยสุจริตและเสียค่าตอบแทนได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1299, 1300 ปัญหาข้อนี้จึงถือได้ว่าได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้น
จำเลยย่อมยกปัญหาข้อนี้ขึ้นอ้างในชั้นอุทธรณ์ได้ หาต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 225 ดังคำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์ไม่
จำเลยย่อมยกปัญหาข้อนี้ขึ้นอ้างในชั้นอุทธรณ์ได้ หาต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 225 ดังคำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1414/2513
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองปรปักษ์และการโอนสิทธิในที่ดิน: ศาลอุทธรณ์ต้องวินิจฉัยประเด็นการครอบครองปรปักษ์ที่จำเลยยกขึ้น แม้ไม่ได้ยกในชั้นต้น
โจทก์ฟ้องว่า ที่พิพาทซึ่งเป็นที่ดินมีโฉนดเป็นของโจทก์ โจทก์ซื้อจากผู้มีชื่อจำเลยเป็นผู้อาศัยเจ้าของเดิมอยู่ จำเลยไม่ยอมออก ขอให้ขับไล่ จำเลยให้การต่อสู้ว่าที่พิพาทเป็นของจำเลยได้มาโดยการครอบครองปรปักษ์ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าที่พิพาทอยู่ในเขตโฉนดของโจทก์ จำเลยซึ่งอ้างว่าครอบครองที่พิพาทโดยปรปักษ์ ไม่เคยจดทะเบียนสิทธิที่พิพาทเป็นของจำเลยจึงไม่อาจยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้โจทก์ซึ่งได้ที่พิพาทมาโดยสุจริตและเสียค่าตอบแทนได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1299, 1300 ปัญหาข้อนี้จึงถือได้ว่าได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้น
จำเลยย่อมยกปัญหาข้อนี้ขึ้นอ้างอิงในชั้นอุทธรณ์ได้ หาต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 225 ดังคำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์ไม่
จำเลยย่อมยกปัญหาข้อนี้ขึ้นอ้างอิงในชั้นอุทธรณ์ได้ หาต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 225 ดังคำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 868/2512 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิผู้ครอบครองปรปักษ์เมื่อมีผู้รับโอนทางทะเบียนโดยสุจริต สิทธิครอบครองปรปักษ์ขาดตอน
ผู้ครอบครองปรปักษ์ที่ดินมีโฉนดจนได้กรรมสิทธิ์แล้วนั้น เมื่อยังมิได้จดทะเบียนจะยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้บุคคลภายนอกผู้รับโอนทางทะเบียนโดยเสียค่าตอบแทนและโดยสุจริตและได้จดทะเบียนสิทธิ์โดยสุจริตแล้วหาได้ไม่
เจ้าของโฉนดจดทะเบียนขายฝากที่ดินแก่บุคคลภายนอกจนหลุดเป็นสิทธิ ผู้ครอบครองปรปักษ์มิได้ต่อสู้ว่าผู้รับซื้อฝากไม่สุจริต ย่อมต้องด้วยข้อสันนิษฐานตามกฎหมายว่า ผู้รับซื้อฝากนั้นเป็นผู้สุจริต
ผู้รับโอนที่ดินมีโฉนดโดยเสียค่าตอบแทนและจดทะเบียนสิทธิโดยสุจริต ซึ่งมีสิทธิดีกว่าผู้ครอบครองปรปักษ์นั้น ถ้ามีผู้รับโอนทางทะเบียนต่อจากนั้นมาอีกภายใน 10 ปีนับแต่วันโอนครั้งแรก ผู้รับโอนต่อ ๆ มาจะรับโอนโดยสุจริตหรือไม่ ผู้ครอบครองปรปักษ์ก็ไม่อาจยกสิทธิของตนขึ้นใช้ยันผู้รับโอนคนใหม่ได้ เพราะสิทธิของผู้ครอบครองปรปักษ์ขาดตอนไปแล้วตั้งแต่มีผู้รับโอนทางทะเบียนโดยสุจริตคนแรก แม้ผู้ครอบครองปรปักษ์จะยังคงครอบครองที่ดินตลอดมา เมื่อการครอบครองในช่วงหลังยังไม่ครบ 10 ปี ก็จะถือว่ามีการครอบครองปรปักษ์กับเจ้าของใหม่จนครบเวลาได้กรรมสิทธิ์แล้วหาได้ไม่ (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 1015/2485)
หมายเหตุ คำพิพากษาฎีกาที่ 1087 - 1090/2501 ก็เดินตามแนวนี้
เจ้าของโฉนดจดทะเบียนขายฝากที่ดินแก่บุคคลภายนอกจนหลุดเป็นสิทธิ ผู้ครอบครองปรปักษ์มิได้ต่อสู้ว่าผู้รับซื้อฝากไม่สุจริต ย่อมต้องด้วยข้อสันนิษฐานตามกฎหมายว่า ผู้รับซื้อฝากนั้นเป็นผู้สุจริต
ผู้รับโอนที่ดินมีโฉนดโดยเสียค่าตอบแทนและจดทะเบียนสิทธิโดยสุจริต ซึ่งมีสิทธิดีกว่าผู้ครอบครองปรปักษ์นั้น ถ้ามีผู้รับโอนทางทะเบียนต่อจากนั้นมาอีกภายใน 10 ปีนับแต่วันโอนครั้งแรก ผู้รับโอนต่อ ๆ มาจะรับโอนโดยสุจริตหรือไม่ ผู้ครอบครองปรปักษ์ก็ไม่อาจยกสิทธิของตนขึ้นใช้ยันผู้รับโอนคนใหม่ได้ เพราะสิทธิของผู้ครอบครองปรปักษ์ขาดตอนไปแล้วตั้งแต่มีผู้รับโอนทางทะเบียนโดยสุจริตคนแรก แม้ผู้ครอบครองปรปักษ์จะยังคงครอบครองที่ดินตลอดมา เมื่อการครอบครองในช่วงหลังยังไม่ครบ 10 ปี ก็จะถือว่ามีการครอบครองปรปักษ์กับเจ้าของใหม่จนครบเวลาได้กรรมสิทธิ์แล้วหาได้ไม่ (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 1015/2485)
หมายเหตุ คำพิพากษาฎีกาที่ 1087 - 1090/2501 ก็เดินตามแนวนี้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 868/2512 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิผู้ครอบครองปรปักษ์เมื่อมีการโอนทางทะเบียนโดยสุจริต สิทธิผู้ครอบครองปรปักษ์ขาดตอน
ผู้ครอบครองปรปักษ์ที่ดินมีโฉนดจนได้กรรมสิทธิ์แล้วนั้นเมื่อยังมิได้จดทะเบียนจะยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้บุคคลภายนอกผู้รับโอนทางทะเบียนโดยเสียค่าตอบแทนและโดยสุจริตและได้จดทะเบียนสิทธิโดยสุจริตแล้วหาได้ไม่
เจ้าของโฉนดจดทะเบียนขายฝากที่ดินแก่บุคคลภายนอกจนหลุดเป็นสิทธิ ผู้ครอบครองปรปักษ์มิได้ต่อสู้ว่าผู้รับซื้อฝากไม่สุจริตย่อมต้องด้วยข้อสันนิษฐานตามกฎหมายว่าผู้รับซื้อฝากนั้นเป็นผู้สุจริต
ผู้รับโอนที่ดินมีโฉนดโดยเสียค่าตอบแทนและจดทะเบียนสิทธิโดยสุจริต ซึ่งมีสิทธิดีกว่าผู้ครอบครองปรปักษ์นั้นถ้ามีผู้รับโอนทางทะเบียนต่อจากนั้นมาอีกภายใน 10 ปีนับแต่วันโอนครั้งแรก ผู้รับโอนต่อๆ มาจะรับโอนโดยสุจริตหรือไม่ ผู้ครอบครองปรปักษ์ก็ไม่อาจยกสิทธิของตนขึ้นใช้ยันผู้รับโอนคนใหม่ได้เพราะสิทธิของผู้ครอบครองปรปักษ์ขาดตอนไปแล้วตั้งแต่มีผู้รับโอนทางทะเบียนโดยสุจริตคนแรกแม้ผู้ครอบครองปรปักษ์จะยังคงครอบครองที่ดินตลอดมาเมื่อการครอบครองในช่วงหลังยังไม่ครบ 10 ปี ก็จะถือว่ามีการครอบครองปรปักษ์กับเจ้าของใหม่จนครบเวลาได้กรรมสิทธิ์แล้วหาได้ไม่ (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 1015/2485)
หมายเหตุ คำพิพากษาฎีกาที่ 1087-1090/2501 ก็เดินตามแนวนี้
เจ้าของโฉนดจดทะเบียนขายฝากที่ดินแก่บุคคลภายนอกจนหลุดเป็นสิทธิ ผู้ครอบครองปรปักษ์มิได้ต่อสู้ว่าผู้รับซื้อฝากไม่สุจริตย่อมต้องด้วยข้อสันนิษฐานตามกฎหมายว่าผู้รับซื้อฝากนั้นเป็นผู้สุจริต
ผู้รับโอนที่ดินมีโฉนดโดยเสียค่าตอบแทนและจดทะเบียนสิทธิโดยสุจริต ซึ่งมีสิทธิดีกว่าผู้ครอบครองปรปักษ์นั้นถ้ามีผู้รับโอนทางทะเบียนต่อจากนั้นมาอีกภายใน 10 ปีนับแต่วันโอนครั้งแรก ผู้รับโอนต่อๆ มาจะรับโอนโดยสุจริตหรือไม่ ผู้ครอบครองปรปักษ์ก็ไม่อาจยกสิทธิของตนขึ้นใช้ยันผู้รับโอนคนใหม่ได้เพราะสิทธิของผู้ครอบครองปรปักษ์ขาดตอนไปแล้วตั้งแต่มีผู้รับโอนทางทะเบียนโดยสุจริตคนแรกแม้ผู้ครอบครองปรปักษ์จะยังคงครอบครองที่ดินตลอดมาเมื่อการครอบครองในช่วงหลังยังไม่ครบ 10 ปี ก็จะถือว่ามีการครอบครองปรปักษ์กับเจ้าของใหม่จนครบเวลาได้กรรมสิทธิ์แล้วหาได้ไม่ (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 1015/2485)
หมายเหตุ คำพิพากษาฎีกาที่ 1087-1090/2501 ก็เดินตามแนวนี้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 868/2512
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิของผู้ครอบครองปรปักษ์เมื่อมีการโอนทางทะเบียนโดยสุจริต สิทธิเดิมขาดตอน
ผู้ครอบครองปรปักษ์ที่ดินมีโฉนดจนได้กรรมสิทธิ์แล้วนั้น.เมื่อยังมิได้จดทะเบียนจะยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้บุคคลภายนอกผู้รับโอนทางทะเบียนโดยเสียค่าตอบแทนและโดยสุจริตและได้จดทะเบียนสิทธิโดยสุจริตแล้วหาได้ไม่.
เจ้าของโฉนดจดทะเบียนขายฝากที่ดินแก่บุคคลภายนอกจนหลุดเป็นสิทธิ. ผู้ครอบครองปรปักษ์มิได้ต่อสู้ว่าผู้รับซื้อฝากไม่สุจริต. ย่อมต้องด้วยข้อสันนิษฐานตามกฎหมายว่าผู้รับซื้อฝากนั้นเป็นผู้สุจริต.
ผู้รับโอนที่ดินมีโฉนดโดยเสียค่าตอบแทนและจดทะเบียนสิทธิโดยสุจริต ซึ่งมีสิทธิดีกว่าผู้ครอบครองปรปักษ์นั้น. ถ้ามีผู้รับโอนทางทะเบียนต่อจากนั้นมาอีกภายใน 10 ปีนับแต่วันโอนครั้งแรก. ผู้รับโอนต่อๆ มาจะรับโอนโดยสุจริตหรือไม่. ผู้ครอบครองปรปักษ์ก็ไม่อาจยกสิทธิของตนขึ้นใช้ยันผู้รับโอนคนใหม่ได้. เพราะสิทธิของผู้ครอบครองปรปักษ์ขาดตอนไปแล้วตั้งแต่มีผู้รับโอนทางทะเบียนโดยสุจริตคนแรก. แม้ผู้ครอบครองปรปักษ์จะยังคงครอบครองที่ดินตลอดมาเมื่อการครอบครองในช่วงหลังยังไม่ครบ 10 ปี ก็จะถือว่ามีการครอบครองปรปักษ์กับเจ้าของใหม่จนครบเวลาได้กรรมสิทธิ์แล้วหาได้ไม่.(อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 1015/2485).
หมายเหตุ คำพิพากษาฎีกาที่ 1087-1090/2501 ก็เดินตามแนวนี้.
เจ้าของโฉนดจดทะเบียนขายฝากที่ดินแก่บุคคลภายนอกจนหลุดเป็นสิทธิ. ผู้ครอบครองปรปักษ์มิได้ต่อสู้ว่าผู้รับซื้อฝากไม่สุจริต. ย่อมต้องด้วยข้อสันนิษฐานตามกฎหมายว่าผู้รับซื้อฝากนั้นเป็นผู้สุจริต.
ผู้รับโอนที่ดินมีโฉนดโดยเสียค่าตอบแทนและจดทะเบียนสิทธิโดยสุจริต ซึ่งมีสิทธิดีกว่าผู้ครอบครองปรปักษ์นั้น. ถ้ามีผู้รับโอนทางทะเบียนต่อจากนั้นมาอีกภายใน 10 ปีนับแต่วันโอนครั้งแรก. ผู้รับโอนต่อๆ มาจะรับโอนโดยสุจริตหรือไม่. ผู้ครอบครองปรปักษ์ก็ไม่อาจยกสิทธิของตนขึ้นใช้ยันผู้รับโอนคนใหม่ได้. เพราะสิทธิของผู้ครอบครองปรปักษ์ขาดตอนไปแล้วตั้งแต่มีผู้รับโอนทางทะเบียนโดยสุจริตคนแรก. แม้ผู้ครอบครองปรปักษ์จะยังคงครอบครองที่ดินตลอดมาเมื่อการครอบครองในช่วงหลังยังไม่ครบ 10 ปี ก็จะถือว่ามีการครอบครองปรปักษ์กับเจ้าของใหม่จนครบเวลาได้กรรมสิทธิ์แล้วหาได้ไม่.(อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 1015/2485).
หมายเหตุ คำพิพากษาฎีกาที่ 1087-1090/2501 ก็เดินตามแนวนี้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 830/2512 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การได้กรรมสิทธิ์โดยครอบครองปรปักษ์ และผลของการจดทะเบียนสิทธิภายหลัง
ในคำแถลงการณ์เป็นหนังสือของโจทก์ในชั้นฎีกา โจทก์ได้ยกข้อต่อสู้เป็นข้อกฎหมายขึ้นใหม่ ซึ่งโจทก์ไม่ได้ยกขึ้นกล่าวไว้ในฎีกา ทั้งมิใช่ข้อที่ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ศาลฎีกาไม่รับฟัง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 830/2512 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การได้กรรมสิทธิ์โดยครอบครองปรปักษ์: การยกที่ดินให้แล้วจดทะเบียนภายหลังไม่กระทบสิทธิครอบครองเดิม
ในคำแถลงการณ์เป็นหนังสือของโจทก์ในชั้นฎีกา โจทก์ได้ยกข้อต่อสู้เป็นข้อกฎหมายขึ้นใหม่ซึ่งโจทก์ไม่ได้ยกขึ้นกล่าวไว้ในฎีกาทั้งมิใช่ข้อที่ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ศาลฎีกาไม่รับฟัง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 830/2512
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การได้กรรมสิทธิ์โดยการครอบครองปรปักษ์และการเปลี่ยนแปลงสิทธิในที่ดินหลังการครอบครอง
ในคำแถลงการณ์เป็นหนังสือของโจทก์ในชั้นฎีกา. โจทก์ได้ยกข้อต่อสู้เป็นข้อกฎหมายขึ้นใหม่. ซึ่งโจทก์ไม่ได้ยกขึ้นกล่าวไว้ในฎีกา. ทั้งมิใช่ข้อที่ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์. ศาลฎีกาไม่รับฟัง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1296/2512 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองปรปักษ์และการโอนที่ดินโดยสุจริต ศาลฎีกาพิจารณาประเด็นการให้การของจำเลยที่ไม่ชัดเจน
จำเลยให้การในการตอนต้นแต่เพียงว่าฟ้องโจทก์ไม่เป็นความจริง นอกจากที่จำเลยให้การต่อไปนี้ ขอให้ถือว่าจำเลยปฏิเสธทั้งสิ้น และในคำให้การต่อไปของจำเลยก็มิได้แสดงให้ชัดแจ้งว่าจำเลยยอมรับหรือปฏิเสธของโจทก์ที่วา โจทก์ครอบครองที่พิพาทมา 40 ปีย่อมได้กรรมสิทธิ์ เช่นนี้ กรณีจึงมีลักษณะเป็นว่าจำเลยเพียงแต่กล่าวปฏิเสธลอย ๆ และมิได้ให้การโดยชัดแจ้งว่ายอมรับหรือปฏิเสธข้ออ้างของโจทก์ทั้งสิ้นหรือแต่บางส่วน รวมทั้งเหตุแห่งการปฏิเสธนั้น คดีจึงต้องฟังว่าโจทก์ได้กรรมสิทธิ์ในที่พิพาทโดยการครอบครอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1296/2512 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การให้การปฏิเสธลอยๆ ในคดีครอบครองปรปักษ์ และผลกระทบต่อประเด็นข้อพิพาท
จำเลยให้การในตอนต้นแต่เพียงว่า ฟ้องโจทก์ไม่เป็นความจริง นอกจากที่จำเลยให้การต่อไปนี้ ขอให้ถือว่าจำเลยปฏิเสธทั้งสิ้น และในคำให้การต่อไปของจำเลย ก็มิได้แสดงให้ชัดแจ้งว่าจำเลยยอมรับ หรือปฏิเสธข้ออ้างของโจทก์ที่ว่า โจทก์ครอบครองที่พิพาทมา 40 ปีย่อมได้กรรมสิทธิ์ เช่นนี้ กรณีจึงมีลักษณะเป็นว่าจำเลยเพียงแต่กล่าวปฏิเสธลอยๆ และมิได้ให้การโดยชัดแจ้งว่า ยอมรับหรือปฏิเสธข้ออ้างของโจทก์ทั้งสิ้นหรือแต่บางส่วน รวมทั้งเหตุแห่งการปฏิเสธนั้น คดีจึงต้องฟังว่าโจทก์ได้กรรมสิทธิ์ในที่พิพาทโดยการครอบครอง