พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,032 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1885/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อตกลงแบ่งความเสี่ยงทรัพย์สินซื้อขาย - ไฟไหม้ทำลายทรัพย์สิน
เงินราคาของที่ผู้ซื้อวางไว้แก่ผู้ขาย ซึ่งผู้ขายจะต้องคืนแก่ผู้ซื้อได้กลายเป็นพันธบัตรออมทรัพย์ไป ภายหลังทั้งสองฝ่ายต่างทำสัญญากันให้รับผิดชอบคนละครึ่งและผู้ขายได้ชำระให้ผู้ซื้อไปครึ่งหนึ่งแล้ว ส่วนทรัพย์ที่ซื้อขายตกลงกันให้ผู้ซื้อบอกขาย ขายได้กำไรเท่าใด แบ่งกันคนละครึ่งต่อมาของที่ขายก็ถูกไฟไหม้สูญหายไป ดังนี้ผู้ซื้อจะมาเรียกร้องให้ผู้ขายคืนเงินอีกครึ่งหนึ่งที่วางไว้ไม่ได้เพราะความตกลงกันเด็ดขาดไปแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1873/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายสุราโดยไม่ได้รับอนุญาตจากผู้มีอำนาจตาม พ.ร.บ.ภาษีชั้นใน
ของอากรชั้นในตามมาตรา 35 พ.ร.บ.ภาษีชั้นใน จ.ศ. 1248 หมายถึงสุราต่าง ๆ ตาม พ.ร.บ.ให้เสียภาษีชั้นใน ความประสงค์ของมาตรา 35 ก็เพื่อจะมิให้เจ้าของร้านซึ่งได้รับอนุญาตแล้ว ซื้อสุราจากผู้ไม่มีอำนาจจะซื้อขายของเช่นนั้น หรือของอากรชั้นใน.
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยได้รับอนุญาตให้เป็นผู้ขายน้ำสุรา จำเลยบังอาจซื้อน้ำสุรามาจำหน่ายหรือขายจากผู้ไม่มีอำนาจจะซื้อขายน้ำสุราเหล่านั้น โดยจำเลยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน จำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้องโดยไม่มีข้อแก้ตัวอย่างไร ซึ่งเท่ากับรับสารภาพว่า ได้รับอนุญาตให้เป็นผู้ขายน้ำสุราและบังอาจซื้อน้ำสุราอื่นมีชื่อต่าง ๆ ตามที่กล่าวในฟ้องจากผู้ไม่มีอำนาจจะซื้อขายน้ำสุราเหล่านั้น ตรงตาม พ.ร.บ.ภาษีชั้นใน จ.ศ.1248 มาตรา 35 แล้ว
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยได้รับอนุญาตให้เป็นผู้ขายน้ำสุรา จำเลยบังอาจซื้อน้ำสุรามาจำหน่ายหรือขายจากผู้ไม่มีอำนาจจะซื้อขายน้ำสุราเหล่านั้น โดยจำเลยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน จำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้องโดยไม่มีข้อแก้ตัวอย่างไร ซึ่งเท่ากับรับสารภาพว่า ได้รับอนุญาตให้เป็นผู้ขายน้ำสุราและบังอาจซื้อน้ำสุราอื่นมีชื่อต่าง ๆ ตามที่กล่าวในฟ้องจากผู้ไม่มีอำนาจจะซื้อขายน้ำสุราเหล่านั้น ตรงตาม พ.ร.บ.ภาษีชั้นใน จ.ศ.1248 มาตรา 35 แล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1873/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายสุราโดยไม่ได้รับอนุญาตจากผู้มีอำนาจตาม พ.ร.บ.ภาษีชั้นใน ถือเป็นความผิด
ของอากรชั้นในตามมาตรา 35 พ.ร.บ.ภาษีชั้นใน จ.ศ.1248หมายถึงสุราต่างๆตามพ.ร.บ.ให้เสียภาษีชั้นใน ความประสงค์ของมาตรา 35 ก็เพื่อจะมิให้เจ้าของร้านซึ่งได้รับอนุญาตแล้ว ซื้อสุราจากผู้ไม่มีอำนาจจะซื้อขายของเช่นนั้นหรือของอากรชั้นใน
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยได้รับอนุญาตให้เป็นผู้ขายน้ำสุราจำเลยบังอาจซื้อน้ำสุรามาจำหน่ายหรือขายจากผู้ไม่มีอำนาจจะซื้อขายน้ำสุราเหล่านั้น โดยจำเลยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน จำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้องโดยไม่มีข้อแก้ตัวอย่างไรซึ่งเท่ากับรับสารภาพว่า ได้รับอนุญาตให้เป็นผู้ขายน้ำสุราและบังอาจซื้อน้ำสุราอื่นมีชื่อต่างๆ ตามที่กล่าวในฟ้องจากผู้ไม่มีอำนาจจะซื้อขายน้ำสุราเหล่านั้น ตรงตามพ.ร.บ.ภาษีชั้นใน จ.ศ.1248 มาตรา 35 แล้ว
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยได้รับอนุญาตให้เป็นผู้ขายน้ำสุราจำเลยบังอาจซื้อน้ำสุรามาจำหน่ายหรือขายจากผู้ไม่มีอำนาจจะซื้อขายน้ำสุราเหล่านั้น โดยจำเลยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน จำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้องโดยไม่มีข้อแก้ตัวอย่างไรซึ่งเท่ากับรับสารภาพว่า ได้รับอนุญาตให้เป็นผู้ขายน้ำสุราและบังอาจซื้อน้ำสุราอื่นมีชื่อต่างๆ ตามที่กล่าวในฟ้องจากผู้ไม่มีอำนาจจะซื้อขายน้ำสุราเหล่านั้น ตรงตามพ.ร.บ.ภาษีชั้นใน จ.ศ.1248 มาตรา 35 แล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 184/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิโดยครอบครองปรปักษ์ แม้การซื้อขายจะผิดกฎหมาย โจทก์นำสืบได้
โจทก์ฟ้องอ้างว่าเรือนพิพาทเป็นของโจทก์, จำเลยเป็นผู้อาศัย จำเลยเถียงว่าเรือนเป็นของจำเลย โจทก์เป็นผู้อาศัย ประเด็นจึงมีว่าเรือนเป็นของใคร โจทก์ย่อมนำสืบว่าเรือนเป็นของโจทก์เพราะครอบครองมาเกิน 10 ปีแล้วได้ โจทก์ไม่จำต้องบรรยาย ข้อเท็จจริงในฟ้องถึงการได้มาซึ่งเรือนพิพาท ก็ย่อมนำสืบเพื่อแสดงให้เห็นว่าโจทก์มีกรรมสิทธิได้ หากจำเลยเห็นว่าคำฟ้องของโจทก์ยังไม่ชัดแจ้ง จำเลยก็ชอบที่จะขอร้องต่อศาลในชั้นชี้สองสถานและให้ศาลสอบถามโจทก์ให้ได้ความชัดขึ้นตาม ป.ม.วิ.แพ่ง มาตรา 183
โจทก์ได้ซื้อเรือนพิพาทจากบิดามารดาจำเลยและโจทก์ได้ครอบครองมานานกว่า 10 ปีแล้ว แม้การซื้อขายจะขัดกับ ป.ม.แพ่งฯ มาตรา 456 และ 1299 หรือไม่ก็ตาม แต่โจทก์ได้กรรมสิทธิตาม ป.ม.แพ่งฯ มาตรา 1382 แล้ว
ข้อนำสืบของโจทก์จะหักล้างข้อสันนิษฐานซึ่งเป็นคุณแก่จำเลยหรือไม่นั้น เป็นปัญหาข้อเท็จจริง.
โจทก์ได้ซื้อเรือนพิพาทจากบิดามารดาจำเลยและโจทก์ได้ครอบครองมานานกว่า 10 ปีแล้ว แม้การซื้อขายจะขัดกับ ป.ม.แพ่งฯ มาตรา 456 และ 1299 หรือไม่ก็ตาม แต่โจทก์ได้กรรมสิทธิตาม ป.ม.แพ่งฯ มาตรา 1382 แล้ว
ข้อนำสืบของโจทก์จะหักล้างข้อสันนิษฐานซึ่งเป็นคุณแก่จำเลยหรือไม่นั้น เป็นปัญหาข้อเท็จจริง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 184/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิ์ในเรือนพิพาทจากการครอบครองเกิน 10 ปี แม้การซื้อขายเดิมไม่สมบูรณ์
โจทก์ฟ้องอ้างว่าเรือนพิพาทเป็นของโจทก์ จำเลยเป็นผู้อาศัยจำเลยเถียงว่าเรือนเป็นของจำเลย โจทก์เป็นผู้อาศัย ประเด็นจึงมีว่าเรือนเป็นของใครโจทก์ย่อมนำสืบว่าเรือนเป็นของโจทก์เพราะครอบครองมาเกิน 10 ปีแล้วได้ โจทก์ไม่จำต้องบรรยายข้อเท็จจริงในฟ้องถึงการได้มาซึ่งเรือนพิพาท ก็ย่อมนำสืบเพื่อแสดงให้เห็นว่าโจทก์มีกรรมสิทธิ์ได้ หากจำเลยเห็นว่าคำฟ้องของโจทก์ยังไม่ชัดแจ้ง จำเลยก็ชอบที่จะขอร้องต่อศาลในชั้นชี้สองสถานและให้ศาลสอบถามโจทก์ให้ได้ความชัดขึ้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 183
โจทก์ได้ซื้อเรือนพิพาทจากบิดามารดาจำเลย และโจทก์ได้ครอบครองมานานกว่า 10 ปีแล้วแม้การซื้อขายจะขัดกับ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 456 และ 1299 หรือไม่ก็ตาม แต่โจทก์ได้กรรมสิทธิ์ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382 แล้ว
ข้อนำสืบของโจทก์จะหักล้างข้อสันนิษฐานซึ่งเป็นคุณแก่จำเลยหรือไม่นั้น เป็นปัญหาข้อเท็จจริง
โจทก์ได้ซื้อเรือนพิพาทจากบิดามารดาจำเลย และโจทก์ได้ครอบครองมานานกว่า 10 ปีแล้วแม้การซื้อขายจะขัดกับ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 456 และ 1299 หรือไม่ก็ตาม แต่โจทก์ได้กรรมสิทธิ์ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382 แล้ว
ข้อนำสืบของโจทก์จะหักล้างข้อสันนิษฐานซึ่งเป็นคุณแก่จำเลยหรือไม่นั้น เป็นปัญหาข้อเท็จจริง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1766-1767/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายมรดกที่ยังไม่ได้แบ่งปันเป็นโมฆะ ศาลไม่บังคับสัญญาได้
มฤดกซึ่งยังมิได้แบ่งปันกันระหว่างทายาท ทายาทคนใดคนหนึ่งจะเอาไปขายมิได้ หากไปตกลงขาย ก็ถือว่าทำไปโดยไม่มีสิทธิ ศาลบังคับตามสัญญามิได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1729/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ธนบัตรปลอมจำหน่าย-ซื้อขาย: ฟ้องเคลือบคลุมไม่กระทบองค์ความผิด
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยมีธนบัตรปลอม โดยรู้ว่าเป็นธนบัตรปลอมไว้เพื่อจำหน่าย แล้วจำเลยนำธนบัตร ไปเที่ยวซื้อโคกระบือจากราษฎร แม้ไม่ระบุชื่อผู้ใดก็ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1618/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนสิทธิในที่ดินโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย การซื้อขายโดยสุจริต และผลกระทบต่อเจ้าของเดิม
เจ้าของสวนยางร่วมกันคนหนึ่ง ยกส่วนของตนตีใช้หนี้แก่อีกคนหนึ่ง โดยมิได้จดทะเบียน ภายหลังผู้ที่รับตีใช้หนี้โอนขายสวนยาง ผู้ซื้อรับซื้อไว้โดยสุจริต ดังนี้เจ้าของเดิมมาฟ้องเรียกสวนยางคืนไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1600/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การชำระเงินค่าซื้อขายหมูโดยไม่มีใบรับเงิน ศาลรับฟังได้หากเป็นส่วนหนึ่งของราคาหรือเงินมัดจำ
การนำสืบถึงเงินที่ผู้ซื้อจ่ายให้แก่ผู้ขาย เป็นส่วนหนึ่งของราคาสิ่งของหรือเป็นเงินมัดจำนั้นไม่มีใบรับเงิน ศาลก็รับฟังได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1591/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์โดยการครอบครองปรปักษ์หลังจากการจำนองและข้อตกลงซื้อขาย
ผู้รับจำนองที่ดินมีโฉนดโดยทำสัญญาจำนองที่หอทะเบียนอาจอ้างว่าตนเป็นเจ้าของกรรมสิทธิที่ดินแปลงนั้นได้ โดยนำสืบว่า ผู้จำนองได้ขายที่ ๆ จำนองโดยได้รับเอาเงินเพิ่มไปแล้วมอบที่ดินให้ผู้รับจำนองครอบครองปรปักษ์มาเกิน 10 ปีแล้ว