พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,439 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 815/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้กฎหมายเก่าบังคับคดีเมื่อกฎหมายใหม่ไม่เป็นคุณแก่จำเลย และคำขอให้ทำลายต้นยางเป็นคำขอทางอาญา
ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 2 วรรค 1 วางหลักให้พิจารณาความผิดของจำเลยและลงโทษตามกฎหมายในขณะที่จำเลยกระทำการอันถูกกล่าวหานั้นและแม้ว่าได้มีการยกเลิกกฎหมายนั้นเสียแล้วมาตรา 2 วรรค 2 และมาตรา 3 ก็ให้พิจารณาใช้กฎหมายใหม่เฉพาะแต่เมื่อเป็นคุณแก่จำเลยเท่านั้น ถ้ากฎหมายใหม่ไม่เป็นคุณแก่จำเลย ก็ยังใช้กฎหมายเก่าบังคับคดี
อัยการมีอำนาจขอให้ศาลสั่งทำลายต้นยางพาราซึ่งปลูกใหม่โดยมิได้รับอนุญาตและขอให้จำเลยเสียค่าใช้จ่ายในการทำลายนั้นได้ตามพระราชบัญญัติควบคุมยาง พ.ศ.2481 มาตรา 15 คำขอเช่นว่านี้เป็นคำขอทางอาญา หาใช่คำขอทางแพ่งไม่
อัยการมีอำนาจขอให้ศาลสั่งทำลายต้นยางพาราซึ่งปลูกใหม่โดยมิได้รับอนุญาตและขอให้จำเลยเสียค่าใช้จ่ายในการทำลายนั้นได้ตามพระราชบัญญัติควบคุมยาง พ.ศ.2481 มาตรา 15 คำขอเช่นว่านี้เป็นคำขอทางอาญา หาใช่คำขอทางแพ่งไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 801/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษจำเลยสัญชาติไทยกระทำผิดนอกราชอาณาจักร โดยผู้เสียหายร้องขอให้ลงโทษในไทย
คดีที่จำเลยเป้นคนสัญชาติไทย กระทำผิดฐานปล้นทรัพย์นอกราชอาณาจักร ซึ่งผู้เสียหายได้ร้องขอให้ลงโทษจำเลยภายในราชอาณาจักร ต้องตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 8 นั้น โจทก์ไม่มีหน้าที่ต้องนำสืบแสดงว่าไม่มีข้อห้ามมีให้ลงโทษจำเลยตามมาตรา 10 อีก.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 801/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลไทยในการลงโทษผู้กระทำผิดนอกราชอาณาจักรเมื่อผู้เสียหายร้องขอ และหน้าที่การนำสืบหลักฐาน
คดีที่จำเลยเป็นคนสัญชาติไทย กระทำผิดฐานปล้นทรัพย์นอกราชอาณาจักร ซึ่งผู้เสียหายได้ร้องขอให้ลงโทษจำเลยภายในราชอาณาจักร ต้องตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 8 นั้น โจทก์ไม่มีหน้าที่ต้องนำสืบแสดงว่าไม่มีข้อห้ามมิให้ลงโทษจำเลยตามมาตรา 10 อีก(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 16/2505)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 797/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องอาญามาตรา 220 ต้องพิสูจน์เจตนาหรือประมาทเลินเล่อ หากพิสูจน์ได้แต่ประมาท แต่ไม่ได้ฟ้องฐานประมาท จึงลงโทษไม่ได้
ฟ้องว่าจำเลยเผาขยะและใบไม้กิ่งไม้แห้งในสวนยาง ในลักษณะอันน่าจะเกิดอันตรายแก่ทรัพย์ของผู้อื่น ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 220 โดยมิได้บรรยายเรื่องประมาทมาด้วย เมื่อศาลฟังข้อเท็จจริงว่าเป็นการเผาที่ไม่น่าจะเกิดอันตรายแก่ทรัพย์ผู้อื่น หากแต่เป็นการประมาทปราศจากการระมัดระวังเพลิงจึงลุกลามเข้าไปในสวนของผู้อื่น เช่นนี้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 192 จะลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 225 ไม่ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 629/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องซ้ำในความผิดกรรมเดียว: เมื่อจำเลยถูกลงโทษแล้ว โจทก์แยกฟ้องเพิ่มเติมไม่ได้
จำเลยชกต่อยราษฎรคนหนึ่ง ตำรวจเข้าจับจำเลย ๆ ต่อตำรวจนั้น 1 ที แล้วจำเลยถูกฟ้องต่อศาลทหารฐานทำร้ายร่างกายราษฎรกับตำรวจผู้นั้น และศาลทหารได้ลงโทษจำเลยแล้ว โจทก์จะแยกฟ้องจำเลยต่อศาล จังหวัดฐานต่อสู้ขัดขวาง เจ้าพนักงานอีกไม่ได้ เพราะจะทำให้จำเลยต้องรับโทษในกรรมเดียวกันซ้ำอีก และสิทธิการนำคดีอาญามาฟ้องต่อศาล ของโจทก์ก็ระงับไปแล้ว ฟ้องจึงเป็นฟ้องซ้ำ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1088/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษฐานทำร้ายร่างกาย แม้ข้อกล่าวหาในฟ้องระบุบาดเจ็บสาหัส แต่พิจารณาพบไม่ถึงสาหัส ศาลลงโทษตามมาตราที่อัตราโทษเบากว่าได้
คดีที่โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทำร้ายร่างกาย ผู้เสียหายบาดเจ็บสาหัสตามมาตรา 256 แม้ทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยทำร้ายไม่ถึงสาหัสก็ตาม ก็ไม่ถือว่าข้อเท็จจริงตามทางพิจารณาต่างกับที่กล่าวในฟ้อง ลงโทษจำเลยฐานทำร้ายร่างกายตามมาตรา 254 ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1312/2504
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบรรยายฟ้องไม่ตรงกับข้อเท็จจริง ทำให้ลงโทษจำเลยไม่ได้ แม้จะมีความผิดตามกฎหมายอื่น
บรรยายฟ้องว่าจำเลยเรียกเงินจากบุคคลอื่นเพื่อนำมอบให้แก่ตำรวจผู้จะจับเป็นการตอบแทนในการที่จะจูงใจตำรวจไม่ให้จับบุคคลอื่น อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 143 แต่ทางพิจารณาได้ความว่าเป็นเรื่องตำรวจผู้จะจับใช้จำเลยไปเรียกเงินจากบุคคลอื่น เพื่อจะงดเว้นการจับกุม เมื่อจำเลยไปเรียกเงินก็เป็นผิดฐานสนับสนุนเจ้าพนักงานทุจริตต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการของตนตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 เมื่อโจทก์ไม่บรรยายฟ้องฐานสนับสนุนเจ้าพนักงานทุจริตมา ก็ลงโทษจำเลยไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 86/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบรรยายฟ้องความผิดประมาทต้องระบุรายละเอียด หากฟ้องแต่เจตนา ศาลลงโทษฐานประมาทไม่ได้
ความผิดฐานพยายามฆ่าคนโดยเจตนากับความผิดฐานประมาททำให้คนรับอันตรายแก่กายถึง สาหัสนั้น ลักษณะการกระทำแตกต่างกัน อันถือว่าเป็นสาระสำคัญกล่าวคือ ในความผิดที่กระทำโดยประมาท โจทก์จะต้องบรรยาย ฟ้องให้จำเลยทราบว่า การกระทำของจำเลยเป็นประการใดจึงเรียกจำเลยการกระทำโดยประมาท จำเลยจะได้ต่อสู้คดีในฐานประมาทได้ด้วย มิฉะนั้น เมื่อโจทก์ฟ้องว่าจำเลยพยายามฆ่าโดยเจตนา จะจึงลงโทษฐานประมาททำให้คนรับอันตรายแก่กายถึงสาหัสไม่ได้ หากโจทก์ประสงค์จะให้ลงโทษจำเลยฐานประมาททำให้คนรับอันตรายแก่กายถึงสาหัสด้วย โจทก์ก็ชอบที่จะบรรยายฟ้องถึง การกระทำของจำเลยเป็นท้องเรื่องมาในฟ้องอันเห็นได้ว่า หากจำเลยไม่เจตนา จำเลยก็ได้กระทำการโดยปราศจากความระมัดระวังซึ่งบุคคลในภาวะเช่นนั้น จักต้องมีความวิสัยและพฤติการณ์ เช่นนี้ ศาลก็ยังอาจจะลงโทษจำเลยฐานทำอันตรายแก่กายถึงสาหัส โดยประมาทได้เพราะเป็นเรื่องอยู่ในฟ้องแล้ว
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 18/2502)
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 18/2502)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 868/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรวมกระทงโทษอาญา: ศาลมีอำนาจลงโทษเฉพาะกระทงที่หนัก หรือลงโทษทุกกระทงตามที่เห็นสมควร
ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ไม่มีบัญญัติถึงการรวมกระทงลงโทษ คงมีแต่ศาลจะลงโทษทุกกระทงหรือมิฉะนั้น ก็ลงโทษเฉพาะกระทงที่หนัก อย่างใดอย่างหนึ่ง ตาม ที่ศาลเห็นสมควรก็ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 868/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษทางอาญา – การรวมกระทงความผิดและการพิจารณาโทษ
ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ไม่มีบัญญัติถึงการรวมกระทงลงโทษ คงมีแต่ศาลจะลงโทษทุกกระทง หรือมิฉะนั้น ก็ลงโทษเฉพาะกระทงที่หนัก อย่างใดอย่างหนึ่ง ตามที่ศาลเห็นสมควรก็ได้