คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
เจ้าพนักงาน

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,471 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1241/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแสดงความคิดเห็นโดยได้รับอนุญาตทางราชการ ไม่คุ้มครองการหมิ่นประมาทเจ้าพนักงาน จำเป็นต้องมีการสืบพยานเพื่อพิสูจน์
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานหมิ่นประมาทเจ้าพนักงานจำเลยให้การว่าจำเลยพูดโดยแสดงความคิดเห็นโดยได้รับอนุญาตจากทางราชการแล้ว การที่ได้รับอนุญาตให้พูดมิได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายที่จะให้กล่าวถ้อยคำอันเป็นความผิดอาญา หรือทำให้เกิดการเสียหายต่อผู้อื่นได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1183/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกล่าวหาเจ้าพนักงานลักทรัพย์โดยไม่เป็นความจริงเข้าข่ายดูหมิ่นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 136
ตำรวจจับจำเลยขณะลักเล่นการพนัน จำเลยพูดว่า ตำรวจล้วงเอาเงินส่วนตัวในกระเป๋าของจำเลยไป พูดซ้ำกันหลายครั้ง โดยไม่เป็นความจริง ดังนี้เป็นการดูหมิ่นเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่หรือเพราะกระทำตามหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 136

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1183/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกล่าวหาเท็จต่อเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ ถือเป็นการดูหมิ่นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 136
ตำรวจจับจำเลยขณะลักเล่นการพนัน จำเลยพูดว่า ตำรวจล้วงเอาเงินส่วนตัวในกระเป๋าของจำเลยไป พูดซ้ำกันหลายครั้งโดยไม่เป็นความจริง ดังนี้ เป็นการดูหมิ่นเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่หรือเพราะกระทำการตามหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 136

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1061/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองที่ดินหลัง พ.ร.บ.ประมวลกฎหมายที่ดิน: การเพิกถอนสิทธิการจับจองและอำนาจของเจ้าพนักงาน
ผู้ยื่นคำร้องขอจับจองที่ดินในระหว่างระยะเวลาที่พระราชบัญญัติออกโฉนดที่ดิน (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2479 บังคับไว้ เมื่อมีพระราชบัญญัติให้ใช้ ประมวลกฎหมายที่ดินประกาศใช้ ผู้นั้นก็มิได้ยื่นคำร้องต่อพนักงานเจ้าหน้าที่เพื่อให้คำรับรองว่าที่ดินได้ทำประโยชน์แล้วในกำหนด 180 วันนับแต่ประมวลกฎหมายที่ดิน ใช้บังคับตามมาตรา 7 วรรค 2 ถือว่า ที่ดินนั้นปลอดจากการจับจอง ผู้นั้นเข้าครอบครองที่ดินโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงาน เจ้าหน้าที่โดยชอบ ซึ่งตามพระราชบัญญัติออกโฉนด ที่ ดิน (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2479 มาตรา 15 ก็ดี ประมวลกฎหมายที่ดินมาตรา 32 ก็ดี ย่อมให้อำนาจพนักงานเจ้าหน้าที่พิจารณาออกคำสั่งบังคับให้ผู้ครอบครองที่ดินนั้น ออกไปจากที่ดินได้อยู่
นายอำเภอได้ออกคำสั่ง โดยอาศัยอำนาจ ตามพระราชบัญญัติลักษณะปกครองท้องที่มาตรา 122 และพระราชบัญญัติระเบียบราชการบริหารแผ่นดิน พ.ศ. 2495 มาตรา 40 ให้ผู้ที่เข้าครอบครองที่ สาธารณะสมบัติของแผ่นดินออกไปจากที่ดินได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1037/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจสารวัตรกำนันในการจับกุมและการต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน
สารวัตกำนันเป็นผู้ช่วยกำนัน เมื่อกำนันมีหน้าที่และอำนาจจับกุมผู้กระทำผิด สารวัตรกำนันก็ย่อมช่วยกำนันทำการจับกุมผู้กระทำผิดนี้ ไม่จำเป็นจะต้องให้กำนันเรียกร้องให้ช่วยหรือต้องมีตัวกำนันอยู่ด้วย เพราะกฎหมายให้มีหน้าที่ช่วยกำนันอยู่ในตัวเป็นปกติแล้ว เมื่อจำเลยต่อสู้และทำร้ายสารวัตรกำนันในการจับกุมจำเลยและควบคุมจำเลยส่งพนักงานสอบสวน ย่อมได้ชื่อว่าจำเลยต่อสู้ผู้ต้องช่วยเจ้าพนักงานตามกฎหมายในการปฏิบัติตามหน้าที่ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 138 และทำร้ายผู้ช่วยเหลือเจ้าพนักงานตาม มาตรา 289 อันเป็นความผิดตามมาตรา 296

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1037/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจการจับกุมของสารวัตรกำนัน และความผิดต่อสู้ขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงาน
สารวัตรกำนันเป็นผู้ช่วยกำนัน เมื่อกำนันมีหน้าที่และอำนาจจับกุมผู้กระทำความผิด สารวัตรกำนันก็ย่อมช่วยกำนันทำการจับกุมผู้กระทำความผิดได้ และการช่วยทำการจับกุมผู้กระทำผิดนี้ ไม่จำเป็นจะต้องให้กำนันเรียกร้องให้ช่วยหรือต้องมีตัวกำนันอยู่ด้วย เพราะกฎหมายให้มีหน้าที่ช่วยกำนันอยู่ในตัวเป็นปกติแล้ว เมื่อจำเลยต่อสู้และทำร้ายสารวัตรกำนันในการจับกุมจำเลยและควบคุมจำเลยส่งพนักงานสอบสวน ย่อมได้ชื่อว่าจำเลยต่อสู้ผู้ต้องช่วยเจ้าพนักงานตามกฎหมายในการปฏิบัติการตามหน้าที่ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 138 และทำร้ายผู้ช่วยเหลือเจ้าพนักงานตามมาตรา 289 อันเป็นความผิดตามมาตรา 296

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 830/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเรียกเงินแลกคืนใบเบิกทางของเจ้าพนักงานป่าไม้ ไม่เข้าข่ายความผิดฐานกรรโชก หากไม่มีการข่มขู่หรือบังคับ
จำเลยเป็นพนักงานป่าไม้ มีอำนาจที่จะยึดใบเบิกทางนำไม้ไว้ เพื่อตรวจสอบได้ และได้ยึดใบเบิกทางนำไม้ของคนอื่นจากผู้เสียหาย โดยมีเหตุผล แล้วจำเลยเรียกร้องเอาเงินจากผู้เสียหายเพื่อแลกเปลี่ยนกับใบเบิกทางนำไม้ที่จำเลยยึดไว้ ยังไม่เป็นความผิดฐานกรรโชก เพราะไม่เข้าลักษณะบีบบังคับโดยใช้กำลังข่มขืนหรือขู่เข็ญขืนใจ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 775/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้กำลังเพื่อป้องกันการหลบหนีของผู้ต้องขัง: การกระทำของเจ้าพนักงานเป็นไปตามกฎหมายหรือไม่
จำเลยเป็นผู้ช่วยพัศดีเรือนจำใช้วิธีจับผู้ตายซึ่งเป็นผู้ต้องขังปีนกำแพงเรือนจำหลบหนี โดยชั้นแรกจำเลยร้องบอกให้ผู้ตายหยุดวิ่ง ผู้ตายไม่ยอมหยุดจำเลยใช้ปืนยิงขู่ไป 1 นัด ผู้ตายคงวิ่งหนีต่อไป จำเลยจึงยิงอีก 1 นัด ถูกแขนโดยมิได้เจตนาจะฆ่าผู้ตาย แต่ยิงเพื่อจับกุม ถ้าไม่ยิงผู้ตายก็น่าจะหลบหนีไปได้ จำเลยมีพวกไปด้วยอีก 2 คน แต่ผู้ตายมีสิ่วปลายแหลมในมือ ผู้ตายไม่ได้ตายเพราะแผลที่ถูกยิง แต่ตายเพราะแผลถูกตีที่ศีรษะ เช่นนี้ ย่อมถือว่าการกระทำของจำเลยเป็นวิธีป้องกันมิให้ผู้ตายหลบหนีเท่าที่เหมาะแก่พฤติการณ์แห่งการจับกุมผู้ตาย ซึ่งหลบหนีจากที่คุมขังแล้ว จำเลยยังไม่มีความผิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 695/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ องค์ประกอบฟ้องฐานเจ้าพนักงานเบียดบังทรัพย์: การบรรยายลักษณะทุจริตโดยไม่ต้องระบุคำว่า 'โดยทุจริต'
โจทก์ฟ้องกล่าวหาจำเลยในข้อหาฐานเป็นเจ้าพนักงานเบียดบังทรัพย์ในหน้าที่ เพียงแต่การที่โจทก์มิได้ระบุคำว่า"โดยทุจริต" ไว้ในคำฟ้อง หาทำให้กลายเป็นฟ้องที่ไม่สมบูรณ์เสมอไปไม่ เพราะถ้าโจทก์ได้บรรยายถึงการกระทำทั้งหลายที่อ้างว่า จำเลยได้กระทำผิดมาในฟ้องประกอบด้วยข้อความอื่นๆ ที่กฎหมายต้องการแล้วฟ้องนั้นก็สมบูรณ์
เรื่องนี้โจทก์บรรยายฟ้องไว้ด้วยว่า จำเลยกระทำการเพื่อแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายสำหรับตนเองอยู่แล้ว โดยเฉพาะประโยคที่กล่าวอ้างในฟ้องว่า จำเลยได้บังอาจ เบียดบังเงินของทางราชการ ฯลฯ ไป ย่อมแสดงให้เห็นชัดถึงลักษณะของการกระทำโดยทุจริตของจำเลยแล้วเป็นฟ้องที่สมบูรณ์ตามกฎหมาย (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 9/2502)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 60/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแสดงตนเป็นเจ้าพนักงานเพื่อกระทำผิดฐานปล้นทรัพย์
การที่จำเลยเป็นคนเอากุญแจมืออย่างของตำรวจใส่เจ้าทรัพย์และพวกเจ้าทรัพย์ทั้งได้กระทำการค้น ถือว่าเป็นการแสดงตนและกระทำการเป็นเจ้าพนักงานด้วย.
of 148