คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
กำหนดเวลา

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 990 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 669/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาไม่รับคำโต้แย้งเรื่องฟ้องเคลือบคลุมหลังศาลอุทธรณ์พิพากษาแล้ว และการระบุพยานไม่ทันตามกำหนด
ศาลชั้นต้น พิพากษายกฟ้องโจทก์ โดยวินิจฉัยว่าฟ้องโจทก์เคลือบคลุม ศาลอุทธรณ์ วินิจฉัยว่าฟ้องของโจทก์ไม่เคลือบคลุม พิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษาใหม่ ดังนี้ จำเลยชอบที่จะฎีกาต่อไปว่าฟ้องของโจทก์เคลือบคลุมถ้าจำเลยมิได้ฎีกาปล่อยให้ขาดอายุความฎีกาแล้ว เมื่อศาลชั้นต้น พิจารณาพิพากษาใหม่ ให้จำเลยแพ้คดี และศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยฎีกา แล้วยกข้อฟ้องเคลือบคลุมขึ้นโต้แย้งอีกไม่ได้ เพราะปัญหาข้อนี้ถึงที่สุดไปแล้ว
ยื่นระบุพยานวันที่ 1 ซึ่งนัดพิจารณาสืบพยานไว้ในวันที่ 4 ดังนี้ ถือว่า ระบุพยานไม่ก่อนวันสืบพยาน 3 วันเต็ม ศาลไม่รับระบุพยานดังกล่าว ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 669/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยกเว้นข้อฟ้องเคลือบคลุมหลังศาลอุทธรณ์ให้พิจารณาใหม่ และการระบุพยานหลังกำหนด
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์ โดยวินิจฉัยว่าฟ้องโจทก์เคลือบคลุมศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าฟ้องของโจทก์ไม่เคลือบคลุมพิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษาใหม่ ดังนี้ จำเลยชอบที่จะฎีกาต่อไปว่าฟ้องของโจทก์เคลือบคลุม ถ้าจำเลยมิได้ฎีกาปล่อยให้ขาดอายุความฎีกาแล้ว เมื่อศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษาใหม่ ให้จำเลยแพ้คดีและศาลอุทธรณ์พิพากษายืนจำเลยฎีกา แล้วจะยกข้อฟ้องเคลือบคลุมขึ้นโต้แย้งอีกไม่ได้ เพราะปัญหาข้อนี้ถึงที่สุดไปแล้ว
ยื่นระบุพยานวันที่ 1 ซึ่งนัดพิจารณาสืบพยานไว้ในวันที่ 4 ดังนี้ ถือว่าระบุพยานไม่ก่อนวันสืบพยาน 3 วันเต็ม ศาลไม่รับระบุพยานดังกล่าวแล้ว ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 534/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การไม่ระบุพยานตามกำหนดเวลา ทำให้ศาลไม่อนุญาตให้สืบพยานได้
จำเลยมิได้ยื่นระบุพยานก่อนวันเริ่มต้นทำการสืบพยานตลอดมา วันนัดพิจารณาครั้งที่ 2 จำเลยก็ยังมิได้ระบุพยานอีกปล่อยปละละ เลยล่วงมาจนเป็นเวลาภายหลังวันเริ่มต้นทำการสืบพยานไม่น้อยกว่า 47 วัน จึง ได้ยื่นคำร้องขอระบุพยานนั้น นับว่าเป็นความเผลอเรอของฝ่ายจำเลยอย่างมาก ศาลย่อมไม่อนุญาตให้ระบุได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 534/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การไม่ยื่นระบุพยานตามกำหนดเวลา ทำให้ศาลไม่อนุญาตให้ระบุพยานเพิ่มเติม
จำเลยมิได้ยื่นระบุพยานก่อนวันเริ่มต้นทำการสืบพยานตลอดมา
วันนัดพิจารณาครั้งที่ 2 จำเลยก็ยังมิได้ระบุพยานอีกปล่อยปละละเลยล่วงมาจนเป็นเวลาภายหลังวันเริ่มต้นทำการสืบพยานไม่น้อยกว่า 47 วัน จึงได้ยื่นคำร้องขอระบุพยานนั้นนับว่าเป็นความเผอเรอของฝ่ายจำเลยอย่างมากศาลย่อมไม่อนุญาตให้ระบุได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 316/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าของนาฟ้องคืนนาได้ทันที แม้ยังไม่ครบ 60 วัน เหตุเป็นคนละเรื่องกับคำสั่ง คณะกรรมการอำเภอ
คณะกรรมการอำเภอมีคำสั่งให้ผู้เช่านาคืนนาที่เช่าให้แก่เจ้าของนาตาม พ.ร.บ.ควบคุมการเช่านา พ.ศ.2493 แต่ผู้เช่านาขัดขืนไม่ยอมคืนและยังคงเข้าทำนานั้นอยู่ต่อไปอีกเช่นนี้ เจ้าของนาชอบที่จะเสนอคดีพิพาทนั้นต่อศาลได้ทันที ไม่จำต้องรอให้พ้นกำหนด 60 วันตาม พ.ร.บ.ควบคุมการเช่านา พ.ศ.2493 มาตรา 14 เพราะกรณีเป็นคนละเรื่องกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 159/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ นายประกันต้องรับผิดตามสัญญาเมื่อจำเลยหลบหนี และมีสิทธิอุทธรณ์ภายใน 15 วัน
ศาลสั่งปรับนายประกันตามสัญญา เพราะจำเลยหลบหนีในคดีอาญานั้น ถ้านายประกันประสงค์จะอุทธรณ์คำสั่งศาล จะต้องปฏิบัติตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาว่าด้วยอุทธรณ์ฎีกาคือ ต้องยื่นอุทธรณ์ภายในกำหนด 15 วัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 478/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบอกล้างโมฆียะกรรมต้องทำภายใน 1 ปี นับแต่วันที่รู้เหตุ หากเกินกำหนด สิทธิขาดอายุความ
การขอบอกล้างโมฆียะกรรมนั้น จะต้องกระทำภายในกำหนด 1 ปี นับแต่เวลาที่จะอาจให้สัตยาบันได้
โจทก์รู้การโอน อันเป็นโมฆียะกรรมมากว่า 1 ปี แต่โจทก์ไม่กล่าวในฟ้องหรือนำสืบให้ชัดว่า โจทก์เพิ่งทราบเหตุการหลอกลวงภายหลังใน 1 ปีก่อนบอกล้างดังนี้สันนิษฐานว่าโจทก์รู้เหตุบอกล้าง ตั้งแต่วันที่ทราบถึงการโอน โจทก์บอกล้างไม่ได้เพราะเกิน 1 ปีแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 478/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กำหนดเวลาบอกล้างโมฆียะกรรมและการสันนิษฐานถึงความรู้เหตุ
การขอบอกล้างโมฆียะกรรมนั้น จะต้องกระทำภายในกำหนด 1 ปี นับแต่เวลาที่จะอาจให้สัตยาบันได้
โจทก์รู้การโอน อันเป็นโมฆียะกรรมมากว่า 1 ปี แต่โจทก์ไม่กล่าวในฟ้องหรือนำสืบให้ชัดว่า โจทก์เพิ่งทราบเหตุการหลอกลวงภายหลังใน 1 ปีก่อนบอกล้าง ดังนี้สันนิษฐานว่าโจทก์รู้เหตุบอกล้างตั้งแต่วันที่ทราบถึงการโอนโจทก์บอกล้างไม่ได้เพราะเกิน 1 ปีแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 210/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตอำนาจคณะกรรมการควบคุมค่าเช่า และผลของการไม่ปฏิบัติตามกำหนดเวลาพิจารณา
พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯลฯมาตรา 9 บัญญัติให้วินิจฉัยสั่งคำร้องขอเข้าอยู่ในห้องเช่าภายใน 45 วันนั้นเป็นระเบียบเกี่ยวกับแก่การปฏิบัติของคณะกรรมการ ฯ และประสงค์จะเร่งให้คณะกรรมการฯ ดำเนินงานมิให้ชักช้าเท่านั้น จะถือเป็นผลบังคับว่า หากวินิจฉัยช้าไปจะทำให้คำวินิจฉัยนั้นเป็นโมฆะไม่ได้
การที่อ้างว่าคณะกรรมการไม่รับฟังพยานจำเลยที่จะขอสืบว่าโจทก์มีที่อยู่ถึง 3 แห่ง ไม่มีความจำเป็นที่เข้าอยู่ในอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการควบคุมค่าเช่า ฯลฯที่จะใช้ดุลยพินิจในการที่จะรับฟังหรือไม่ จะมาขอให้ศาลวินิจฉัยหรือเพิกถอนมติของคณะกรรมการในเรื่องนี้ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1600/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเวนคืนที่ดินและสิทธิการขับไล่ เมื่อผู้รับค่าทำขวัญไม่รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างตามกำหนด
โจทก์ซึ่งเป็นกระทรวงเจ้าหน้าที่ ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากที่ดินที่ถูกเวนคืนโดยกล่าวอ้างว่าจำเลยได้ทำสัญญาให้ไว้ จะรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกไปภายในกำหนด 3 เดือนนับแต่วันรับเงินค่าทำขวัญซึ่งได้รับไปแล้ว บัดนี้เกินกำหนดเวลา จำเลยก็เพิกเฉยจึงขอให้ศาลขับไล่ อ้างสิทธิตามมาตรา 21 ตอนท้ายและมาตรา 33 แห่ง พระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ.2477 ดังนี้ แม้จำเลยจะต่อสู้ว่า ฝ่ายโจทก์มิได้เคยใช้ที่ดินแปลงนี้จนเวลาล่วงพ้น 5 ปีเศษแล้ว จำเลยจึงขอคืน โจทก์ไม่ปฏิบัติตาม จำเลยจึงฟ้อง คดียังอยู่ในระหว่างพิจารณาก็ดี ศาลก็ย่อมพิพากษาให้ขับไล่จำเลยออกไปจากที่ดินนั้นได้ โดยไม่ต้องสืบพยานฟังข้อต่อสู้ของจำเลยแต่อย่างใด
of 99