คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ฟ้องซ้ำ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,459 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 640/2515

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจัดการมรดกตามพินัยกรรม: สิทธิของผู้รับมรดกที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะและการฟ้องซ้ำ
คดีก่อน มารดาของผู้คัดค้านยื่นคำร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตาย และผู้ร้องเป็นผู้คัดค้านคดีหลัง ผู้ร้องยื่นคำร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกรายเดียวกัน และผู้คัดค้านได้ยื่นคำคัดค้านคู่ความทั้งสองคดีมิใช่คู่ความเดียวกัน จึงไม่เป็นฟ้องซ้ำ แม้ผู้ร้องจะร้องขอให้ตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกในคดีหลังในระหว่างที่คดีก่อนยังพิจารณาอยู่ก็ไม่เป็นการฟ้องซ้อน เพราะผู้ร้องมิได้เคยร้องขอให้ตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกรายนี้ในคดีก่อนมาก่อน
พินัยกรรมของผู้ตายกำหนดตั้งบุตรห้าคนเป็นผู้จัดการมรดกแต่บุตรสองคนยังไม่บรรลุนิติภาวะ ไม่สามารถจัดการมรดกได้และบุตรอีกคนหนึ่งไม่เต็มใจที่จะจัดการมรดก ดังนี้บุตรอีกสองคนซึ่งไม่เป็นบุคคลต้องห้ามตามกฎหมาย ย่อมร้องขอต่อศาล ขอให้ตั้งตนเองเป็นผู้จัดการมรดกได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 635/2515

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้ำในกรรมสิทธิ์รวม: การฟ้องขับไล่ผู้บุกรุกโดยเจ้าของรวมคนหนึ่ง ย่อมผูกพันกรรมสิทธิ์รวมทั้งหมด
การที่เจ้าของรวมคนหนึ่งฟ้องขับไล่ผู้บุกรุกที่ดินซึ่งเป็นกรรมสิทธิ์รวมถือได้ว่าเป็นการใช้สิทธิอันเกิดแต่กรรมสิทธิ์ครอบไปถึงทรัพย์สินทั้งหมดเพื่อต่อสู้บุคคลภายนอกย่อมมีอำนาจทำได้โดยลำพัง
เมื่อเจ้าของรวมคนหนึ่งเคยฟ้องขับไล่จำเลยหาว่าบุกรุกที่ดินกรรมสิทธิ์รวมมาแล้ว และได้มีการทำสัญญาประนีประนอมยอมความกัน ซึ่งศาลได้พิพากษาตามยอมคดีถึงที่สุดไปแล้ว โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าของรวมคนหนึ่งจะกลับมาฟ้องว่าจำเลยบุกรุก ขอให้ขับไล่อีก ย่อมเป็นการรื้อร้องฟ้องกันอีกในประเด็นที่ได้วินิจฉัยโดยอาศัยเหตุอย่างเดียวกันแม้ในคดีก่อนเจ้าของรวมนั้นจะไม่ได้รับมอบฉันทะให้ฟ้องแทนโจทก์หรือไม่ได้บรรยายฟ้องว่าฟ้องแทนโจทก์ ฟ้องของโจทก์ในคดีหลังนี้ก็เป็นฟ้องซ้ำ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 632/2515 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสมรสที่ชอบด้วยกฎหมาย, สิทธิในบำนาญตกทอด, ฟ้องซ้ำ, และขอบเขตคำพิพากษา
โจทก์ฟ้องขอให้ศาลพิพากษาว่าโจทก์เป็นภรรยาโดยชอบด้วยกฎหมายของหลวง ฉ. มีสิทธิได้รับเงินบำนาญตกทอดของหลวง ฉ. และห้ามจำเลยเข้าเกี่ยวข้องกับเงินรายนี้การที่ศาลวินิจฉัยด้วยว่าการจดทะเบียนสมรสระหว่างจำเลยกับหลวง ฉ. เป็นโมฆะ โจทก์เป็นภรรยาโดยชอบด้วยกฎหมายของหลวง ฉ. ห้ามจำเลยมิให้เกี่ยวข้องขอรับเงินรายนี้ไม่ถือว่าพิพากษาเกินคำขอ
โจทก์เคยฟ้องจำเลยขอให้ศาลพิพากษาว่าการสมรสและการจดทะเบียนสมรสระหว่างจำเลยกับหลวง ฉ. เป็นโมฆะให้เพิกถอนเสีย ศาลพิพากษายกฟ้องโดยเห็นว่าหลวง ฉ.ถึงแก่ความตาย แล้ว การสมรสย่อมสิ้นสุดลง จึงเป็นฟ้องที่ไม่ควรรับไว้พิจารณา เพราะคำขอของโจทก์ไม่เกิดผลอะไรแก่สิทธิในครอบครัวเป็นเรื่องที่ศาลยังมิได้วินิจฉัยประเด็นตามคำขอของโจทก์ โจทก์ฟ้องคดีนี้ได้ ไม่เป็นฟ้องซ้ำ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 333/2515 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำพิพากษาผูกพันคู่ความเดิม การฟ้องซ้ำในประเด็นเดียวกัน
โจทก์เคยฟ้องผู้มีชื่อเป็นจำเลยอ้างว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์และขอให้ศาลเรียกผู้ว่าราชการจังหวัดกับนายอำเภอเข้าเป็นจำเลยร่วมจำเลยร่วมต่อสู้ว่าที่พิพาทเป็นขององค์การบริหารส่วนจังหวัดศาลพิพากษาว่าข้อเท็จจริงฟังไม่ได้ว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์ให้ยกฟ้องคดีถึงที่สุดไปแล้ว แล้วโจทก์มาฟ้องจำเลยเป็นคดีใหม่อ้างว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์ ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดกับนายอำเภอได้ร้องสอดเข้าเป็นจำเลยร่วมอีก ดังนี้ คำพิพากษาในคดีเดิมย่อมผูกพันโจทก์กับผู้ร้องสอดซึ่งเป็นคู่ความกันมาแล้ว (ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 145 วรรคแรก) โจทก์จะกล่าวอ้างว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์อีกหาได้ไม่ และย่อมไม่มีสิทธิฟ้องจำเลยซึ่งเป็นผู้เช่าที่พิพาทจากผู้ร้องสอดห้ามมิให้เกี่ยวข้องกับที่พิพาท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2241/2515 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้ำ: คดีซื้อขายที่ดินยังไม่ถึงที่สุด แม้มีการท้ากันให้ศาลวินิจฉัยเฉพาะประเด็นฟ้องซ้ำ
คดีเดิมจำเลยเป็นโจทก์ฟ้องขับไล่โจทก์ให้รื้อเรือนออกไปจากที่พิพาท โจทก์ต่อสู้ว่าซื้อที่พิพาทจากตัวแทนจำเลย ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า การตั้งตัวแทนไม่มีหนังสือมอบอำนาจมาแสดง รับฟังไม่ได้ว่าโจทก์ซื้อที่พิพาทจากจำเลย โจทก์อุทธรณ์ ระหว่างอุทธรณ์โจทก์กลับมาฟ้องคดีนี้อ้างว่า ซื้อที่พิพาทจากตัวแทนจำเลยขอให้บังคับจำเลยโอนที่พิพาทให้โจทก์ จำเลยต่อสู้ว่าเป็นฟ้องซ้ำและคู่ความตกลง ท้ากันให้ศาลวินิจฉัยเพียงประเด็นเดียวว่าฟ้องโจทก์เป็นฟ้องซ้ำ ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 148 หรือไม่ ศาลชั้นต้นเห็นว่าไม่เป็นฟ้องซ้ำ ดังนี้ เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่าขณะที่โจทก์จำเลยท้ากันให้ศาลวินิจฉัยประเด็นข้อนี้และศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยแพ้ตามคำท้านั้น ศาลอุทธรณ์ยังมิได้พิพากษาคดีเดิม คดีดังกล่าวยังไม่ถึงที่สุด ฟ้องโจทก์คดีนี้จึงไม่เป็นฟ้องซ้ำตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 148ส่วนจะเป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาซ้ำต้องห้ามตามมาตรา 144หรือไม่ ไม่ใช่ประเด็นที่คู่ความท้ากัน เมื่อไม่เห็นสมควร ศาลฎีกาก็ไม่หยิบยกขึ้นวินิจฉัย (วินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 31/2515)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2241/2515

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้ำ: คดีซื้อขายที่ดินยังไม่ถึงที่สุด แม้มีการท้ากันให้ศาลวินิจฉัยประเด็นเฉพาะ
คดีเดิมจำเลยเป็นโจทก์ฟ้องขับไล่โจทก์ให้รื้อเรือนออกไปจากที่พิพาท โจทก์ต่อสู้ว่าซื้อที่พิพาทจากตัวแทนจำเลยศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า การตั้งตัวแทนไม่มีหนังสือมอบอำนาจมาแสดง รับฟังไม่ได้ว่าโจทก์ซื้อที่พิพาทจากจำเลย โจทก์อุทธรณ์ ระหว่างอุทธรณ์โจทก์กลับมาฟ้องคดีนี้อ้างว่า ซื้อที่พิพาทจากตัวแทนจำเลย ขอให้บังคับจำเลยโอนที่พิพาทให้โจทก์ จำเลยต่อสู้ว่าเป็นฟ้องซ้ำ และคู่ความตกลงท้ากันให้ศาลวินิจฉัยเพียงประเด็นเดียวว่าฟ้องโจทก์เป็นฟ้องซ้ำ ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 148หรือไม่ ศาลชั้นต้นเห็นว่าไม่เป็นฟ้องซ้ำ ดังนี้เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่าขณะที่โจทก์จำเลยท้ากันให้ศาลวินิจฉัยประเด็นข้อนี้ และศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยแพ้ตามคำท้านั้น ศาลอุทธรณ์ยังมิได้พิพากษาคดีเดิม คดีดังกล่าวยังไม่ถึงที่สุด ฟ้องโจทก์คดีนี้จึงไม่เป็นฟ้องซ้ำตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 148 ส่วนจะเป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาซ้ำต้องห้ามตามมาตรา 144หรือไม่ ไม่ใช่ประเด็นที่คู่ความท้ากัน เมื่อไม่เห็นสมควร ศาลฎีกาก็ไม่หยิบยกขึ้นวินิจฉัย (วินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 31/2515)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2240/2515

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การผูกพันตามคำท้าสาบานและการฟ้องซ้ำในประเด็นเดิม
โจทก์เคยฟ้องจำเลยขอให้จดทะเบียนรับรอง ก. เป็นบุตรแล้วตกลงท้าสาบานกันโดยถ้าจำเลยสาบานได้ ต้องฟังว่าก. ไม่ใช่บุตรของจำเลย จำเลยสาบานได้ตามคำท้า โจทก์จึงขอถอนฟ้อง และแถลงต่อศาลว่า ไม่ติดใจดำเนินคดีแก่จำเลยอีก ศาลสั่งอนุญาต คำแถลงของโจทก์เช่นนี้เป็นการยอมสละสิทธิของตนที่มีอยู่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 176 ซึ่งบัญญัติมิให้โจทก์มีสิทธินำคดีมาฟ้องจำเลยได้ใหม่ จึงผูกมัดตัวโจทก์ตามคำท้า โจทก์จะนำคดีมาฟ้องจำเลยขอให้จดทะเบียนรับ ก. เป็นบุตร อันมีประเด็นอย่างเดียวกันอีกหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1724/2515 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องเรียกค่าเสียหายจากการแย่งข้าวเปลือกเป็นค่าเช่านา ไม่ถือเป็นการฟ้องซ้ำ หากการกระทำละเมิดเกิดขึ้นภายหลังคดีเดิม
คดีก่อน โจทก์ฟ้องจำเลยขอให้โอนที่นาและให้ใช้ค่าเสียหายในการที่จำเลยหรือบริวารแย่งเก็บเกี่ยวเอาข้าวเปลือกเป็นค่าเช่าที่นาพิพาทไปก่อนฟ้อง ศาลพิพากษาให้โจทก์ชนะคดี ระหว่างที่คดีก่อนอยู่ในระหว่างพิจารณาของศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์และศาลฎีกาจำเลยหรือบริวารได้แย่งเอาข้าวเปลือกจากบุคคลที่สามซึ่งเช่านาพิพาทไปเป็นค่าเช่านาพิพาทอีก 4 ปี ดังนี้ โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยคืนข้าวเปลือกที่เอาไปหรือใช้ราคาได้ ไม่เป็นฟ้องซ้ำ เพราะการแย่งเอาข้าวเปลือกนี้จำเลยได้กระทำเป็นครั้งๆ ตามระยะเวลาของการเก็บเกี่ยวข้าว ขณะโจทก์ฟ้องคดีก่อนการละเมิดของจำเลยตามฟ้องคดีหลังยังไม่เกิด โจทก์ไม่อาจใช้สิทธิทางศาลฟ้องจำเลยเสียในคราวเดียวกับที่คดีก่อนได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1724/2515

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องเรียกค่าเสียหายจากการกระทำละเมิดต่อเนื่อง หากการละเมิดยังไม่เกิดขึ้นในขณะฟ้องคดีก่อน ไม่ถือเป็นฟ้องซ้ำ
คดีก่อน โจทก์ฟ้องจำเลยขอให้โอนที่นาและให้ใช้ค่าเสียหายในการที่จำเลยหรือบริวารแย่งเก็บเกี่ยวเอาข้าวเปลือกเป็นค่าเช่าที่นาพิพาทไปก่อนฟ้อง ศาลพิพากษาให้โจทก์ชนะคดี ระหว่างที่คดีก่อนอยู่ในระหว่างพิจารณาของศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์และศาลฎีกาจำเลยหรือบริวารได้แย่งเอาข้าวเปลือกจากบุคคลที่สามซึ่งเช่านาพิพาทไปเป็นค่าเช่านาพิพาทอีก 4 ปี ดังนี้ โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยคืนข้าวเปลือกที่เอาไปหรือใช้ราคาได้ ไม่เป็นฟ้องซ้ำ เพราะการแย่งเอาข้าวเปลือกนี้จำเลยได้กระทำเป็นครั้งๆ ตามระยะเวลาของการเก็บเกี่ยวข้าว ขณะโจทก์ฟ้องคดีก่อนการละเมิดของจำเลยตามฟ้องคดีหลังยังไม่เกิด โจทก์ไม่อาจใช้สิทธิทางศาลฟ้องจำเลยเสียในคราวเดียวกับที่คดีก่อนได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1646-1649/2515 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีอาญา: พนักงานอัยการมีอำนาจฟ้องคดีซ้ำ แม้ผู้เสียหายฟ้องแล้ว และฟ้องจำเลยอื่นได้
แม้ผู้เสียหายจะได้ยื่นฟ้องจำเลยเป็นคดีอาญาไว้สำนวนหนึ่งแล้วก็ไม่มีกฎหมายจำกัดอำนาจของพนักงานอัยการมิให้ฟ้องจำเลยนั้นในเรื่องเดียวกันเป็นคดีใหม่อีกสำนวนหนึ่ง
of 146