พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,439 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 86/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบรรยายฟ้องความผิดฐานประมาทต้องระบุรายละเอียดการกระทำ หากโจทก์ฟ้องเฉพาะเจตนา ศาลลงโทษประมาทไม่ได้
ความผิดฐานพยายามฆ่าคนโดยเจตนากับความผิดฐานประมาททำให้คนรับอันตรายแก่กายถึงสาหัสนั้น ลักษณะการกระทำแตกต่างกัน อันถือว่าเป็นสาระสำคัญ กล่าวคือ ในความผิดที่กระทำโดยประมาทโจทก์จะต้องบรรยายฟ้องให้จำเลยทราบว่า การกระทำของจำเลยเป็นประการใดจึงเรียกว่าจำเลยกระทำโดยประมาท จำเลยจะได้ต่อสู้คดีในฐานประมาทได้ด้วย มิฉะนั้น เมื่อโจทก์ฟ้องว่าจำเลยพยายามฆ่าโดยเจตนา จะลงโทษฐานประมาททำให้คนรับอันตรายแก่กายถึงสาหัสไม่ได้หากโจทก์ประสงค์จะให้ลงโทษจำเลยฐานประมาททำให้คนรับอันตรายแก่กายถึงสาหัสด้วย โจทก์ก็ชอบที่จะบรรยายฟ้องถึงการกระทำของจำเลยเป็นท้องเรื่องมาในฟ้องอันเห็นได้ว่า หากจำเลยไม่เจตนาจำเลยก็ได้กระทำการโดยปราศจากความระมัดระวังซึ่งบุคคลในภาวะเช่นนั้น จักต้องมีตามวิสัยและพฤติการณ์เช่นนี้ ศาลก็ยังอาจจะลงโทษจำเลยฐานทำอันตรายแก่กายถึงสาหัสโดยประมาทได้เพราะเป็นเรื่องอยู่ในฟ้องแล้ว (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 18/2502)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 75/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับสารภาพที่ไม่เป็นความผิดตามฟ้อง ศาลไม่อาจลงโทษจำเลยได้
การที่จะลงโทษจำเลยในคดีที่จำเลยรับสารภาพ ต้องอาศัยคำฟ้องการกระทำของจำเลยที่โจทก์บรรยายมาในฟ้องนั้นไม่เป็นความผิด เพราะโจทก์กล่าวในฟ้องว่าจำเลยออกเช็คในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2500 ให้จ่ายเงินแก่นางจารุวรรณย้อนหลังไปในเดือนสิงหาคม พ.ศ.2500 และในเดือนสิงหาคม พ.ศ.2500 นั้น นางจารุวรรณได้นำเช็คดังกล่าวไปขอรับเงินจากธนาคาร เมื่อฟ้องคงเป็นอยู่เช่นนี้ แม้จำเลยจะรับสารภาพ ก็เป็นการรับสารภาพตามฟ้องที่ไม่เป็นความผิดย่อมลงโทษจำเลยไม่ได้ (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 19/2502)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 71/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษฐานลักทรัพย์ในสถานที่ที่เข้าข่ายทั้งสถานที่บริการสาธารณะและสาธารณะสถานสำหรับขนถ่ายสินค้า
จำเลยบังอาจลอบเข้าไปลักทรัพย์ในโรงพักสินค้าของการท่าเรือแห่งประเทศไทย เป็นการลักทรัพย์ในสถานที่ที่จัดไว้ เพื่อบริการสาธารณะมาตรา 335 (8) หรือลักทรัพย์ในสาธารณะสถานสำหรับขนถ่ายสินค้ามาตรา 335 (9)
อนุมาตรา 8 เป็นสถานที่บริการสาธารณะทั่ว ๆ ไป ส่วนอนุมาตรา 9 จำกัดสถานที่บางแห่งไว้โดยเฉพาะ แต่การกระทำของจำเลยนี้เข้าอนุมาตรา 9 ตรงกว่า จำเลยมีผิดตาม มาตรา 335 (9) ตอน 1 ไม่ใช่ตอน 2
อนุมาตรา 8 เป็นสถานที่บริการสาธารณะทั่ว ๆ ไป ส่วนอนุมาตรา 9 จำกัดสถานที่บางแห่งไว้โดยเฉพาะ แต่การกระทำของจำเลยนี้เข้าอนุมาตรา 9 ตรงกว่า จำเลยมีผิดตาม มาตรา 335 (9) ตอน 1 ไม่ใช่ตอน 2
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 54/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สถานที่เกิดเหตุในฟ้อง ไม่จำเป็นต้องตรงกับสถานที่จับกุม หากไม่แตกต่างในสาระสำคัญ ศาลยังลงโทษได้
การที่โจทก์ฟ้องว่า เหตุเกิดที่ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดหนองคาย ในข้อหาพาคนต่างด้าวหลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรไทย จำเลยต่อสู้อ้างฐานที่อยู่ แม้ทางพิจารณาปรากฏว่าจับจำเลยได้ที่ตำบลวัดธาตุ อำเภอเมือง จังหวัดหนองคายก็ตาม แต่เมื่อโจทก์ได้บรรยายไว้ในฟ้องว่า จำเลยไม่พาคนต่างด้าวไปผ่านการตรวจของพนักงานเจ้าหน้าที่ ณ ทีทำการตรวจคนเข้าเมืองทีใกล้ที่สุด ซึ่งทางพิจารณาได้ความว่า เป็นตำบลในเมืองอำเภอเมือง จังหวัดหนองคาย เช่นนี้ถือว่า ในข้อสถานที่เกิดเหตุ ทางพิจารณาไม่แตกต่างกับที่โจทก์บรรยายในฟ้องในข้อสาระสำคัญ และจำเลยมิได้หลงข้อต่อสู้อย่างใด ลงโทษตามฟ้องได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 396/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษฐานทำให้เสื่อมเสียอิสรภาพ แม้ไม่มีความผิดฐานกรรโชก
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานกรรโชก ทางพิจารณาได้ความเพียงว่า จำเลยไปพูดขู่เอาเงินผู้เสียหายโดยว่า ถ้าไม่ให้จะทำร้าย แต่ผู้เสียหายไม่ได้ให้เงินไปหรือมิได้ สัญญาว่าจะให้เงิน เพราะได้แจ้งความไว้แล้ว และเจ้าพนักงานตำรวจมารอให้ความอารักขาอยู่แล้ว จึงเข้าจับกุมจำเลย แต่โดยมีความผิดฐานกรรโชค รวมการกระทำฐานทำให้เสื่อมเสียอิสรภาพอยู่ด้วย ซึ่งเป็นความผิดได้อยู่ในตัวเอง ศาลจึงย่อมลงโทษฐานทำให้เลื่อมเสียอิสระภาพตามที่พิจารณาได้ความได้ โดยอาศัย ป.วิ.อ. มาตรา 192 วรรคท้าย
(อ้างฎีกาที่ 358/2481)
(อ้างฎีกาที่ 358/2481)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 396/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษฐานทำให้เสื่อมเสียอิสรภาพ แม้ไม่มีความผิดฐานกรรโชก
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานกรรโชก ทางพิจารณาได้ความเพียงว่า จำเลยไปพูดขู่เอาเงินผู้เสียหายโดยว่า ถ้าไม่ให้จะทำร้ายแต่ผู้เสียหายไม่ได้ให้เงินไปหรือมิได้สัญญาว่าจะให้เงิน เพราะได้แจ้งความไว้แล้ว และเจ้าพนักงานตำรวจมารอให้ความอารักขาอยู่แล้วจึงเข้าจับกุมจำเลยแต่โดยที่ความผิดฐานกรรโชกรวมการกระทำฐานทำให้เสื่อมเสียอิสรภาพอยู่ด้วย ซึ่งเป็นความผิดได้อยู่ในตัวเองศาลจึงย่อมลงโทษจำเลยฐานทำให้เสื่อมเสียอิสรภาพตามที่พิจารณาได้ความได้ โดยอาศัย ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 วรรคท้าย(อ้างฎีกาที่ 358/2481)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1578-1580/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบรรยายฟ้องฐานปล้นทรัพย์ด้วยอาวุธปืน การลงโทษตามวรรคสี่ของมาตรา 340 ต้องระบุการใช้ปืนยิง
บรรยายฟ้องเรื่องปล้นทรัพย์ว่าจำเลยกับพวกใช้ปืนมีด และไม้เป็นอาวุธทำร้ายเจ้าทรัพย์เป็นอันตรายแก่ร่างกาย โดยมิได้บรรยายว่า ใช้อาวุธปืนยิง ดังนี้ จะลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340 วรรคสี่ฐานปล้นโดยใช้ปืนยิงไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1521/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฎีกาความผิดฐานชิงทรัพย์เมื่อศาลอุทธรณ์ลงโทษกระทงหนักกว่าและไม่ระบุโทษฐานชิงทรัพย์
ศาลชั้นต้นลงโทษจำคุกจำเลยฐานชิงทรัพย์ไม่เกิน 5 ปี ศาลอุทธรณ์ฟังว่าจำเลยมีความผิดฐานชิงทรัพย์ด้วยจริงดังที่ศาลชั้นต้นลงโทษมา แต่ได้ลงโทษด้วยบทหนักฐานพยายามฆ่าเจ้าพนักงานลดแล้วคงจำคุก 13 ปี 4 เดือน ไม่ระบุว่า โทษฐานชิงทรัพย์มากน้อยเท่าใด ดังนี้ จำเลยย่อมฎีการวมตลอดถึงความผิดฐานชิงทรัพย์ได้ (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 27/2503)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1107/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษฆ่าคนโดยเจตนาเมื่อเหตุเกิดก่อนใช้ประมวลกฎหมายอาญา ศาลฎีกาแก้ไขโทษตามกฎหมายลักษณะอาญา
จำเลยทำผิดฐานฆ่าคนโดยเจตนา เหตุเกิดก่อนใช้ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 249 ต้องลงโทษตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 249 หาได้ไม่ เพราะอัตราโทษเท่ากันกับกฎหมายเก่า ไม่มีส่วนที่เป็นคุณแก่จำเลยประการใด และเมื่อคำให้การจำเลยมีประโยชน์ในการพิจารณาอยู่บ้าง จะปรานีลดโทษให้จำเลย ก็ร้องอ้างกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 59 จะมาอ้างประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1107/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษจำเลยในคดีฆ่าคนโดยเจตนาที่เกิดก่อนใช้ประมวลกฎหมายอาญา ต้องใช้กฎหมายเก่า แม้โทษเท่ากัน
จำเลยทำผิดฐานฆ่าคนโดยเจตนาเหตุเกิดก่อนใช้ประมวลกฎหมายอาญาต้องลงโทษตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 249 จะลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 หาได้ไม่ เพราะอัตราโทษเท่ากันกับกฎหมายเก่า ไม่มีส่วนที่เป็นคุณแก่จำเลยประการใด และเมื่อคำให้การจำเลยมีประโยชน์ในการพิจารณาอยู่บ้าง จะปรานีลดโทษให้จำเลย ก็ต้องอ้างกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 59 จะมาอ้างประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ไม่ได้