พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,220 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 544/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องคดีซ้ำซ้อน: โจทก์ฟ้องคดีใหม่หลังคัดค้านในคดีเดิมไม่ได้ แม้ได้รับความเสียหายจากผลคดี
โจทก์ร้องคัดค้านในคดีก่อนซึ่งจำเลยทั้งสองเป็นคู่ความกันอยู่แล้วและคดีนั้นก็กำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาล เช่นนี้ โจทก์จะนำมูลกรณีเรื่องเดียวกันนั้นมาฟ้องจำเลยเป็นคดีใหม่อีกไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 525/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การชั่งน้ำหนักพยาน: เมื่อศาลใช้ดุลพินิจตัดสินคดีแพ่ง และจำกัดการสันนิษฐานว่าพยานฝ่ายแพ้เป็นพยานเท็จ
คดีก่อนศาลยกฟ้องโจทก์โดยว่า คำพยานโจทก์ขัดกัน เป็นถ้อยคำที่น่าสงสัย ไม่มีน้ำหนัก ดังนี้ เป็นเรื่องของการชั่งน้ำหนักคำพยานว่า พยานฝ่ายใดดีกว่ากันเท่านั้น หากจำเลยในคดีนั้นไม่มีพยานอื่นใดมาสืบแสดงให้ชัดแจ้งว่าพยานโจทก์เบิกความเท็จแล้วก็จะสันนิษฐานว่า พยานโจทก์เบิกความเท็จหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 361/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องซ้ำต้องห้าม: คดีอาญาที่จำหน่ายคดีแล้ว ไม่กระทบสิทธิฟ้องทางแพ่งเรียกค่าเสียหายจากละเมิด
ผู้เสียหายเป็นโจทก์ฟ้องคดีแพ่งขอให้จำเลยใช้เงินที่จำเลยได้ยักยอกเอาไป จำเลยตัดฟ้องว่าเป็นฟ้องซ้ำต้องห้าม ข้อเท็จจริงปรากฏว่า ก่อนผู้เสียหายเป็นโจทก์ฟ้องคดีแพ่งนั้น ผู้ว่าคดีเคยฟ้องจำเลยต่อศาลแขวงเป็นคดีอาญาหาว่าจำเลยยักยอกเงินรายเดียวกันนี้ และมีคำขอให้จำเลยใช้เงินที่ยักยอกนั้นด้วย ทั้งตัวผู้เสียหายก็ได้เข้าเป็นโจทก์ร่วมในคดีอาญานั้นด้วย ศาลแขวงได้ไต่สวนมูลฟ้องเพราะเป็นคดีเกินอำนาจ แล้วเห็นว่าคดียังไม่มีมูลว่าจำเลยได้กระทำผิดฐานยักยอก จึงพิพากษายกฟ้อง ผู้ว่าคดีอุทธรณ์ ต่อมาจำเลยได้ตายในระหว่างอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์จึงสั่งจำหน่ายคดี ส่วนคดีแพ่งที่ผู้เสียหายเป็นโจทก์ฟ้องดังกล่าวนั้น ได้ฟ้องเข้ามาก่อนจำเลยถึงแก่ความตาย ดังนี้ ฟ้องคดีแพ่งของผู้เสียหายดังกล่าว หาเป็นฟ้องซ้ำต้องห้าไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 361/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องซ้ำต้องห้าม: คดีแพ่งไม่ห้าม แม้เคยฟ้องคดีอาญาเรียกทรัพย์เดียวกันไว้ก่อน หากคดีอาญาไม่วินิจฉัยประเด็นทรัพย์
ผู้เสียหายเป็นโจทก์ฟ้องคดีแพ่งขอให้จำเลยใช้เงินที่จำเลยได้ยักยอกเอาไปจำเลยตัดฟ้องว่าเป็นฟ้องซ้ำต้องห้ามข้อเท็จจริงปรากฏว่า ก่อนผู้เสียหายเป็นโจทก์ฟ้องคดีแพ่งนั้น ผู้ว่าคดีเคยฟ้องจำเลยต่อศาลแขวงเป็นคดีอาญาหาว่าจำเลยยักยอกเงินรายเดียวกันนี้ และมีคำขอให้จำเลยใช้เงินที่ยักยอกนั้นด้วย ทั้งตัวผู้เสียหายก็ได้เข้าเป็นโจทก์ร่วมในคดีอาญานั้นด้วย ศาลแขวงได้ไต่สวนมูลฟ้องเพราะเป็นคดีเกินอำนาจ แล้วเห็นว่าคดียังไม่มีมูลว่าจำเลยได้กระทำผิดฐานยักยอก จึงพิพากษายกฟ้อง ผู้ว่าคดีอุทธรณ์ ต่อมาจำเลยได้ตายในระหว่างอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์จึงสั่งจำหน่ายคดีส่วนคดีแพ่งที่ผู้เสียหายเป็นโจทก์ฟ้องดังกล่าวนั้นได้ฟ้องเข้ามาก่อนจำเลยถึงแก่ความตาย ดังนี้ฟ้องคดีแพ่งของผู้เสียหายดังกล่าว หาเป็นฟ้องซ้ำต้องห้ามไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 22/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำแถลงรับหนี้ในคดีล้มละลายไม่ถือเป็นคำให้การ ถอนคำแถลงได้หากยังไม่มีการพิจารณาคดี
คำแถลงรับของจำเลยซึ่งศาลจดไว้ในรายงานกระบวนพิจารณาคดีล้มละลายว่า เป็นหนี้โจทก์ตามฟ้องจริงก็ดี ไม่มีทรัพย์สินพอจะชำระหนี้โจทก์ได้ก็ดี หาใช่เป็นคำให้การตามมาตรา 177 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งไม่ เมื่อจำเลยยังไม่ได้ยื่นคำให้การและมิได้มีการสั่งให้จำเลยขาดนัดยื่นคำให้การ ทั้งศาลก็ยังมิได้ดำเนินการพิจารณาคดีอย่างไร ต่อไปภายหลังที่จำเลยแถลงแล้ว หากจำเลยขอถอนคำแถลงต่อศาลนั้นเสียโดยอ้างว่าคำแถลงไปโดยผิดหลง จึงไม่ใช่เป็นการขอถอนคำให้การหรือแก้ไขคำให้การแต่อย่างใด เมื่อศาลเห็นสมควรให้จำเลยได้มีโอกาสต่อสู้คดีต่อไปตามกระบวนความก็อนุญาตได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1680/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทิ้งฟ้องคดีแพ่งเนื่องจากไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาลให้แถลงผลคดีอาญาที่เกี่ยวข้อง
ในกรณีที่โจทก์ฎีกาและศาลฎีกาสั่งให้รอการพิจารณาคดีไว้เพื่อฟังผลของอีกคดีหนึ่งก่อน เมื่อคดีนั้นถึงที่สุดแล้ว ให้โจทก์แถลงให้ศาลทราบภายใน 10 วันนั้น หากคดีที่สั่งให้รอถึงที่สุด และโจทก์ไม่ได้ปฏิบัติการดังข้อกำหนดของศาลแต่ประการใดแล้ว ก็ถือว่าโจทก์เพิกเฉยไม่นำพาในการดำเนินคดีภายในเวลาที่ศาลกำหนด เป็นการทิ้งฟ้อง ต้องจำหน่ายคดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 157/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำสั่งศาลให้รอไต่สวนมูลฟ้องเพื่อรอผลคดีแพ่งที่เกี่ยวข้องกับการครอบครองทรัพย์สิน เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาที่ไม่ขัดกฎหมาย
คดีอาญาที่ศาลชั้นต้นสั่งให้ไต่สวนมูลฟ้องแล้วต่อมาสั่งงดไต่สวนเพื่อรอฟังผลในอีกคดีหนึ่ง เพราะจะเป็นผลให้ร่นระยะการพิจารณาคดีให้สั้นและง่ายเข้า นั้น เป็นคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย และเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาที่ไม่ทำให้คดีเสร็จสำนวน อุทธรณ์ฎีกาไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 157/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำสั่งศาลให้รอไต่สวนมูลฟ้องเพื่อรอผลคดีแพ่งที่เกี่ยวข้องกับกรรมสิทธิ์ในที่ดิน เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาที่ชอบด้วยกฎหมาย
คดีอาญาที่ศาลชั้นต้นสั่งให้ไต่สวนมูลฟ้อง แล้วต่อมาสั่งงดไต่สวนเพื่อรอฟังผลในอีกคดีหนึ่ง เพราะจะเป็นผลให้ร่นระยะการพิจารณาคดีให้สั้นและง่ายเข้า นั้น เป็นคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย และเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาที่ไม่ทำให้คดีเสร็จสำนวน อุทธรณ์ฎีกาไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1057/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลในการไม่อนุญาตให้ถอนฟ้องคดีแพ่ง แม้จำเลยไม่คัดค้าน แต่มีเงื่อนไข
คดีแพ่ง เมื่อจำเลยยื่นคำให้การแล้วโจทก์ยื่นคำขอเพื่ออนุญาตให้โจทก์ถอนคำฟ้องนั้น อำนาจศาลมีอยู่เสมอที่จะอนุญาตหรือไม่อนุญาตหรืออนุญาตภายในเงื่อนไขที่เห็นสมควรข้อจำกัดมีอยู่แต่เพียงว่า ถ้าศาลอนุญาตจะต้องฟังจำเลยหรือผู้ร้องสอดถ้าหากมีก่อนเท่านั้น
โจทก์ขอถอนฟ้อง จำเลยไม่คัดค้านแต่เสนอเงื่อนไขต่อศาลหลายประการนั้น มิใช่เป็นเรื่องที่โจทก์ถอนคำฟ้องเนื่องจากมีข้อตกลงหรือประนีประนอมยอมความกับจำเลย จึงไม่อยู่ในบังคับมาตรา 175 (2) และศาลมีอำนาจโดยบริบูรณ์ที่จะใช้ดุลพินิจไม่อนุญาตให้ถอนฟ้องได้
โจทก์ขอถอนฟ้อง จำเลยไม่คัดค้านแต่เสนอเงื่อนไขต่อศาลหลายประการนั้น มิใช่เป็นเรื่องที่โจทก์ถอนคำฟ้องเนื่องจากมีข้อตกลงหรือประนีประนอมยอมความกับจำเลย จึงไม่อยู่ในบังคับมาตรา 175 (2) และศาลมีอำนาจโดยบริบูรณ์ที่จะใช้ดุลพินิจไม่อนุญาตให้ถอนฟ้องได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 976/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คดีแพ่งและอาญาแยกกัน ประนีประนอมแพ่งไม่กระทบคดีอาญา
คดีแพ่งและคดีอาญาเป็นคนละส่วนกันฉะนั้น แม้เดิมโจทก์ฟ้องจำเลยเป็นคดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญาต่อศาลจังหวัดแต่ศาลจังหวัดไม่รับฟ้องคดีส่วนอาญา เพราะอยู่ในอำนาจศาลแขวง คงรับฟ้องเฉพาะคดีส่วนแพ่ง แล้วคู่ความทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันเฉพาะในข้อหาทางแพ่ง แต่ไม่ปรากฎว่าโจทก์ยอมเลิกคดีอาญากับจำเลยด้วยนั้น คดีอาญาย่อมไม่ระงับไป ส่วนการที่จำเลยประนีประนอมยอมรับผิดทางแพ่งนั้นก็มีผลเพียงไม่ต้องดำเนินคดีในทางแพ่งต่อไปเท่านั้นเอง.