พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,377 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 830/2512 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การได้กรรมสิทธิ์โดยครอบครองปรปักษ์ และผลของการจดทะเบียนสิทธิภายหลัง
ในคำแถลงการณ์เป็นหนังสือของโจทก์ในชั้นฎีกา โจทก์ได้ยกข้อต่อสู้เป็นข้อกฎหมายขึ้นใหม่ ซึ่งโจทก์ไม่ได้ยกขึ้นกล่าวไว้ในฎีกา ทั้งมิใช่ข้อที่ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ศาลฎีกาไม่รับฟัง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 830/2512 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การได้กรรมสิทธิ์โดยครอบครองปรปักษ์: การยกที่ดินให้แล้วจดทะเบียนภายหลังไม่กระทบสิทธิครอบครองเดิม
ในคำแถลงการณ์เป็นหนังสือของโจทก์ในชั้นฎีกา โจทก์ได้ยกข้อต่อสู้เป็นข้อกฎหมายขึ้นใหม่ซึ่งโจทก์ไม่ได้ยกขึ้นกล่าวไว้ในฎีกาทั้งมิใช่ข้อที่ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ศาลฎีกาไม่รับฟัง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 546/2512 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจำนองโมฆะ หากมิได้จดทะเบียนตามกฎหมาย การรับสภาพหนี้ไม่ก่อให้เกิดสิทธิฟ้องร้องใหม่
จำเลยที่ 2 ยอมผูกพันตนเองเพื่อประกันการชำระหนี้ซึ่งจำเลยที่ 1 เป็นลูกหนี้โจทก์ โดยมอบโฉนดที่ดินและใบมอบฉันทะซึ่งลงชื่อแล้วให้โจทก์ไว้เพื่อจดทะเบียนจำนองเมื่อมิได้มีการจดทะเบียนจำนองให้ถูกต้องตามกฎหมาย สัญญาจำนองย่อมตกเป็นโมฆะ
การรับสภาพหนี้นั้น มีผลเพียงทำให้อายุความสะดุดหยุดลง หาเป็นการก่อตั้งสิทธิฟ้องร้องขึ้นใหม่แต่อย่างใดไม่ หากหนี้ซึ่งจะต้องรับผิดมิได้เกิดมีขึ้นอยู่แต่เดิม
เมื่อโจทก์อุทธรณ์ฎีกาเฉพาะในประเด็นที่ว่า หนังสือซึ่งจำเลยที่ 2 มีถึงโจทก์เป็นหนังสือรับสภาพหนี้ โดยมิได้กล่าวอ้างเลยว่าหนังสือนั้นอาจถือเป็นหลักฐานแห่งการค้ำประกันได้ ย่อมไม่มีประเด็นที่ศาลฎีกาจะหยิบยกปัญหาข้อนี้ขึ้นวินิจฉัย
การรับสภาพหนี้นั้น มีผลเพียงทำให้อายุความสะดุดหยุดลง หาเป็นการก่อตั้งสิทธิฟ้องร้องขึ้นใหม่แต่อย่างใดไม่ หากหนี้ซึ่งจะต้องรับผิดมิได้เกิดมีขึ้นอยู่แต่เดิม
เมื่อโจทก์อุทธรณ์ฎีกาเฉพาะในประเด็นที่ว่า หนังสือซึ่งจำเลยที่ 2 มีถึงโจทก์เป็นหนังสือรับสภาพหนี้ โดยมิได้กล่าวอ้างเลยว่าหนังสือนั้นอาจถือเป็นหลักฐานแห่งการค้ำประกันได้ ย่อมไม่มีประเด็นที่ศาลฎีกาจะหยิบยกปัญหาข้อนี้ขึ้นวินิจฉัย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 546/2512 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจำนองโมฆะหากมิได้จดทะเบียน & การรับสภาพหนี้ไม่ก่อตั้งสิทธิฟ้องร้องใหม่
จำเลยที่ 2 ยอมผูกพันตนเองเพื่อประกันการชำระหนี้ซึ่งจำเลยที่ 1 เป็นลูกหนี้โจทก์โดยมอบโฉนดที่ดินและใบมอบฉันทะซึ่งลงชื่อแล้วให้โจทก์ไว้เพื่อจดทะเบียนจำนอง เมื่อมิได้มีการจดทะเบียนจำนองให้ถูกต้องตามกฎหมายสัญญาจำนองย่อมตกเป็นโมฆะ
การรับสภาพหนี้นั้น มีผลเพียงทำให้อายุความสะดุดหยุดลงหาเป็นการก่อตั้งสิทธิฟ้องร้องขึ้นใหม่แต่อย่างใดไม่ หากหนี้ซึ่งจะต้องรับผิดมิได้เกิดมีขึ้นอยู่แต่เดิม
เมื่อโจทก์อุทธรณ์ฎีกาเฉพาะในประเด็นที่ว่า หนังสือซึ่งจำเลยที่ 2 มีถึงโจทก์เป็นหนังสือรับสภาพหนี้ โดยมิได้กล่าวอ้างเลยว่าหนังสือนั้นอาจถือเป็นหลักฐานแห่งการค้ำประกันได้ ย่อมไม่มีประเด็นที่ศาลฎีกาจะหยิบยกปัญหาข้อนี้ขึ้นวินิจฉัย
การรับสภาพหนี้นั้น มีผลเพียงทำให้อายุความสะดุดหยุดลงหาเป็นการก่อตั้งสิทธิฟ้องร้องขึ้นใหม่แต่อย่างใดไม่ หากหนี้ซึ่งจะต้องรับผิดมิได้เกิดมีขึ้นอยู่แต่เดิม
เมื่อโจทก์อุทธรณ์ฎีกาเฉพาะในประเด็นที่ว่า หนังสือซึ่งจำเลยที่ 2 มีถึงโจทก์เป็นหนังสือรับสภาพหนี้ โดยมิได้กล่าวอ้างเลยว่าหนังสือนั้นอาจถือเป็นหลักฐานแห่งการค้ำประกันได้ ย่อมไม่มีประเด็นที่ศาลฎีกาจะหยิบยกปัญหาข้อนี้ขึ้นวินิจฉัย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 546/2512
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจำนองโมฆะเมื่อมิได้จดทะเบียน และการรับสภาพหนี้ไม่ก่อตั้งสิทธิฟ้องร้องใหม่
จำเลยที่ 2 ยอมผูกพันตนเองเพื่อประกันการชำระหนี้ซึ่งจำเลยที่ 1 เป็นลูกหนี้โจทก์. โดยมอบโฉนดที่ดินและใบมอบฉันทะซึ่งลงชื่อแล้ว.ให้โจทก์ไว้เพื่อจดทะเบียนจำนอง. เมื่อมิได้มีการจดทะเบียนจำนองให้ถูกต้องตามกฎหมาย.สัญญาจำนองย่อมตกเป็นโมฆะ.
การรับสภาพหนี้นั้น มีผลเพียงทำให้อายุความสะดุดหยุดลง.หาเป็นการก่อตั้งสิทธิฟ้องร้องขึ้นใหม่แต่อย่างใดไม่. หากหนี้ซึ่งจะต้องรับผิดมิได้เกิดมีขึ้นอยู่แต่เดิม.
เมื่อโจทก์อุทธรณ์ฎีกาเฉพาะในประเด็นที่ว่า หนังสือซึ่งจำเลยที่ 2 มีถึงโจทก์เป็นหนังสือรับสภาพหนี้. โดยมิได้กล่าวอ้างเลยว่าหนังสือนั้นอาจถือเป็นหลักฐานแห่งการค้ำประกันได้. ย่อมไม่มีประเด็นที่ศาลฎีกาจะหยิบยกปัญหาข้อนี้ขึ้นวินิจฉัย.
การรับสภาพหนี้นั้น มีผลเพียงทำให้อายุความสะดุดหยุดลง.หาเป็นการก่อตั้งสิทธิฟ้องร้องขึ้นใหม่แต่อย่างใดไม่. หากหนี้ซึ่งจะต้องรับผิดมิได้เกิดมีขึ้นอยู่แต่เดิม.
เมื่อโจทก์อุทธรณ์ฎีกาเฉพาะในประเด็นที่ว่า หนังสือซึ่งจำเลยที่ 2 มีถึงโจทก์เป็นหนังสือรับสภาพหนี้. โดยมิได้กล่าวอ้างเลยว่าหนังสือนั้นอาจถือเป็นหลักฐานแห่งการค้ำประกันได้. ย่อมไม่มีประเด็นที่ศาลฎีกาจะหยิบยกปัญหาข้อนี้ขึ้นวินิจฉัย.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1890/2512
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิการยึดที่ดินของเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาในที่ดินที่มีผู้ซื้อรายอื่นยังไม่ได้จดทะเบียน
คำสั่งของศาลที่ได้สืบตัวจำเลยในฐานะเป็นพยานของโจทก์และจำเลยพร้อมกัน หลังจากที่โจทก์นำสืบพยานโจทก์คนอื่น ๆ หมดแล้วนั้น หาใช่คำสั่งที่ไม่ให้โจทก์อ้างจำเลยเป็นพยานไม่ แต่เป็นคำสั่งใช้ดุลพินิจสั่งตามหน้าที่ที่เป็นผู้ควบคุมการพิจารณาคดีให้รวดเร็วและเที่ยงธรรม เป็นคำสั่งที่ชอบแล้ว
การอุทธรณ์คำสั่งระหว่างพิจารณาซึ่งทำพร้อมกับการอุทธรณ์คำพิพากษา ชอบที่จะทำรวมกันมาในคำฟ้องอุทธรณ์หรือในคำแก้อุทธรณ์ฉบับเดียวกันแล้วแต่กรณี ศาลอุทธรณ์ชอบที่จะวินิจฉัยปัญหาทั้งหมดนั้นรวมในคำพิพากษาฉบับเดียวกันได้ ไม่ขัดประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 234 เพราะมาตรานี้ใช้สำหรับกรณีที่อุทธรณ์คำสั่ง โดยที่ศาลชั้นต้นได้ชี้ขาดตัดสินคดีแล้ว เท่านั้น
การที่คู่ความไม่เห็นด้วยกับคำสั่งของศาลในเรื่องลำดับของการนำพยานเข้าสืบ จึงแถลงว่าไม่สืบพยานเช่นนี้ ไม่ใช่กรณีที่ศาลปฏิเสธไม่สืบพยานตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 243(2)
การอุทธรณ์คำสั่งระหว่างพิจารณาซึ่งทำพร้อมกับการอุทธรณ์คำพิพากษา ชอบที่จะทำรวมกันมาในคำฟ้องอุทธรณ์หรือในคำแก้อุทธรณ์ฉบับเดียวกันแล้วแต่กรณี ศาลอุทธรณ์ชอบที่จะวินิจฉัยปัญหาทั้งหมดนั้นรวมในคำพิพากษาฉบับเดียวกันได้ ไม่ขัดประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 234 เพราะมาตรานี้ใช้สำหรับกรณีที่อุทธรณ์คำสั่ง โดยที่ศาลชั้นต้นได้ชี้ขาดตัดสินคดีแล้ว เท่านั้น
การที่คู่ความไม่เห็นด้วยกับคำสั่งของศาลในเรื่องลำดับของการนำพยานเข้าสืบ จึงแถลงว่าไม่สืบพยานเช่นนี้ ไม่ใช่กรณีที่ศาลปฏิเสธไม่สืบพยานตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 243(2)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1887/2512 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายที่ดินยังไม่สมบูรณ์จนกว่าจะจดทะเบียน การยึดที่ดินของผู้ขายย่อมชอบด้วยกฎหมาย
การซื้อขายที่ดินมีโฉนด แม้ผู้ซื้อจะชำระราคาเรียบร้อยและเข้าครอบครองที่ดินแล้วก็ตาม ถ้ายังไม่ได้จดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ การซื้อขายย่อมยังไม่สมบูรณ์ตามกฎหมาย ฉะนั้น ผู้ซื้อที่ดินโฉนดพิพาทส่วนหนึ่งตามกรณีข้างต้นนี้ย่อมไม่มีสิทธิร้องขอให้ปล่อยที่ดินส่วนของผู้ซื้อซึ่งถูกโจทก์เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาของผู้ขายนำยึดบังคับชำระหนี้ เพราะแม้แต่การยึดที่ดินที่ลูกหนี้ตามคำพิพากษากับผู้อื่นมีกรรมสิทธิ์รวมโดยยังไม่ได้แบ่งกันเป็นส่วนสัดนั้น เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาถึงยังมีสิทธิยึดได้ทั้งแปลง แต่คดีนี้ผู้ร้องยังไม่มีกรรมสิทธิ์รวมในที่ดินที่โจทก์นำยึด จึงไม่มีสิทธิ์ร้องขัดทรัพย์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1887/2512 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายที่ดินยังไม่สมบูรณ์หากยังมิได้จดทะเบียน แม้ชำระราคาและครอบครองแล้ว เจ้าหนี้มีสิทธิยึดได้
การซื้อขายที่ดินมีโฉนด แม้ผู้ซื้อจะชำระราคาเรียบร้อยและเข้าครอบครองที่ดินแล้วก็ตาม ถ้ายังไม่ได้จดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ การซื้อขายย่อมยังไม่สมบูรณ์ตามกฎหมาย ฉะนั้น ผู้ซื้อที่ดินโฉนดพิพาทส่วนหนึ่งตามกรณีข้างต้นนี้ย่อมไม่มีสิทธิร้องขอให้ปล่อยที่ดินส่วนของผู้ซื้อซึ่งถูกโจทก์เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาของผู้ขายนำยึดบังคับชำระหนี้ เพราะแม้แต่การยึดที่ดินที่ลูกหนี้ตามคำพิพากษากับผู้อื่นมีกรรมสิทธิ์รวมโดยยังมิได้แบ่งกันเป็นส่วนสัดนั้น เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาก็ยังมีสิทธิยึดได้ทั้งแปลงแต่คดีนี้ผู้ร้องยังไม่มีกรรมสิทธิ์รวมในที่ดินที่โจทก์นำยึด จึงไม่มีสิทธิร้องขัดทรัพย์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1887/2512
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายที่ดินยังไม่สมบูรณ์หากยังมิได้จดทะเบียน การยึดที่ดินทำได้แม้มีเจ้าของร่วม
การซื้อขายที่ดินมีโฉนด แม้ผู้ซื้อจะชำระราคาเรียบร้อยและเข้าครอบครองที่ดินแล้วก็ตาม. ถ้ายังไม่ได้จดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์. การซื้อขายย่อมยังไม่สมบูรณ์ตามกฎหมาย. ฉะนั้น ผู้ซื้อที่ดินโฉนดพิพาทส่วนหนึ่งตามกรณีข้างต้นนี้ย่อมไม่มีสิทธิร้องขอให้ปล่อยที่ดินส่วนของผู้ซื้อซึ่งถูกโจทก์เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาของผู้ขายนำยึดบังคับชำระหนี้. เพราะแม้แต่การยึดที่ดินที่ลูกหนี้ตามคำพิพากษากับผู้อื่นมีกรรมสิทธิ์รวมโดยยังมิได้แบ่งกันเป็นส่วนสัดนั้น. เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาก็ยังมีสิทธิยึดได้ทั้งแปลง.แต่คดีนี้ผู้ร้องยังไม่มีกรรมสิทธิ์รวมในที่ดินที่โจทก์นำยึด จึงไม่มีสิทธิร้องขัดทรัพย์.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 181/2512 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิผู้ซื้อที่ดินก่อนเจ้าหนี้ผู้ขาย: แม้ยังมิได้จดทะเบียน ผู้ซื้อมีสิทธิเหนือเจ้าหนี้
ผู้ซื้อได้ชำระราคาที่ดินที่ซื้อขายให้แก่ผู้ขายเรียบร้อยแล้ว และได้ฟ้องผู้ขายจนศาลพิพากษาให้ผู้ขายโอนที่ดินให้แก่ผู้ซื้อ คดีถึงที่สุดไปแล้ว ผู้ซื้อย่อมอยู่ในฐานะที่จะจดทะเบียนสิทธิของตนได้ก่อน แม้จะยังมิได้จดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาของผู้ขายซึ่งฟ้องคดีภายหลัง หามีสิทธิบังคับคดีเกี่ยวกับที่ดินดังกล่าวให้เป็นการกระทบกระทั่งถึงสิทธิของผู้ซื้อไม่
(อ้างฎีกาที่ 737/2511)
การที่เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาของผู้ขายนำยึดที่ดินที่ผู้ขายจะต้องโอนให้แก่ผู้ซื้อตามคำพิพากษาไว้เพื่อบังคับคดีนั้นไม่เป็นเหตุขัดข้องที่จะโอนที่ดินนั้นแก่ผู้ซื้อ
(อ้างฎีกาที่ 737/2511)
การที่เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาของผู้ขายนำยึดที่ดินที่ผู้ขายจะต้องโอนให้แก่ผู้ซื้อตามคำพิพากษาไว้เพื่อบังคับคดีนั้นไม่เป็นเหตุขัดข้องที่จะโอนที่ดินนั้นแก่ผู้ซื้อ