พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,021 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1460/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าที่ดิน+สิ่งปลูกสร้าง: สัญญาต่างตอบแทนพิเศษ ผู้ให้เช่าบอกเลิกสัญญาก่อนกำหนดไม่ได้
เช่าที่ดินเพื่อปลูกสร้างตึกมีกำหนดถึง 10 ปี แล้วผู้เช่าจะยกตึกที่ปลูกสร้างทดแทนให้เจ้าของที่ดินอีกโสดหนึ่งต่างหากจากค่าเช่า ดังนี้ เป็นสัญญาต่างตอบแทนกันยิ่งกว่าสัญญาเช่าธรรมดา ผู้ให้เช่าจะบอกเลิกสัญญาก่อนครบกำหนด 10 ปีไม่ได้
ผู้ให้เช่าฟ้องขอให้เลิกสัญญาเช่า และขอให้ผู้เช่าส่งมอบที่ดินที่เช่ากับสิ่งปลูกสร้างที่ผู้เช่าปลูกสร้างลงไว้บนที่ดินที่เช่าให้แก่ผู้ให้เช่านั้น ต้องตีราคาสิ่งปลูกสร้างเป็นทุนทรัพย์แห่งคดี และต้องเสียค่าฤชาธรรมเนียมตามระเบียบ เพราะเป็นทรัพย์ที่โจทก์เรียกร้อง ไม่จำเป็นจะต้องฟังคำให้การของจำเลยก่อน
ผู้ให้เช่าฟ้องขอให้เลิกสัญญาเช่า และขอให้ผู้เช่าส่งมอบที่ดินที่เช่ากับสิ่งปลูกสร้างที่ผู้เช่าปลูกสร้างลงไว้บนที่ดินที่เช่าให้แก่ผู้ให้เช่านั้น ต้องตีราคาสิ่งปลูกสร้างเป็นทุนทรัพย์แห่งคดี และต้องเสียค่าฤชาธรรมเนียมตามระเบียบ เพราะเป็นทรัพย์ที่โจทก์เรียกร้อง ไม่จำเป็นจะต้องฟังคำให้การของจำเลยก่อน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 146/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าต่ออายุและการบอกเลิกสัญญาเช่าเมื่อผู้เช่ายังคงครอบครองทรัพย์สิน
ทำหนังสือสัญญาเช่าตึกกำหนดเวลาเช่ากันไว้ 3 ปี แล้วมีข้อตกลงกันในข้อหนึ่งว่า "เมื่อสัญญาฉะบับนี้ ได้ครบ 3ปีแล้ว ผู้ให้เช่าและผู้เช่าจะทำสัญญาเช่าฉะบับใหม่ต่อไปอีกเป็นเวลากำหนด 3 ปี" ดังนี้ ข้อตกลงดังกล่าวมิใช่คำมั่นของผู้ให้เช่าฝ่ายเดียว แต่ผู้เช่าเองก็ยอมตกลงจะทำสัญญาเช่าตามกำหนดนั้นเหมือนกัน จึงเป็นข้อตกลงผูกพันกันทั้งสองฝ่ายว่า จะต้องทำสัญญาเช่ากันต่อไปอีก 3 ปี แต่เมื่อครบ 3 ปีแล้ว ผู้เช่ายังคงครอบครองทรัพย์สินที่เช่าต่อไปอีก ก็ต้องถือว่าผู้เช่าและผู้ให้เช่าได้ทำสัญญาต่อไปอีกไม่มีกำหนดเวลาตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา 570 เมื่อเป็นเช่นนี้ให้เช่าย่อมบอกเลิกการเช่าได้ตามมาตรา 566 ผู้เช่าจะอ้างข้อตกลงในสัญญาดังกล่าวแล้วว่าสัญญาเช่าต่อมีกำหนด 3 ปี หาได้ไม่ เพราะสัญญาเช่าต่อที่มีกำหนด 3 ปี นั้น ยังมิได้เกิดมีขึ้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1006/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบอกเลิกสัญญาเช่าไม่จำเป็นต้องทำเป็นหนังสือ ทนายความทำแทนผู้ให้เช่าได้
การบอกเลิกการเข่าตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา 566 นั้น กฎหมายมิได้บังคับให้ต้องทำเป็นหนังสือ ฉะนั้นทนายความมีหนังสือบอกเลิกการเช่าแทนผู้ให้เช่า จึงเป็นการสมบูรณ์ให้บังคับได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 771/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การตีความสัญญาจะซื้อขายและสัญญาซื้อขายเด็ดขาด การบอกเลิกสัญญาเมื่อไม่ชำระหนี้
หลักการแปลสัญญานั้นควรแปลความให้มีผลบังคับดีกว่าจะแปลให้ไร้ผล
หนังสือสัญญาซื้อขายเรือนใช้คำว่า สัญญาซื้อขายแต่ปรากฏตามข้อสัญญาว่ายังไม่ได้ชำระราคากัน แสดงอยู่ว่า สัญญารายนี้ยังไม่เด็ดขาดมีการที่จะต้องปฏิบัติตามสัญญาต่อไปอีกและเมื่อยังไม่ชำระราคากัน ก็จะเรียกร้องให้โอนเรือนกันก็ยังไม่ได้ คู่กรณีก็มีเจตนาจะให้มีการผูกพันต่อกันตามสัญญา ดังนี้ ควรฟังว่า สัญญาเช่นนี้เป็นสัญญาจะซื้อขายไม่ใช่สัญญาซื้อขายเด็ดขาด
ทำสัญญาขายเรือนกันฝ่ายผู้ซื้อขอผัดชำระเงินภายใน 2 เดือน ครั้นครบกำหนดแล้วผู้ซื้อก็ยังมิได้ชำระเงินดังนี้ ผู้ขายจะบอกเลิกสัญญานั้นเสียทีเดียวยังไม่ได้จะต้องบอกกล่าวให้ชำระหนี้ภายในระยะเวลาอันสมควรตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 387 เสียก่อนเว้นแต่จะปรากฏว่าคู่สัญญาถือกำหนดเวลาดังกล่าวเป็นสาระสำคัญเพื่อความสำเร็จของวัตถุประสงค์ในการทำสัญญาตามมาตรา 388
หนังสือสัญญาซื้อขายเรือนใช้คำว่า สัญญาซื้อขายแต่ปรากฏตามข้อสัญญาว่ายังไม่ได้ชำระราคากัน แสดงอยู่ว่า สัญญารายนี้ยังไม่เด็ดขาดมีการที่จะต้องปฏิบัติตามสัญญาต่อไปอีกและเมื่อยังไม่ชำระราคากัน ก็จะเรียกร้องให้โอนเรือนกันก็ยังไม่ได้ คู่กรณีก็มีเจตนาจะให้มีการผูกพันต่อกันตามสัญญา ดังนี้ ควรฟังว่า สัญญาเช่นนี้เป็นสัญญาจะซื้อขายไม่ใช่สัญญาซื้อขายเด็ดขาด
ทำสัญญาขายเรือนกันฝ่ายผู้ซื้อขอผัดชำระเงินภายใน 2 เดือน ครั้นครบกำหนดแล้วผู้ซื้อก็ยังมิได้ชำระเงินดังนี้ ผู้ขายจะบอกเลิกสัญญานั้นเสียทีเดียวยังไม่ได้จะต้องบอกกล่าวให้ชำระหนี้ภายในระยะเวลาอันสมควรตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 387 เสียก่อนเว้นแต่จะปรากฏว่าคู่สัญญาถือกำหนดเวลาดังกล่าวเป็นสาระสำคัญเพื่อความสำเร็จของวัตถุประสงค์ในการทำสัญญาตามมาตรา 388
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 662/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบอกเลิกสัญญาเช่าโดยไม่ชอบ และการรบกวนสิทธิของผู้เช่าเดิม
จำเลยอยู่ในห้องเช่าโดยอาศัยอำนาจของโจทก์ซึ่งเป็นผู้เช่าห้องนั้นไว้ ภายหลังจำเลยไปบอกเจ้าของห้องเช่าว่า โจทก์โอนการเช่าห้องรายนี้ให้จำเลยแล้ว ซึ่งไม่ใช่ความจริง เจ้าของห้องจึงบอกเลิกการเช่ากับโจทก์ แล้วทำสัญญาให้จำเลยเช่าห้องนั้นต่อไป ดังนี้ ถือว่าเจ้าของห้องเช่าปฏิบัติผิดสัญญาเช่าที่ทำไว้กับโจทก์และการกระทำของจำเลยเป็นการรบกวนรอนสิทธิของโจทก์ ๆจึงมีสิทธิที่จะฟ้องร้องบังคับให้เจ้าของห้องปฏิบัติตามสัญญาต่อไปเสมือนว่าเจ้าของห้องไม่ได้บอกเลิกสัญญา และฟ้องจำเลยห้ามมิให้เข้ามาเกี่ยวข้องกับห้องพิพาท ส่วนสัญญาเช่าห้องระหว่างจำเลยกับเจ้าของห้องนั้น ไม่มีผลกระทบกระเทือนสัญญเช่าของโจทก์กับเจ้าของห้อง จึงไม่มีความจำเป็นจะต้องให้เพิกถอน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 539/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเปลี่ยนแปลงเคหะที่เช่า (ย้ายบันได) ไม่เป็นเหตุบอกเลิกสัญญาเช่าตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า
การเปลี่ยนแปลงเคหะที่เช่า (ย้ายบรรได) จะโดยรับอนุญาตหรือไม่รับอนุญาตจากผู้ให้เช่าก็ดี หาใช่เป็นมูลเหตุที่จะยกขึ้นพิจารณาและบังคับตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯ ไม่ เพราะ พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯ ไม่มีบทกล่าวไว้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 490/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบอกเลิกสัญญาเช่าที่ดินส่งผลถึงสัญญาเช่าห้องแถว ผู้เช่ามิอาจอ้าง พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าได้หากยอมรับการบอกเลิก
เช่าที่ดินเขามาแล้วปลูกห้องแถวให้คนเช่าอยู่อาศัยเมื่อเจ้าของที่ดินบอกเลิกการเช่าที่ดินและให้รื้อห้องแถวไป ดังนี้ เจ้าของห้องแถวจึงฟ้องขับไล่ผู้เช่าห้องแถว เนื่องจากบอกเลิกสัญญาเช่าแล้ว ผู้เช่าไม่ยอมออกไปถ้าผู้เช่ามิได้ให้การโต้แย้งการบอกเลิกสัญญาเช่าที่ดินของเจ้าของที่ดินที่บอกเลิกกับเจ้าของห้องแถวไว้แล้ว แต่กลับแถลงรับว่าเป็นความจริงผู้เช่าย่อมไม่มีสิทธิที่จะยก พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่า ฯลฯ มาใช้บังคับแก่เจ้าของห้องแถวได้
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 14/2494)
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 14/2494)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1150/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ตัวการตัวแทน สิทธิของเจ้าหนี้ต่อตัวแทนเมื่อบอกเลิกสัญญาเช่าแล้ว
โจทย์ฟ้องขับไล่จำเลยทั้งสองออกจากห้องเช่าของโจทก์จำเลยที่ 2 ต่อสู้ว่า จำเลยที่ 1 ไม่ใช่ผู้เช่าตามหนังสือสัญญาเช่าความจริง จำเลยที่ 1 เป็นตัวแทนของจำเลยที่ 2 ในการเช่าห้องรายนี้ แต่มิได้กล่าวอ้างว่าโจทก์ได้รู้ถึงการที่จำเลยที่ 1 เป็นเพียงตัวแทนของจำเลยที่ 2 มาก่อน กรณีจึงเข้าลักษณะตัวการตัวแทนตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา 806 ฉะนั้นเมื่อโจทก์ได้บอกเลิกสัญญาเช่ากับจำเลยที่ 1 เสร็จไปแล้ว จำเลยที่ 2 จะมาอ้างเพื่อให้เสื่อมเสียสิทธิของโจทก์อันเขามีแก่จำเลยที่ 1หาได้ไม่ จึงไม่จำต้องสืบพยานตามข้ออ้างของจำเลยที่ 2 ศาลพิพากษาขับไล่จำเลยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1150/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ตัวการตัวแทนในสัญญาเช่า: การบอกเลิกสัญญาที่มีผลต่อทั้งตัวการและตัวแทน
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยทั้งสองออกจากห้องเช่าของโจทก์จำเลยที่ 2 ต่อสู้ว่า จำเลยที่ 1 ไม่ใช่ผู้เช่าตามหนังสือสัญญาเช่าความจริงจำเลยที่ 1 เป็นตัวแทนของจำเลยที่2 ในการเช่าห้องรายนี้ แต่มิได้กล่าวอ้างว่าโจทก์ได้รู้ถึงการที่จำเลยที่ 1 เป็นเพียงตัวแทนของจำเลยที่ 2 มาก่อน กรณีจึงเข้าลักษณะตัวการตัวแทนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 806 ฉะนั้นเมื่อโจทก์ได้บอกเลิกสัญญาเช่ากับจำเลยที่ 1 เสร็จไปแล้ว จำเลยที่ 2 จะมาอ้างเพื่อให้เสื่อมเสียสิทธิของโจทก์อันเขามีแก่จำเลยที่ 1 หาได้ไม่ จึงไม่จำต้องสืบพยานตามข้ออ้างของจำเลยที่ 2 ศาลพิพากษาขับไล่จำเลยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 867/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่า การชำระเงินกินเปล่าตามสัญญา และผลของการบอกเลิกสัญญา
ข้อความในสัญญาจะเช่ามีว่าถ้าผู้ให้เช่าส่งมอบห้องเช่าให้ผู้เช่าได้ก่อน กำหนดบ้างแล้วผู้เช่าจะชำระเงินกินเปล่าที่ค้างอีกครึ่งหนึ่งให้ ดังนี้ เมื่อผู้ให้เช่าได้จัดการส่งมอบห้องเช่าบางห้องให้ผู้เช่าอยู่ได้ก่อนกำหนดแล้ว ผู้เช่าก็ต้องชำระเงินกินเปล่าอีกครึ่งหนึ่งแก่ผู้ให้เช่าตามที่สัญญาไว้
ทำสัญญาให้เช่าเคหะโดยเรียกกินเปล่าโดยตอนเริ่มแรกเช่านั้น ไม่ใช่เป็นการเรียกเงินค่ากินเปล่าอันเป็นการพิ่มค่าเช่า จึงไม่ขัดกับ พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า 2488 มาตรา 10,11
ศาลชั้นต้นกะประเด็นให้สืบพยานเฉพาะประเด็นข้อเดียวจำเลยประสงค์จะสืบพยานในประเด็นข้ออื่น แต่ก็หาได้โต้แย้งคำสั่งศาลชั้นต้นไว้ตาม ป.วิ.แพ่งม.226 จำเลยจะมาโต้แย้งในชั้นอุทธรณ์หรือฎีกาไม่ได้ จะขอสืบพยานในข้อนี้ก็ไม่ได้
ทำสัญญาให้เช่าเคหะโดยเรียกกินเปล่าโดยตอนเริ่มแรกเช่านั้น ไม่ใช่เป็นการเรียกเงินค่ากินเปล่าอันเป็นการพิ่มค่าเช่า จึงไม่ขัดกับ พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า 2488 มาตรา 10,11
ศาลชั้นต้นกะประเด็นให้สืบพยานเฉพาะประเด็นข้อเดียวจำเลยประสงค์จะสืบพยานในประเด็นข้ออื่น แต่ก็หาได้โต้แย้งคำสั่งศาลชั้นต้นไว้ตาม ป.วิ.แพ่งม.226 จำเลยจะมาโต้แย้งในชั้นอุทธรณ์หรือฎีกาไม่ได้ จะขอสืบพยานในข้อนี้ก็ไม่ได้