พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,273 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 432/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความเสียหายต่อทางราชการต้องพิสูจน์ได้ การกระทำที่ไม่มีความเสียหายหรือความเสียหายไม่ชัดเจน ศาลยกฟ้อง
คดีที่โจทก์หาว่า จำเลยปลอมหนังสือสำคัญในราชการนั้น เมือข้อเท็จจริงได้ความว่า ทางราชการไม่เสียหายแล้ว ส่วนข้อที่ว่าอาจจะเกิดการเสียหายหรือไม่นั้น หากกรณีเป็นที่สงสัย โจทก์6้องนำสืบให้ได้ความชัด มิฉะนั้น ไม่ถือว่าอาจจะเกิดการเสียหายและศาลพิพากษายกฟ้อง (อ้างฎีกาที่ 866-870/2484)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 432/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความเสียหายทางราชการต้องพิสูจน์ได้ชัดเจน การกระทำที่ยังไม่ชัดเจนถึงความเสียหาย ศาลยกฟ้อง
คดีที่โจทก์หาว่า จำเลยปลอมหนังสือสำคัญในราชการนั้นเมื่อข้อเท็จจริงได้ความว่าทางราชการไม่เสียหายแล้ว ส่วนข้อที่ว่าอาจจะเกิดการเสียหายหรือไม่นั้น หากกรณีเป็นที่สงสัย โจทก์ต้องนำสืบให้ได้ความชัด มิฉะนั้นไม่ถือว่าอาจจะเกิดการเสียหายและศาลพิพากษายกฟ้อง(อ้างฎีกา866-870/2484)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 410/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในที่ดิน: โจทก์มีสิทธิพิสูจน์ส่วนได้ส่วนเสียที่มากกว่าจำเลย แม้ชื่อในโฉนดจะเท่ากัน ศาลต้องรับฟังพยานหลักฐานก่อน
เมื่อโจทก์อ้างว่า ตนมีส่วนในที่ดินมากกว่าจำเลยซึ่งมีชื่อในโฉนดด้วยกันนั้น โจทก์ย่อมมีสิทธินำสืบ หักล้างข้อสันนิษฐานส่วนเท่ากัน ในความเป็นเจ้าของได้
หากหลักฐานในสำนวนยังไม่พอฟังดังข้ออ้างของโจทก์ ศาลไม่ควรสั่งงดสืบพยานเสียทั้งๆ ที่โจทก์กำลังทำการ สืบอยู่ มิฉะนั้นศาลฎีกาให้ศาลชั้นต้นพิจารณาต่อไปและ พิพากษาใหม่
หากหลักฐานในสำนวนยังไม่พอฟังดังข้ออ้างของโจทก์ ศาลไม่ควรสั่งงดสืบพยานเสียทั้งๆ ที่โจทก์กำลังทำการ สืบอยู่ มิฉะนั้นศาลฎีกาให้ศาลชั้นต้นพิจารณาต่อไปและ พิพากษาใหม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 397/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิสูจน์ความเป็นเจ้าของที่ดินก่อนพิจารณาความผิดฐานลักตัดไม้ ศาลต้องเปิดโอกาสสืบพยาน
คดีอาญาที่โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยสมคบกันลักตัดฟันต้นไม้ในที่ดินของโจทก์ เมื่อได้ความเพียงว่า ที่ดินนั้นโจทก์จำเลยได้เคยนำเจ้าพนักงานรังวัดเถียงสิทธิครอบครองกันอยู่ดังนี้ ศาลไม่ควรงดสืบพยานโจทก์ โดยเห็นไปว่าเป็นคดีแพ่ง ควรให้โอกาสโจทก์สืบให้สมฟ้องเพราะอาจเป็นความผิดทางอาญาได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 366/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจำหน่ายยาสูบเกินราคาควบคุม การพิสูจน์ความเป็นผู้จำหน่ายยาสูบรายค้า
ห้องคดีอาญาที่หาว่าจำเลยจำหน่ายยาสูบเกินราคาควบคุมนั้น
หากในฟ้องไม่กล่าวให้ชัดแจ้งว่าจำเลยเป็นผู้ทำกิจการจำหน่ายยาสูบให้แก่ผู้บริโภคทั่วๆ ไปแล้ว ศาลพิพากษายกฟ้องเพราะอาจเป็นการขายแต่ครั้งคราวเดียวซึ่งยังไม่ถือว่าเป็นผู้ทำการจำหน่ายยาสูบตามพระราชบัญญัติยาสูบ
หากในฟ้องไม่กล่าวให้ชัดแจ้งว่าจำเลยเป็นผู้ทำกิจการจำหน่ายยาสูบให้แก่ผู้บริโภคทั่วๆ ไปแล้ว ศาลพิพากษายกฟ้องเพราะอาจเป็นการขายแต่ครั้งคราวเดียวซึ่งยังไม่ถือว่าเป็นผู้ทำการจำหน่ายยาสูบตามพระราชบัญญัติยาสูบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 30/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิสูจน์สถานะที่ดิน (ป่าหรือไม่) มีผลต่อความผิดฐานตัดไม้หวงห้าม จำเลยมีสิทธิสืบพยานเพื่อพิสูจน์
คดีที่หาว่า จำเลยตัดฟันและชักลากไม้หวงห้ามจากที่ป่าหากข้อเท็จจริงพอสันนิษฐานได้ในเบื้องต้นว่าที่รายพิพาทเป็นที่ป่า แต่จำเลยจะขอนำสืบพยานต่อไปว่าไม่ใช่ที่ป่า จึงจะพ้นผิด ดังนี้ ศาลต้องดำเนินการสืบพยานจำเลยต่อไป จะสั่งงดเสียมิได้ (ประชุมใหญ่ครั้งที่28/2492)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1775/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความมรดก: การฟ้องคดีเกิน 1 ปี จำเป็นต้องพิสูจน์เหตุยกเว้น
โจทก์ฟ้องขอแบ่งมรดกจากจำเลยผู้เป็นทายาทชั้นเดียวกัน โดยกล่าวในฟ้องว่า ได้ปกครองทรัพย์นั้นร่วมกับจำเลย ฝ่ายจำเลยต่อสู้ว่า ผู้ตายได้ทำพินัยกรรมยกทรัพย์ให้จำเลยและต่อสู้ว่าโจทก์ไม่ได้ครอบครอง โจทก์ฟ้องคดีนี้เกิน 1 ปีแล้ว เมื่อปรากฏว่า โจทก์ฟ้องคดีเกิน 1 ปีแล้วเช่นนี้ โจทก์ย่อมมีหน้าที่นำสืบก่อนว่าเหตุใดตนจึงชอบที่จะฟ้องคดีเกิน 1 ปีได้ ถ้าโจทก์จำเลยต่างไม่สืบพยาน จำเลยก็ย่อมชนะคดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1680/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานมีสุราเถื่อนกับการกินสุราเถื่อนเป็นคนละฐานกัน แม้รับสารภาพการกินสุรา แต่หากไม่ได้มีไว้ในครอบครอง โจทก์ไม่สามารถพิสูจน์ความผิดฐานมีสุราได้
โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยมีสุราที่ผิดกฎหมายไว้ในความครอบครอง และจำเลยได้กินสุราที่มีไว้นั้น จำเลยรับว่าได้กินสุรานั้นจริง ส่วนข้อมีสุราปฏิเสธแล้วโจทก์ไม่สืบพยานดังนี้โจทก์จะกลับมาโต้แย้งว่าต้องมีไว้ในครอบครองก่อนแล้ว จึงจะกินได้นั้นย่อมฟังไม่ขึ้นเพราะความผิดฐานมีสุราเถือนกับกินสุราเถื่อนนั้นเป็นคนละฐานแยกกันได้
พ.ร.บ.สุรา พ.ศ. 2493 ไม่ได้บัญญัติความผิดฐานดื่มกินสุราผิดกฎหมายไว้ ฉะนั้นเมื่อผู้กระทำผิดฐานกินสุราผิด ก.ม.ตาม พ.ร.บ.ภาษีชั้นใน ถูกฟ้องขอให้ลงโทษฐานนี้ เมื่อใช้ พ.ร.บ.สุรา พ.ศ. 2493 แล้ว ศาลจะลงโทษจำเลยฐานกินสุราผิดกฎหมายไม่ได้
พ.ร.บ.สุรา พ.ศ. 2493 ไม่ได้บัญญัติความผิดฐานดื่มกินสุราผิดกฎหมายไว้ ฉะนั้นเมื่อผู้กระทำผิดฐานกินสุราผิด ก.ม.ตาม พ.ร.บ.ภาษีชั้นใน ถูกฟ้องขอให้ลงโทษฐานนี้ เมื่อใช้ พ.ร.บ.สุรา พ.ศ. 2493 แล้ว ศาลจะลงโทษจำเลยฐานกินสุราผิดกฎหมายไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1562/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ภาระการพิสูจน์ของผู้ครอบครองไม้หวงห้าม: การซื้อโดยสุจริตต้องพิสูจน์แหล่งที่มาที่ชอบด้วยกฎหมาย
พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 69 บัญญัติเป็นพิเศษให้ผู้ครอบครองไม้ประเภทหวงห้ามซึ่งยังมิได้แปรรูปและไม่มีรอยตราค่าภาคหลวงประทับ อันมีรูปลักษณะซึ่งเห็นได้ชัดว่าน่าจะเป็นไม้ป่านั้น เป็นผู้นำสืบพิศูจน์หักล้างความผิด คือสืบว่าตนได้มาโดยชอบด้วยกฎหมาย
จำเลยต่อสู้ว่าซื้อไม้ดังกล่าวไว้โดยสุจริตจากผู้ซึ่งได้ตัดไม้นั้นจากที่ดินตามใบเหยียบย่ำเมื่อสืบฟังได้แต่เพียงว่าซื้อ ไม้นั้นไว้จากผู้มีชื่อ ส่วนการที่ได้ตัดไม้นั้นจากที่ดินตามใบเหยียบย่ำนั้นสืบฟังไม่ได้ ดังนี้ จำเลยยังไม่พ้นผิดคงต้องมีความผิดตามมาตรา 69
จำเลยต่อสู้ว่าซื้อไม้ดังกล่าวไว้โดยสุจริตจากผู้ซึ่งได้ตัดไม้นั้นจากที่ดินตามใบเหยียบย่ำเมื่อสืบฟังได้แต่เพียงว่าซื้อ ไม้นั้นไว้จากผู้มีชื่อ ส่วนการที่ได้ตัดไม้นั้นจากที่ดินตามใบเหยียบย่ำนั้นสืบฟังไม่ได้ ดังนี้ จำเลยยังไม่พ้นผิดคงต้องมีความผิดตามมาตรา 69
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1314/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแจ้งความเท็จ – พยานหลักฐานไม่เพียงพอ – ไม่สามารถพิสูจน์คำให้การเท็จได้
โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยแจ้งความเท็จ จำเลยปฏิเสธ ทางพิจารณามีปลัดอำเภอพยานปากเดียวเบิกความว่า คำให้การที่จำเลยให้ไว้ชั้นสอบสวนไม่ตรงกับถ้อยคำที่จำเลยเบิกความเป็นพยานต่อศาล ทั้งไม่ได้ยืนยันว่าคำให้การของจำเลยอันไหนเป็นความจริงอันไหนเป็นความเท็จ เพียงเท่านี้จะชี้ขาดว่าคำให้การจำเลยที่ให้การไว้ชั้นสอบสวนเป็นความเท็จยังไม่ได้