พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,327 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 531/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หลักฐานการชำระหนี้จากการกู้ยืมเงิน ไม่จำเป็นต้องเป็นใบรับเงินโดยเฉพาะ
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 653 วรรค 2 มิได้บังคับว่าจะต้องมีใบรับเงินมาแสดง
เอกสารมีความว่า เรียนครูที่เคารพนับถืออันสูง กระผมได้ฝากนมมาให้ 1 โหล ราคา 44 บาท โปรดทราบเงินฝากไป 9,400 บาท กระผมได้รับและลงบัญชีไว้เรียบร้อยแล้ว ท้ายข้อความเป็นคำลงท้ายของหนังสือ วันเดือนปี และเซ็นชื่อโจทก์ ดังนี้เห็นได้ว่า เป็นจดหมายธุรกิจ เลยกล่าวถึงเงินที่จำเลยฝากไปให้โจทก์แล้วด้วย ไม่มีลักษณะเป็นใบรับเงินโดยเฉพาะ และตาม ประมวลรัษฎากร มาตรา 105 การรับเงินเช่นนี้ (ลูกหนี้ฝากเงินมาชำระหนี้เงินกู้) ก็มิได้บังคับว่าจะต้องออกใบรับเงินประการใดหนังสือฉบับนี้เป็นหลักฐานตามที่ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา653 บังคับไว้เท่านั้น แม้จะไม่ได้ปิดอากรแสตมป์ก็ฟังเป็นหลักฐานประกอบข้อเท็จจริงได้ว่า จำเลยได้ชำระหนี้จำนวนนี้ให้แก่โจทก์แล้ว
เอกสารมีความว่า เรียนครูที่เคารพนับถืออันสูง กระผมได้ฝากนมมาให้ 1 โหล ราคา 44 บาท โปรดทราบเงินฝากไป 9,400 บาท กระผมได้รับและลงบัญชีไว้เรียบร้อยแล้ว ท้ายข้อความเป็นคำลงท้ายของหนังสือ วันเดือนปี และเซ็นชื่อโจทก์ ดังนี้เห็นได้ว่า เป็นจดหมายธุรกิจ เลยกล่าวถึงเงินที่จำเลยฝากไปให้โจทก์แล้วด้วย ไม่มีลักษณะเป็นใบรับเงินโดยเฉพาะ และตาม ประมวลรัษฎากร มาตรา 105 การรับเงินเช่นนี้ (ลูกหนี้ฝากเงินมาชำระหนี้เงินกู้) ก็มิได้บังคับว่าจะต้องออกใบรับเงินประการใดหนังสือฉบับนี้เป็นหลักฐานตามที่ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา653 บังคับไว้เท่านั้น แม้จะไม่ได้ปิดอากรแสตมป์ก็ฟังเป็นหลักฐานประกอบข้อเท็จจริงได้ว่า จำเลยได้ชำระหนี้จำนวนนี้ให้แก่โจทก์แล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 531/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หลักฐานการชำระหนี้: จดหมายยืนยันการรับเงินใช้ได้ แม้ไม่ใช่ใบรับเงินโดยเฉพาะ
เอกสารมีความว่า'เรียนครูที่เคารพนับถืออันสูง กระผมได้ฝากนมมาให้ 1 โหล ราคา 44 บาทโปรดทราบเงินฝากไป 9,400 บาท กระผมได้รับและลงบัญชีไว้เรียบร้อยแล้ว' ท้ายข้อความเป็นคำลงท้ายของหนังสือ วัน เดือน ปี และเซ็นชื่อโจทก์ ดังนี้ เห็นได้ว่าเป็นจดหมายธุรกิจกล่าวถึงเงินที่จำเลยฝากไปให้โจทก์แล้วด้วยไม่มีลักษณะเป็นใบรับเงินโดยเฉพาะซึ่งตามประมวลรัษฎากรมาตรา 105 การรับเงินเช่นนี้ก็มิได้บังคับว่าจะต้องออกใบรับเงินประการใด หนังสือฉบับนี้เป็นหลักฐานตามที่ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 653 บังคับไว้เท่านั้น แม้จะไม่ได้ปิดอากรแสตมป์ ก็ฟังเป็นหลักฐานประกอบข้อเท็จจริงได้ว่า จำเลยได้ชำระหนี้จำนวนนี้ให้แก่โจทก์แล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 519/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กำหนดเวลาอุทธรณ์ภาษี เริ่มนับจากวันรับแจ้งคำวินิจฉัย ไม่ใช่วันที่เจ้าพนักงานสรรพากรปฏิเสธหลักฐาน
การอุทธรณ์คำวินิจฉัยอุทธรณ์ของผู้ว่าราชการจังหวัดซึ่งชี้ขาดเกี่ยวกับการประเมินภาษี นั้นให้อุทธรณ์ต่อศาลภายในกำหนด 15 วัน นับแต่วันได้รับแจ้งคำวินิจฉัย
ผู้ว่าราชการจังหวัดวินิจฉัยชี้ขาดอุทธรณ์ของโจทก์ และแจ้งให้โจทก์ทราบแล้วแต่โจทก์พยายามนำหลักฐานต่างๆ ไปแสดงต่อเจ้าพนักงานสรรพากรว่าได้ชำระภาษีแล้วเจ้าพนักงานสรรพากรบันทึกว่าหลักฐานที่โจทก์นำมาแสดงฟังไม่ได้โจทก์จะนับอายุความอุทธรณ์แต่วันทราบคำสั่งเจ้าพนักงานสรรพากรไม่ได้
ผู้ว่าราชการจังหวัดวินิจฉัยชี้ขาดอุทธรณ์ของโจทก์ และแจ้งให้โจทก์ทราบแล้วแต่โจทก์พยายามนำหลักฐานต่างๆ ไปแสดงต่อเจ้าพนักงานสรรพากรว่าได้ชำระภาษีแล้วเจ้าพนักงานสรรพากรบันทึกว่าหลักฐานที่โจทก์นำมาแสดงฟังไม่ได้โจทก์จะนับอายุความอุทธรณ์แต่วันทราบคำสั่งเจ้าพนักงานสรรพากรไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 506/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขาดนัดพิจารณา & เอกสารขีดฆ่าใช้เป็นหลักฐานได้หากปิดแสตมป์ครบ
ประมวลรัษฎากร มาตรา 118 บัญญัติเพียงว่า ตราสารใดที่ไม่ปิดแสตมป์ครบจำนวนและได้ขีดฆ่าแล้วจะใช้เป็นพยานหลักฐานในคดีแพ่งไม่ได้ ไม่ได้บังคับถึงเวลาทีปิดหรือบุคคลผู้ปิดและขีดฆ่า
ศาลกำหนดให้โจทก์มีหน้าที่นำสืบ พยานโจทก์จำเลยไม่มาศาล ถือว่า จำเลยขาดนัดพิจารณาความประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 197 วรรค 2 และมาตรา 202
ศาลกำหนดให้โจทก์มีหน้าที่นำสืบ พยานโจทก์จำเลยไม่มาศาล ถือว่า จำเลยขาดนัดพิจารณาความประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 197 วรรค 2 และมาตรา 202
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 484/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณาโทษอาวุธปืน: ศาลต้องตรวจสอบหลักฐานข้อยกเว้น แม้จำเลยรับสารภาพ
ถึงแม้จำเลยจะรับสารภาพตามฟ้องและโจทก์จำเลยแถลงไม่สืบพยานก็ดี หากมีหลักฐานบางอย่างปรากฏอยู่ในสำนวนว่า ถ้าเป็นจริงตามหลักฐานนั้น จะไม่อาจลงโทษจำเลยได้แล้ว ศาลก็ชอบที่จะพิจารณาหลักฐานข้อนั้นให้ได้ความแน่ชัดเสียก่อน เช่นสอบถามโจทก์หรือสืบพยานหลักฐานที่อาจมีต่อไปให้เสร็จสิ้น แล้วจึงพิพากษาคดีไปตามที่ได้ความนั้น ไม่ใช่ด่วนพิพากษาไปตามคำรับสารภาพนั้นเลยทีเดียว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 36/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเปลี่ยนแปลงสัญญากู้ การนำสืบหลักฐานนอกฟ้อง
ในกรณีที่โจทก์ฟ้องเรียกเงินตามสัญญากู้ จำเลยต่อสู้คดีข้อหนึ่งว่า จำเลยไม่เคยทำสัญญาที่นำมาฟ้อง โจทก์ย่อมนำสืบได้ว่า เอาสัญญากู้รายเก่ามาเปลี่ยนทำเป็นสัญญากู้ใหม่โดยเอาดอกเบี้ยที่ค้างทบต้นเงินรวมเป็นจำนวนเงินกู้ใหม่ในสัญญาที่โจทก์ฟ้องได้ไม่เป็นการสืบนอกฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 306-307/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เอกสารต่างประเทศเป็นหลักฐานได้, ความผิดอันยอมความได้ไม่ต้องบรรยายร้องทุกข์, การร่วมกระทำผิดทางอาญา
อ้างต้นฉบับเอกสารภาษาต่างประเทศที่บุคคลภายนอกทำขึ้นทั้งฉบับ แต่เอกสารนั้นยืดยาว จึงแปลเป็นไทยเฉพาะส่วนที่ผู้อ้างต้องการก็รับฟังเป็นหลักฐานได้ ไม่จำต้องแปลทั้งฉบับเพราะหากอีกฝ่ายหนึ่งเห็นว่ามีข้อความอื่นในเอกสารเป็นประโยชน์แก่ตน ย่อมแสดงข้อความนั้นต่อศาลได้
ความผิดอันยอมความได้นั้น โจทก์ไม่ต้องบรรยายฟ้องมาด้วยว่าผู้เสียหายได้ร้องทุกข์แล้ว เพราะตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158 มิได้บัญญัติให้ต้องบรรยายมาด้วย เมื่อศาลพอใจฟ้องสั่งรับฟ้อง และโจทก์นำสืบว่ามีการร้องทุกข์โดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว ก็ลงโทษจำเลยได้
ความผิดอันยอมความได้นั้น โจทก์ไม่ต้องบรรยายฟ้องมาด้วยว่าผู้เสียหายได้ร้องทุกข์แล้ว เพราะตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158 มิได้บัญญัติให้ต้องบรรยายมาด้วย เมื่อศาลพอใจฟ้องสั่งรับฟ้อง และโจทก์นำสืบว่ามีการร้องทุกข์โดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว ก็ลงโทษจำเลยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1484/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เอกสารสัญญากู้ไม่ติดอากรแสตมป์ แต่จำเลยรับสารภาพ ย่อมใช้เป็นหลักฐานได้
แม้เอกสารสัญญากู้ที่โจทก์นำมาฟ้องเรียกเงินจากจำเลยมิได้ปิดอากรแสตมป์บริบูรณ์ อันจะใช้เป็นพยานหลักฐานในคดีแพ่งไม่ได้ก็ตาม หากจำเลยให้การรับว่าได้ทำเอกสารนั้นให้โจทก์ไว้จริง ก็ย่อมฟังได้ว่า จำเลยกู้เงินโจทก์โดยมีหลักฐานเป็นหนังสือ โดยไม่ต้องอาศัยฟังจากเอกสาร
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1351/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การอ้างเอกสารจากคดีอื่นเป็นหลักฐานสิทธิในที่ดิน จำเลยไม่ผูกมัดหากไม่ยอมรับ
โจทก์ฟ้องจำเลยขอให้แสดงกรรมสิทธิ์ที่ดิน จำเลยปฏิเสธโจทก์คงอ้างแต่สำนวนคดีความที่ภรรยาโจทก์ ฟ้องจำเลยในคดีก่อนมาเป็นพยานโดยจำเลยมิได้ยอมตกลงด้วย ดังนี้ เป็นการอ้างลอยๆ ไม่ผูกมัดจำเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 979/2504
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลทหาร: คดีต้องขึ้นศาลพลเรือนหากไม่มีหลักฐานพรรคพวกจำเลยเป็นบุคคลในอำนาจศาลทหาร แม้ภายหลังพิสูจน์ได้ว่าเป็นคดีที่อยู่ในอำนาจศาลทหาร
จำเลยเป็นทหารประจำการ แม้โจทก์จะกล่าวในฟ้องว่าจำเลยสมคบกับพวกกระทำผิดกฎหมาย โดยโจทก์ไม่ยืนยันว่าพวกจำเลยเป็นทหารหรือพลเรือนและชั้นพิจารณาก็ไม่ปรากฏว่าเป็นทหารหรือพลเรือนก็ตาม เมื่อคดีไม่มีหลักฐานว่าพรรคพวกของจำเลยเป็นบุคคลอยู่ในอำนาจศาลทหารแล้ว คดีก็ต้องขึ้นศาลฝ่ายพลเรือนและแม้จะปรากฎตามทางพิจารณาในภายหลังว่าเป็นคดีที่อยู่ในอำนาจศาลทหาร ก็ให้ศาลพลเรือนมีอำนาจพิจารณาพิพากษาได้
(อ้างฎีกาที่ 463/2504)
(อ้างฎีกาที่ 463/2504)