พบผลลัพธ์ทั้งหมด 990 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1806/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การวางเงินค่าธรรมเนียมหลังพ้นกำหนดอุทธรณ์ ทำให้ศาลไม่รับพิจารณาอุทธรณ์
จำเลยวางเงินค่าธรรมเนียมซึ่งจะต้องใช้แทนโจทก์เมื่อพ้นกำหนดอายุอุทธรณ์โดยไม่ปรากฏพฤติการณ์พิเศษ แม้ศาลชั้นต้นจะรับอุทธรณ์ไว้แล้ว ก็ขัดต่อมาตรา 229 จะรับอุทธรณ์ไว้วินิจฉัยมิได้ (อ้างฎีกาที่ 51/2489)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1480/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
มรดกอาวุธปืนแจ้งไม่ทันกำหนด - เปลี่ยนข้อหาไม่ได้
จำเลยได้รับมรดกอาวุธปืนจากบิดาจำเลย ซึ่งได้รับอนุญาตให้มีโดยชอบด้วยกฎหมาย แต่จำเลยมิได้ไปแจ้งความขอรับมรดกภายในกำหนดของกฎหมายและการกระทำของจำเลยอยู่ในระหว่างใช้ พ.ร.บ.อาวุธปืน2477 โจทก์จะเปลี่ยนฐานความผิดมาฟ้องขอให้ลงโทษฐานมีอาวุธปืนโดยมิได้รับอนุญาตตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน 2490 มาตรา 7,72 ไม่ได้ (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 26/2492)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1379/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไม่ยื่นบัญชีระบุพยานตามกำหนด และเหตุผลความเผลอเรอ ศาลย่อมไม่รับรอง
คดีแพ่ง จำเลยยื่นบัญชีระบุพยานในวันสืบพยานโจทก์ และยื่นคำร้องว่าเป็นเพราะความเผอเรอ ศาลย่อมไม่อนุญาต เพราะไม่มีเหตุจำเป็น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1223/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไถ่ถอนสัญญาขายฝาก: การชำระหนี้และการเวนคืนเอกสารถือเป็นการใช้สิทธิไถ่ถอนภายในกำหนด
โจทก์ผู้ขายฝากได้ขอไถ่ก่อนครบกำหนด และจำเลยผู้ซื้อฝากได้ยินยอมรับชำระเงินไถ่ถอน และเวนคืนสัญญาขายฝากให้กับโจทก์ ๆ ได้ทำลายสัญญานั้นเสีย ดังนี้ ต้องถือว่าโจทก์ได้ใช้สิทธิไถ่ถอน ในกำหนดเวลาไว้ในประมวลแพ่ง ฯ มาตรา 494 แล้ว เพราะไม่มีกฎหมายบัญญัติว่าการชำระเงินค่าไถ่ถอนให้ไปชำระกันที่อำเภอ โจทก์ย่อมฟ้องจำเลย ขอให้ไปจดทะเบียนไถ่ถอนการขายฝากได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1196/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิไถ่ทรัพย์ขายฝาก: แม้ฟ้องหลังกำหนด ก็ยังฟ้องได้ หากผู้ซื้อฝากไม่ยอมให้ไถ่ตามสัญญา
จำเลยขายฝากที่สวนกับบ้านเรือนไว้กับโจทก์ และทำสัญญาเช่าทรัพย์นั้นจากโจทก์ ๆ มาฟ้องว่า บัดนี้พ้นกำหนดไถ่ถอนแล้วขอให้ขับไล่จำเลย จำเลยต่อสู้ว่าได้ไปไถ่ถอนแล้วโจทก์ไม่ยอม จึงฟ้องแย้งขอให้โจทก์รับไถ่ถอน ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า เมื่อจะครบกำหนดสัญญา จำเลยได้ไปขอไถ่ถอนแต่โจทก์ไม่ยอมให้ไถ่ โดยจะขอเงินเพิ่มขึ้น แต่ขณะที่จำเลยฟ้องแย้งขอให้รับไถ่ถอนนี้เกินกำหนดเวลาในสัญญาขายฝากแล้ว ดังนี้ ต้องถือว่าจำเลยผู้ขายฝากได้ไปขอไถ่ตามกำหนดในสัญญาแล้ว โจทก์ต้องยอมให้ไถ่ ถ้าไม่ยอมโจทก์ก็เป็นฝ่ายผิดสัญญา จำเลยย่อมฟ้องแย้งขอให้บังคับให้รับไถ่ตามสัญญาได้ คดีนี้รูปคดีไม่เหมือนกับฎีกาที่ 185/2491 เพราะคดีนั้น ผู้ขายฝากไปขอไถ่ ผู้ซื้อฝากขอผัด ผู้ขายฝากก็ยอม ซึ่งจะถือเป็นกรณีผู้ซื้อฝากผิดสัญญาไม่ยอมให้ไถ่ไม่ได้เมื่อผู้ขายฝากยอมให้เวลาใช้สิทธิไถ่ถอนพ้นไปจากกำหนดแล้ว ก็ต้องรับสนองในการนั้น จึงไถ่ไม่ได้ จะถือว่า ได้ตกลงยืดเวลาไถ่ถอนกันไปก็ไม่ได้ เพราะขัดกับมาตรา 496.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1196/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิไถ่ถอนขายฝาก แม้ฟ้องหลังกำหนด แต่โจทก์ไม่ยอมให้ไถ่ ถือเป็นผิดสัญญา
จำเลยขายฝากที่สวนกับบ้านเรือนไว้กับโจทก์ และทำสัญญาเช่าทรัพย์นั้นจากโจทก์ โจทก์มาฟ้องว่า บัดนี้พ้นกำหนดไถ่ถอนแล้วขอให้ขับไล่จำเลย จำเลยต่อสู้ว่าได้ไปไถ่ถอนแล้วโจทก์ไม่ยอม จึงฟ้องแย้งขอให้โจทก์รับไถ่ถอนศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า เมื่อจะครบกำหนดสัญญา จำเลยได้ไปขอไถ่ถอนแต่โจทก์ไม่ยอมให้ไถ่โดยจะขอเงินเพิ่มขึ้น แต่ขณะที่จำเลยฟ้องแย้งขอให้รับไถ่ถอนนี้เกินกำหนดเวลาในสัญญาขายฝากแล้ว ดังนี้ ต้องถือว่าจำเลยผู้ขายฝากได้ไปขอไถ่ตามกำหนดในสัญญาแล้ว โจทก์ต้องยอมให้ไถ่ ถ้าไม่ยอมโจทก์ก็เป็นฝ่ายผิดสัญญา จำเลยย่อมฟ้องแย้งขอให้บังคับให้รับไถ่ตามสัญญาได้ คดีนี้รูปคดีไม่เหมือนกับฎีกาที่ 185/2491 เพราะคดีนั้น ผู้ขายฝากไปขอไถ่ ผู้ซื้อฝากขอผัด ผู้ขายฝากก็ยอม ซึ่งจะถือเป็นกรณีผู้ซื้อฝากผิดสัญญาไม่ยอมให้ไถ่ไม่ได้ เมื่อผู้ขายฝากยอมให้เวลาใช้สิทธิไถ่ถอนพ้นไปจากกำหนดแล้ว ก็ต้องรับสนองในการนั้น จึงไถ่ไม่ได้จะถือว่า ได้ตกลงยืดเวลาไถ่ถอนกันไปก็ไม่ได้ เพราะขัดกับมาตรา496(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 16/2492)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 959/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแจ้งปริมาณข้าวเปลือกเกินกำหนด: ความรับผิดฐานฝ่าฝืนประกาศเมื่อการแจ้งข่าวสารไม่ทั่วถึง
คณะกรมการจังหวัดประกาศให้ผู้มีข้าวเปลือกเกิน 50 ถัง ไปแจ้งปริมาณสถานที่เก็บภายในกำหนด 7 วัน โดยให้ผู้ใหญ่บ้านไปบอกแก่ราษฎรทีละคนสองคน จำเลยอยู่ห่างไกลอำเภอและจังหวัด ผู้ใหญ่บ้านไปบอกวันสุดท้าย จำเลยได้มาแจ้งความแก่เกินกำหนด 7 วันแล้ว ดังนี้จำเลยหามีความผิดฐานฝ่าฝืนประกาศไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 959/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแจ้งปริมาณข้าวเปลือกเกินกำหนด: ความรับผิดชอบของผู้มีข้าว และการแจ้งประกาศ
คณะกรมการจังหวัดประกาศให้ผู้มีข้าวเปลือกเกิน 50 ถังไปแจ้งปริมาณสถานที่เก็บภายในกำหนด 7 วัน โดยให้ผู้ใหญ่บ้านไปบอกแก่ราษฎรทีละคนสองคน จำเลยอยู่ห่างไกลอำเภอและจังหวัด ผู้ใหญ่บ้านไปบอกวันสุดท้าย จำเลยได้มาแจ้งความแต่เกินกำหนด 7 วันแล้ว ดังนี้จำเลยหามีความผิดฐานฝ่าฝืนประกาศไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 784/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกำหนดเวลากลางคืนตามกฎหมาย: ผลต่อการพิจารณาคดีอาญา
การนับเวลาได้มีประกาศนับเวลาในราชการ พ.ศ.2460 ให้เริ่มนับวันใหม่ตั้งแต่เที่ยงคืน และ ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 6 ข้อ 23 บัญญัติว่า วันหนึ่งหมายความว่าระยะเวลายี่สิบสี่ชั่วโมง เมื่อตั้งต้นนับวันใหม่ตั้งแต่เที่ยงคืน วันหนึ่งจึงมีเวลากลางคืน 2 ตอน คือตอนต้นนับวันใหม่ตั้งแต่เวลาเที่ยงคืนไปจนถึงพระอาทิตย์ขึ้น เป็นเวลากลางคืนตอนหนึ่ง กับอีกตอนหนึ่งระหว่างเวลาตั้งแต่พระอาทิตย์ตกไปสุดสิ้นถึงเวลาเที่ยงคืน
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกระทำผิดในวันที่ 20 กันยายน 2489 เวลากลางคืน ทางพิจารณาได้ความว่า จำเลยกระทำผิดในวันที่ 21 กันยายน 2489 เวลา 4.00 นาฬิกา ดังนี้ข้อเท็จจริงตามทางพิจารณาต่างกับข้อเท็จจริงที่กล่าวในฟ้อง ต้องยกฟ้อง
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกระทำผิดในวันที่ 20 กันยายน 2489 เวลากลางคืน ทางพิจารณาได้ความว่า จำเลยกระทำผิดในวันที่ 21 กันยายน 2489 เวลา 4.00 นาฬิกา ดังนี้ข้อเท็จจริงตามทางพิจารณาต่างกับข้อเท็จจริงที่กล่าวในฟ้อง ต้องยกฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 175/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาสัญญากู้ vs. ขายพร้อมซื้อคืน หากไม่ใช้สิทธิภายในกำหนด ย่อมเสียสิทธิเรียกร้อง
หนังสือสัญญามีข้อความอ่านตามแบบพิมพ์เป็นสัญญากู้เงิน ถ้าอ่านตามตัวเขียนเป็นสัญญาซื้อขายมีกำหนดให้ไถ่ภายใน 1 ปี ดังนี้ คู่ความฝ่ายที่อ้างว่าเป็นสัญญาซื้อขายย่อมมีสิทธินำพยานมาสืบประกอบเพื่อให้เห็นว่าคู่สัญญามีเจตนาเป็นการขายโดยมีเงื่อนไขให้ซื้อคืนได้
ขายที่นามือเปล่าไม่มีหนังสือสำคัญให้เขาโดยมีเงื่อนไขให้ซื้อคืนได้ภายใน 1 ปี เมื่อมิได้ซื้อคืนตามกำหนด1 ปี เพิ่งจะมาขอคืนเมื่อเกิน 4 ปีแล้ว ถือว่ามีเจตนาสละการครอบครอง การครอบครองสิ้นสุดลงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1377 ไม่มีสิทธิจะขอคืนได้
ขายที่นามือเปล่าไม่มีหนังสือสำคัญให้เขาโดยมีเงื่อนไขให้ซื้อคืนได้ภายใน 1 ปี เมื่อมิได้ซื้อคืนตามกำหนด1 ปี เพิ่งจะมาขอคืนเมื่อเกิน 4 ปีแล้ว ถือว่ามีเจตนาสละการครอบครอง การครอบครองสิ้นสุดลงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1377 ไม่มีสิทธิจะขอคืนได้