พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,842 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3296/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดของพนักงานรัฐที่อนุมัติเงินเกินบัญชีโดยมิชอบ ทำให้เกิดความเสียหายต่อธนาคาร
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยเป็นพนักงานของโจทก์ตามพระราชบัญญัติ ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐพ.ศ. 2502 มีตำแหน่งเป็นหัวหน้าหน่วยรับฝากเงินส่วนการเงินของโจทก์ ได้ลงนามตรวจลายมือชื่อผู้สั่งจ่าย รับรองยอดบัญชีและสั่งให้ผ่านจำนวนเงินตามเช็ค ดังนี้แม้โจทก์จะไม่ได้กล่าวถึงหน้าที่ของจำเลย ก็ถือได้ว่าโจทก์ได้บรรยายฟ้องให้ปรากฏถึงหน้าที่ของจำเลยพอสมควรเท่าที่จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีฟ้องโจทก์ดังกล่าวจึงชอบด้วยกฎหมาย
จำเลยอนุมัติให้ห้างหุ้นส่วนจำกัด อ. ลูกค้าของโจทก์เบิกเงินเกินบัญชี โดยฝ่าฝืนคำสั่งของ ก. ผู้จัดการธนาคารโจทก์ ทำให้ยอดหนี้ค้างชำระของลูกค้าสูงขึ้น และมูลค่าของหลักประกันทั้งสิ้นที่ลูกค้าให้ไว้แก่โจทก์มีไม่ถึงจำนวนหนี้ การกระทำของจำเลยจึงเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์ อันเป็นความผิดตาม พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2502 มาตรา11
เมื่อการกระทำของจำเลยเป็นความผิดตาม พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ ฯ แล้ว การกระทำนั้นย่อมไม่เป็นความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ซึ่งเป็นบททั่วไปอีก.
จำเลยอนุมัติให้ห้างหุ้นส่วนจำกัด อ. ลูกค้าของโจทก์เบิกเงินเกินบัญชี โดยฝ่าฝืนคำสั่งของ ก. ผู้จัดการธนาคารโจทก์ ทำให้ยอดหนี้ค้างชำระของลูกค้าสูงขึ้น และมูลค่าของหลักประกันทั้งสิ้นที่ลูกค้าให้ไว้แก่โจทก์มีไม่ถึงจำนวนหนี้ การกระทำของจำเลยจึงเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์ อันเป็นความผิดตาม พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2502 มาตรา11
เมื่อการกระทำของจำเลยเป็นความผิดตาม พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ ฯ แล้ว การกระทำนั้นย่อมไม่เป็นความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ซึ่งเป็นบททั่วไปอีก.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3242/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เช็คพิพาท: ผู้สั่งจ่ายต้องรับผิดแม้เป็นประกันหนี้, ความเสียหายจากไม่นำเช็คขึ้นเงิน
จำเลยสั่งจ่ายเช็คพิพาทให้โจทก์แม้จำเลยสั่งจ่ายเพื่อเป็นประกันหนี้เงินกู้ของ พ.ที่มีต่อโจทก์แต่เมื่อพ. ยังไม่ได้ชำระหนี้ต่อโจทก์ หนี้ตามเช็คพิพาทจึงยังคงมีอยู่จำเลยซึ่งเป็นผู้สั่งจ่ายย่อมจะต้องรับผิดตามเนื้อความในเช็คนั้น ทั้งจะนำบทบัญญัติในเรื่องการผ่อนเวลาของเจ้าหนี้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ลักษณะค้ำประกันมาใช้บังคับเพื่อให้จำเลยพ้นจากความรับผิดหาได้ไม่
ความเสียหายอันเกิดจากผู้ทรงเช็คไม่นำเช็คไปขึ้นเงินต่อธนาคาร ภายในกำหนดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 990นั้นหมายถึงผู้สั่งจ่ายเสียเงินที่มีอยู่ในธนาคารเพราะการที่ผู้ทรงไม่นำเช็คไปขึ้นเงินภายในกำหนด เช่นธนาคารล้มละลาย เป็นต้น ดังนั้น แม้จะฟังได้ว่าการที่โจทก์นำเช็คพิพาทไปยื่นต่อธนาคารเพื่อให้ใช้เงินล่าช้า จน พ.หลบหนีไปแล้วจึงดำเนินการ ทำให้จำเลยเสียหาย ไม่สามารถใช้สิทธิไล่เบี้ยจาก พ. ได้ กรณีก็ไม่ต้องด้วยบทกฎหมายดังกล่าวจำเลยจึงไม่พ้นความรับผิดตามเช็คพิพาท.
ความเสียหายอันเกิดจากผู้ทรงเช็คไม่นำเช็คไปขึ้นเงินต่อธนาคาร ภายในกำหนดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 990นั้นหมายถึงผู้สั่งจ่ายเสียเงินที่มีอยู่ในธนาคารเพราะการที่ผู้ทรงไม่นำเช็คไปขึ้นเงินภายในกำหนด เช่นธนาคารล้มละลาย เป็นต้น ดังนั้น แม้จะฟังได้ว่าการที่โจทก์นำเช็คพิพาทไปยื่นต่อธนาคารเพื่อให้ใช้เงินล่าช้า จน พ.หลบหนีไปแล้วจึงดำเนินการ ทำให้จำเลยเสียหาย ไม่สามารถใช้สิทธิไล่เบี้ยจาก พ. ได้ กรณีก็ไม่ต้องด้วยบทกฎหมายดังกล่าวจำเลยจึงไม่พ้นความรับผิดตามเช็คพิพาท.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 320/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิเรียกค่าทดแทนจากการล่วงเกินทำชู้ ไม่ต้องฟ้องหย่าก่อน และศาลมีอำนาจกำหนดค่าทดแทนตามความเสียหาย
การล่วงเกินในทำนองชู้สาว ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1523 วรรคสองมีความหมายรวมถึงการทำชู้ ด้วย สิทธิเรียกค่าทดแทนตามความในวรรคสองของมาตรา 1523 นี้ มิได้มีเงื่อนไขว่าสามีจะต้องฟ้องหย่าภริยาเสียก่อนจึงจะฟ้องเรียกค่าทดแทนจากผู้ล่วงเกินได้ ค่าทดแทนในกรณีนี้เป็นค่าเสียหายอย่างหนึ่งที่กฎหมายกำหนดให้ชายชู้ ต้องรับผิด ศาลมีอำนาจกำหนดให้ตามฐานานุรูปแห่งผู้ต้องได้รับความเสียหาย ซึ่งรวมถึงความเสียหายแก่ชื่อ เสียง และเกียรติคุณของโจทก์ด้วย โจทก์ฟ้องเรียกค่าทดแทนจากจำเลยซึ่งเป็นชู้ กับภริยาโจทก์จำเลยให้การว่าโจทก์รู้เห็นเป็นใจให้จำเลยเป็นชู้ กับผู้ตาย ซึ่งถ้าเป็นจริงโจทก์จะเรียกค่าทดแทนไม่ได้ ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1523 วรรคสามประเด็นข้อนี้ภาระการพิสูจน์ตก แก่จำเลย.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3180/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลิกจ้างลูกจ้างฐานประมาทเลินเล่อในหน้าที่การงานที่ก่อให้เกิดความเสียหายร้ายแรง
ผู้คัดค้านเป็นหัวหน้าแผนกขายส่วนกลาง ยอมให้ผู้ถอนหรือผู้เบิกรับแบตเตอรี่ไปก่อน ไม่มีใบถอนทันทีโดยจะมีการจัดส่งใบถอนหรือใบรับในภายหลังอันเป็นการไม่ปฏิบัติตามระเบียบของผู้ร้องเกี่ยวกับการถอนหรือเบิกแบตเตอรี่ แม้จะมีการปฏิบัติดังกล่าวมานานก็ตาม ก็ไม่อาจอ้างว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยถูกต้องได้ การกระทำของผู้คัดค้านจึงเป็นการกระทำโดยปราศจากความระมัดระวังตามวิสัยและพฤติการณ์ถือได้ว่าเป็นการประมาทเลินเล่อในหน้าที่การงาน เมื่อการกระทำดังกล่าวทำให้ผู้ร้องเสียหายเป็นเงินประมาณสี่แสนบาท และตามระเบียบข้อบังคับของผู้ร้อง การประมาทเลินเล่อในหน้าที่การงานเป็นเหตุให้องค์การ (ผู้ร้อง) เสียหายอย่างร้ายแรง เป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรง ดังนี้ผู้ร้องจึงมีสิทธิเลิกจ้างผู้คัดค้านซึ่งเป็นกรรมการลูกจ้างได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3150/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดของพนักงานขับรถที่ละทิ้งหน้าที่และมอบหมายให้ผู้อื่นขับรถจนเกิดความเสียหาย ถือเป็นการผิดสัญญาจ้าง
จำเลยซึ่งเป็นพนักงานขับรถยนต์ละทิ้งหน้าที่ไม่ขับรถยนต์นำหัวหน้างานและคนงานไปปฏิบัติงานตามคำสั่งและได้มอบหมายให้ จ. คนงานรายวันเป็นผู้ขับแทนโดยมิได้รับอนุญาตจากผู้บังคับบัญชา เป็นการปฏิบัติขัดต่อคำสั่งเรื่อง การใช้รถยนต์ในส่วนภูมิภาคของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ซึ่งเป็นข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้าง ถือได้ว่าจำเลยมิได้ปฏิบัติตามสัญญาจ้างแรงงานระหว่างโจทก์จำเลย เมื่อ จ. ได้ขับรถยนต์โดยประมาท ก่อให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์จำเลยจึงมีหน้าที่ต้องรับผิดในความเสียหายที่โจทก์ได้รับ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3015/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดของข้าราชการและหน่วยงานต่อความเสียหายจากละเมิด กรณียึดของกลางแล้วดูแลไม่ดีทำให้สูญหาย
จำเลยที่ 2 เป็นพนักงานสอบสวนยึดรถยนต์ของโจทก์เป็นของกลางในคดี จำเลยจึงมีหน้าที่ต้องเก็บรักษารถยนต์พร้อมอุปกรณ์ในที่ปลอดภัย และต้องใช้ความระมัดระวังตามสมควรมิให้สูญหายหรือเสียหายการที่จำเลยนำรถยนต์ของกลางจอดไว้ริมถนนนอกเขตสถานีตำรวจและไม่จัดให้มีผู้ดูแลรักษา เมื่ออุปกรณ์ของรถยนต์หายไป จึงเป็นเพราะความประมาทเลินเล่อของจำเลยที่ 2 จำเลยที่ 2 จึงต้องรับผิดต่อโจทก์ จำเลยที่ 2 เป็นข้าราชการในสังกัดกรมตำรวจจำเลยที่ 1 จึงมีฐานะเป็นผู้แทนของจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นนิติบุคคล เมื่อจำเลยที่ 2กระทำการตามหน้าที่และก่อให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์ จำเลยที่ 1จึงต้องรับผิดร่วมกับจำเลยที่ 2 ต่อโจทก์.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2878/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การระงับการจ่ายเงินบำเหน็จ โบนัส และประกันของลูกจ้างระหว่างการสอบสวนความเสียหาย นายจ้างมีอำนาจตามข้อบังคับ
ก่อนจำเลยเลิกจ้างโจทก์เพราะเกษียณอายุ โจทก์ถูกจำเลยตั้งคณะกรรมการสอบสวน เรื่องปฏิบัติหน้าที่บกพร่อง เป็นเหตุให้จำเลยเสียหาย แต่ขณะเลิกจ้างการสอบสวนยังไม่เสร็จและตามระเบียบข้อบังคับของจำเลยให้อำนาจจำเลยสั่งระงับการจ่ายเงินบำเหน็จเงินโบนัส และเงินประกันแก่โจทก์ได้ ดังนั้นการที่จำเลยสั่งระงับการจ่ายเงินดังกล่าวเพื่อรอผลการสอบสวน และเมื่อศาลพิพากษาคดีถึงที่สุดว่าโจทก์ไม่ต้องรับผิดในค่าเสียหายในคดีที่จำเลยฟ้องโจทก์เพราะเหตุปฏิบัติหน้าที่บกพร่องจำเลยก็รีบดำเนินการจ่ายเงินทั้งหมดแก่โจทก์ จึงถือไม่ได้ว่าจำเลยตก เป็นผู้ผิดนัด.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 246/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดในความเสียหายจากทรัพย์สินสูญหาย: การประมาทเลินเล่อของเจ้าหน้าที่ดูแลทรัพย์สิน
ขณะเกิดเหตุจำเลยรับราชการเป็นหัวหน้าหมวดช่าง โยธาประจำสถานีรายงานนครพนมของโจทก์ มีหน้าที่ดูแล รักษาทรัพย์สินของทางราชการที่อยู่ในความรับผิดชอบซึ่งรวมทั้งท่อประปาที่ถูกคนร้ายลักไปด้วยปรากฏว่าท่อประปาที่หายไปกองอยู่ในบริเวณรั้วห่างโรงจักร ไฟฟ้าไม่ถึง 20 เมตร ในการปฏิบัติหน้าที่จำเลยได้จัดเวรยามคอยติดเครื่องจักรไฟฟ้าตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งมีหมวดอากาศโยธินจัดเวรยามรักษาความปลอดภัยและมีรถยนต์วิ่งตรวจการณ์ 24 ชั่วโมง โดยโจทก์เองก็มิได้มีคำสั่งให้จำเลยต้องจัดเวรยามเฝ้าท่อประปาเป็นพิเศษแต่อย่างใด เช่นนี้การที่คนร้ายเล็ดลอดหลบหน่วยรักษาความปลอดภัยเข้ามาในบริเวณสถานีรายงานและลอบเข้าไปตัดรั้วลวดหนามของโรงจักร ไฟฟ้าลักท่อประปาของโจทก์ไป ย่อมถือว่าจำเลยไม่ได้กระทำการอันเป็นการจงใจหรือประมาทเลินเล่อทำให้ท่อประปาของโจทก์สูญหายจำเลยไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2378/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องต้องมีเหตุให้เชื่อว่าจำเลยโต้แย้งสิทธิโจทก์ การแจ้งข้อเท็จจริงหรือคาดคะเนโดยไม่มีความเสียหาย ไม่ถือเป็นการโต้แย้งสิทธิ
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยซึ่งเป็นเจ้าพนักงานส่งคืนที่ดินส่วนที่โจทก์ครอบครอง กับเพิกถอนคำสั่งหรือพระราชกฤษฎีกาของจำเลยที่เพิกถอนเอกสารสิทธิในที่ดินของโจทก์ และขอให้ขับไล่บุคคลที่จำเลยจัดสรรให้ครอบครองที่ดิน แต่ตามฟ้องไม่ปรากฏว่าจำเลยได้แย่งสิทธิครอบครองที่ดินของโจทก์ และไม่ปรากฏว่าโจทก์ได้เสียสิทธิในที่ดินที่ครอบครองให้แก่บุคคลอื่นหรือ ได้มีการเพิกถอนเอกสารสิทธิในการครอบครองที่ดิน ทั้งโจทก์ไม่ได้บรรยายฟ้องว่า ในกรณีดังกล่าวจำเลยได้กระทำหรือร่วมกับผู้อื่นกระทำให้โจทก์เสียหายอย่างใดบ้าง จึงถือไม่ได้ว่าจำเลยได้โต้แย้งสิทธิและหน้าที่ของโจทก์ โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2361/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความเสียหายจากการใช้เอกสารปลอมเกิดขึ้นต่อนายทะเบียน โจทก์ไม่ใช่ผู้เสียหาย จึงไม่มีอำนาจฟ้อง
ก่อนโจทก์จำเลยจะมีกรณีพิพาทในกรรมสิทธิ์ของบ้านพิพาทกันจำเลยได้นำคำร้องซึ่งเป็นเอกสารราชการปลอมไปยื่นต่อนายทะเบียนอำเภอเพื่อขอเลขบ้านพิพาทใหม่ โดยต้องการเอาบ้านนั้นเป็นของจำเลย แต่เลขบ้านมิใช่หลักฐานแสดงกรรมสิทธิ์แม้จำเลยจะได้เลขบ้านใหม่มาก็หาทำให้โจทก์หมดสิทธิที่จะใช้เลขบ้านเดิมไม่ ความเสียหายอันเกิดจากการใช้เอกสารปลอมจึงเกิดขึ้นแก่นายทะเบียนเท่านั้น โจทก์ไม่ใช่ผู้เสียหายตามกฎหมายที่จะมีอำนาจฟ้องจำเลยได้.