คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
สัญญาเช่า

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,266 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2945/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องขับไล่หลังสัญญาเช่าช่วง/เช่าต่อ การเสนอเอกสารสัญญาไม่ครบถ้วน และการอ้างเอกสารพยานหลักฐาน
หากจำเลยจะโต้แย้ง ว่าโจทก์ดำเนินกระบวนพิจารณาผิดระเบียบโดยโจทก์แนบเอกสารสัญญาที่อ้างถึงในคำฟ้องเฉพาะบางส่วนของสัญญาเท่านั้นจึงต้องเพิกถอนกระบวนพิจารณา และให้จำเลยยื่นคำให้การใหม่ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 27 จำเลยก็ต้องยกขึ้นคัดค้านก่อนศาลชั้นต้นพิพากษา ส่วนการส่งสำเนาพยานเอกสารนั้นเนื่องจากโจทก์อ้างเอกสารซึ่งมิได้อยู่ที่โจทก์ โจทก์จึงขอคำสั่งเรียกโดยไม่ส่งสำเนาให้จำเลย แต่แม้จะวินิจฉัยให้เป็นประโยชน์แก่จำเลยว่าเป็นการฝ่าฝืนประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 90 ศาลก็มีอำนาจรับฟังเอกสารนั้นได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 87(2)
แม้ผู้ให้เช่าเข้าครอบครองทรัพย์ที่เช่าไม่ได้ เพราะจำเลยซึ่งอยู่ในที่เช่ามาก่อนไม่ยอมออกไป และทำให้โจทก์ไม่มีสิทธิที่จะฟ้องขับไล่จำเลยโดยลำพัง แต่โจทก์ก็ได้ใช้สิทธิตาม ป.พ.พ. ม.549 ประกอบด้วย ม.477 ขอให้ศาลเรียกผู้ร้องสอดซึ่งเป็นเจ้าของและผู้ให้เช่าเข้ามาเป็นโจทก์ตาม ป.ว.พ. ม.57(3) แล้ว โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องจำเลยคดีนี้เป็นเรื่องที่โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลย เพราะอยู่ในทรัพย์สินที่เช่าโดยละเมิด มิใช่ฐานะที่จำเลยเป็นคู่สัญญาเช่ากับโจทก์ จึงไม่อยู่ในบังคับตาม ป.พ.พ. ม.538 ที่ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2857/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเซ้งสัญญาเช่าและการมีอำนาจฟ้องขับไล่ เมื่อผู้เช่าเดิมยังไม่ยินยอมเป็นหนังสือต่อผู้ให้เช่า
ตามสัญญาเช่าระบุว่า ท. ผู้เช่ามีสิทธิโอนสิทธิการเช่าให้ผู้อื่นได้เมื่อได้รับความยินยอมเป็นหนังสือจากผู้ให้เช่าการที่ ท. ได้โอนสิทธิการเช่าให้โจทก์จึงไม่เป็นการฝ่าฝืนสัญญา เพียงแต่ยังไม่ผูกพันผู้ให้เช่าจนกว่าจะได้รับความยินยอมเป็นหนังสือ โจทก์จึงชอบที่จะโอนสิทธิการเช่าให้จำเลยต่อไปได้โดยนัยเดียวกันสัญญาเซ้งตึกแถวพิพาทระหว่างโจทก์จำเลยไม่เป็นโมฆียะโจทก์มีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2606/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดชอบภาษีตามสัญญาเช่า: ผู้เช่าต้องชำระภาษี แต่ผู้ให้เช่าไม่แจ้งการประเมิน ทำให้เกิดเงินเพิ่ม ผู้เช่าไม่ต้องรับผิด
ตามสัญญากำหนดให้จำเลยซึ่งเป็นผู้เช่าเป็นฝ่ายชำระภาษีโรงเรือนและที่ดินแต่เมื่อโจทก์รับแจ้งการประเมินแล้วโจทก์ไม่ได้แจ้งการประเมินให้จำเลยทราบและไม่ได้บอกให้จำเลยชำระภาษีภายในกำหนดที่เจ้าพนักงานแจ้งมาทั้งจำเลยเพิ่งได้รับแจ้งจากโจทก์ให้จำเลยชำระภาษีเมื่อล่วงพ้นกำหนดเวลาชำระแล้วฉะนั้นการที่โจทก์ต้องเสียเงินเพิ่ม จึงเป็นความผิดของโจทก์จำเลยไม่ต้องรับผิดชำระเงินเพิ่มคงรับผิดเพียงชำระค่าภาษีพร้อมดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันที่โจทก์ชำระค่าภาษีต่อเจ้าพนักงานให้โจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2604/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าเดิมสิ้นสุด แต่จำเลยยังชำระค่าเช่าให้โจทก์ต่อเนื่อง โจทก์ยังมีสิทธิฟ้องขับไล่ได้
เดิมจำเลยเข้าอยู่ในตึกแถวพิพาทก็โดยอาศัยสิทธิตามสัญญาเช่ากับโจทก์ต่อมาเมื่อสัญญานั้นสิ้นกำหนดเวลาแล้วและก่อนที่จำเลยจะทำสัญญาเช่าจากบริษัท ฮ. จำเลยยังคงอยู่ในตึกแถวพิพาทและชำระค่าเช่าให้โจทก์ตลอดมา แม้บริษัท ฮ. เป็นผู้เช่าตึกแถวพิพาทจากสำนักพระราชวัง (สำนักงานพระคลังข้างที่)เมื่อ พ.ศ.2516แต่ขณะนั้นจำเลยก็ยังเป็นผู้เช่าจากโจทก์และชำระค่าเช่าให้โจทก์ตลอดมาเช่นกันจำเลยจึงอยู่ในตึกแถวพิพาทโดยอาศัยสิทธิการเช่าจากโจทก์ต่อมาแม้การเช่าของโจทก์ซึ่งได้รับโอนสิทธิจากผู้ให้เช่าคนก่อน ๆ จะสิ้นกำหนดเวลาลงแล้วโจทก์ย่อมฟ้องจำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2539/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าสิ่งปลูกสร้างบนที่ดินสาธารณะ: สิทธิของเจ้าของสิ่งปลูกสร้างเมื่อที่ดินเป็นสาธารณะ
จำเลยทำสัญญาเช่าที่ดินจากโจทก์ปลูกสร้างสะพานและอาคารบนสะพาน โดยมีข้อตกลงในสัญญาว่าเมื่อสัญญาเช่าครบกำหนดให้สิ่งปลูกสร้างนั้นตกเป็นของโจทก์ ครบกำหนดสัญญาเช่าเดิมจำเลยได้โอนสิ่งปลูกสร้างให้โจทก์แล้วและเช่าสิ่งปลูกสร้างนั้นต่อมา แม้ภายหลังปรากฏว่าที่ดินที่โจทก์ให้จำเลยเช่านั้นเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน และนายอำเภอผู้ปกครองดูแลที่สาธารณะฟ้องขับไล่โจทก์ให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกจากที่ดินแต่ก็มิได้อ้างสิทธิในสิ่งปลูกสร้างด้วยซึ่งปลูกสร้างดังกล่าว หากตกเป็นของรัฐไม่ โจทก์ยังมีสิทธิครอบครองเฉพาะสิ่งปลูกสร้าง จำเลยเช่าสิ่งปลูกสร้างจากโจทก์จึงมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามสัญญาเช่าโดยชำระค่าเช่าให้โจทก์ และครบกำหนดสัญญาเช่าโจทก์ย่อมมีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลยออกจากสถานที่เช่าได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2539/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในสิ่งปลูกสร้างบนที่ดินสาธารณะ: แม้ที่ดินเป็นสาธารณะ แต่เมื่อสิ่งปลูกสร้างตกเป็นของโจทก์แล้ว โจทก์ยังมีสิทธิครอบครองและให้เช่าได้
จำเลยทำสัญญาเช่าที่ดินจากโจทก์ปลูกสร้างสะพานและอาคารบนสะพานโดยมีข้อตกลงในสัญญาว่าเมื่อสัญญาเช่าครบกำหนดให้สิ่งปลูกสร้างนั้นตกเป็นของโจทก์ ครบกำหนดสัญญาเช่าเดิมจำเลยได้โอนสิ่งปลูกสร้างให้โจทก์แล้วและเช่าสิ่งปลูกสร้างนั้นต่อมา แม้ภายหลังปรากฏว่าที่ดินที่โจทก์ให้จำเลยเช่านั้นเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน และนายอำเภอผู้ปกครองดูแลที่สาธารณะฟ้องขับไล่โจทก์ให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกจากที่ดินแต่ก็มิได้อ้างสิทธิในสิ่งปลูกสร้างด้วยสิ่งปลูกสร้างดังกล่าวหาตกเป็นของรัฐไม่ โจทก์ยังมีสิทธิครอบครองเฉพาะสิ่งปลูกสร้าง จำเลยเช่าสิ่งปลูกสร้างจากโจทก์จึงมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามสัญญาเช่าโดยชำระค่าเช่าให้โจทก์ และครบกำหนดสัญญาเช่าโจทก์ย่อมมีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลยออกจากสถานที่เช่าได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 252/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าไม่จดทะเบียนและผลกระทบต่อระยะเวลาบังคับสัญญา
จำเลยออกเงินซ่อมตึกของโจทก์ก่อนทำสัญญาเช่าก็เพื่อความสะดวกสบายของจำเลยในการใช้ทรัพย์สินที่เช่าไม่มีลักษณะพิเศษยิ่งไปกว่าสัญญาเช่าธรรมดา ถ้าไม่จดทะเบียนตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 538 ก็มีผลบังคับเพียง 3 ปี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2393/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ที่งอกริมตลิ่งที่เป็นทางสาธารณประโยชน์เป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน สัญญาเช่ากับเจ้าของเดิมไม่สมบูรณ์
ที่พิพาทเป็นที่งอกริมตลิ่ง แต่ตลิ่งที่ที่ดินงอกนั้นเป็นทางสาธารณประโยชน์อันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินประเภททรัพย์สินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกันตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1304 (2) ดังนั้น ที่งอกริมตลิ่งดังกล่าวจึงเป็นสาธารณประโยชน์อันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินด้วย ผู้ใดจะมีกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองไม่ได้ แม้จำเลยได้ทำสัญญาเช่าที่งอกนั้นจากโจทก์ โจทก์ก็ไม่มีสิทธิให้เช่าและย่อมไม่มีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2288/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าอสังหาริมทรัพย์ต้องทำเป็นหนังสือ หากไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ เจ้าหนี้ไม่อาจเรียกร้องค่าเช่าหรือค่าเสียหายได้
เจ้าหนี้จะขอรับชำระหนี้ค่าเช่าตึกแถวอันเป็นอสังหาริมทรัพย์ โดยไม่มีหลักฐานการเช่าเป็นหนังสืออย่างหนึ่งอย่างใดลงลายมือชื่อของลูกหนี้ผู้เช่า ตามนัยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 538 หาได้ไม่ และจะอ้างว่าขอรับชำระหนี้เป็นค่าเสียหายก็ไม่ได้เพราะลูกหนี้มิได้เข้าไปอยู่หรือใช้ประโยชน์ในตึกแถวของเจ้าหนี้โดยการทำละเมิดต่อเจ้าหนี้ ลูกหนี้จึงไม่จำต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนแต่อย่างได

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2142/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาไม่อุทธรณ์เรื่องความเคลือบคลุมของฟ้อง และการอนุญาตให้เจ้าของที่ดินเข้าเป็นโจทก์ร่วม
การที่จำเลยฎีกาว่าฟ้องโจทก์เคลือบคลุมเพราะชื่อโจทก์ในฟ้องไม่ถูกต้องและไม่ตรงกับความจริงมีถึง 2 คน จะให้จำเลยเข้าใจได้ถูกต้องว่าอะไรแน่นั้นฎีกาของจำเลยดังกล่าวเป็นเรื่องที่จำเลยอ้างเหตุแห่งความเคลือบคลุมของฟ้องโจทก์ขึ้นมาใหม่นอกเหนือจากที่ให้การต่อสู้ไว้ จึงเป็นฎีกานอกประเด็นศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
โจทก์ทำสัญญาเช่าที่ดินจากโจทก์ร่วม แต่เข้าครอบครองที่ดินที่เช่าไม่ได้เพราะจำเลยไม่ยอมออกไป ถ้าโจทก์แพ้คดีโจทก์ไม่สามารถเรียกค่าทดแทนที่ไม่ได้เข้าครอบครองที่ดินตามสัญญาจากโจทก์ร่วมได้และอาจถูกโจทก์ร่วมเรียกค่าเสียหายได้ด้วยดังนี้ จึงเป็นเหตุจำเป็นตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 57(3)(ก) ที่จะอนุญาตให้หมายเรียกโจทก์ร่วมเข้ามาในคดีได้ โจทก์และโจทก์ร่วมย่อมมีอำนาจฟ้องให้ขับไล่จำเลยออกจากที่ดินได้
of 227