คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
หนี้

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,449 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1006/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความและการรับสภาพหนี้ด้วยวาจาไม่ผูกพันทางกฎหมาย
การที่จำเลยขอผัดชำระหนี้ด้วยวาจาหรือยอมรับด้วยวาจาต่อหน้าผู้อื่นว่าเป็นหนี้โจทก์และจะชำระหนี้ให้แก่โจทก์ยังถือไม่ได้ว่าจำเลยได้รับสภาพหนี้ต่อเจ้าหนี้ด้วยกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งอันปราศจากเคลือบคลุมสงสัยตระหนักเป็นปริยายว่าจำเลยยอมรับสภาพตามสิทธิเรียกร้องของโจทก์อันจะเป็นเหตุให้อายุความสะดุดหยุดลงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 172
โจทก์ผู้เป็นพ่อค้าใช้สิทธิเรียกร้องราคาสินค้าจากจำเลยเกินกว่าสองปีนับแต่วันส่งมอบคดีโจทก์จึงขาดอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 165(1)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 49/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับผิดในหนี้ที่เกิดจากการเชิดตัวแทน แม้ไม่มีหลักฐานหนังสือ
คำฟ้องของโจทก์แม้มิได้บรรยายว่าใครเป็นตัวแทนหรือเชิดบุคคลใดเป็นตัวแทนแต่โจทก์ก็ได้บรรยายว่า จำเลยกระทำการโดยตัวแทนผู้จัดการดำเนินกิจการของจำเลย เมื่ออ่านข้อความทั้งหมดแล้วเห็นได้ว่าโจทก์ฟ้องขอให้บังคับชำระหนี้ที่ตัวแทนได้ก่อขึ้นในการก่อสร้างที่จำเลยประมูลได้ย่อมเป็นฟ้องที่ชัดแจ้งซึ่งทำให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีแล้ว
การตั้งตัวแทนที่ต้องทำหรือมีหลักฐานเป็นหลักฐาน ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 798 นั้น มิได้หมายรวมถึงการเป็นตัวแทนโดยการเชิดตามมาตรา 821 แม้บริษัทจำเลยจะได้จ้าง ฉ. และ ก. เป็นผู้รับเหมาช่วงทำการก่อสร้างการประปาซึ่งจำเลยเป็นผู้ประมูลได้ แต่จำเลยได้แสดงออกต่อประชาชนทั่วไปว่าบริษัทจำเลยเป็นผู้ก่อสร้างเอง โดยทำป้ายปักไว้ ณ ที่ก่อสร้างว่าบริษัทจำเลยเป็นผู้ก่อสร้าง ทั้งจำเลยได้มีหนังสือถึงผู้รับเหมาว่าได้มอบให้ ส. ช่างประจำบริษัทจำเลย และ ฉ. เป็นตัวแทนของจำเลยประจำสถานที่ก่อสร้างถือได้ว่าบริษัทจำเลยได้เชิด ฉ., ส. และ ก. เป็นตัวแทนของตน จำเลยต้องรับผิดชำระเงินค่าวัสดุก่อสร้างซึ่งบุคคลทั้งสามนั้นได้ซื้อจากโจทก์ไปใช้ในการก่อสร้างแก่โจทก์ผู้ขาย ซึ่งเชื่อโดยสุจริตว่าบุคคลทั้งสามเป็นตัวแทนของจำเลย แม้ภายหลังโจทก์จะทราบว่าบุคคลทั้งสามนั้นไม่ใช่ตัวแทนของจำเลยก็หาทำให้จำเลยพ้นความรับผิดไม่
โจทก์ฟ้องบริษัทจำเลยให้รับผิดชำระหนี้ที่ผู้จัดการดำเนินการก่อสร้างกระทำแทนบริษัทจำเลย เมื่อคดีฟังได้ว่าจำเลยได้เชิดผู้ดำเนินการก่อสร้างเป็นตัวแทนของตน ศาลย่อมพิพากษาให้จำเลยรับผิดได้ไม่เป็นการนอกคำฟ้องคำขอ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 49/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับผิดในหนี้ที่เกิดจากการเชิดตัวแทน แม้ไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ
คำฟ้องของโจทก์แม้มิได้บรรยายว่าใครเป็นตัวแทนหรือเชิดบุคคลใดเป็นตัวแทนแต่โจทก์ก็ได้บรรยายว่า จำเลยกระทำการโดยตัวแทนผู้จัดการดำเนินกิจการของจำเลย เมื่ออ่านข้อความทั้งหมดแล้วเห็นได้ว่าโจทก์ฟ้องขอให้บังคับชำระหนี้ที่ตัวแทนได้ก่อขึ้นในการก่อสร้างที่จำเลยประมูลได้ย่อมเป็นฟ้องที่ชัดแจ้งซึ่งทำให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีแล้ว
การตั้งตัวแทนที่ต้องทำหรือมีหลักฐานเป็นหนังสือ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 798 นั้น มิได้หมายรวม ถึงการเป็นตัวแทนโดยการเชิดตามมาตรา 821 แม้บริษัทจำเลยจะได้จ้าง ฉ. และ ก. เป็นผู้รับเหมาช่วงทำการก่อสร้างการประปาซึ่งจำเลยเป็นผู้ประมูลได้ แต่จำเลยได้แสดงออกต่อประชาชนทั่วไปว่าบริษัทจำเลยเป็นผู้ก่อสร้างเองโดยทำป้ายปักไว้ ณ ที่ก่อสร้างว่าบริษัทจำเลยเป็นผู้ก่อสร้าง ทั้งจำเลยได้มีหนังสือถึงผู้จ้างเหมาว่าได้มอบให้ ส.ช่างประจำบริษัทจำเลยและฉ. เป็นตัวแทนของจำเลยประจำสถานที่ก่อสร้าง ถือได้ว่าบริษัทจำเลยได้เชิด ฉ.,ส. และ ก. เป็นตัวแทนของตน จำเลยต้องรับผิดชำระเงินค่าวัสดุก่อสร้างซึ่งบุคคลทั้งสามนั้นได้ซื้อจากโจทก์ไปใช้ในการก่อสร้างแก่โจทก์ผู้ขาย. ซึ่งเชื่อโดยสุจริตว่าบุคคลทั้งสามเป็นตัวแทนของจำเลย แม้ภายหลังโจทก์จะทราบว่า บุคคลทั้งสามนั้นไม่ใช่ตัวแทนของจำเลยก็หาทำให้จำเลยพ้นความรับผิดไม่
โจทก์ฟ้องบริษัทจำเลยให้รับผิดชำระหนี้ที่ผู้จัดการดำเนินการก่อสร้างกระทำแทนบริษัทจำเลย เมื่อคดีฟังได้ว่าจำเลยได้เชิดผู้ดำเนินการก่อสร้างเป็นตัวแทนของตน ศาลย่อมพิพากษาให้จำเลยรับผิดได้ไม่เป็นการนอกคำฟ้องคำขอ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 47/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับคดีจำนองโดยอ้อม และการโอนที่ดินเพื่อหลีกเลี่ยงหนี้ เจ้าหนี้มีสิทธิยึดที่ดินได้
ม. เจ้าของที่ดินกู้เงินโจทก์โดยนำโฉนดที่ดินพิพาทมาให้โจทก์ยึดถือไว้เป็นประกัน โดยระบุไว้ในสัญญากู้ว่าได้นำโฉนดที่พิพาทมาจำนองไว้ภายใน 3 ปี แม้จะไม่มีผลบังคับในทางจำนอง แต่การที่ ม. เอาที่ดินพิพาทไปโอนให้ผู้ร้องโดยเสน่หาหลังจากกู้เงินจากสามีโจทก์ไปเพียง 15 วัน ม. ย่อมรู้อยู่ว่าจะเป็นทางให้เจ้าหนี้เสียเปรียบ การที่โจทก์ลงชื่อในฐานะเจ้าของที่ดินข้างเคียง เมื่อผู้ร้องทั้งสามแยกการครอบครองกันเป็นส่วนสัดและยื่นเรื่องราวขอแบ่งแยกโฉนด ก็เป็นเรื่องปฏิบัติตามกฎหมายเท่านั้น มิใช่เป็นการสละสิทธิที่จะบังคับคดีต่อไป กรณีต้องด้วยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 237 โจทก์มีสิทธินำยึดที่ดินพิพาทเพื่อขายทอดตลาดได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4020/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผลผูกพันตามสัญญาขายลดเช็ค แม้ตราเช็คถูกยกเลิก
เช็คพิพาทเป็นของจำเลย โดยลายมือชื่อที่ลงในช่องผู้สั่งจ่ายเป็นผู้แทนของจำเลยและจำเลยได้ขายลดเช็คดังกล่าวให้แก่โจทก์ แม้ตราสำคัญที่ประทับในเช็คจะเป็นตราที่จดทะเบียนยกเลิกแล้ว ก็หามีผลให้จำเลยหลุดพ้นจากหนี้ตามสัญญาขายลดเช็คนั้นไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4009/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความหนี้ซื้อขายสินค้ากับผู้ประกอบการอุตสาหกรรม: การตีความ 'อุตสาหกรรม' ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
คำว่า 'อุตสาหกรรม'ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 165(1) วรรคสุดท้าย หมายถึงการประดิษฐ์หรือผลิตหรือทำสิ่งของนั้นให้เป็นสินค้าเพื่อจำหน่ายสินค้านั้น ผู้ร้องเพียงแต่ประกอบการค้าโดยส่งสัตว์ทะเลออกไปขายต่างประเทศห้องเย็นของผู้ร้องมีไว้เพื่อเก็บรักษาสัตว์ทะเลมิให้เน่าเปื่อยก่อนส่งออกไปต่างประเทศเท่านั้นผู้ร้องมิได้ประกอบการผลิตห้องเย็นเป็นสินค้าแต่อย่างใด จึงไม่ใช่เป็นผู้ประกอบอุตสาหกรรมห้องเย็น น้ำยาเคมีที่ผู้ร้องสั่งซื้อจากจำเลยก็เพื่อทำความสะอาดภายในห้องเย็นเท่านั้นจึงถือเป็นการส่งมอบสินค้าธรรมดา กรณีไม่ต้องด้วยข้อยกเว้นตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 165(1) วรรคท้าย สิทธิเรียกร้องของจำเลยที่มีต่อผู้ร้องจึงมีอายุความ 2 ปี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3968/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิเรียกร้องหนี้จากการซื้อขายและการมิใช่พ่อค้าในการบังคับอายุความ
เมื่อลูกหนี้ละเลยไม่ชำระหนี้ เจ้าหนี้ย่อมมีสิทธิฟ้องร้องต่อศาลให้สั่งบังคับชำระหนี้ได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 213
โจทก์ประกอบการค้าปลาและสัตว์ทะเล มิได้ประกอบการค้าขายรถยนต์การที่โจทก์ฟ้องเรียกหนี้ค่ารถยนต์จากจำเลยจึงมิใช่บุคคลผู้เป็นพ่อค้าเรียกเอาค่าที่ได้ส่งมอบของตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 165 (1) จะนำอายุความตามมาตราดังกล่าวมาใช้บังคับมิได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3968/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิเรียกร้องหนี้และการบังคับชำระหนี้ โดยไม่ใช้บังคับอายุความตามมาตรา 165(1) หากไม่ใช่การค้าขาย
เมื่อลูกหนี้ละเลยไม่ชำระหนี้ เจ้าหนี้ย่อมมีสิทธิฟ้องร้องต่อศาลให้สั่งบังคับชำระหนี้ได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 213
โจทก์ประกอบการค้าปลาและสัตว์ทะเล มิได้ประกอบการค้าขายรถยนต์การที่โจทก์ฟ้องเรียกหนี้ค่ารถยนต์จากจำเลยจึงมิใช่บุคคลผู้เป็นพ่อค้าเรียกเอาค่าที่ได้ส่งมอบของตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 165(1) จะนำอายุความตามมาตราดังกล่าวมาใช้บังคับมิได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3608/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การหักกลบลบหนี้ต้องมีสิทธิเรียกร้องที่ชัดเจนและไม่มีข้อต่อสู้ หากมีข้อต่อสู้ยังนำมาหักกลบลบหนี้ไม่ได้
โจทก์ฟ้องขอให้บริษัทจำเลยจ่ายค่าเบี้ยเลี้ยงที่ค้าง จำเลยให้การขอนำเงินทดรองจ่ายที่โจทก์เบิกไปแล้ว ไม่คืนเงินที่เหลือให้จำเลยมาหักกลบลบหนี้ เป็นการแสดงเจตนาฝ่ายเดียวขอหักกลบลบหนี้ มิใช่หักหนี้โดยข้อสัญญาหรือว่าได้หักหนี้กันไปแล้ว ในวันนัดพิจารณาโจทก์แถลงว่า ได้จ่ายเงินทดรองไปในกิจการของจำเลยจนหมดสิ้นแล้ว ดังนี้ สิทธิเรียกร้องของจำเลยในเงินทดรองจ่าย โจทก์ยังมีข้อต่อสู้อยู่ จำเลยจึงจะนำมาขอหักกลบลบหนี้ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3365/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หนี้ที่เกิดขึ้นเมื่อรู้ถึงการมีหนี้สินล้นพ้นตัว ไม่อาจขอรับชำระหนี้ได้ตาม พ.ร.บ.ล้มละลาย
การที่ธนาคารเจ้าหนี้ให้ลูกหนี้ (จำเลย) ทำสัญญากู้เบิกเงินเกินบัญชีไปในขณะที่ลูกหนี้ยังมิได้ชำระหนี้ตามคำพิพากษาตามยอมให้แก่ธนาคารเจ้าหนี้และลูกหนี้ไม่มีทรัพย์สินอย่างหนึ่งอย่างใดที่จะพึงยึดมาชำระหนี้ได้ แม้ธนาคารเจ้าหนี้จะเชื่อถือหลักประกันของลูกหนี้ก็เป็นที่เห็นได้ว่าลำพังเฉพาะตัวของลูกหนี้ไม่อยู่ในฐานะที่จะชำระหนี้ตามสัญญากู้เงินเกินบัญชีให้แก่ธนาคารเจ้าหนี้ได้ หนี้รายนี้จึงเป็นหนี้ที่ธนาคารเจ้าหนี้ผู้ขอรับชำระหนี้ยอมให้ลูกหนี้กระทำขึ้นเมื่อธนาคารเจ้าหนี้ได้รู้ถึงการที่ลูกหนี้มีหนี้สินล้นพ้นตัว ธนาคาร เจ้าหนี้จึงไม่อาจขอรับชำระหนี้รายนี้ได้ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช 2483 มาตรา94(2)
of 145