คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
โจทก์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,033 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 873/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การถอนฎีกา: สิทธิของโจทก์ก่อนคู่ความตอบโต้
โจทก์ขอถอนฟ้องฎีกาก่อนจำเลยยื่นคำแก้ฎีกา ทำเป็นคำแถลงได้ และศาลฎีกาอนุญาตให้ถอนฎีกาได้โดยไม่ต้องฟังคู่ความอีกฝ่ายหนึ่ง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 617/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลในการแก้ไขข้อบกพร่องความสามารถของโจทก์ผู้ยังไม่บรรลุนิติภาวะในคดีอาญา
ในคดีอาญา เมื่อดำเนินการพิจารณาสืบพะยานโจทก์ได้ 1 ปาก ปรากฎว่าโจทก์มีอายุเพียง 15 ปี ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ศาลมีอำนาจสั่งกำหนดให้แก้ไขข้อบกพร่องเสียให้บริบูรณ์ได้ตามที่เห็นสมควร ทั้งนี้โดยอาศัย ป.ม.วิ.อาญา มาตรา 15 ประกอบกับ ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 56 กรณีไม่มีเหตุจะให้ศาลยกฟ้อง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 617/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลแก้ไขข้อบกพร่องโจทก์: โจทก์ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ไม่ต้องยกฟ้อง
ในคดีอาญา เมื่อดำเนินการพิจารณาสืบพยานโจทก์ได้ 1 ปาก. ปรากฏว่าโจทก์มีอายุเพียง 15 ปี ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ศาลมีอำนาจสั่งกำหนดให้แก้ไขข้อบกพร่องเสียให้บริบูรณ์ได้ตามที่เห็นสมควรทั้งนี้โดยอาศัยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15 ประกอบกับประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 56. กรณีไม่มีเหตุจะให้ศาลยกฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 516/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิฎีกาขึ้นอยู่กับคำพิพากษาศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ โจทก์ต้องรอฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ก่อนยื่นฎีกา
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง โจทก์ไม่อุทธรณ์ โจทก์จึงไม่มีสิทธิฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยตามฟ้องได้
จำเลยที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาปล่อย แต่ยังไม่ได้ฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ โจทก์ไม่มีสิทธิฎีกาสำหรับจำเลยคนนั้น
โจทก์ยื่นฎีกาก่อนวันจำเลยฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ โจทก์ไม่มีสิทธิฎีกา.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 516/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิฎีกาจำกัดเฉพาะจำเลยที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาถึงที่สุดแล้ว และโจทก์ต้องยื่นฎีกาหลังจำเลยฟังคำพิพากษา
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์ไม่อุทธรณ์ โจทก์จึงไม่มีสิทธิฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยตามฟ้องได้
จำเลยที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาปล่อย แต่ยังไม่ได้ฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ โจทก์ไม่มีสิทธิฎีกาสำหรับจำเลยคนนั้น
โจทก์ยื่นฎีกาก่อนวันจำเลยฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ โจทก์ไม่มีสิทธิฎีกา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 343/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องคดีโดยใช้ชื่อย่อของสมาคม: ศาลวินิจฉัยว่าชื่อย่อและชื่อเต็มในคำฟ้องอ้างอิงถึงโจทก์คนเดียวกัน
โจทก์ฟ้องโจทก์กล่าวในตอนต้นว่า ระหว่างสมาคมพาณิชย์จีนโดยหลวงอนุภาษภูเก็ตการเป็นนายก โจทก์ แล้วดำเนินความว่า'ข้าพเจ้าสมาคมพาณิชย์จีนโดยหลวงอนุภาษภูเก็ตการ นายกโจทก์ฯลฯ ขอยื่นฟ้องนายอิวหงีแซ่เอียบ จำเลย ฯลฯ ข้อ 1 โจทก์ได้รับอนุญาตจดทะเบียนเป็นสมาคม มีนามว่า'สมาคมพาณิชย์จีน ภูเก็ต' ดังนี้ย่อมเป็นฟ้องที่สมบูรณ์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 296/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เบิกความเท็จ: โจทก์ต้องพิสูจน์ราคาซื้อขายจริงตามฟ้อง ไม่เพียงแค่หลักฐานในเอกสาร
คดีหาว่าจำเลยเบิกความเท็จ ฟ้องตอนท้ายกล่าวว่า "ซึ่งความจริงจำเลยซื้อม้าดังกล่าวมาจากนายพานราคาเพียง 200 บาทเท่านั้น หาใช่ราคา 600 บาทดังจำเลยเบิกความไม่" เมื่อโจทก์นำสืบไม่ได้ว่า ความจริงจำเลยซื้อม้าราคา 200 บาทดังฟ้อง แต่โจทก์นำสืบเพียงว่าในต้นขั้วตั๋วพิมพ์รูปพรรณม้า ลงไว้ว่า ซื้อขายกันราคา 200 บาท เพียงเท่านี้ ยังลงโทษจำเลยไม่ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2058/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อัยยการมีอำนาจดำเนินคดีข้ามจังหวัดได้ แต่ไม่มีอำนาจเป็นโจทก์ในคดีที่เกิดในจังหวัดอื่น
อธิบดีกรมอัยยการย่อมสั่งให้บุคคลผู้มีตำแหน่งเป็นพนักงานอัยยการประจำในท้องที่จังหวัดหนึ่งไปดำเนินคดีในศาลอีกท้องที่หนึ่งได้ ตลอดจนถึงในชั้นศาลฎีกา แต่ไม่มีอำนาจสั่งให้ตำแหน่งอัยยการจังหวัดหนึ่งดำเนินคดีที่เกิดขึ้นในเขตต์จังหวัดอื่น
อัยยการผู้ลงชื่อในฟ้องฎีกามีตำแหน่งเป็นอัยยการจังหวัดกาญจนบุรี ได้ดำเนินคดีที่ศาลจังหวัดกระบี่ โดยระบุว่าพนักงานอัยยการจังหวัดกาญจนบุรีเป็นโจทก์ ดังนี้ อัยยการจังหวัดกาญจนบุรีเป็นโจทก์ฟ้องฎีกาไม่ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2017/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เอกสารหลักฐานโจทก์ แม้ไม่ได้ส่งสำเนาให้จำเลยก่อน แต่ศาลอนุญาตใช้ได้ตาม พ.ร.บ.วิธีพิจารณาความแพ่ง
เอกสารที่โจทก์ระบุอ้างว่าต้นฉบับอยู่ที่จำเลยสำเนาอยู่ที่โจทก์และได้ขอหมายเรียกจากจำเลย แต่จำเลยว่าค้นไม่พบ ในวันเบิกความโจทก์ได้ส่งสำเนาที่อยู่ที่โจทก์และจำเลยได้ซักค้านถึงเอกสารเหล่านี้แล้ว โดยไม่ได้แถลงคัดค้านอย่างใด ดังนี้ แม้โจทก์ไม่ได้ส่งสำเนาเอกสารดังกล่าวให้จำเลยก่อนพิจารณาก็อนุโลมเข้าประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 90 ข้อ 2
คดีที่โจทก์ชนะคดีไม่เต็มตามทุนทรัพย์ที่ฟ้อง ควรให้จำเลยใช้ค่าขึ้นศาลเพียงเท่าทุนทรัพย์ที่โจทก์ชนะ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 184/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิโดยครอบครองปรปักษ์ แม้การซื้อขายจะผิดกฎหมาย โจทก์นำสืบได้
โจทก์ฟ้องอ้างว่าเรือนพิพาทเป็นของโจทก์, จำเลยเป็นผู้อาศัย จำเลยเถียงว่าเรือนเป็นของจำเลย โจทก์เป็นผู้อาศัย ประเด็นจึงมีว่าเรือนเป็นของใคร โจทก์ย่อมนำสืบว่าเรือนเป็นของโจทก์เพราะครอบครองมาเกิน 10 ปีแล้วได้ โจทก์ไม่จำต้องบรรยาย ข้อเท็จจริงในฟ้องถึงการได้มาซึ่งเรือนพิพาท ก็ย่อมนำสืบเพื่อแสดงให้เห็นว่าโจทก์มีกรรมสิทธิได้ หากจำเลยเห็นว่าคำฟ้องของโจทก์ยังไม่ชัดแจ้ง จำเลยก็ชอบที่จะขอร้องต่อศาลในชั้นชี้สองสถานและให้ศาลสอบถามโจทก์ให้ได้ความชัดขึ้นตาม ป.ม.วิ.แพ่ง มาตรา 183
โจทก์ได้ซื้อเรือนพิพาทจากบิดามารดาจำเลยและโจทก์ได้ครอบครองมานานกว่า 10 ปีแล้ว แม้การซื้อขายจะขัดกับ ป.ม.แพ่งฯ มาตรา 456 และ 1299 หรือไม่ก็ตาม แต่โจทก์ได้กรรมสิทธิตาม ป.ม.แพ่งฯ มาตรา 1382 แล้ว
ข้อนำสืบของโจทก์จะหักล้างข้อสันนิษฐานซึ่งเป็นคุณแก่จำเลยหรือไม่นั้น เป็นปัญหาข้อเท็จจริง.
of 104