คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ทำร้ายร่างกาย

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,834 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1445/2514

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตนเกินสมควรแก่เหตุ: จำเลยถูกทำร้ายด้วยกลองและเท้า จึงใช้มีดแทงสวนกลับจนเสียชีวิต ศาลฎีกายืนตามอุทธรณ์
จำเลยถูกผู้ตายใช้กลองยาวตีศีรษะ แต่ไม่ถูก เพราะจำเลยหลบถอยห่างออกไปแล้ว ผู้ตายยังตามเข้าไปใช้เท้าถีบจำเลยเอาอีกการที่จำเลยใช้มีดปลายแหลมยาว 1 คืบแทงสวนไปในขณะที่ผู้ตายใช้เท้าถีบจำเลย โดยผู้ตายไม่มีอาวุธอะไร จนผู้ตายเกิดบาดแผลที่อุ้งขาขวาใต้ลูกอัณฑะลึกตัดเส้นโลหิตใหญ่ขาด ถึงแก่ความตาย ดังนี้ การกระทำของจำเลยเป็นการกระทำป้องกันเกินสมควรแก่เหตุ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1391/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อันตรายสาหัสจากการทำร้ายร่างกาย: การพิจารณาบาดแผล, ระยะเวลาพักรักษาตัว, และผลกระทบต่อการประกอบอาชีพ
แม้ตามรายงานชันสูตรบาดแผลประกอบคำเบิกความของแพทย์จะลงความเห็นว่ารักษา 20 วันหาย เมื่อปรากฏบาดแผลที่ผู้เสียหายได้รับมี 5 แห่ง บาดแผลสำคัญคือแผลถูกแทงที่หน้าท้องกว้าง 0.5 เซนติเมตร ยาว 1 เซนติเมตร ลึก 2.5 เซนติเมตร ประกอบกับคำของผู้เสียหายว่ารักษาตัวที่สถานีอนามัยและที่บ้านรวม 24 วันแผลจึงหาย ทั้งยังต้องพักรักษาตัวอยู่อีก 2 เดือน จึงทำงานได้ตามปกติ เช่นนี้ นับได้ว่าผู้เสียหายประกอบกรณียกิจตามปกติไม่ได้เกินกว่า 20 วัน เป็นอันตรายสาหัส

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1391/2514

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ บาดแผลสาหัส: การพิจารณาความรุนแรงของบาดแผลและระยะเวลาพักฟื้นเพื่อประเมินความผิดฐานทำร้ายร่างกาย
แม้ตามรายงานชันสูตรบาดแผลประกอบคำเบิกความของแพทย์จะลงความเห็นว่ารักษา 20 วันหาย เมื่อปรากฏบาดแผลที่ผู้เสียหายได้รับมี 5 แห่ง บาดแผลสำคัญคือแผลถูกแทงที่หน้าท้อง กว้าง 0.5 เซนติเมตร ยาว 1 เซนติเมตร ลึก 2.5 เซนติเมตร ประกอบกับคำของผู้เสียหายว่ารักษาตัวที่สถานีอนามัยและที่บ้านรวม 24 วันแผลจึงหาย ทั้งยังต้องพักรักษาตัวอยู่อีก 2 เดือน จึงทำงานได้ตามปกติ เช่นนี้ นับได้ว่าผู้เสียหายประกอบกรณียกิจตามปกติไม่ได้เกินกว่า 20 วัน เป็นอันตรายสาหัส

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1063-1065/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ทำร้ายร่างกายสาหัสร่วมกัน ชุลมุนต่อสู้ เจตนาทำร้าย ไม่ใช่ฆ่า
ป. กับพวกวิวาทกับ อ. กับพวก พวกของ ป. คนหนึ่งกระชากคอเสื้อ อ. แล้วอีกคนหนึ่งใช้ไม้ตี อ. พวกของ อ. จึงใช้ไม้และตะหลิวเหล็กเข้าช่วยเหลือมิให้ ป. กับพวกทำร้าย อ. ต่อไป จึงเกิดชุลมุนต่อสู้กัน ป. ฉวยได้มีดหั่นเนื้อสุกรที่วางอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุแล้ว ใช้มีดนั้นฟัน อ. ในระหว่างชุลมุนกันนั้นเป็นบาดแผลสาหัส 4 แผลกะโหลกศีรษะแตกทำให้สมองเสีย แผลที่ไหล่ขวาลึกถึงกระดูก และกระดูกปลายนิ้วก้อยขาด เช่นนี้ ป. กับพวกไม่มีเจตนาฆ่า แต่มีเจตนาเพียงทำร้าย อ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1063-1065/2514

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ทำร้ายร่างกายสาหัสจากการทะเลาะวิวาท เจตนาเพียงทำร้าย ไม่ใช่ฆ่า
ป.กับพวกวิวาทกับ อ. กับพวก พวกของ ป. คนหนึ่งกระชากคอเสื้อ อ. แล้วอีกคนหนึ่งใช้ไม้ตี อ. พวกของ อ. จึงใช้ไม้และตะหลิวเหล็กเข้าช่วยเหลือมิให้ ป. กับพวกทำร้าย อ. ต่อไป จึงเกิดชุลมุนต่อสู้กัน ป. ฉวยได้มีดหั่นเนื้อสุกรที่วางอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุแล้วใช้มีดนั้นฟัน อ. ในระหว่างชุลมุนกันนั้น เป็นบาดแผลสาหัส 4 แผลกะโหลกศีรษะแตกทำให้สมองเสีย แผลที่ไหล่ขวาลึกถึงกระดูก และกระดูกปลายนิ้วก้อยขาดเช่นนี้ ป. กับพวกไม่มีเจตนาฆ่า แต่มีเจตนาเพียงทำร้าย อ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1061/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ป้องกันเกินสมควรแก่เหตุ: การใช้มีดซามูไรทำร้ายพี่ชายหลังถูกทำร้ายก่อน
ผู้ตายซึ่งเป็นพี่ชายจำเลย ตบหน้าจำเลยก่อนแล้วตามจำเลยเข้าไปในห้องจะตบตีจำเลยอีก จำเลยจึงคว้ามีดซามูไรยาว 1 คืบทั้งด้าม แทงผู้ตายในขณะนั้น เป็นเหตุให้ผู้ตายถึงแก่ความตาย การกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันเกินสมควรแก่เหตุ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1061/2514

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ป้องกันเกินสมควรแก่เหตุ: การแทงเพื่อป้องกันตัวเมื่อถูกทำร้ายก่อน ศาลพิจารณาเหตุผลและสภาพแวดล้อม
ผู้ตายซึ่งเป็นพี่ชายของจำเลยตบหน้าจำเลยก่อน แล้วตามจำเลยเข้าไปในห้องจะตบตีจำเลยอีก จำเลยจึงคว้ามีดซามูไรยาว 1 คืบทั้งด้ามแทงผู้ตายทางด้านหน้าก่อน และเมื่อผู้ตายจะหนีออกนอกห้อง จำเลยก็แทงข้างหลัง แผลทะลุถึงหัวใจ ผู้ตายล้มลงและถึงแก่ความตายถือว่าการกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันเกินสมควรแก่เหตุ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1048-1049/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวเกินเหตุและการกระทำโดยบันดาลโทสะในคดีอาญา
จำเลยเป็นเจ้าพนักงานตำรวจออกตรวจท้องที่ไปพบพวกผู้ตายหลายคนถือไม้และท่อนเหล็กจับกลุ่มกันในเวลาวิกาล จำเลย จึงเข้าไปสอบถามพร้อมกับแจ้งว่าเป็นตำรวจ และเมื่อจำเลยเอื้อมมือจะเอาไม้หรือเหล็กจากพวกผู้ตาย พวกผู้ตายก็เข้ากลุ้มรุมตีจำเลยจนศีรษะแตก เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นดังกล่าวนี้มิใช่เป็นการที่จำเลยสมัครใจวิวาทกับผู้ตายและพวกจำเลยจึงมีสิทธิป้องกันตัวได้ แต่เมื่อจำเลยถูกผู้ตายกับพวกรุมทำร้ายจนล้มลงแล้ว จำเลยได้ชักปืนออกมา ผู้ตายกับพวกก็วิ่งหนี จำเลยจึงยิงไปทางพวกผู้ตายที่กำลังวิ่งหนี กระสุนถูกผู้ตายเข้าทางด้านหลัง 2 แผลถึงแก่ความตายทันทีห่างจากจุดที่เกิดตีกัน 19.90 เมตร เช่นนี้แสดงให้เห็นว่าภยันตรายที่จะเกิดแก่จำเลยได้ผ่านพ้นไปแล้ว การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นป้องกัน
การที่จำเลยถูกผู้ตายกับพวกเข้ากลุ้มรุมทำร้ายเอาก่อน ถือได้ว่าจำเลยได้ถูกข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม จำเลยจึงยิงผู้ข่มเหงในขณะนั้นถึงตาย เข้าลักษณะการกระทำโดยบันดาลโทสะ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 903/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาทำร้ายร่างกาย: ศาลฎีกาพิจารณาจากพฤติการณ์การยิงและการไม่มีสาเหตุโกรธเคืองเพื่อวินิจฉัยว่าจำเลยมีความผิดฐานทำร้ายร่างกาย ไม่ใช่พยายามฆ่า
จำเลยไม่มีสาเหตุโกรธเคืองกับผู้เสียหายได้ชักปืนลูกซองสั้นขึ้นยิงผู้เสียหายในระดับเอวของจำเลย ในระยะห่างเพียง 1 วาเศษ กระสุนถูกใต้ขาพับของผู้เสียหายเป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บเช่นนี้ แสดงว่าจำเลยไม่มีเจตนาฆ่า แต่มีเจตนาเพียงทำร้ายผู้เสียหายเท่านั้น เพราะหากมีเจตนาฆ่าแล้ว ย่อมมีโอกาสยิงถูกร่างกายผู้เสียหายในที่สำคัญได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 903/2513

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนายิงทำร้ายร่างกาย ไม่ใช่เจตนาฆ่า ลดโทษจากพยายามฆ่าเป็นทำร้ายร่างกาย
จำเลยไม่มีสาเหตุโกรธเคืองกับผู้เสียหายได้ชักปืนลูกซองสั้นขึ้นยิงผู้เสียหายในระดับเอวของจำเลย ในระยะห่างเพียง 1 วาเศษ กระสุนถูกใต้ขาพับของผู้เสียหายเป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บเช่นนี้ แสดงว่าจำเลยไม่มีเจตนาฆ่า แต่มีเจตนาเพียงทำร้ายผู้เสียหายเท่านั้น เพราะหากมีเจตนาฆ่าแล้ว ย่อมมีโอกาสยิงถูกร่างกายผู้เสียหายในที่สำคัญได้
of 184