พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,033 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1785/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การหลอกลวงให้มอบเงินเพื่อจัดการเรื่องอากรแสตมป์แล้วนำไปใช้ส่วนตัว จำเลยต้องคืนเงินให้โจทก์
โจทก์มอบเงินให้จำเลยไปตามที่จำเลยหลอกลวงว่าจะนำใบรับเงินที่ไม่ได้ปิดอากรแสตมป์ไปให้เจ้าพนักงานปิดอากรแสตมป์ให้บริบูรณ์ มิฉะนั้นจะมีโทษ แล้วจำเลยเอาเงินนั้นไปเป็นประโยชน์ตนเสีย โดยมิได้จัดการประการใดนั้น โจทก์เรียกเงินคืนจากจำเลยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1622/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิสูจน์ราคาซื้อขายฝิ่นในคดีฝิ่น การปรับบทลงโทษตามอัตราขั้นต่ำเมื่อโจทก์มิได้บรรยายราคาที่ชัดเจน
เมื่อฟ้องโจทก์ไม่ได้บรรยายว่าราคามูลฝิ่นที่รัฐบาลขายในท้องที่เกิดเหตุและเวลาเกิดเหตุกรัมละ 4 บาท เป็นแต่กล่าวว่ารัฐบาลจำหน่ายเวลานี้กรัมละ 4 บาท จำหน่ายแห่งใดก็ไม่ทราบ ทั้งจำเลยก็ไม่ได้ให้การรับราคาตามที่โจทก์ฟ้องโจทก์มีหน้าที่สืบให้สมแต่ไม่สืบ จึงควรปรับจำเลยตามอัตราขั้นต่ำคือ 50 บาท(อ้างฎีกาที่1037/2482และ1038/2482)
คู่ความรับกันว่า กรมสรรพสามิตมีนโยบายให้เจ้าของร้านฝิ่นมาฝิ่นออกนอกร้านได้ดังนี้ นโยบายนั้นหาลบล้างกฎหมายได้ไม่
คู่ความรับกันว่า กรมสรรพสามิตมีนโยบายให้เจ้าของร้านฝิ่นมาฝิ่นออกนอกร้านได้ดังนี้ นโยบายนั้นหาลบล้างกฎหมายได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 139/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ศาลมีอำนาจรับฟังพฤติการณ์ก่อน-หลังสัญญาประนีประนอมยอมความเพื่อค้นหาความจริงได้ โจทก์จำกัดสิทธิมิได้
ประเด็นมีว่า จำเลยได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกับโจทก์ตามที่โจทก์นำมาฟ้องหรือเปล่า การที่จะให้ได้มาซึ่งข้อเท็จจริงอันเป็นประธานแห่งประเด็น ศาลย่อมรับฟังข้อเท็จจริงแห่งพฤติการณ์ที่เป็นมาทั้งก่อนและภายหลังวันที่อ้างว่าได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันได้ เพราะเป็นข้อเท็จจริงที่เกี่ยวแก่ประเด็นโดยตรง ฉะนั้นการที่ศาลวินิจฉัยว่าจะควรเชื่อหรือไม่เชื่อพฤติการณ์ต่างๆ ระหว่างโจทก์จำเลยตั้งแต่เริ่มมีข้อพิพาทอันอ้างว่าเป็นเหตุให้เกิดสัญญาประนีประนอมยอมความและการติดต่อภายหลัง อันเป็นเหตุให้อ้างว่า สัญญาประนีประนอมยอมความนั้นได้มีการให้สัตยาบัน จึงอยู่ในดุลพินิจของศาลที่จะพึงทำได้ เพราะเป็นการค้นหาความจริงว่า สัญญาประนีประนอมยอมความนั้น ได้มีขึ้นจริงหรือไม่นั่นเอง โจทก์จะจำกัดไม่ให้ศาลรับฟังข้อเท็จจริงที่เกี่ยวกับประเด็นเพื่อวินิจฉัยข้อเท็จจริงในประเด็น หาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1188/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยกฟ้องคดีแพ่งเนื่องจากโจทก์ไม่มีพยานหลักฐานสนับสนุน แม้จะมีการดำเนินกระบวนพิจารณา
คดีแพ่ง โจทก์มีหน้าที่นำสืบก่อน ครั้นถึงวันนัดโจทก์ยื่นคำร้องขอเลื่อนอ้างว่าทนายไปกิจธุระยังไม่กลับและทั้งปรากฏว่าโจทก์ยังไม่ได้ยื่นบัญชีระบุพยานต่อศาล จำเลยคัดค้านในการเลื่อน ศาลไม่อนุญาตให้เลื่อน และพิพากษายกฟ้อง โดยถือว่าโจทก์ไม่มีพยานมาสืบ ดังนี้ไม่ใช่เป็นการทิ้งฟ้องตามมาตรา 174ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ทั้งไม่ใช่การขาดนัดพิจารณาตามมาตรา 201 คดีได้มีการดำเนินกระบวนพิจารณาหากแต่พยานหลักฐานของโจทก์ ต้องห้ามมิให้ศาลรับฟังตามมาตรา 87(2) คำฟ้องของโจทก์จึงไม่มีพยานหลักฐานสนับสนุนศาลต้องพิพากษายกฟ้อง และจะสั่งจำหน่ายคดีไม่ได้แม้จะถือว่าโจทก์ขาดนัด เมื่อจำเลยร้องขอให้ดำเนินกระบวนพิจารณาไป ศาลก็ต้องตัดสินคดีไปเช่นเดียวกัน ดังที่บัญญัติไว้ในมาตรา 201 วรรคสอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1159-1160/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าที่ไม่สมบูรณ์และการเรียกร้องค่าซ่อมแซม: โจทก์ไม่มีสิทธิเรียกร้องค่าซ่อมหากไม่มีสัญญาเช่าที่ชัดเจนกับจำเลย
การที่โจทก์เข้าไปซ่อมแซมห้อง โดยอ้างว่ามีสัญญาเช่ากับเจ้าของห้องคือจำเลย จึงเรียกร้องให้จำเลยชดใช้ค่าซ่อมแซมที่ได้จ่ายไปนั้น เมื่อข้อเท็จจริงได้ความว่า โจทก์มิได้มีสัญญากับจำเลยดังข้ออ้างที่โจทก์อาศัยเป็นหลักแห่งการเรียกร้อง ฟ้องของโจทก์ข้อนี้ย่อมตกไป.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 943/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องขัดแย้งในตัวเอง: ลักทรัพย์ vs รับของโจร โจทก์ฟ้องทั้งสองฐานไม่ได้
โจทก์ฟ้องว่า ระหว่างวันที่ 15 สิงหาคม ถึง 19 กันยายน 2490 จำเลยสมคบกันลักไม้สักหรือมิฉะนั้นตามวันเวลาดังกล่าว จำเลยรับไม้สักนั้นไว้โดยรู้ว่าเป็นของร้าย ต่อมาตำรวจค้นพบไม้สักที่จำเลยลักไปที่ข้างรั้วบ้านของจำเลย ขอให้ลงโทษ ดังนี้เป็นฟ้องที่ขัดกันอยู่ในตัว ใช้ไม่ได้ตามกฎหมาย
(อ้างฎีกา 975/2480)
(อ้างฎีกา 975/2480)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 943/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องขัดแย้งในตัว: ลักทรัพย์ vs. รับของโจร โจทก์ฟ้องได้ฐานเดียว
โจทก์ฟ้องว่า ระหว่างวันที่ 15 สิงหาคม ถึง 19 กันยายน 2490 จำเลยสมคบกันลักไม้สัก หรือมิฉะนั้นตามวันเวลาดังกล่าว จำเลยรับไม้สักนั้นไว้โดยรู้ว่าเป็นของร้าย ต่อมาตำรวจค้นพบไม้สักที่จำเลยลักไปที่ข้างรั้วบ้านของจำเลยขอให้ลงโทษ ดังนี้เป็นฟ้องที่ขัดกันอยู่ในตัว ใช้ไม่ได้ตามกฎหมาย (อ้างฎีกา 975/2480)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 939/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การมอบหมายทรัพย์อายัด: โจทก์มีสิทธิพิสูจน์การมอบหมายทรัพย์ให้จำเลยรักษา แม้จำเลยอ้างเอกสารอายัดกับผู้อื่น
ในคดียักยอกทรัพย์ต้องอายัด โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้รับมอบหมายทรัพย์ที่อายัดจากเจ้าพนักงานป่าไม้ผู้จับกุมในวันที่ 11 มกราคม 2488 แล้ว จำเลยอ้างเอกสารซึ่งพนักงานสอบสวนทำไว้ว่ายึดไม้ในวันที่ 10 มกราคม 2488 และอายัดไว้กับนายปั่น ดังนี้ยังไม่พอฟังได้เด็ดขาดว่า ในวันที่ 11 มกราคม 2488 ซึ่งโจทก์หานั้น เจ้าพนักงานจะไม่ได้มอบหมายไม้ให้จำเลยรักษา โจทก์ย่อมมีสิทธิจะนำสืบให้สมฟ้องได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 734/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไม่ใช้สิทธิถอนการยึดทรัพย์ทำให้เกิดความเสียหาย โจทก์ต้องรับผิดเอง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้โจทก์แพ้คดี และจำเลยนำยึดทรัพย์ของโจทก์ไว้ศาลอุทธรณ์ ศาลฎีกาพิพากษากลับให้โจทก์ชนะคดีโจทก์มีสิทธิที่จะร้องขอให้ถอนการยึดทรัพย์ได้ตามมาตรา 251 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
ทรัพย์ของโจทก์ตกอยู่ในมือของเจ้าพนักงานบังคับคดีโดยคำสั่งศาลเมื่อการบังคับไม่จำต้องกระทำต่อไป แต่โจทก์ไม่จัดการให้ทรัพย์นั้นกลับคืนมาสู่ความครอบครองแห่งตนทั้งที่มีสิทธิบริบูรณ์ตามกฎหมาย โจทก์จะมาอ้างว่าความเสียหายที่เกิดขึ้นในภายหลังนั้น ว่าเป็นเพราะการกระทำของจำเลยผู้นำยึดหาได้ไม่
ทรัพย์ของโจทก์ตกอยู่ในมือของเจ้าพนักงานบังคับคดีโดยคำสั่งศาลเมื่อการบังคับไม่จำต้องกระทำต่อไป แต่โจทก์ไม่จัดการให้ทรัพย์นั้นกลับคืนมาสู่ความครอบครองแห่งตนทั้งที่มีสิทธิบริบูรณ์ตามกฎหมาย โจทก์จะมาอ้างว่าความเสียหายที่เกิดขึ้นในภายหลังนั้น ว่าเป็นเพราะการกระทำของจำเลยผู้นำยึดหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 731/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หน้าที่การนำสืบพยานของโจทก์ในคดีอาญา: การพิสูจน์ความผิดฐานทำให้แหล่งน้ำสาธารณะเสียหาย
ความผิดฐานทำให้ที่ขังน้ำสำหรับสาธารณชนใช้สอยโสโครกเมื่อจำเลยให้การปฏิเสธ คงรับแต่ว่าได้วิดปลาจริง โจทก์มีหน้าที่นำสืบให้ได้ความสมฟ้องว่าจำเลยทำให้ที่ขังน้ำสำหรับสาธารณชนใช้สอยขุ่นข้นโสโครก โจทก์ไม่นำสืบสมฟ้อง จำเลยก็ยังไม่มีความผิด