พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,380 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 756/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การได้กรรมสิทธิ์โดยการครอบครองปรปักษ์ในที่ดิน ที่ดินพิพาทถูกทิ้งร้างและจำเลยครอบครองเกิน 10 ปี
ที่พิพาทเป็นที่สวนตามกฎหมายลักษณะเบ็ดเสร็จ บทที่ 42 จำเลยครอบครองที่พิพาทอย่างเป็นเจ้าของมาเกิน 10 ปี ย่อมได้กรรมสิทธิ์.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 756/2509
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินโดยการครอบครองปรปักษ์เกิน 10 ปี แม้มีชื่อเจ้าของเดิม
ที่พิพาทเป็นที่สวนตามกฎหมายลักษณะเบ็ดเสร็จ บทที่ 42 จำเลยครอบครองที่พิพาทอย่างเป็นเจ้าของมาเกิน 10 ปีย่อมได้กรรมสิทธิ์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 428/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองปรปักษ์และการเปลี่ยนแปลงฐานะจากผู้ครอบครองแทนเป็นผู้ครอบครองเพื่อตนเอง ทำให้สิทธิครอบครองเดิมสิ้นสุด
จำเลยขายฝากที่พิพาทไว้กับโจทก์ แต่ไม่ไถ่คืนภายในกำหนด จำเลยเช่าที่พิพาทจากโจทก์ จำเลยย่อมได้ชื่อว่ายึดถือครอบครองที่พิพาทในนามของโจทก์อยู่ในฐานะเป็นผู้แทนโจทก์
โจทก์ให้คนไปเก็บค่าเช่าที่พิพาทจากจำเลยในเดือนมกราคม 2505 จำเลยไม่ให้ อ้างว่าไถ่นาคืนจากโจทก์แล้ว เห็นได้ว่าจำเลยได้โต้แย้งสิทธิของโจทก์แล้ว การยึดถือครอบครองที่พิพาทได้เปลี่ยนลักษณะจากการยึดถือครอบครองแทน เป็นยึดถือครอบครองเพื่อตนเองเป็นปรปักษ์ต่อโจทก์ เข้าลักษณะแย่งการครอบครอง
โจทก์ทราบว่าจำเลยแย่งการครอบครองที่พิพาทเมื่อเดือนมกราคม 2505 โจทก์มาฟ้องจำเลยเมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2506 เป็นเวลาเกิน 1 ปีแล้ว โจทก์ย่อมหมดสิทธิที่จะฟ้องเอาคืนซึ่งการครอบครองได้ ที่พิพาทตกเป็นสิทธิของจำเลยแล้ว โจทก์ไม่มีสิทธิที่จะเรียกเอาคืนได้
จำเลยให้การต่อสู้ว่าที่พิพาทเป็นที่ดินมือเปล่าจำเลยครอบครองเกิน 1 ปีแล้ว ฟ้องของโจทก์ขาดอายุความ เช่นนี้ ถือได้ว่าจำเลยได้อ้างสิทธิครอบครองขึ้นเป็นข้อต่อสู้แล้ว แม้จะถือว่าข้อต่อสู้ของจำเลยไม่ชัดแจ้งในเรื่องแย่งการครอบครอง แต่โจทก์ก็ไม่มีสิทธิอันใดที่จะอ้างอาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาขึ้นฟ้องร้องเรียกเอาที่พิพาทคืนจากจำเลยได้ โดยสิทธิครอบครองของโจทก์ได้หลุดมือไปอยู่กับจำเลยแล้ว สิทธิจะฟ้องเอาคืนซึ่งการครอบครองจากจำเลยก็สูญเสียไปหมดแล้ว ศาลก็ชอบที่จะพิพากษายกฟ้องโจทก์เสียได้ แม้จำเลยจะมิได้กล่าวอ้างขึ้น เพราะเป็นเรื่องที่โจทก์ไม่มีอำนาจที่จะฟ้องได้โดยชอบด้วยกฎหมาย(อ้างฎีกาที่ 1646/2505).
โจทก์ให้คนไปเก็บค่าเช่าที่พิพาทจากจำเลยในเดือนมกราคม 2505 จำเลยไม่ให้ อ้างว่าไถ่นาคืนจากโจทก์แล้ว เห็นได้ว่าจำเลยได้โต้แย้งสิทธิของโจทก์แล้ว การยึดถือครอบครองที่พิพาทได้เปลี่ยนลักษณะจากการยึดถือครอบครองแทน เป็นยึดถือครอบครองเพื่อตนเองเป็นปรปักษ์ต่อโจทก์ เข้าลักษณะแย่งการครอบครอง
โจทก์ทราบว่าจำเลยแย่งการครอบครองที่พิพาทเมื่อเดือนมกราคม 2505 โจทก์มาฟ้องจำเลยเมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2506 เป็นเวลาเกิน 1 ปีแล้ว โจทก์ย่อมหมดสิทธิที่จะฟ้องเอาคืนซึ่งการครอบครองได้ ที่พิพาทตกเป็นสิทธิของจำเลยแล้ว โจทก์ไม่มีสิทธิที่จะเรียกเอาคืนได้
จำเลยให้การต่อสู้ว่าที่พิพาทเป็นที่ดินมือเปล่าจำเลยครอบครองเกิน 1 ปีแล้ว ฟ้องของโจทก์ขาดอายุความ เช่นนี้ ถือได้ว่าจำเลยได้อ้างสิทธิครอบครองขึ้นเป็นข้อต่อสู้แล้ว แม้จะถือว่าข้อต่อสู้ของจำเลยไม่ชัดแจ้งในเรื่องแย่งการครอบครอง แต่โจทก์ก็ไม่มีสิทธิอันใดที่จะอ้างอาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาขึ้นฟ้องร้องเรียกเอาที่พิพาทคืนจากจำเลยได้ โดยสิทธิครอบครองของโจทก์ได้หลุดมือไปอยู่กับจำเลยแล้ว สิทธิจะฟ้องเอาคืนซึ่งการครอบครองจากจำเลยก็สูญเสียไปหมดแล้ว ศาลก็ชอบที่จะพิพากษายกฟ้องโจทก์เสียได้ แม้จำเลยจะมิได้กล่าวอ้างขึ้น เพราะเป็นเรื่องที่โจทก์ไม่มีอำนาจที่จะฟ้องได้โดยชอบด้วยกฎหมาย(อ้างฎีกาที่ 1646/2505).
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 426-427/2509
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ที่สาธารณสมบัติของแผ่นดินไม่อาจถูกครอบครองปรปักษ์ได้
ที่พิพาทเป็นสนามบินใช้ในราชการกองทัพอากาศ มีหนังสือสำคัญสำหรับที่สาธารณสมบัติของแผ่นดิน โจทก์จะครอบครองเอาเป็นของตนโดยจะยกเอาอายุความการครอบครองขึ้นเป็นข้อต่อสู้กับแผ่นดินมิได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 280/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองปรปักษ์: ทายาทต้องพิสูจน์การเช่าหากจำเลยอ้างซื้อขายและครอบครองนานกว่า
ที่พิพาทมีโฉนด โจทก์อ้างว่าที่พิพาทเป็นมรดกตกได้แก่โจทก์ จำเลยอ้างว่าบิดามารดาโจทก์ขายที่พิพาทให้บิดามารดาจำเลยโดยมิได้มีการแก้ทะเบียนกัน ข้อเท็จจริงรับกันว่า บิดามารดาจำเลยและจำเลยได้ครอบครองที่พิพาทมา 40 ปีแล้ว จำเลยยื่นคำร้องขอให้ศาลแสดงว่าที่เป็นกรรมสิทธิ์ของจำเลย ศาลได้สั่งแสดงตามคำขอของจำเลยแล้ว เป็นหน้าที่ของฝ่ายโจทก์ซึ่งเป็นทายาทเดิมจะต้องนำสืบแสดงว่าฝ่ายจำเลยได้ทำนาพิพาทโดยเช่าจากฝ่ายโจทก์ดังที่โจทก์อ้าง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 280/2509
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ภาระการพิสูจน์ในคดีครอบครองปรปักษ์ กรณีเจ้าของเดิมอ้างมรดก vs. ผู้ครอบครองอ้างซื้อขาย
ที่พิพาทมีโฉนด โจทก์อ้างว่าที่พิพาทเป็นมรดกตกได้แก่โจทก์จำเลยอ้างว่าบิดามารดาโจทก์ขายที่พิพาทให้บิดามารดาจำเลยโดยมิได้มีการแก้ทะเบียนกัน ข้อเท็จจริงรับกันว่าบิดามารดาจำเลยและจำเลยได้ครอบครองที่พิพาทมา 40 ปี แล้ว จำเลยยื่นคำร้องขอให้ศาลแสดงว่าที่เป็นกรรมสิทธิ์ของจำเลย ศาลได้สั่งแสดงตามคำขอของจำเลยแล้วเป็นหน้าที่ของฝ่ายโจทก์ซึ่งเป็นทายาทเดิมจะต้องนำสืบแสดงว่าฝ่ายจำเลยได้ทำนาพิพาทโดยเช่าจากฝ่ายโจทก์ดังที่โจทก์อ้าง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1647/2509
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิ์โดยการครอบครองปรปักษ์และการรับรองเอกสารมหาชน
บัญชีบันทึกคำร้องทุกข์ของประชาชนและคำเปรียบเทียบของพนักงานผู้มีหน้าที่เป็นหลักฐานเก็บไว้ที่อำเภอ เป็นเอกสารมหาชน เมื่ออำเภอได้ส่งสำเนาเอกสารซึ่งมีพนักงานเจ้าหน้าที่รับรองถูกต้องไปยังศาลตามที่ถูกอ้าง ก็ต้องสันนิษฐานไว้ก่อนว่าสำเนาเอกสารที่ส่งไปนั้นเป็นของแท้จริงและถูกต้อง ไม่จำเป็นต้องอ้างเจ้าหน้าที่ที่รับรองสำเนานั้นมาเป็นพยานเบิกความรับรองอีก
เจ้าของที่ดินเดิมกับพวกได้ครอบครองที่พิพาทซึ่งเป็นที่ข้างเคียงมาโดยความสงบและเปิดเผยอย่างเป็นเจ้าของติดต่อกันมาเกินกว่า 10 ปี จึงได้กรรมสิทธิ์โดยทางครอบครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382 จำเลยได้รับโอนที่ดินมารวมทั้งที่พิพาทจากผู้ครอบครองโดยสุจริตและเสียค่าตอบแทน และได้ครอบครองที่พิพาทสืบต่อมาจากผู้ครอบครอง จึงยกอายุความครอบครองขึ้นยันโจทก์ผู้เป็นเจ้าของที่พิพาทได้
เจ้าของที่ดินเดิมกับพวกได้ครอบครองที่พิพาทซึ่งเป็นที่ข้างเคียงมาโดยความสงบและเปิดเผยอย่างเป็นเจ้าของติดต่อกันมาเกินกว่า 10 ปี จึงได้กรรมสิทธิ์โดยทางครอบครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382 จำเลยได้รับโอนที่ดินมารวมทั้งที่พิพาทจากผู้ครอบครองโดยสุจริตและเสียค่าตอบแทน และได้ครอบครองที่พิพาทสืบต่อมาจากผู้ครอบครอง จึงยกอายุความครอบครองขึ้นยันโจทก์ผู้เป็นเจ้าของที่พิพาทได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1634/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินโดยการครอบครองปรปักษ์หลังทำสัญญาซื้อขาย
โจทก์เข้าครอบครองที่ดินมีโฉนดโดยได้ทำสัญญาซื้อขายเป็นหนังสือกับเจ้าของร่วมและได้รับโฉนดไว้ และได้ครอบครองต่อมาเกิน 10 ปี ด้วยเจตนาเป็นเจ้าของโดยสงบและเปิดเผย โจทก์ย่อมได้กรรมสิทธิ์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1634/2509
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินโดยการครอบครองปรปักษ์ตามมาตรา 1382 แม้มีการซื้อขายที่ไม่จดทะเบียน
โจทก์เข้าครอบครองที่ดินมีโฉนดโดยได้ทำสัญญาซื้อขายเป็นหนังสือกับเจ้าของร่วมและได้รับโฉนดไว้ และได้ครอบครองต่อมาเกิน 10 ปี ด้วยเจตนาเป็นเจ้าของโดยสงบและเปิดเผย โจทก์ย่อมได้กรรมสิทธิ์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1463/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองปรปักษ์และการฟ้องคืนการครอบครอง: การเปลี่ยนแปลงลักษณะการยึดถือและอายุความ
ที่ดินของโจทก์ไม่มีหนังสือสำคัญสำหรับที่ จำเลยอาศัยโจทก์ทำนา เมื่อจะเปลี่ยนลักษณะแห่งการยึดถือครอบครอง ต้องบอกกล่าวหรือแสดงโดยชัดแจ้งให้โจทก์ทราบว่าไม่มีเจตนาจะยึดถือครอบครองแทนต่อไป ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1381 การที่จำเลยเพิ่งแสดงออกให้โจทก์เห็นว่าจำเลยครอบครองเป็นปรปักษ์ต่อโจทก์เริ่มตั้งแต่จำเลยยื่นคำให้การต่อสู้คดีแพ่งเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2503 ว่า ที่พิพาทเป็นของจำเลย โจทก์ฟ้องคดีเพื่อเอาคืนซึ่งการครอบครองเมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2504 คดีไม่ขาดอายุความ
จำเลยฎีกาอ้างขึ้นมาลอย ๆ ว่า โจทก์เป็นคนต่างด้าว กฎหมายห้ามมิให้มีกรรมสิทธิ์ในที่ดิน ซึ่งตามสำนวนไม่ปรากฏ ฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้น
จำเลยฎีกาอ้างขึ้นมาลอย ๆ ว่า โจทก์เป็นคนต่างด้าว กฎหมายห้ามมิให้มีกรรมสิทธิ์ในที่ดิน ซึ่งตามสำนวนไม่ปรากฏ ฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้น