คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
บังคับคดี

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,691 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2417/2537

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การชำระหนี้ด้วยตั๋วสัญญาใช้เงินและการบังคับคดีเมื่อผิดนัดชำระ หนี้ยังไม่ระงับ ดอกเบี้ยยังคงคิดได้
จำเลยออกตั๋วสัญญาใช้เงินเพื่อชำระหนี้ตามคำพิพากษาตามยอมแก่โจทก์ จนโจทก์ยอมถอนการยึดที่ดินและสิ่งปลูกสร้างให้ ต่อมาจำเลยและบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ ช. ผู้อาวัล มิได้ชำระเงินตามกำหนดเวลาที่ระบุในตั๋วสัญญาใช้เงิน หนี้ตามคำพิพากษาที่จำเลยชำระด้วยตั๋วสัญญาใช้เงินดังกล่าวจึงยังไม่ระงับลง โจทก์มีสิทธิคิดดอกเบี้ยจากหนี้ดังกล่าวต่อไปจนถึงวันที่ได้รับชำระหนี้ครบถ้วนและดอกเบี้ยดังกล่าวย่อมเป็นส่วนหนึ่งของหนี้ที่จะต้องชำระในคดีนี้ด้วย มิใช่หนี้ที่เกิดขึ้นใหม่การที่โจทก์นำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดทรัพย์ของจำเลยเพื่อบังคับคดีอีก จึงเป็นการบังคับคดีโดยชอบ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2387/2537 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิจำนองย่อมตามติดทรัพย์ แม้มีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้ว เจ้าหนี้จำนองยังบังคับคดีได้
ผู้ร้องทั้งสี่ยื่นคำร้องขอให้งดการขายทอดตลาดที่ดินของจำเลยทั้งสามจำนวน 3 แปลง ที่โจทก์ในฐานะเจ้าหนี้จำนองตามคำพิพากษาได้ดำเนินการบังคับคดีไว้แล้ว แม้ต่อมาคดีของผู้ร้องทั้งสี่จะถึงที่สุดตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้นที่พิพากษาให้จำเลยทั้งสามกับพวกจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินดังกล่าวพร้อมสิ่งปลูกสร้างอันเป็นทรัพย์ที่จำเลยทั้งสามจำนองไว้แก่โจทก์ให้แก่ผู้ร้องทั้งสี่ก็ตาม แต่โจทก์ก็ยังคงมีสิทธิบังคับคดีเอาแก่ทรัพย์จำนองนั้นได้ เพราะสิทธิจำนองย่อมตกติดอยู่กับตัวทรัพย์ดังนั้น การงดการบังคับคดีไว้ตามคำร้องของผู้ร้องทั้งสี่จึงไม่เป็นประโยชน์แก่ฝ่ายใดอีกทั้งผู้ร้องทั้งสี่ก็สามารถที่จะใช้สิทธิตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นชำระหนี้ไถ่ถอนจำนองได้อยู่แล้ว แต่ผู้ร้องทั้งสี่หาได้ใช้สิทธิดังกล่าวไม่ กรณีจึงไม่มีเหตุที่จะให้งดการบังคับคดีไว้ก่อนจนกว่าคดีของผู้ร้องทั้งสี่และจำเลยทั้งสามกับพวกจะถึงที่สุด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2387/2537 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิจำนองมีลำดับก่อนสิทธิอื่นแม้มีคดีซื้อขายทรัพย์สินที่จำนองค้างอยู่ การงดบังคับคดีไม่เป็นประโยชน์
โจทก์ในฐานะเจ้าหนี้จำนองตามคำพิพากษาของจำเลยได้ยึดที่ดินของจำเลยไว้ขายทอดตลาดแล้ว ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้งดการขายทอดตลาดไว้จนกว่าคดีจะถึงที่สุดโดยอ้างว่าผู้ร้องเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นที่พิพากษาให้จำเลยจดทะเบียนโอนที่ดินดังกล่าวให้แก่ผู้ร้องแต่คดียังไม่ถึงที่สุดเพราะจำเลยอุทธรณ์อยู่ กรณีเช่นนี้แม้หากต่อมาคดีของผู้ร้องจะถึงที่สุดก็ตาม โจทก์ก็ยังคงมีสิทธิบังคับคดีเอาแก่ทรัพย์จำนองนั้นได้ เพราะสิทธิจำนองย่อมตกติดอยู่กับตัวทรัพย์ ดังนั้นการงดการบังคับคดีไว้ตามคำร้องของผู้ร้องจึงไม่เป็นประโยชน์แก่ฝ่ายใดอีกทั้งผู้ร้องก็สามารถที่จะใช้สิทธิตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นชำระหนี้ไถ่ถอนจำนองได้อยู่แล้ว แต่ผู้ร้องหาได้ใช้สิทธิดังกล่าวไม่ กรณีจึงไม่มีเหตุที่จะให้งดการบังคับคดีไว้ก่อนจนกว่าคดีของผู้ร้องและจำเลยจะถึงที่สุด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2387/2537

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิจำนองย่อมติดไปกับทรัพย์ แม้มีคดีโอนกรรมสิทธิ์ค้างอยู่ การงดบังคับคดีไม่มีประโยชน์
ผู้ร้องทั้งสี่ยื่นคำร้องขอให้งดการขายทอดตลาดที่ดินของจำเลยทั้งสามจำนวน 3 แปลง ที่โจทก์ในฐานะเจ้าหนี้จำนองตามคำพิพากษาได้ดำเนินการบังคับคดีไว้แล้ว แม้ต่อมาคดีของผู้ร้องทั้งสี่จะถึงที่สุดตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้นที่พิพากษาให้จำเลยทั้งสามกับพวกจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินดังกล่าวพร้อมสิ่งปลูกสร้างอันเป็นทรัพย์ที่จำเลยทั้งสามจำนองไว้แก่โจทก์ให้แก่ผู้ร้องทั้งสี่ก็ตาม แต่โจทก์ก็ยังคงมีสิทธิบังคับคดีเอาแก่ทรัพย์จำนองนั้นได้ เพราะสิทธิจำนองย่อมตกติดอยู่กับตัวทรัพย์ดังนั้นการงดการบังคับคดีไว้ตามคำร้องของผู้ร้องทั้งสี่จึงไม่เป็นประโยชน์แก่ฝ่ายใดอีกทั้งผู้ร้องทั้งสี่ก็สามารถที่จะใช้สิทธิตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นชำระหนี้ไถ่ถอนจำนองได้อยู่แล้ว แต่ผู้ร้องทั้งสี่หาได้ใช้สิทธิดังกล่าวไม่ กรณีจึงไม่มีเหตุที่จะให้งดการบังคับคดีไว้ก่อนจนกว่าคดีของผู้ร้องทั้งสี่และจำเลยทั้งสามกับพวกจะถึงที่สุด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2296/2537 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เรือนหอเป็นสินสอด: การบังคับคดีกับทรัพย์สินที่เป็นสินสอดต้องตกเป็นของผู้ร้อง
มารดาโจทก์และ ห. เป็นผู้สู่ขอบุตรสาวของผู้ร้องให้แต่งงานกับจำเลย ผู้ร้องจึงเรียกทองคำและเรือนหอเป็นค่าสินสอด โจทก์รับเป็นผู้จัดสร้างเรือนหอให้แก่จำเลยและบุตรสาวของผู้ร้อง โดยต่อเติมเรือนหอออกไปจากบ้านของผู้ร้องเพื่อให้จำเลยและบุตรสาวของผู้ร้องใช้อยู่อาศัยหลังแต่งงาน ซึ่งตามประเพณีเรือนหอนั้นสร้างให้เพื่อตอบแทนบิดามารดาฝ่ายหญิงที่ให้บุตรสาวแต่งงาน เรือนหอจะสร้างตรงไหนอย่างไรขึ้นอยู่กับบิดามารดาของฝ่ายหญิง เรือนหอจึงเป็นสินสอดที่ฝ่ายจำเลยซึ่งเป็นเจ้าบ่าวมอบแก่ผู้ร้องซึ่งเป็นบิดามารดาเจ้าสาว เรือนหอย่อมตกเป็นของผู้ร้อง ผู้ร้องขอให้ปล่อยเรือนหอที่โจทก์ยึดไว้ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2296/2537

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เรือนหอเป็นสินสอด: สิทธิในทรัพย์สินจากการแต่งงานและการบังคับคดี
บ้านพิพาทต่อเติมออกไปจากบ้านผู้ร้อง เพื่อใช้เป็นเรือนหอระหว่างจำเลยกับบุตรของผู้ร้อง โดยใช้เลขที่บ้านเดียวกัน และสำเนาทะเบียนบ้านระบุว่าเป็นของผู้ร้อง และพยานโจทก์เบิกความรับข้อเท็จจริงว่าตามประเพณีเรือนหอนั้น สร้างให้เพื่อตอบแทนที่บิดามารดาฝ่ายหญิงยอมให้บุตรสาวแต่งงานดังนั้นเรือนหอส่วนที่จำเลยและบุตรสาวของผู้ร้องใช้อยู่อาศัยหลังแต่งงานย่อมตกเป็นของผู้ร้องเพราะมีลักษณะเป็นสินสอดซึ่งตกได้แก่ผู้ร้องตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1437 มิได้เป็นทรัพย์ของจำเลยที่โจทก์จะยึดมาบังคับคดีได้ ผู้ร้องจึงขอให้ปล่อยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 229/2537

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ จำนองสินสมรส: สิทธิเรียกร้องเงินจากการบังคับคดีขึ้นอยู่กับการที่ผู้รับจำนองไม่ทราบเจตนาเจ้าของร่วม
การที่ผู้ร้องอ้างว่ามีส่วนเป็นเจ้าของทรัพย์พิพาทอยู่ครึ่งหนึ่งและไม่ได้ยินยอมให้นำทรัพย์พิพาทส่วนของผู้ร้องเข้าร่วมจำนองด้วยนั้น ไม่ปรากฏจากทางนำสืบของผู้ร้องว่า โจทก์ผู้รับจำนองได้ทราบเช่นนั้นไม่ การจำนองจึงสมบูรณ์และมีผลผูกพันทรัพย์จำนองทั้งหมดทุกส่วน เมื่อโจทก์ฟ้องบังคับจำนองและศาลพิพากษาให้บังคับตามสัญญาจำนองได้แล้วเช่นนี้ โจทก์ย่อมมีสิทธิที่จะบังคับคดีให้เป็นไปตามคำพิพากษาได้ ส่วนการที่จำเลยนำทรัพย์ส่วนของผู้ร้องเข้าร่วมจำนองโดยไม่ได้รับความยินยอมของผู้ร้องนั้น หากเป็นเหตุให้ผู้ร้องได้รับความเสียหายอย่างไร ผู้ร้องก็ชอบที่จะไปว่ากล่าวเอาแก่จำเลยเป็นอีกคดีเรื่องหนึ่งต่างหากจะมาร้องขอกันส่วนให้การบังคับคดีมีผลผิดไปจากคำพิพากษาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2227/2537 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิการเช่าเฉพาะตัวไม่อยู่ในความรับผิดบังคับคดี แม้มีการยึดและประเมินราคาแล้ว ผู้ยึดต้องเสียค่าธรรมเนียม
สิทธิการเช่าตึกแถวที่โจทก์นำยึดเพื่อขายทอดตลาด เป็นสิทธิที่จำเลยได้มาจากสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ผู้ให้เช่าเมื่อผู้ให้เช่าไม่อนุญาตให้นำสิทธิการเช่าตึกแถวออกขายทอดตลาดเพราะประสงค์จะนำมาหาประโยชน์ด้วยตนเอง สิทธิการเช่าดังกล่าวจึงเป็นสิทธิเฉพาะตัวและเมื่อไม่มีข้อตกลงให้จำเลยโอนสิทธิการเช่าได้ สิทธิการเช่ารายนี้จึงเป็นทรัพย์สินที่โอนกันไม่ได้ตามกฎหมายไม่อยู่ในความรับผิดแห่งการบังคับคดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 285(4) โจทก์จึงไม่มีสิทธินำยึดออกขายทอดตลาดได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อโจทก์นำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดสิทธิการเช่าตึกแถวแล้วเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ประเมินราคาไว้จึงเป็นทรัพย์สินที่มีราคาอยู่ในตัว แม้จะไม่อยู่ในความรับผิดแห่งการบังคับคดีตามกฎหมายโจทก์ผู้นำยึดจึงต้องเสียค่าธรรมเนียมเจ้าพนักงานบังคับคดีด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2227/2537

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิการเช่าเฉพาะตัว ไม่อาจบังคับคดีได้ และต้องเสียค่าธรรมเนียมการยึด
สิทธิการเช่าตึกแถวระหว่างสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์กับจำเลยเป็นสิทธิเฉพาะตัว และไม่มีข้อตกลงให้จำเลยโอนสิทธิการเช่าได้จึงเป็นทรัพย์สินที่โอนกันไม่ได้ตามกฎหมาย ไม่อยู่ในความรับผิดแห่งการบังคับคดี ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 285(4) โจทก์จึงไม่มีสิทธินำยึดออกขายทอดตลาดเอาเงินมาชำระหนี้โจทก์ได้ เมื่อโจทก์นำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดสิทธิการเช่าตึกแถวแล้ว เจ้าพนักงานบังคับคดีได้ประเมินราคาไว้ จึงเป็นทรัพย์สินที่มีราคาอยู่ในตัวแต่ไม่อยู่ในความรับผิดแห่งการบังคับคดีตามกฎหมายโจทก์ผู้นำยึดจึงต้องเสียค่าธรรมเนียมเจ้าพนักงานบังคับคดี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2211/2537 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับคดี: การขานราคาและการให้โอกาสผู้เข้าสู้ราคา ความถูกต้องของการดำเนินการ
ระเบียบกระทรวงยุติธรรมว่าด้วยการบังคับคดีของเจ้าพนักงาน-บังคับคดี พ.ศ. 2522 ข้อ 83 ที่กำหนดให้ผู้ขายทอดตลาดร้องขานจำนวนเงินที่มีผู้สู้ราคาระหว่างการนับนั้น นอกจากเพื่อให้เป็นที่ชัดเจนแก่ผู้เข้าสู้ราคาคนอื่นเพื่อไตร่ตรองก่อนตัดสินใจว่าจะสู้ราคาขึ้นไปอีกหรือไม่แล้ว ยังมีเจตนารมณ์เพื่อให้โอกาสแก่ผู้เข้าสู้ราคารายอื่น ซึ่งมิได้อยู่ร่วมในการประมูลสู้ราคามาแต่ต้นแต่เพิ่งมาถึงได้ทราบราคาที่มีผู้สู้ราคาไว้แล้ว เพื่อจะได้ประกอบการตัดสินใจว่าสมควรสู้ราคาขึ้นไปอีกหรือไม่ เมื่อข้อเท็จจริงได้ความว่าผู้ร้องอยู่ร่วมเข้าสู้ราคามาแต่ต้น ผู้ร้องย่อมทราบดีอยู่แล้วว่าผู้คัดค้านได้เสนอราคามาถึงเท่าใด และอาจตัดสินใจได้ว่าจะสู้ราคาขึ้นไปอีกหรือไม่ ดังนั้น แม้ข้อเท็จจริงจะฟังได้ว่าระหว่างการนับ 1 ถึง 3 แต่ละช่วงเจ้าพนักงานบังคับคดีไม่ได้ขานจำนวนเงินที่มีผู้สู้ราคาครั้งที่หนึ่งและครั้งที่สอง 3 - 4 หนตามนัยแห่งระเบียบดังกล่าว ก็หามีผลทำให้ผู้ร้องไม่มีโอกาสเสนอราคาเพิ่มสูงขึ้นดังที่ผู้ร้องอ้าง พฤติการณ์ฟังไม่ได้ว่า เจ้าพนักงานบังคับคดีได้ดำเนินการบังคับคดีฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติแห่งลักษณะการบังคับคดีตามคำพิพากษาหรือคำสั่งดังที่บัญญัติไว้ใน ป.วิ.พ.มาตรา 296 วรรคสอง ที่จะขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาดได้
of 270