พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,913 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4245/2534 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ในการตรวจคำขอรับชำระหนี้และการไม่มีผลผูกพันทางกฎหมายของความเห็น
คำสั่งเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ที่ไม่อนุญาตให้ผู้ร้องเลื่อนการนำพยานมาให้สอบสวนและยกคำร้องขออนุญาตนำพยานหลักฐานมาให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์สอบสวนใหม่ในชั้นตรวจคำขอรับชำระหนี้ตาม พ.ร.บ. ล้มละลายฯ มาตรา 105 ลำพังความเห็นของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์หามีผลบังคับไม่ ศาลอาจวินิจฉัยยกหรือมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น กรณีไม่เป็นการกระทำหรือคำวินิจฉัยที่ทำให้ผู้ร้องได้รับความเสียหายตามมาตรา 146 ดังนี้ผู้ร้องจึงไม่มีสิทธิยื่นคำร้องให้ศาลสั่งกลับคำวินิจฉัยของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4245/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำสั่งเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ในชั้นตรวจคำขอรับชำระหนี้ ไม่ถือเป็นคำวินิจฉัยที่ทำให้เสียหาย
ในชั้นการตรวจคำขอรับชำระหนี้ เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มีอำนาจสอบสวนเรื่องหนี้สินแล้วทำความเห็นส่งสำนวนต่อศาล การที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มีคำสั่งไม่อนุญาตให้เลื่อนการนำพยานมาให้สอบสวนและมีคำสั่งยกคำร้องที่ขออนุญาตนำพยานหลักฐานมาให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์สอบสวนใหม่ เป็นการกระทำในขั้นตอนของการสอบสวนตรวจคำขอรับชำระหนี้เท่านั้น และยังไม่เป็นการแน่นอนว่าเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จะทำความเห็นควรให้ยกคำขอรับชำระหนี้นั้นหรือไม่ต่อมาหากเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ทำความเห็นควรอนุญาตหรือให้ยกคำขอรับชำระหนี้ด้วยเหตุใดก็ตาม ลำพังความเห็นดังกล่าวก็หามีผลบังคับแต่อย่างใดไม่ ศาลอาจวินิจฉัยยกหรือมีคำสั่งเป็นอย่างอื่นได้ คำสั่งของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ดังกล่าวข้างต้นจึงยังไม่เป็นการกระทำหรือเป็นคำวินิจฉัยที่ทำให้ผู้ร้องได้รับความเสียหาย ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 146.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4118/2534 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผลผูกพันของคำพิพากษาถึงที่สุดในคดีล้มละลาย: จำเลยไม่อาจปฏิเสธหนี้ที่ศาลเคยตัดสินแล้ว
ศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำเลยที่ 2 ชำระหนี้ให้โจทก์ คำพิพากษาดังกล่าวย่อมผูกพันจำเลยที่ 2 เมื่อโจทก์นำหนี้ตาม คำพิพากษาดังกล่าวมาฟ้องจำเลยที่ 2 เป็นคดีล้มละลายจำเลยที่ 2 จะโต้เถียงว่าไม่ได้เป็นหนี้ตามคำพิพากษาหรือเป็นหนี้ที่ไม่ชอบ ด้วยกฎหมายหาได้ไม่.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3964/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความตั๋วสัญญาใช้เงินและการล้มละลาย: การนับอายุความเริ่มเมื่อทวงถาม หากพ้น 3 ปี ขาดอายุความ
สิทธิเรียกร้องตามตั๋วสัญญาใช้เงินที่มีกำหนดใช้เงินเมื่อทวงถาม เริ่มนับตั้งแต่เมื่อเจ้าหนี้ทวงถาม เจ้าหนี้มาขอรับชำระหนี้เมื่อพ้นกำหนด 3 ปี นับแต่วันทวงถามซึ่งตั๋วสัญญาใช้เงินถึงกำหนดจึงขาดอายุความตาม ป.พ.พ. มาตรา 1001และต้องห้ามมิให้ขอรับชำระหนี้ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483มาตรา 94(1) ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการเกี่ยวกับการกู้ยืมเงินจากประชาชน การชำระคืน วงเงินขั้นต่ำและการกำหนดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ยืมหรือเงินให้กู้ยืมของบริษัทเครดิตฟองซิเอร์ ฉบับลงวันที่ 14 กรกฎาคม 2524 ซึ่งออกตามความในมาตรา 54(7) แห่งพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจเงินทุนธุรกิจหลักทรัพย์ และธุรกิจเครดิตฟองซิเอร์ พ.ศ. 2522 ที่กำหนดให้บริษัทเครดิตฟองซิเอร์ออกเอกสารการกู้ยืมเงินที่มีกำหนดเวลาจ่ายคืนไม่ต่ำกว่าสามปีให้แก่ผู้ให้กู้ และต้องมีข้อกำหนดไม่ให้ไถ่ถอนก่อนกำหนดเวลาไว้ด้วยนั้น เป็นข้อกำหนดให้บริษัทเครดิตฟองซิเอร์ต้องปฏิบัติเกี่ยวกับการกู้ยืมเงินจากประชาชนโดยเฉพาะ หาได้บังคับในการกู้ยืมเงินจากบริษัทเครดิตฟองซิเอร์ด้วยกันโดยมีการออกตั๋วสัญญาใช้เงินไม่.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3961/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การคัดค้านการขายทอดตลาดในคดีล้มละลาย ต้องยื่นต่อศาลภายใน 14 วันนับแต่วันทราบการขายทอดตลาด ไม่ต้องยื่นต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ก่อน
จำเลยคัดค้านการกระทำคือการขายทอดตลาดของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ซึ่งต้องคัดค้านต่อศาลภายใน 14 วัน นับแต่วันทราบการกระทำการขายทอดตลาดตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483มาตรา 146 กรณีนี้หามีกฎหมายกำหนดให้จำเลยต้องยื่นคำร้องต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ให้ยกเลิกการขายทอดตลาดของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เองก่อนไม่ ฉะนั้น แม้จำเลยจะได้ยื่นคำร้องดังกล่าวเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มีคำสั่งให้ยกคำร้อง ก็ไม่ทำให้ระยะเวลาที่จำเลยจะต้องคัดค้านการขายทอดตลาดของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ต่อศาลขยายไปเป็น 14 วัน นับแต่วันที่ได้ทราบคำสั่งของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3960/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การคัดค้านคำสั่งเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ที่ไม่รับคำขอรับชำระหนี้ ต้องยื่นภายใน 14 วันนับแต่วันที่ทราบคำสั่ง
คำสั่งไม่รับคำขอรับชำระหนี้ของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 91 เป็นการกระทำหรือคำวินิจฉัยของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ที่กฎหมายให้อำนาจไว้มิใช่เพียงความเห็นที่เสนอต่อศาลเพื่อพิจารณาสั่งเท่านั้น ผู้ร้องซึ่งได้รับความเสียหายชอบที่จะยื่นคำขอโดยทำเป็นคำร้องคัดค้านคำสั่งดังกล่าวต่อศาลภายใน 14 วัน นับแต่วันที่ได้ทราบการกระทำหรือคำวินิจฉัยนั้นตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 146.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3959/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขอประนอมหนี้ก่อนล้มละลาย: เจตนารมณ์ของกฎหมายคือให้มีได้ครั้งเดียว เพื่อให้คดีล้มละลายดำเนินไปได้โดยรวดเร็ว
ตาม พ.ร.บ. ล้มละลาย มาตรา 45 และมาตรา 61 มีเจตนารมณ์ ให้ขอประนอมหนี้ก่อนล้มละลายได้เพียงครั้งเดียว.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3958/2534 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความหนี้ตามคำพิพากษาตามยอมและการขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลาย
หนี้ตามคำพิพากษาตามยอมเป็นสิทธิเรียกร้องอันตั้งหลักฐานขึ้นโดยคำพิพากษาชั้นที่สุดของศาลมีอายุความ 10 ปีตามป.พ.พ. มาตรา 168 ลูกหนี้ผิดนัดไม่ชำระหนี้ตามข้อตกลงซึ่งถือว่าผิดนัดชำระหนี้ทั้งหมด อายุความเริ่มนับแต่ขณะที่อาจบังคับสิทธิเรียกร้องนั้นได้เป็นต้นไปตามมาตรา 169 เจ้าหนี้มายื่นคำขอรับชำระหนี้เป็นเวลาเกิน 10 ปีแล้ว หนี้ตามคำพิพากษาตามยอมดังกล่าวจึงถือว่าเป็นหนี้ที่จะฟ้องร้องให้บังคับคดีไม่ได้ตาม พ.ร.บ.ล้มละลายฯ มาตรา 94(1) เจ้าหนี้จึงไม่อาจขอรับชำระหนี้ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3958/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความหนี้ตามคำพิพากษาตามยอมในคดีล้มละลาย: การนับอายุความและการชำระหนี้
หนี้จำนวนแรกศาลพิพากษาตามยอมให้ลูกหนี้กับ ท. และ ล.ชำระเงินแก่เจ้าหนี้พร้อมดอกเบี้ย โดยผ่อนชำระเป็นรายเดือนเริ่มตั้งแต่วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2521 เป็นต้นไป เมื่อ ท.ชำระเงินจำนวน 107,000 บาท พร้อมดอกเบี้ย และ ล. ชำระเงินจำนวน313,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยแล้วให้ไถ่ถอนจำนองที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างที่ ท. และ ล. จำนองไว้ เป็นมูลหนี้อันเป็นสิทธิเรียกร้อง อันตั้งฐานขึ้นโดยคำพิพากษาถึงที่สุดของศาลจึงมีอายุความ 10 ปี หลังจากศาลมีคำพิพากษาแล้วลูกหนี้ไม่ชำระหนี้แก่เจ้าหนี้ อายุความย่อมเริ่มนับตั้งแต่วันที่อาจบังคับสิทธิเรียกร้องได้ คือวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2521 เมื่อนับถึงวันที่ 12 เมษายน 2531ที่เจ้าหนี้ยื่นคำขอรับชำระหนี้เป็นระยะเวลาเกิน 10 ปีแล้วจึงขาดอายุความ การที่ ท. และ ล. ลูกหนี้ร่วมชำระหนี้แก่โจทก์ในวันที่ 15 มีนาคม 2521 และ 19 มิถุนายน 2521 ตามลำดับ เป็นการไถ่ถอนจำนองตามสิทธิที่ระบุไว้ในคำพิพากษา ไม่เกี่ยวกับการชำระหนี้ในส่วนของลูกหนี้ ไม่ทำให้อายุความสะดุดหยุดลง หนี้จำนองที่สอง ศาลพิพากษาตามยอมให้ลูกหนี้กับพวกชำระหนี้แก่เจ้าหนี้โดยผ่อนชำระเป็นรายเดือน ทุกวันที่ 15 ของเดือนเริ่มตั้งแต่วันที่ 15 มกราคม 2521 เป็นต้นไป หลังจากศาลพิพากษาแล้วมีการผ่อนชำระแก่เจ้าหนี้ 3 งวด แล้วไม่ชำระอีก อายุความเริ่มนับเมื่อผิดนัดงวดที่ 4 คือตั้งแต่วันที่ 16 เมษายน 2521เมื่อนับถึงวันที่ 12 เมษายน 2531 ที่เจ้าหนี้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ยังอยู่ในระยะเวลา 10 ปี หนี้จำนวนหลังจึงยังไม่ขาดอายุความ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3957/2534 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลในการพิจารณาความถูกต้องของหนี้ในคดีล้มละลาย และหน้าที่นำสืบของคู่ความ
พ.ร.บ.ล้มละลายฯ มาตรา 119 กำหนดให้ศาลเป็นผู้พิจารณาว่าสิทธิเรียกร้องที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จะเรียกร้องนั้นเป็นสิทธิเรียกร้องของลูกหนี้หรือไม่ เมื่อผู้ร้องปฏิเสธว่ามิได้เป็นหนี้ลูกหนี้ ผู้ร้องมีหน้าที่นำสืบก่อนตามที่ศาลชั้นต้นกำหนดและผู้ร้องยังติดใจอ้างเอกสารซึ่งยังไม่เข้าสู่สำนวนของศาล ศาลชั้นต้นจึงไม่มีข้อเท็จจริงใดที่จะสั่งว่าเอกสารดังกล่าวไม่จำเป็นแก่คดีและหากได้เอกสารดังกล่าวมาแล้วผู้ร้องไม่มีพยานอื่นอีกต่อไปหน้าที่นำสืบต่อไปย่อมเป็นของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ที่จะพิสูจน์ให้ได้ตามประเด็นที่ตนยกขึ้นคัดค้าน ศาลจึงจะวินิจฉัยว่าจะยกคำร้องของผู้ร้องหรือไม่ การที่ศาลชั้นต้นด่วนงดสืบพยานเพราะผู้ร้องแถลงไม่ติดใจสืบตัวผู้ร้องแต่ยังติดใจสืบพยานเอกสารซึ่งเป็นสาระสำคัญในการปฏิเสธหนี้ของผู้ร้องดังนี้เป็นการไม่ชอบ.