คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
สุจริต

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,168 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1707/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความเชื่อโดยสุจริตเป็นเหตุยกฟ้อง แม้ใบอนุญาตไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ถึงแม้จะวินิจฉัยว่าใบเสร็จรับเงินค่าใบอนุญาตเร่ขายไม่ใช่เป็นใบอนุญาตให้ทำการเร่ขายได้ก็ดี แต่ข้อเท็จจริงซึ่งศาลฎีกาจำต้องถือตามคำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์คือ จำเลยเชื่อโดยสุจริตว่าเป็นใบอนุญาตให้เร่ขายได้แล้วเช่นนี้ จึงย่อมเอาผิดแก่จำเลยหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1570/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแสดงความคิดเห็นโดยสุจริตเพื่อป้องกันตนเองในการร้องทุกข์ ไม่ถือเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาท
ข้าราชการร้องทุกข์ต่อผู้บังคับบัญชาว่าเพื่อข้าราชการด้วยกันด่าว่าและได้กล่าวถึงความประพฤติเสียหายของเพื่อนข้าราชการผู้นั้นประกอบคำร้องทุกข์ไปด้วย ข้าราชการผู้ถูกกล่าวหาไม่ได้คัดค้าน ความเท็จจริงแห่งคำร้องทุกข์นั้นไว้ในชั้นดำเนินคดีแต่ประการใด คำร้องทุกข์นั้นจึงถือได้ว่าเป็นการแสดงความคิดเห็นโดยสุจริตในการแสดงความชอบธรรมของตนหรือในการที่จะต้องต่อสู้หรือป้องกันตนหรือในการป้องกันประโยชน์อันชอบด้วย ก.ม. ไม่ผิดฐานหมิ่นประมาท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1570/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การร้องทุกข์กล่าวหาความประพฤติเพื่อนร่วมงานโดยสุจริตเพื่อป้องกันตนเอง ไม่ถือเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาท
ข้าราชการร้องทุกข์ต่อผู้บังคับบัญชาว่าเพื่อนข้าราชการด้วยกันด่าว่าและได้กล่าวถึงความประพฤติเสียหายของเพื่อนข้าราชการผู้นั้นประกอบคำร้องทุกข์ไปด้วย ข้าราชการผู้ถูกกล่าวหาไม่ได้คัดค้านความเท็จจริงแห่งคำร้องทุกข์นั้นไว้ในชั้นดำเนินคดีแต่ประการใด คำร้องทุกข์นั้นจึงถือได้ว่าเป็นการแสดงความคิดเห็นโดยสุจริตในการแสดงความชอบธรรมของตนหรือในการที่จะต้องต่อสู้หรือป้องกันตนหรือในการป้องกันประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมาย ไม่ผิดฐานหมิ่นประมาท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1570/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การร้องทุกข์กล่าวหาความประพฤติเพื่อนร่วมงาน ไม่ถือเป็นการหมิ่นประมาท หากเป็นการแสดงความคิดเห็นโดยสุจริตเพื่อป้องกันตนเอง
ข้าราชการร้องทุกข์ต่อผู้บังคับบัญชาว่าเพื่อนข้าราชการด้วยกันด่าว่าและได้กล่าวถึงความประพฤติเสียหายของเพื่อนข้าราชการผู้นั้นประกอบคำร้องทุกข์ไปด้วย ข้าราชการผู้ถูกกล่าวหาไม่ได้คัดค้านความเท็จจริงแห่งคำร้องทุกข์นั้นไว้ในชั้นดำเนินคดีแต่ประการใด คำร้องทุกข์นั้นจึงถือได้ว่าเป็นการแสดงความคิดเห็นโดยสุจริตในการแสดงความชอบธรรมของตนหรือในการที่จะต้องต่อสู้หรือป้องกันตนหรือในการป้องกันประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมาย ไม่ผิดฐานหมิ่นประมาท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1323/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาแจ้งความเท็จ – ความเข้าใจโดยสุจริต – ไม่เป็นความผิดตาม ม.158
แจ้งเท็จต่อเจ้าพนักงานตาม ก.ม. อาญา ม. 158 นั้นผู้แจ้งต้องมีเจตนาแจ้งเท็จให้ผู้อื่นเสียหายจึงจะมีความผิด
โจทก์กับบิดาจำเลยทำสัญญาซื้อสวนยางพิพาทกันที่สุดสัญญาต้องเลิกเพราะสามีโจทก์เป็นคนต่างด้าว โจทก์ต้องคืนสวนยาง บิดาจำเลยต้องคืนมัดจำตามที่ศาลตกลงกัน แต่โจทก์ถือว่าโจทก์ยังมีสิทธิตัดยางอยู่เพราะยังไม่ได้คืนมัดจำและจำเลยได้ไปแจ้งตำรวจจับโจทก์หาว่าลักตัดยางของบิดาตามที่บิดาใช้ไปภายหลังที่โจทก์ได้ทราบว่าไม่มีสิทธิซื้อและต้องคืนสวนยางแล้ว เช่นนี้เห็นได้ว่าการกระทำของจำเลยเป็นการเข้าใจโดยสุจริตหาได้เจตนาแจ้งความเท็จให้โจทก์เสียหายไม่ จำเลยจึงไม่มีความผิดตาม ก.ม. อาญา ม. 158

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1323/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ แจ้งความเท็จต้องมีเจตนาทำให้ผู้อื่นเสียหาย หากสุจริตไม่มีความผิด แม้จะมีการแจ้งความจับกุม
แจ้งเท็จต่อเจ้าพนักงานตามกฎหมายอาญา มาตรา 158 นั้นผู้แจ้งต้องมีเจตนาแจ้งเท็จให้ผู้อื่นเสียหายจึงจะมีความผิด
โจทก์กับบิดาจำเลยทำสัญญาซื้อสวนยางพิพาทกัน ที่สุดสัญญาต้องเลิกเพราะสามีโจทก์เป็นคนต่างด้าว โจทก์ต้องคืนสวนยาง บิดาจำเลยต้องคืนมัดจำตามที่ตกลงกัน แต่โจทก์ถือว่าโจทก์ยังมีสิทธิตัดยางอยู่เพราะยังไม่ได้คืนมัดจำ และจำเลยได้ไปแจ้งตำรวจจับโจทก์หาว่าลักตัดยางของบิดาตามที่บิดาใช้ไปภายหลังที่โจทก์ได้ทราบว่าไม่มีสิทธิซื้อและต้องคืนสวนยางแล้ว เช่นนี้เห็นได้ว่าการกระทำของจำเลยเป็นการเข้าใจโดยสุจริตหาได้เจตนาแจ้งความเท็จให้โจทก์เสียหายไม่ จำเลยจึงไม่มีความผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 158

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 934/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิทำประโยชน์ในที่ดินของผู้อื่น: สิทธิที่ยังไม่ได้จดทะเบียนใช้ต่อสู้ผู้ซื้อที่ดินโดยสุจริตไม่ได้
สิทธิตาม ป.พ.พ.ม. 1382 ที่ยังมิได้จดทะเบียน ท่านมิให้ยกขึ้นเป้นข้อต่อสู้บุคคลภายนอก ผู้ได้สิทธิมาโดยเสียค่าตอบแทน และโดยสุจริตแล้ว
สิ่งใดที่จำเลยมิได้ต่อสู้ก็ไม่ใช่ประเด็นที่ศาลจะต้องชี้ขาดตัดสินค่าเสียหายซึ่งโจทก์มิได้ยกขึ้นว่ากันมาในศาลอุทธรณ์ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 934/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิที่ดิน: การจดทะเบียนสิทธิโดยสุจริตมีผลเหนือสิทธิที่ยังมิได้จดทะเบียน แม้ได้มาโดยการครอบครองปรปักษ์
สิทธิตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1382 ที่ยังมิได้จดทะเบียน ท่านมิให้ยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้บุคคลภายนอกผู้ได้สิทธิมาโดยเสียค่าตอบแทน และโดยสุจริตและได้จดทะเบียนสิทธิโดยสุจริตแล้ว
สิ่งใดที่จำเลยมิได้ต่อสู้ก็ไม่ใช่ประเด็นที่ศาลจะต้องชี้ขาดตัดสิน
ค่าเสียหายซึ่งโจทก์มิได้ยกขึ้นว่ากันมาในศาลอุทธรณ์
ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2108/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ภาระจำยอมโดยอายุความ: การฟ้องรอนสิทธิ & ประเด็นสุจริตของผู้ซื้อ
เมื่อโจทก์ใช้สิทธิทางเดินผ่านที่ดินของจำเลยมากว่า 10 ปีโจทก์ย่อมได้ทรัพย์สินอย่างหนึ่งเรียกว่า "ภาระจำยอม" บนที่ดินของจำเลยโดยทางอายุความ เมื่อยังไม่จดทะเบียนจึงเข้าข่ายบังคับของ ม.1294 วรรค 2 เมื่อโจทก์บรรยายฟ้องว่าโจทก์ทรงทรัพย์สิทธิภาระจำยอมและถูกจำเลยรอบสิทธิเพียงเท่านี้ก็เป็นฟ้องที่ครบบริบูรณ์ตาม ป. วิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 172 แล้ว ข้อจำเลยได้รับโอนมาโดยสุจริตหรือไม่ ๆ จำเป็นต้องกล่าวเพราะเป็นประเด็นอีกข้อหนึ่งเพิ่มเติมจากข้อเท็จจริงที่โจทก์กล่าว ต่อเมื่อจำเลยกล่าวอ้างขึ้นก็เป็นประเด็นที่จะต้องนำสืบกันต่อไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2108/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ภารจำยอมโดยอายุความ: การฟ้องรอนสิทธิและการพิสูจน์ความสุจริตของผู้รับโอน
เมื่อโจทก์ใช้สิทธิทางเดินผ่านที่ดินของจำเลยมากว่า30 ปี โจทก์ย่อมได้ทรัพยสิทธิอย่างหนึ่งเรียกว่า"ภาระจำยอม" บนที่ดินของจำเลยโดยทางอายุความ เมื่อยังไม่จดทะเบียนจึงเข้าข่ายบังคับของ มาตรา 1299 วรรคสองเมื่อโจทก์บรรยายฟ้องว่าโจทก์ทรงทรัพยสิทธิภาระจำยอมและถูกจำเลยรอนสิทธิ เพียงเท่านี้ก็เป็นฟ้องที่ครบบริบูรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา172แล้ว ข้อจำเลยได้รับโอนมาโดยสุจริตหรือไม่ไม่จำเป็นต้องกล่าวเพราะเป็นประเด็นอีกข้อหนึ่งเพิ่มเติมจากข้อเท็จจริงที่โจทก์กล่าว ต่อเมื่อจำเลยกล่าวอ้างขึ้นก็เป็นประเด็นที่จะต้องนำสืบกันต่อไป
of 117