คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
เช็ค

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,865 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1209/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฟ้องอาญาเช็ค: การแจ้งความร้องทุกข์มีผลเริ่มนับอายุความเมื่อใด
ข้อความในบันทึกการร้องทุกข์ของโจทก์มีว่า "...มาร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีอาญากับผู้สั่งจ่ายตามกฎหมายจนกว่าคดีจะถึงที่สุด ในชั้นนี้ขอรับเช็คคืนไปเก็บรักษาไว้เพื่อจะได้ติดต่อกับผู้สั่งจ่ายอีกทางหนึ่ง" ดังนี้เป็นการแจ้งความกล่าวหาโดยมีเจตนาให้ผู้กระทำความผิดได้รับโทษ การขอรับเช็คคืนไปเพื่อติดต่อกับผู้สั่งจ่ายมิใช่เป็นข้อความที่แสดงว่ายังไม่มอบคดีให้ จึงเป็นคำร้องทุกข์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 2(7) แล้ว เมื่อโจทก์ร้องทุกข์ภายในกำหนด 3 เดือนนับแต่วันที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน และโจทก์ฟ้องคดีภายในกำหนด 5 ปีคดีโจทก์จึงไม่ขาดอายุความ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1170/2531 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฟ้องคดีเช็ค: การเริ่มต้นนับอายุความเมื่อโจทก์ทราบการปฏิเสธการจ่ายเงิน
โจทก์นำเช็คพิพาทไปเข้าบัญชีของโจทก์ที่ธนาคาร ส. เพื่อให้เรียกเก็บเงิน ธนาคารตามเช็คปฏิเสธการจ่ายเงิน เมื่อวันที่ 3,4 และ 8 เมษายน 2529 ทั้งสามครั้ง และธนาคารตามเช็คแจ้งให้ธนาคาร ส. ทราบเมื่อวันที่ 8 เมษายน 2529 ธนาคาร ส. แจ้งให้โจทก์ทราบเมื่อวันที่ 9 เมษายน 2529 พร้อมกับส่งเช็คและใบคืนเช็คให้ด้วย แม้ด้านหลังเช็คพิพาทมีข้อความระบุชัดว่าธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินเมื่อวันใด แต่ขณะนั้นเช็คคงอยู่ที่ธนาคาร และโจทก์ไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องด้วย ต้องถือว่าโจทก์ทราบว่าธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินในวันที่ 9 เมษายน 2529 จะให้ถือว่าโจทก์ทราบว่าธนาคารตามเช็คปฏิเสธการจ่ายเงินมาก่อนแล้วตั้งแต่วันที่ 3 เมษายน 2529 และนับอายุความย้อนหลังตั้งแต่วันนั้นไม่ได้ โจทก์ฟ้องคดีเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2529 จึงไม่ขาดอายุความตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 96

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1170/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแจ้งการปฏิเสธการจ่ายเช็คและการนับอายุความคดีเช็ค การแจ้งตามความเป็นจริงเป็นสำคัญ
โจทก์นำเช็คพิพาทไปเข้าบัญชีของโจทก์ที่ธนาคาร ส. เพื่อให้เรียกเก็บเงิน ธนาคารตามเช็คปฏิเสธการจ่ายเงิน เมื่อวันที่3,4 และ 8 เมษายน 2529 ทั้งสามครั้ง และธนาคารตามเช็คแจ้งให้ธนาคาร ส.ทราบเมื่อวันที่8เมษายน2529ธนาคารส. แจ้งให้โจทก์ทราบเมื่อวันที่ 9 เมษายน 2529 พร้อมกับส่งเช็คและใบคืนเช็คให้ด้วย แม้ด้านหลังเช็คพิพาทมีข้อความระบุชัดว่าธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินเมื่อวันใด แต่ขณะนั้นเช็คยังคงอยู่ที่ธนาคาร และโจทก์ไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องด้วย ต้องถือว่าโจทก์ทราบว่าธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินในวันที่ 9 เมษายน 2529 จะให้ถือว่าโจทก์ทราบว่าธนาคารตามเช็คปฏิเสธการจ่ายเงินมาก่อนแล้ว ตั้งแต่วันที่ 3เมษายน 2529 และนับอายุความย้อนหลังตั้งแต่วันนั้นไม่ได้ โจทก์ฟ้องคดีเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2529 จึงไม่ขาดอายุความตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 96

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1170/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฟ้องคดีเช็ค: การแจ้งปฏิเสธการจ่ายเงินและวันที่โจทก์ทราบ
โจทก์นำเช็คพิพาทไปเข้าบัญชีของโจทก์ที่ธนาคาร ส. เพื่อให้เรียกเก็บเงิน ธนาคารตามเช็คปฏิเสธการจ่ายเงิน เมื่อวันที่ 3,4 และ 8 เมษายน 2529 ทั้งสามครั้ง และธนาคารตามเช็คแจ้งให้ธนาคาร ส.ทราบเมื่อวันที่8เมษายน2529ธนาคารส. แจ้งให้โจทก์ทราบเมื่อวันที่ 9 เมษายน 2529 พร้อมกับส่งเช็คและใบคืนเช็คให้ด้วย แม้ด้านหลังเช็คพิพาทมีข้อความระบุชัดว่าธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินเมื่อวันใด แต่ขณะนั้นเช็คคงอยู่ที่ธนาคาร และโจทก์ไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องด้วย ต้องถือว่าโจทก์ทราบว่าธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินในวันที่ 9 เมษายน 2529 จะให้ถือว่าโจทก์ทราบว่าธนาคารตามเช็คปฏิเสธการจ่ายเงินมาก่อนแล้วตั้งแต่วันที่ 3 เมษายน 2529 และนับอายุความย้อนหลังตั้งแต่วันนั้นไม่ได้ โจทก์ฟ้องคดีเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2529 จึงไม่ขาดอายุความตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 96.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 729/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เช็คไม่มีวันที่ออก การลงวันที่โดยผู้อื่นไม่ทำให้เกิดความผิดตาม พ.ร.บ. เช็ค
การที่จำเลยสั่งจ่ายเช็คโดยไม่ได้ลงวันที่สั่งจ่าย แม้จำเลยจะได้มอบหมายให้ผู้อื่นลงวันที่ในเช็คก็มีผลเพียงให้เช็คนั้นสมบูรณ์เพื่อใช้สิทธิฟ้องร้องกันในทางแพ่งเท่านั้น หามีผลทำให้เป็นความผิดตาม พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คไม่ เพราะถือว่าไม่มีวันที่ผู้ออกเช็คกระทำผิด.(ที่มา-ส่งเสริม)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 598/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของผู้สั่งจ่ายเช็คตามกฎหมายตั๋วเงิน ผู้สั่งจ่ายต้องรับผิดตามเช็คหากไม่พิสูจน์การโอนและการฉ้อฉล
คำให้การของจำเลยทั้งสองกล่าวถึงเพียงความเกี่ยวพันระหว่างจำเลยกับผู้ทรงคนก่อน ส่วนที่กล่าวอ้างว่าโจทก์และผู้ทรงคนก่อนคบคิดกันฉ้อฉลนำเช็คมาฟ้อง ไม่ได้ให้การให้ชัดว่ามีการโอนและคบคิดกันฉ้อฉลอย่างไร จำเลยจึงไม่มีประเด็นนำสืบ เมื่อจำเลยทั้งสองลงลายมือชื่อสั่งจ่ายเช็คพิพาท จึงต้องรับผิดตามเนื้อความในเช็คนั้นโดยไม่จำเป็นต้องฟังพยานอื่นต่อไป.(ที่มา-ส่งเสริม)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5857/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาออกเช็คเพื่อค้ำประกัน ไม่ถือเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.เช็ค หากธนาคารปฏิเสธจ่ายด้วยเหตุลายมือชื่อไม่ตรง
การที่โจทก์ฟ้องว่า จำเลยออกเช็คโดยเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็ค ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3(1) และธนาคารตามเช็คปฏิเสธการจ่ายเงินโดยให้เหตุผลว่า "ลายมือชื่อผู้สั่งจ่ายไม่เหมือนตัวอย่างที่ให้ไว้ " ซึ่งไม่เกี่ยวกับจำนวนเงินที่จำเลยมีอยู่ในบัญชีนั้นโจทก์ไม่จำต้องนำสืบว่าในวันออกเช็คจำเลยมีเงินในบัญชีพอที่จะจ่ายตามเช็คหรือไม่ต่างกับการฟ้องขอให้ลงโทษตามมาตรา 3(1) ในกรณีอื่น หรือมาตรา 3(2) หรือมาตรา 3(3) และธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินเพราะเงินในบัญชีไม่พอจ่ายกรณีเช่นนี้ โจทก์จึงจะต้องนำสืบถึงจำนวนเงินในบัญชีของจำเลยในวันออกเช็ค

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5614/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เช็คเพื่อหลักประกัน – การสลักหลัง – สิทธิผู้ทรงเช็ค – การเรียกเงินคืน
หากได้ความตามความเป็นจริงดังที่โจทก์ฟ้องและฎีกาว่าโจทก์สั่งจ่ายเช็คพิพาทให้แก่บริษัท ส. เพื่อเป็นหลักประกันในการเข้าทำงานของโจทก์ แล้วจำเลยนำไปเข้าบัญชีของจำเลยโดยบริษัท ส. มิได้สลักหลังโอนเช็คให้ก็ถือได้ว่าไม่มีมูลหนี้ที่โจทก์จะต้องรับผิดใช้เงินตามเช็คพิพาทและจำเลยไม่ใช่ผู้ทรงเช็คนั้น จำเลยหามีสิทธิเรียกเก็บเงินตามเช็คไม่ โจทก์ย่อมเรียกเงินคืนจากจำเลยได้ ที่ศาลชั้นต้นไม่ดำเนินการพิจารณาต่อไปให้ได้ความว่าเป็นความจริงดังโจทก์ฟ้องหรือไม่ แต่มีคำสั่งงดสืบพยานของโจทก์จำเลยเสีย จึงเป็นการไม่ชอบ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5389/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ธนาคารไม่ต้องรับผิดชำระหนี้แทนเจ้าของบัญชี แม้จะบันทึกข้อความยินยอมผ่านเช็ค หากไม่มีสัญญาชำระหนี้ที่ชัดเจน
จำเลยที่ 1 ออกเช็คสั่งจ่ายเงินให้แก่โจทก์ แล้วมีหนังสือถึงจำเลยที่ 5 ผู้จัดการธนาคารจำเลยที่ 4 ความว่า ถ้า ธนาคารจำเลยที่ 4ได้รับเงินค่างวดงานจากบุคคลภายนอกผู้มีชื่อ ที่จ่ายเข้าบัญชีจำเลยที่ 1 เมื่อไร ขอให้ผ่านเช็คซึ่งจำเลยที่ 1 สั่งจ่ายให้โจทก์ จำเลยที่ 5 บันทึกข้อความลงในหนังสือของจำเลยที่ 1 ว่าธนาคารไม่ขัดข้องในการผ่านเช็คดังกล่าวเมื่อได้รับเงินค่าก่อสร้างงวดที่ 1 เรียบร้อยแล้ว ข้อเท็จจริงเพียงเท่านี้ไม่พอฟังว่าธนาคารจำเลยที่ 4 ตกลงทำสัญญาชำระหนี้ให้แก่โจทก์ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 374 เมื่อปรากฏว่าไม่มีเงินในบัญชีจำเลยที่ 1 พอที่จะชำระเงินตามเช็คธนาคารจำเลยที่ 4 จึงไม่ผูกพันที่จะชำระเงินให้โจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5355/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฟ้องล้มละลายจากเช็ค - ความรับผิดฐานผู้สลักหลัง
ป. นำเช็คซึ่งตนเป็นผู้ลงชื่อสั่งจ่ายมาขายลดแก่โจทก์เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2526 โดยจำเลยที่ 3 ลงชื่อสลักหลังและประทับตราของ บริษัทจำเลยที่ 1 เช็คถึงกำหนดสั่งจ่ายวันที่ 25 พฤษภาคม 2526 กรณีจึงถือไม่ได้ว่าจำเลยที่ 1 เป็นคู่สัญญาขายลดเช็คอันจะต้องรับผิด ต่อโจทก์ด้วยการที่โจทก์นำเช็คดังกล่าวมาฟ้องขอให้จำเลยที่ 1 ล้มละลาย ก็โดยอาศัยมูลหนี้ที่เกิดจากความรับผิดในฐานะผู้สลักหลังเช็คพิพาท ซึ่งมีอายุความ 1 ปี นับแต่วันที่เช็คถึงกำหนด ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1002 โจทก์ฟ้องคดีนี้เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2529 คดีจึงขาดอายุความ โจทก์ไม่อาจฟ้องขอให้ จำเลยที่ 1 ล้มละลาย โดยอาศัยมูลหนี้ดังกล่าวได้
of 187