พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,865 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 500/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผู้ทรงเช็คโดยชอบ: การครอบครองเช็คสั่งจ่ายแก่ผู้ถือ ถือเป็นผู้ทรงโดยชอบ แม้ไม่ระบุแหล่งที่มา
เช็คพิพาทออกให้แก่ผู้ถือ ผู้ใดครอบครองเช็คนั้น ในเบื้องต้นต้องถือว่า เป็นผู้ทรงเช็คนั้นโดยชอบ โจทก์จึงไม่จำเป็นต้องบรรยายฟ้องว่า โจทก์ได้เช็คมาจากผู้ใดและในฐานะอย่างไรทั้งฟ้องโจทก์ได้บรรยายไว้แล้วว่าโจทก์ได้รับเช็คมาจากผู้มีชื่อเพื่อชำระหนี้แก่โจทก์ โจทก์เป็นผู้ทรงเช็คดังกล่าวโดยชอบ ฟ้องโจทก์จึงหาเคลือบคลุมไม่
โจทก์นำสืบว่า โจทก์ได้รับเช็คพิพาทซึ่งเป็นเช็คสั่งจ่ายแก่ผู้ถือจาก ต. โดยการแลกเงินสดไปจากโจทก์ การที่จำเลยที่ 1 นำสืบแต่เพียงว่า จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นกรรมการผู้จัดการบริษัทจำเลยที่ 1 เล่นแชร์เป็นการส่วนตัว ไม่ทราบว่าโจทก์ได้รับเช็คพิพาทมาอย่างไรนั้น เมื่อจำเลยที่ 2 มีอำนาจสั่งจ่ายเช็คแทนจำเลยที่ 1 ข้อนำสืบดังกล่าวหาทำให้จำเลยที่ 1 พ้นจากความรับผิดตามเช็คไม่.(ที่มา-ส่งเสริมฯ)
โจทก์นำสืบว่า โจทก์ได้รับเช็คพิพาทซึ่งเป็นเช็คสั่งจ่ายแก่ผู้ถือจาก ต. โดยการแลกเงินสดไปจากโจทก์ การที่จำเลยที่ 1 นำสืบแต่เพียงว่า จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นกรรมการผู้จัดการบริษัทจำเลยที่ 1 เล่นแชร์เป็นการส่วนตัว ไม่ทราบว่าโจทก์ได้รับเช็คพิพาทมาอย่างไรนั้น เมื่อจำเลยที่ 2 มีอำนาจสั่งจ่ายเช็คแทนจำเลยที่ 1 ข้อนำสืบดังกล่าวหาทำให้จำเลยที่ 1 พ้นจากความรับผิดตามเช็คไม่.(ที่มา-ส่งเสริมฯ)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4490/2530 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนำสืบภายหลัง การถามค้าน และขอบเขตการรับฟังพยานหลักฐานในคดีเช็ค
จำเลยซึ่งเป็นฝ่ายนำสืบก่อนเบิกความว่าได้สั่งจ่ายเช็คชำระค่ามัดจำซื้อที่ดิน 200,000 บาท ให้แก่ ส.แทนโจทก์ไป และตอบคำถามด้านทนายโจทก์ว่าจำเลยไม่เคยได้รับเงินจากโจทก์ให้ไปซื้อที่ดินนี้ และว่าโจทก์ไม่เคยจ่ายเงินค่าซื้อที่ดินบ่อทรายดังกล่าวให้ ส.เลย เช่นนี้ พอถือได้ว่าโจทก์ได้ถามค้านจำเลยในเรื่องที่ว่าเงินที่จ่ายตามเช็คของจำเลยให้ ส.นั้นเป็นเงินของโจทก์แล้ว โจทก์จึงนำสืบภายหลังได้ว่าโจทก์สั่งจ่ายเช็คจำนวนเงิน 200,000 บาท ให้จำเลยนำเข้าบัญชีเงินฝากของจำเลยเพื่อให้ ส.สามารถนำเช็คของจำเลยมารับเงินได้หาเป็นการต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 89 ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4490/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การชำระหนี้ด้วยเช็คและการนำสืบภายหลังเกี่ยวกับแหล่งเงินทุนของเช็ค ศาลพิจารณาจากพยานหลักฐานและคำถามค้าน
จำเลยซึ่งเป็นฝ่ายนำสืบก่อนเบิกความว่าได้สั่งจ่ายเช็คชำระค่ามัดจำซื้อที่ดิน 200,000 บาทให้แก่ ส. แทนโจทก์ไป และตอบคำถามค้านทนายโจทก์ว่าจำเลยไม่เคยได้รับเงินจากโจทก์ให้ไปซื้อที่ดินนี้ และว่าโจทก์ไม่เคยจ่ายเงินค่าซื้อที่ดินบ่อทรายดังกล่าวให้ ส. เลย เช่นนี้พอถือได้ว่าโจทก์ได้ถามค้านจำเลยในเรื่องที่ว่าเงินที่จ่ายตามเช็คของจำเลยให้ ส. นั้น เป็น เงิน ของโจทก์แล้วโจทก์จึงนำสืบภายหลังได้ว่าโจทก์สั่งจ่ายเช็คจำนวนเงิน200,000 บาท ให้จำเลยนำเข้าบัญชีเงินฝากของจำเลยเพื่อให้ส. สามารถนำเช็คของจำเลยมารับเงินได้ หาเป็นการต้องห้าม ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 89 ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4490/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การชำระหนี้ด้วยเช็คและการพิสูจน์แหล่งที่มาของเงินค่ามัดจำซื้อที่ดิน ศาลฎีกาพิจารณาจากพยานหลักฐานและข้อเท็จจริงที่สอดคล้องกัน
จำเลยซึ่งเป็นฝ่ายนำสืบก่อนเบิกความว่าได้สั่งจ่ายเช็คชำระค่ามัดจำซื้อที่ดิน 200,000 บาทให้แก่ ส. แทนโจทก์ไป และตอบคำถามค้านทนายโจทก์ว่าจำเลยไม่เคยได้รับเงินจากโจทก์ให้ไปซื้อที่ดินนี้ และว่าโจทก์ไม่เคยจ่ายเงินค่าซื้อที่ดินบ่อทรายดังกล่าวให้ ส. เลย เช่นนี้พอถือได้ว่าโจทก์ได้ถามค้านจำเลยในเรื่องที่ว่าเงินที่จ่ายตามเช็คของจำเลยให้ ส. นั้น เป็น เงิน ของโจทก์แล้วโจทก์จึงนำสืบภายหลังได้ว่าโจทก์สั่งจ่ายเช็คจำนวนเงิน200,000 บาท ให้จำเลยนำเข้าบัญชีเงินฝากของจำเลยเพื่อให้ส. สามารถนำเช็คของจำเลยมารับเงินได้ หาเป็นการต้องห้าม ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 89 ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4399/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผู้เสียหายโดยนิตินัยในคดีเช็ค: หุ้นส่วนที่รู้ฐานะลูกหนี้ไม่มีเงินชำระหนี้ ย่อมไม่มีอำนาจฟ้อง
โจทก์ จำเลยและ ช. เป็นหุ้นส่วนกันเพื่อขุดทรายขายแต่ห้างหุ้นส่วนไม่มีเงินสดดำเนินกิจการ โจทก์จึงให้จำเลยออกเช็คพิพาทเพื่อนำไปแลกเงินสด ดังนั้น มูลหนี้ตามเช็คพิพาทเกิดจากกิจการค้าขายของห้างหุ้นส่วนระหว่าง โจทก์ จำเลย และ ช. ผู้เป็นหุ้นส่วนย่อมมีส่วนได้เสียร่วมกันอยู่ในเช็คพิพาท ทั้งโจทก์ทราบฐานะของจำเลยดีอยู่แล้วว่าจำเลยไม่มีเงินในบัญชีพอที่จะนำมาชำระหนี้ตามเช็คพิพาทได้ โจทก์รับเช็คไว้โดยไม่สุจริต จึงไม่ใช่ผู้เสียหายโดยนิตินัย ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 2 (4)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4341/2530 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เช็คการเล่นแชร์: หน้าที่ชำระหนี้ค่าแชร์ยังคงอยู่ แม้มีการตกลงหักหนี้ส่วนตัวกับนายวงแชร์
โจทก์และจำเลยเล่นแชร์วงเดียวกัน จำเลยประมูลแชร์ได้ก่อนจำเลยจึงออกเช็คมอบให้นายวงแชร์นำไปเก็บเงินจากโจทก์มามอบให้จำเลยโจทก์มีหน้าที่ส่งมอบเงินค่าแชร์แก่นายวงแชร์ และนายวงแชร์มีหน้าที่นำเงินที่ได้รับจากโจทก์ไปมอบแก่จำเลยโดย นายวงแชร์มิได้อยู่ในฐานะผู้ทรงหรือผู้รับเงินตามเช็คการที่โจทก์และนายวงแชร์ตกลงกันให้โจทก์หักเงินที่โจทก์จะต้องชำระค่าแชร์กับหนี้ที่นายวงแชร์เป็นลูกหนี้โจทก์ โดยนายวงแชร์รับจะชำระเงินค่าแชร์ส่วนของโจทก์แก่จำเลยเอง เป็นเรื่องส่วนตัวระหว่างโจทก์กับนายวงแชร์ ไม่มีผลทำให้โจทก์ไม่ต้องชำระเงินค่าแชร์แก่จำเลยตามประเพณีการเล่นแชร์ เมื่อจำเลยยังไม่ได้รับเงินค่าแชร์ส่วนที่โจทก์ต้องชำระให้จำเลย เช็คที่จำเลยสั่งจ่ายมอบให้นายวงแชร์นำไปเก็บเงินจากโจทก์และมอบให้โจทก์ไว้แล้วจึงไม่มีมูลหนี้ต่อกัน.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4341/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การชำระหนี้ค่าแชร์และการสิทธิเรียกร้องตามเช็คที่เกี่ยวข้อง
โจทก์และจำเลยเล่นแชร์วงเดียวกัน จำเลยประมูลแชร์ได้ก่อนจำเลยจึงออกเช็คมอบให้นายวงแชร์นำไปเก็บเงินจากโจทก์มามอบให้จำเลยโจทก์มีหน้าที่ส่งมอบเงินค่าแชร์แก่นายวงแชร์ และนายวงแชร์มีหน้าที่นำเงินที่ได้รับจากโจทก์ไปมอบแก่จำเลยโดยนายวงแชร์มิได้อยู่ในฐานะผู้ทรงหรือผู้รับเงินตามเช็คการที่โจทก์และนายวงแชร์ตกลงกันให้โจทก์หักเงินที่โจทก์จะต้องชำระค่าแชร์กับหนี้ที่นายวงแชร์เป็นลูกหนี้โจทก์ โดยนายวงแชร์รับจะชำระเงินค่าแชร์ส่วนของโจทก์แก่จำเลยเอง เป็นเรื่องส่วนตัวระหว่างโจทก์กับนายวงแชร์ ไม่มีผลทำให้โจทก์ไม่ต้องชำระเงินค่าแชร์แก่จำเลยตามประเพณีการเล่นแชร์ เมื่อจำเลยยังไม่ได้รับเงินค่าแชร์ส่วนที่โจทก์ต้องชำระให้จำเลย เช็คที่จำเลยสั่งจ่ายมอบให้นายวงแชร์นำไปเก็บเงินจากโจทก์และมอบให้โจทก์ไว้แล้วจึงไม่มีมูลหนี้ต่อกัน.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4265/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความฟ้องคดีเช็ค: วันที่ลงเช็คเป็นวันกระทำผิด ธนาคารทราบความผิดทันที
จำเลยออกเช็คลงวันที่ 5 เมษายน 2526 สั่งจ่ายเงินให้โจทก์เพื่อชำระหนี้ เมื่อถึงกำหนดวันที่ระบุในเช็ค ผู้รับมอบอำนาจโจทก์ซึ่งเป็นผู้จัดการธนาคารสาขาของโจทก์นำเช็คพิพาทและบัญชี ของจำเลยมาตรวจดู ปรากฏว่าจำเลยมีเงินในบัญชีไม่พอจ่ายเช่นนี้ถือว่าธนาคารโจทก์ปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คในวันที่ที่ลงในเช็ค แล้ว วันที่ที่ลงในเช็คจึงเป็นวันที่จำเลยกระทำผิดโจทก์ไม่ได้ร้องทุกข์และฟ้องจำเลยเมื่อเกิน 3 เดือนนับแต่นั้น คดีโจทก์จึงขาดอายุความตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 96
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4206/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การออกเช็คโดยผู้อื่น และเจตนาไม่ให้ใช้เงิน ถือเป็นผู้ออกเช็คตามกฎหมาย
จำเลยมอบให้ ป. บุตรชายจำเลยเป็นผู้เขียนชื่อจำเลยในช่องผู้สั่งจ่ายในเช็ค แล้วจำเลยนำเช็คไปมอบและแสดงแก่โจทก์ร่วมว่าเป็นเช็คที่จำเลยออกเพื่อชำระหนี้กู้ยืม โดยจำเลยมีเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็ค ต้องถือว่าจำเลยเป็นผู้ออกเช็ค แม้จำเลยมิได้เป็นผู้ลงลายมือชื่อในเช็คด้วยตนเองจำเลยก็มีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4133/2530 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
จำเลยมีสิทธิยกข้อต่อสู้เรื่องสัญญาหุ้นส่วนเพื่อปฏิเสธความรับผิดตามเช็คได้ แม้จะยอมรับว่าออกเช็คแล้ว
โจทก์ฟ้องเรียกเงินตามเช็ค จำเลยให้การว่าจำเลยออกเช็คพิพาทให้โจทก์เพื่อค้ำประกันค่าหุ้นซึ่งโจทก์จำเลยเข้าหุ้นกันตั้งร้านอาหาร โจทก์ถอนหุ้นตามอำเภอใจผิดสัญญาหุ้นส่วนจึงไม่มีสิทธิเรียกเงินตามเช็ค ดังนี้ จำเลยชอบที่จะนำสืบตามข้อต่อสู้ได้โดยไม่จำเป็นต้องฟ้องโจทก์เป็นอีกคดีหนึ่งต่างหากเพราะเป็นการนำสืบถึงมูลกรณีที่จำเลยออกเช็คให้โจทก์
คำให้การดังกล่าวแม้ไม่ระบุว่าโจทก์ถอนหุ้นอย่างไร เป็นจำนวนเท่าใด หุ้นส่วนเลิกกันหรือไม่ ก็เป็นเพียงรายละเอียดที่จำเลยสามารถนำสืบในชั้นพิจารณาได้.
คำให้การดังกล่าวแม้ไม่ระบุว่าโจทก์ถอนหุ้นอย่างไร เป็นจำนวนเท่าใด หุ้นส่วนเลิกกันหรือไม่ ก็เป็นเพียงรายละเอียดที่จำเลยสามารถนำสืบในชั้นพิจารณาได้.