คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
คดีแพ่ง

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,220 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1775/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อเท็จจริงนอกสำนวนห้ามนำมาใช้ประกอบการพิจารณาคดีแพ่ง แม้มีคำพิพากษาอาญา
แม้มีคำพิพากษาคดีอาญาแล้วโจทก์มาฟ้องจำเลยให้รับผิดทางแพ่งโดยอาศัยมูลจากคำชี้ขาดทางอาญานั้น แต่ไม่มีการอ้างอิงสำนวนคดีอาญาเป็นพยาน ดังนี้ข้อเท็จจริงในสำนวนคดีอาญาเรื่องนั้นเป็นข้อเท็จจริงนอกสำนวน.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1775/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อเท็จจริงนอกสำนวน: ศาลไม่สามารถนำข้อเท็จจริงจากสำนวนคดีอาญามาใช้ตัดสินคดีแพ่งได้หากไม่ได้มีการนำสืบในสำนวน
แม้มีคำพิพากษาคดีอาญาแล้วโจทก์มาฟ้องจำเลยให้รับผิดทางแพ่งโดยอาศัยมูลจากคำชี้ขาดทางอาญานั้น แต่ไม่มีการอ้างอิงสำนวนคดีอาญาเป็นพยาน ดังนี้ ข้อเท็จจริงในสำนวนคดีอาญาเรื่องนั้นเป็นข้อเท็จจริงนอกสำนวน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1570/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในที่ดินพิพาท: อายุความสละที่ดิน 9/10 ปีใช้บังคับก่อน พ.ร.บ.ออกโฉนดฯ และข้อจำกัดการนำข้อเท็จจริงจากคดีอาญามาใช้ในคดีแพ่ง
ที่พิพาทแม้โจทก์จะได้เคยฟ้องจำเลยเป็นคดีอาญาว่าจำเลยบุกรุกมาแล้ว และในคดีอาญานั้นแม้ศาลจะได้พิพากษายกฟ้องโจทก์เพราะเห็นว่าการกระทำของจำเลยไม่เป็นผิดทางอาญาโดยมิได้กล่าวถึงสิทธิในทางแพ่งแต่อย่างใด ต่อมาโจทก์จึงฟ้องคดีแพ่งขอให้ศาลบังคับจำเลยและบริวารออกจากที่พิพาท ดังนี้การที่จะวินิจฉัยว่าที่พิพาทเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์หรือจำเลยต้องเป็นไปตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายอันว่าด้วยความรับผิดของบุคคลในทางแพ่งตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 47
เมื่อที่พิพาทเป็นที่บ้านที่สวนมาก่อนประกาศใช้ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 4 และ พระราชบัญญัติออกโฉนดที่ดิน(ฉบับที่ 6) พ.ศ.2479 แล้ว ดังนี้แม้ที่พิพาทจะเป็นที่มือเปล่าก็ตาม ก็ต้องนำกฎหมายลักษณะเบ็ดเสร็จบทที่42 มาใช้บังคับคดี โดยถืออายุความสละที่ดิน 9 ปี10 ปี ไม่ใช่อายุความ 1 ปี ตามนัยฎีกาที่ 759/2494 (ฎีกาที่ 759/2494)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1545/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาไม่รับเนื่องจากคดีทุนทรัพย์น้อยกว่า 5,000 บาท และศาลอุทธรณ์ยืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
คดีโจทก์เป็นคดีที่มีทุนทรัพย์ไม่เกิน 5,000 บาท และศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น และโจทก์ยื่นฎีกาเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2499 ดังนี้ฎีกาของโจทก์จึงเป็นฎีกาที่ต้องห้ามตามความในมาตรา 25 แห่ง พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง (ฉบับที่ 5) พ.ศ.2499 ซึ่งมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 12 พฤษภาคม 2499 เป็นต้นไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1464/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หน้าที่นำสืบในคดีแพ่ง การเปลี่ยนแปลงข้อเท็จจริงต้องชัดเจน การไม่ขอสืบพยานเพิ่มเติมไม่อาจเปลี่ยนแปลงคำพิพากษา
ในฟ้องฎีกาจำเลยบรรยายไว้เป็นข้อกฏหมายแต่เพียงว่า ศาลสั่งให้จำเลยมีหน้าที่นำสืบก่อนยังไม่ชอบ ขอให้พิพากษาแก้คำสั่งศาลอุทธรณ์ให้โจทก์มีหน้าที่นำสืบก่อนมิได้กล่าวว่าหากสืบโจทก์ก่อนแล้วจะยังผลให้เปลี่ยนแปลงข้อเท็จจริงไปได้อย่างไรหรือไม่ ทั้งมิได้ขอให้สืบพยานใหม่ด้วย ดังนี้ ไม่อาจยังผลให้เปลี่ยนแปลงคำพิพากษาศาลล่างได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1273/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองที่พิพาทระหว่างคดีไม่ขาดอายุความ แม้โจทก์ไม่ฟ้องแย้งเรียกค่าเสียหายในคดีก่อน
การที่คู่ความฝ่ายหนึ่งครอบครองที่พิพาทอยู่ระหว่างคดีนั้น คู่ความฝ่ายที่ครอบครองจะยกเอาสิทธิแห่งการครอบครองดังกล่าวนี้มายันคู่ความอีกฝ่ายหนึ่งไม่ได้
โจทก์ประมูลซื้อที่ได้จากการขายทอดตลาดของศาล แล้วถูกจำเลยฟ้องกล่าวหาว่าโจทก์ใช้สิทธิไม่สุจริตไปยึดที่จำเลยมาขาย ขอให้ศาลแสดงว่าที่เป็นของจำเลย โจทก์สู้คดี แต่มิได้ฟ้องแย้งเรียกค่าเสียหายในการที่จำเลยยังคงครอบครองที่นั้น ปล่อยจนคดีถึงที่สุด ซึ่งล่วงเลยมา2-3 ปีจึงมาฟ้องเรียกค่าเสียหายฐานละเมิดศาลให้ค่าเสียหายเพียง 1 ปี นอกนั้นขาดอายุความศาลไม่บังคับให้
คดีเรื่องก่อนจำเลยฟ้องว่าที่พิพาทเป็นของจำเลยขอให้ศาลแสดงว่าที่เป็นของจำเลย โจทก์ต่อสู้ว่าเป็นของโจทก์ ได้สู้คดีกัน ในที่สุดโจทก์ชนะคดีเมื่อชนะคดีแล้วโจทก์มาฟ้องเรียกค่าเสียหายที่จำเลยเข้าครอบครองที่นั้นเช่นนี้ไม่เป็นฟ้องซ้ำ เพราะคนละประเด็น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 460/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องแย้งในคดีแพ่ง: หักกลบลบหนี้กับคำฟ้องเดิม ชอบที่รับไว้พิจารณา
โจทก์ฟ้องเรียกเงินตามสัญญากู้ยืมจากจำเลยจำเลยให้การต่อสู้ว่าโจทก์จำเลยตกลงหักกลบลบหนี้กันแล้ว และจำเลยยังเป็นเจ้าหนี้โจทก์ถ้าเป็นเงินจำนวนหนึ่ง จึงฟ้องแย้งเรียกเงินที่เกินจากโจทก์ได้ เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับคำฟ้องเดิม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1403/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเลื่อนคดีอาญาชั่วคราวรอผลคดีแพ่ง – การต่อสู้กรรมสิทธิ
อัยการฟ้องหาว่าจำเลยบุกรุก จำเลยต่อสู้กรรมสิทธิ ต่อมาผู้เสียหายได้ฟ้องจำเลยเป็นคดีแพ่งอีกสำนวนหนึ่ง จำเลยคงต่อสู้กรรมสิทธิเช่นเดียวกัน จำเลยคงต่อสู้กรรมสิทธิเช่นเดียวกัน ศาลย่อมอาจใช้ดุลยพินิจที่จะเลื่อนคดีอาญาไว้รอฟังผลคดีแพ่งเสียก่อนหรือไม่ก็ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1403/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเลื่อนคดีอาญาเพื่อรอฟังผลคดีแพ่งเกี่ยวกับการครอบครองที่ดิน: ศาลมีดุลยพินิจ
อัยการฟ้องหาว่าจำเลยบุกรุกจำเลยต่อสู้กรรมสิทธิ์ ต่อมาผู้เสียหายได้ฟ้องจำเลยเป็นคดีแพ่งอีกสำนวนหนึ่ง จำเลยคงต่อสู้กรรมสิทธิ์เช่นเดียวกัน ศาลย่อมอาจใช้ดุลพินิจที่จะเลื่อนคดีอาญาไว้รอฟังผลคดีแพ่งเสียก่อนหรือไม่ก็ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1170/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเปลี่ยนแปลงคำให้การและการนำสืบพยานหักล้างเอกสารในคดีแพ่ง
ในคำให้การของจำเลยปฏิเสธการกู้ยืมตามฟ้อง พอมาในชั้นพิจารณาตอนแรกจำเลยแถลงรับโดยเข้าใจผิดว่าจำเลยลงชื่อในสัญญากู้ตามฟ้องจริง ศาลจึงมีคำสั่งให้จำเลยนำสืบก่อน แล้วจำเลยยื่นคำร้องว่าที่แถลงไปนั้นคลาดเคลื่อนขอดูต้นเอกสาร ครั้นตรวจเอกสารต้นสัญญากู้แล้วจำเลยปฏิเสธว่าไม่ใช่ลายมือจำเลยในสัญญากู้ที่ฟ้อง ดังนี้ ศาลย่อมมีคำสั่งในหน้าที่นำสืบใหม่ให้โจทก์เป็นฝ่ายนำสืบก่อนได้
of 122