พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,243 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 693/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การล่อลวงเพื่ออนาจาร: จำเลยใช้อุบายหลอกลวงพาผู้เสียหายไปเพื่อประสงค์ต่อการอนาจาร เป็นความผิดตาม ม.276
การที่จำเลยเอาความเท็จมากล่าวอ้างกับหญิงมีชื่อว่าตนเป็นตำรวจจะพาหญิงมีชื่อไปส่งบ้านเพราะเป็นผู้หญิงจะไปคนเดียวในเวลาดึกเช่นนั้นไม่ได้แล้วจำเลยพาหญิงมีชื่อเดินไปถึงสวนลุมพินีและพาเข้าไปในสวนลุมพินีและให้นั่งลงบนสนามหญ้าและพูดจาชักชวนให้หญิงมีชื่อไปบ้านจำเลยแต่หญิงมีชื่อไม่ยอมไปแล้วจำเลยก็รั้งตัวหญิงมีชื่อมากอดจูบหญิงมีชื่อดิ้นเช่นนี้วินิจฉัยว่าเป็นการใช้อุบายทุจริตล่อลวงพาหญิงมีชื่อไปเพื่อการอนาจาร การกระทำเป็นความผิดต้องด้วยบท กฎหมายอาญา มาตรา 276 แล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 656/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การร้องทุกข์ในคดีฉ้อโกง: ผู้ว่าฯ คนใหม่มีอำนาจร้องทุกข์แทนผู้เสียหายเดิม
ผู้ว่าราชการจังหวัดถูกฉ้อโกงหลงเชื่อสั่งจ่ายเงินซึ่งอยู่ในอำนาจหน้าที่ไป เมื่อย้ายผู้ว่าราชการคนเก่าไปแล้วผู้ว่าราชการจังหวัดคนใหม่โดยตำแหน่งย่อมเป็นผู้เสียหายมีสิทธิร้องทุกข์ให้เอาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษได้
การที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสั่งให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีนั้นถือได้ว่าเป็นการร้องทุกข์แล้ว
การที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสั่งให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีนั้นถือได้ว่าเป็นการร้องทุกข์แล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2028/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องคดีอาญาจำกัดเฉพาะผู้เสียหายตามที่กฎหมายกำหนด แม้ได้รับความเสียหายก็ไม่อาจฟ้องแทนได้
ก.ม.ได้กำหนดตัวบุคคลไว้โดยเฉพาะที่จะจัดการแทนผู้เสียหายได้เป็นการแสดงอยู่ในตัวเองว่าผู้ที่จะเป็นโจทก์ฟ้องแทนผู้เสียหายได้ต้องเป็นบุคคลตามที่ระบุไว้ใน ป.วิ.อ.
โจทก์เป็นผู้ได้รับมอบอำนาจให้จำหน่ายยาอันมีเครื่องหมายการค้าโดยเฉพาะจากผู้มีชื่อ ต่อมามีผู้ปลอมเครื่องหมายการค้ายาที่โจทก์ได้รับมอบอำนาจแม้โจทก์จะเสียหายก็ตาม ก็มิได้ชื่อว่าเป็นผู้เสียหายตาม ป.วิ.อาญาไม่ โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง.
โจทก์เป็นผู้ได้รับมอบอำนาจให้จำหน่ายยาอันมีเครื่องหมายการค้าโดยเฉพาะจากผู้มีชื่อ ต่อมามีผู้ปลอมเครื่องหมายการค้ายาที่โจทก์ได้รับมอบอำนาจแม้โจทก์จะเสียหายก็ตาม ก็มิได้ชื่อว่าเป็นผู้เสียหายตาม ป.วิ.อาญาไม่ โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2028/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องคดีอาญาจำกัดเฉพาะผู้เสียหายตามกฎหมาย ผู้รับมอบอำนาจจำหน่ายยามิใช่ผู้เสียหาย
กฎหมายได้กำหนดตัวบุคคลไว้โดยเฉพาะที่จะจัดการแทนผู้เสียหายได้เป็นการแสดงอยู่ในตัวเองว่าผู้ที่จะเป็นโจทก์ฟ้องแทนผู้เสียหายได้ต้องเป็นบุคคลตามที่ระบุไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
โจทก์เป็นผู้ได้รับมอบอำนาจให้จำหน่ายยาอันมีเครื่องหมายการค้าโดยเฉพาะจากผู้มีชื่อ ต่อมามีผู้ปลอมเครื่องหมายการค้ายาที่โจทก์ได้รับมอบอำนาจ แม้โจทก์จะเสียหายก็ตาม ก็มิได้ชื่อว่าเป็นผู้เสียหายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง
โจทก์เป็นผู้ได้รับมอบอำนาจให้จำหน่ายยาอันมีเครื่องหมายการค้าโดยเฉพาะจากผู้มีชื่อ ต่อมามีผู้ปลอมเครื่องหมายการค้ายาที่โจทก์ได้รับมอบอำนาจ แม้โจทก์จะเสียหายก็ตาม ก็มิได้ชื่อว่าเป็นผู้เสียหายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1633/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฉ้อโกงต้องมีองค์ประกอบการหลงเชื่อจำเลยโดยตรง หากผู้เสียหายหลงเชื่อผู้อื่น การกระทำของจำเลยไม่ถือเป็นเหตุให้เกิดความเสียหาย
เมื่อข้อเท็จจริงในห้องสำนวนปรากฏว่า ผู้เสียหายมอบเงินให้แก่ผู้แทนผู้เสียหายไปรับจำนองแทนผู้เสียหายเพราะเชื่อตามที่ผู้แทนบอกเช่นนี้และศาลล่างทั้งสองวินิจฉัยว่าผู้เสียหายหลงเชื่อจำเลยดังนี้เป็นการวินิจฉัยข้อเท็จจริงไม่ตรงกับความจริง ศาลฎีกามีอำนาจวินิจฉัยเสียใหม่ให้ตรงความจริงได้
เมื่อผู้เสียหายซึ่งเป็นผู้ร้องทุกข์ มิได้เสียหายเนื่องจากหลงเชื่อการกระทำของจำเลยแล้วก็ย่อมขาดองค์สำคัญแห่งความผิดฐานฉ้อโกง จะลงโทษจำเลยหาได้ไม่.
เมื่อผู้เสียหายซึ่งเป็นผู้ร้องทุกข์ มิได้เสียหายเนื่องจากหลงเชื่อการกระทำของจำเลยแล้วก็ย่อมขาดองค์สำคัญแห่งความผิดฐานฉ้อโกง จะลงโทษจำเลยหาได้ไม่.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1633/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฉ้อโกงต้องเกิดจากการหลงเชื่อจำเลยโดยตรง หากผู้เสียหายหลงเชื่อผู้อื่นและส่งทรัพย์ให้ผู้นั้น ไม่ถือว่าเสียหายจากการฉ้อโกงของจำเลย
เมื่อข้อเท็จจริงในท้องสำนวนปรากฏว่า ผู้เสียหายมอบเงินให้แก่ผู้แทนผู้เสียหายไปรับจำนองแทนผู้เสียหาย เพราะเชื่อตามที่ผู้แทนบอกเช่นนี้ และศาลล่างทั้งสองวินิจฉัยว่าผู้เสียหายหลงเชื่อจำเลย ดังนี้เป็นการวินิจฉัยข้อเท็จจริงไม่ตรงกับความจริง ศาลฎีกามีอำนาจวินิจฉัยเสียใหม่ให้ตรงความจริงได้
เมื่อผู้เสียหายซึ่งเป็นผู้ร้องทุกข์ มิได้เสียหายเนื่องจากหลงเชื่อการกระทำของจำเลยแล้ว ก็ย่อมขาดองค์สำคัญแห่งความผิดฐานฉ้อโกง จะลงโทษจำเลยหาได้ไม่
เมื่อผู้เสียหายซึ่งเป็นผู้ร้องทุกข์ มิได้เสียหายเนื่องจากหลงเชื่อการกระทำของจำเลยแล้ว ก็ย่อมขาดองค์สำคัญแห่งความผิดฐานฉ้อโกง จะลงโทษจำเลยหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1187/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องคดีของเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นตาม พ.ร.บ.ควบคุมการก่อสร้างอาคาร แม้มิใช่ผู้เสียหายทางอาญา
ผู้เสียหายตาม ป.วิ.อาญา ม.2 (4) หมายถึงบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลที่ถูกประทุษร้ายได้รับความเสียหายอันเป็นที่เห็นประจักษ์โดยตรงแต่โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นตาม พ.ร.บ.ควบคุมการก่อสร้างอาคารและจำเลยก็มิได้กระทำผิดทางอาญา ต่อโจทก์แต่อย่างใด ดังนี้โจทก์จึงหาใช่ผู้เสียหายไม่
เมื่อโจทก์มิใช่ผู้เสียหายแล้วก็ย่อมนำม.51 มาปรับแก่คดีไม่ได้
เมื่อ พ.ร.บ.ควบคุมการก่อสร้างอาคาร ม.11 วรรค 2 ให้อำนาจเจ้าพนักงานท้องถิ่นร้องขอต่อศาลให้ผู้กระทำผิดเปลี่ยนแปลงแก้ไขหรือรื้อถอนอาคารที่สร้างผิดแผกไปจากแผนผังก่อสร้างได้ทั้งโจทก์ก็ได้โต้แย้งให้แก้ไขแล้วแต่จำเลยไม่ปฏิบัติตาม โจทก์ก็ย่อมมีอำนาจฟ้องขอให้บังคับได้
ตามที่ พ.ร.บ.ควบคุมการก่อสร้างอาคารมิได้บัญญัติเรื่องอายุความฟ้องร้องไว้ ก็ต้องใช้อายุความตามหลักทั่วไปแห่ง ป.พ.พ.ม.169
เมื่อโจทก์มิใช่ผู้เสียหายแล้วก็ย่อมนำม.51 มาปรับแก่คดีไม่ได้
เมื่อ พ.ร.บ.ควบคุมการก่อสร้างอาคาร ม.11 วรรค 2 ให้อำนาจเจ้าพนักงานท้องถิ่นร้องขอต่อศาลให้ผู้กระทำผิดเปลี่ยนแปลงแก้ไขหรือรื้อถอนอาคารที่สร้างผิดแผกไปจากแผนผังก่อสร้างได้ทั้งโจทก์ก็ได้โต้แย้งให้แก้ไขแล้วแต่จำเลยไม่ปฏิบัติตาม โจทก์ก็ย่อมมีอำนาจฟ้องขอให้บังคับได้
ตามที่ พ.ร.บ.ควบคุมการก่อสร้างอาคารมิได้บัญญัติเรื่องอายุความฟ้องร้องไว้ ก็ต้องใช้อายุความตามหลักทั่วไปแห่ง ป.พ.พ.ม.169
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1128/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องคดีแจ้งความเท็จ: ผู้ถูกแจ้งความเท็จมีสิทธิฟ้องได้
โจทก์ไปแจ้งความต่อตำรวจหาว่า ก.หมิ่นประมาท ชั้นสอบสวนจำเลยให้การเป็นพยานต่อนายตำรวจด้วยข้อความเท็จโดยเจตนาจะช่วย ก.กรณีเช่นนี้ย่อมถือได้ว่าโจทก์เป็นผู้เสียหายในฐานความผิดฐานแจ้งความเท็จมีอำนาจฟ้องขอให้ศาลลงโทษจำเลยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1128/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องคดีแจ้งความเท็จ: ผู้ถูกแจ้งความเท็จมีสิทธิฟ้องได้
โจทก์ไปแจ้งความต่อตำรวจหาว่า ก. หมิ่นประมาทชั้นสอบสวนจำเลยให้การเป็นพยานต่อนายตำรวจด้วยข้อความเท็จโดยเจตนาจะช่วย ก. กรณีเช่นนี้ย่อมถือได้ว่าโจทก์เป็นผู้เสียหายในฐานความผิดฐานแจ้งความเท็จมีอำนาจฟ้องขอให้ศาลลงโทษจำเลยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1106/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิการเป็นโจทก์ร่วมของผู้เสียหายจากการทำลายหลักฐานการทำไม้ และการเปลี่ยนเลขหมายไม้โดยมิชอบ
อัยการโจทก์ฟ้องว่าจำเลยทั้ง 4 สมคบกันถากทำลายตราประจำต้นไม้ของนายจงกลซึ่งได้รับอนุญาตจากกรมป่าไม้ แล้วสมคบกันตีราคาเลขหมายอื่น เป็นเลขของนายพิจิตรจำเลยขึ้นใหม่โดยทางการมิได้อนุญาตเพื่อประสงค์จะให้ไม้ของนายจงกลตกเป็นของนายพิจิตร จำเลย โดยจำเลยหวังผลประโยชน์จากนายพิจิตร
ดังนี้นายจงกลย่อมได้ชื่อว่าเป็นผู้เสียหายมีสิทธิร้องขอเข้าเป็นโจทก์ร่วมกับอัยการโจทก์ได้ เพราะเป็นผู้ที่ได้รับอนุญาตให้ทำไม้ที่ตีตราไว้ให้แล้วซึ่งนายจงกลมีสิทธิที่จะเข้ายึดถือครอบครองเป็นเจ้าของในภายหลัง (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 5/2499)
ดังนี้นายจงกลย่อมได้ชื่อว่าเป็นผู้เสียหายมีสิทธิร้องขอเข้าเป็นโจทก์ร่วมกับอัยการโจทก์ได้ เพราะเป็นผู้ที่ได้รับอนุญาตให้ทำไม้ที่ตีตราไว้ให้แล้วซึ่งนายจงกลมีสิทธิที่จะเข้ายึดถือครอบครองเป็นเจ้าของในภายหลัง (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 5/2499)