พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,327 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 122/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การมอบเงินซื้อกระบือ ไม่ถือเป็นสัญญาเงินกู้ ไม่ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ
โจทก์มอบเงินให้จำเลย ไปหาซื้อกระบือให้โจทก์มิใช่เป็นเรื่องกู้ยืมเงินตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 653 ไม่จำเป็นต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ เมื่อจำเลยไม่ซื้อกระบือให้โจทก์โจทก์ก็ฟ้องเรียกเงินคืนจากจำเลยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1080/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เงินทดรองช่วยเหลือญาติไม่ใช่การกู้ยืม ไม่ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ และไม่ขัดต่อความสงบเรียบร้อย
นิติกรรมที่เกิดขึ้นโดยฝ่ายหนึ่งขอให้อีกฝ่ายหนึ่งจ่ายเงินทดรองไปในกิจการอย่างหนึ่ง โดยตกลงว่าจะใช้คืนให้เมื่อเสร็จกิจการนั้นแล้ว หาใช่เป็นการกู้ยืนไม่ แม้เงินที่ทดรองไปจะเกินกว่า 50 บาท ก็ไม่ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ
การที่ออกเงินช่วยญาติให้ฟ้องร้องคดียังโรงศาลหาเป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีแต่อย่างใดไม่
การที่ออกเงินช่วยญาติให้ฟ้องร้องคดียังโรงศาลหาเป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีแต่อย่างใดไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 944/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำซัดทอดจำเลยด้วยกันฟังเป็นหลักฐานยันจำเลยอื่นไม่ได้ และการพิจารณาหลักฐานพยานต้องน่าเชื่อถือ
คำซัดทอดของจำเลยด้วยกันฟังเป็นพยานหลักฐานยันจำเลยอื่นไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 511/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สมคบฆ่าผู้อื่น: การกระทำร่วมกันและการหลบหนีเป็นหลักฐานแสดงเจตนา
พฤติการณ์ที่ถือว่าเป็นการสมคบ
จำเลยมีไม้ตะพด 1 อันวิ่งตามไปกับนายเรียนซึ่งเป็นพี่ชายแล้วนายเรียนยิงนายเภาตาย และแล้วจำเลยกับพวกพากันหลบหนีไปจากที่เกิดเหตุพร้อมกัน ถือว่าจำเลยกับพวกสมคบกันฆ่านายเภาผู้ตาย.
จำเลยมีไม้ตะพด 1 อันวิ่งตามไปกับนายเรียนซึ่งเป็นพี่ชายแล้วนายเรียนยิงนายเภาตาย และแล้วจำเลยกับพวกพากันหลบหนีไปจากที่เกิดเหตุพร้อมกัน ถือว่าจำเลยกับพวกสมคบกันฆ่านายเภาผู้ตาย.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 511/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สมคบคิดฆ่าผู้อื่น: การกระทำร่วมกันและหลบหนีถือเป็นหลักฐาน
พฤติการณ์ที่ถือว่าเป็นการสมคบ
จำเลยมีไม้ตะพด 1 อันวิ่งตามไปกับนายเรียนซึ่งเป็นพี่ชายแล้วนายเรียนยิงนายเภาตาย และแล้วจำเลยกับพวกพากันหลบหนีไปจากที่เกิดเหตุพร้อมกัน ถือว่าจำเลยกับพวกสมคบกันฆ่านายเภาผู้ตาย
จำเลยมีไม้ตะพด 1 อันวิ่งตามไปกับนายเรียนซึ่งเป็นพี่ชายแล้วนายเรียนยิงนายเภาตาย และแล้วจำเลยกับพวกพากันหลบหนีไปจากที่เกิดเหตุพร้อมกัน ถือว่าจำเลยกับพวกสมคบกันฆ่านายเภาผู้ตาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1945/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าจากความหึงหวง การยิงในระยะใกล้ถือเป็นหลักฐานสำคัญ
จำเลยกับผู้เสียหายต่างรักใคร่กับหญิงคนรักคน ๆ เดียวกัน คนรักถูกผู้ปกครองต่อว่าเสียใจวิ่งขึ้นบนห้อง จำเลยตามขึ้นไปผู้เสียตามขึ้นไปภายหลัง ถามจำเลยว่ามึงมาใหญ่โตที่นี่หรือ จำเลยยกมือไหว้ว่ามีอะไรสั่งสอนผม ๆ นับถือพี่พงษ์ (ผู้เสียหาย) แล้วจำเลยกับผู้เสียหายใช้มือผลักกันไปมาคนรักหนีเข้าห้อง จำเลยวิ่งหนีไปอีกห้องติด ๆ กัน ผู้เสียหายตามเข้าไปกอดคนรักและพูดว่า "พี่อยู่ทั้งคนไม่ต้องกลัว" ทันใดจำเลยอยู่หน้าประตูห้องคนรักก็ยิงผู้เสียหาย ดังนี้การกระทำของผู้เสียหายหาใช่เป็นการข่มเหงไม่และไม่ใช่เป็นการชวนวิวาทเพราะ เมื่อจำเลยหนีเข้าไปในห้องอีกห้องหนึ่ง ผู้เสียหายไม่ได้ติดตามเข้าไปหรือพูดอะไรกับจำเลยอีก ผู้เสียหายพูดว่าจำเลยในฐานเป็นผู้ใหญ่กว่า การผลักกันไปมานั้นก็ไม่หมายความว่าผู้เสียหายผลักจำเลยเป็นการชวนทำร้าย
อาวุธปืนเป็นของร้ายแรง แผลที่จำเลยยิงก็อยู่ใกล้อวัยวะส่วนสำคัญของร่างกาย จำเลยยิงในระยะใกล้ ๆ 1 วาเศษ อย่างน้อย 2 นัด และยิงเพราะความหึงหวงที่ผู้เสียหายกอดหญิงที่ตนรักใคร่ จึงส่อให้เห็นว่า จำเลยมีเจตนาฆ่าตาม ม.249 ไม่ใช่ 256.
อาวุธปืนเป็นของร้ายแรง แผลที่จำเลยยิงก็อยู่ใกล้อวัยวะส่วนสำคัญของร่างกาย จำเลยยิงในระยะใกล้ ๆ 1 วาเศษ อย่างน้อย 2 นัด และยิงเพราะความหึงหวงที่ผู้เสียหายกอดหญิงที่ตนรักใคร่ จึงส่อให้เห็นว่า จำเลยมีเจตนาฆ่าตาม ม.249 ไม่ใช่ 256.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1775/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อเท็จจริงนอกสำนวนห้ามนำมาใช้ประกอบการพิจารณาคดีแพ่ง แม้มีคำพิพากษาอาญา
แม้มีคำพิพากษาคดีอาญาแล้วโจทก์มาฟ้องจำเลยให้รับผิดทางแพ่งโดยอาศัยมูลจากคำชี้ขาดทางอาญานั้น แต่ไม่มีการอ้างอิงสำนวนคดีอาญาเป็นพยาน ดังนี้ข้อเท็จจริงในสำนวนคดีอาญาเรื่องนั้นเป็นข้อเท็จจริงนอกสำนวน.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1775/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อเท็จจริงนอกสำนวน: ศาลไม่สามารถนำข้อเท็จจริงจากสำนวนคดีอาญามาใช้ตัดสินคดีแพ่งได้หากไม่ได้มีการนำสืบในสำนวน
แม้มีคำพิพากษาคดีอาญาแล้วโจทก์มาฟ้องจำเลยให้รับผิดทางแพ่งโดยอาศัยมูลจากคำชี้ขาดทางอาญานั้น แต่ไม่มีการอ้างอิงสำนวนคดีอาญาเป็นพยาน ดังนี้ ข้อเท็จจริงในสำนวนคดีอาญาเรื่องนั้นเป็นข้อเท็จจริงนอกสำนวน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1748/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การอ้างสิทธิทำต่างดอกเบี้ยโดยไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ ไม่อาจใช้โต้แย้งการเรียกคืนที่ดินได้
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยบุกรุกที่นา ขอให้ห้ามจำเลยมิให้เกี่ยวข้อง จำเลยต่อสู้โดยมิได้กล่าวอ้างถึงสิทธิทางทะเบียน คงอ้างสิทธิโดยข้อสัญญาประการเดียวว่าโจทก์กู้เงินจำเลยไป 5,000 บาท และยอมให้นาพิพาททำต่างดอกเบี้ย
แม้จะฟังว่าข้อสัญญา(กู้)นี้มีอยู่จริง แต่เมื่อไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ จำเลยจะยืนยันให้ศาลบังคับคดีให้แก่จำเลยตามกฎหมายอันเกี่ยวด้วยเรื่องเอกเทศสัญญาใดๆไม่ได้ทั้งสิ้น ดังนี้ จึงไม่มีเหตุพิเศษอันใดตามกฎหมายที่จำเลยจะโต้แย้งไม่ยอมคืนที่นาพิพาทให้แก่โจทก์
แม้จะฟังว่าข้อสัญญา(กู้)นี้มีอยู่จริง แต่เมื่อไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ จำเลยจะยืนยันให้ศาลบังคับคดีให้แก่จำเลยตามกฎหมายอันเกี่ยวด้วยเรื่องเอกเทศสัญญาใดๆไม่ได้ทั้งสิ้น ดังนี้ จึงไม่มีเหตุพิเศษอันใดตามกฎหมายที่จำเลยจะโต้แย้งไม่ยอมคืนที่นาพิพาทให้แก่โจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1723/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เอกสารสัญญากู้เป็นหลักฐานชัดเจน จำเลยโต้แย้งการรับเงินไม่ครบไม่ได้
โจทก์มีเอกสารสัญญากู้เป็นหลักฐานปรากฎชัดเจนในจำนวนเงินกู้ (เกินกว่า 50 บาท) และระบุว่าได้รับเงินไปครบถ้วนถูกต้องแล้ว เมื่อจำเลยมิได้ต่อสู้ว่าสัญญากู้นี้เป็นโมฆะหรือไม่สมบูรณ์ด้วยประการใดๆ จำเลยจะนำสืบว่ารับเงินกู้ไปไม่ครบจำนวนดังข้อความตามสัญญากู้นั้นหาได้ไม่ เป็นการขัดต่อ ป.วิ.แพ่ง มาตรา 94(ข).