คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
กรรมการบริษัท

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 132 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3536/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ธุรกิจเงินทุนโดยไม่ได้รับอนุญาต และความรับผิดของกรรมการบริษัท
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทั้งสี่ร่วมกันดำเนินกิจการจัดหาเงินจากประชาชน และให้กู้ยืมเงินในระยะสั้นเป็นทางค้าปกติโดยรับเงินจากประชาชนแล้ว ออกตั๋วสัญญาใช้เงินให้เจ้าของเงินไว้รวม 70 รายการและยังให้ บริษัทเงินทุน2บริษัทกู้ยืมเงินไปโดยจำเลยรับซื้อตั๋วสัญญาใช้เงิน อีก6รายการเป็นการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติประกอบธุรกิจเงินทุนฯพ.ศ.2522. จำเลยทั้งสี่ยอมให้การรับสารภาพไม่ต่อสู้คดีและมิได้ นำพยานหลักฐานเข้านำสืบหักล้างข้อเท็จจริงดังกล่าวการที่จำเลยฎีกา ว่าไม่มีเจตนากระทำความผิดอีกย่อมรับฟังไม่ได้
บริษัทจำเลยที่ 1 กระทำความผิดซึ่งจะต้องรับโทษตามมาตรา 71 พระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจเงินทุนฯจำเลยที่ 2ที่ 3 และที่ 4 ซึ่งเป็นกรรมการของบริษัทจำเลยที่1จะต้องรับโทษตามที่บัญญัติไว้ สำหรับความผิดนั้นๆ เช่นเดียวกับบริษัทจำเลยที่1เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าตนมิได้มีส่วนในการกระทำความผิดของบริษัทจำเลยที่ 1 ตามมาตรา 71 พระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจเงินทุนฯบัญญัติให้ ลงโทษผู้ฝ่าฝืนไว้ 2 ขั้นคือเมื่อลงมือกระทำผิด ต้องถูกลงโทษขั้นแรก จำคุกไม่เกินสองปีหรือปรับไม่เกินสองแสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับและ ตลอดเวลาที่กระทำความผิดจะต้องถูกลงโทษในขั้นที่สองอีกโดยปรับไม่เกินวันละห้าพันบาทโดยไม่คำนึงว่าจะเป็นความผิดกรรมเดียวกันหรือไม่ก็ตาม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1546/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนกรรมสิทธิ์โดยบุคคลล้มละลายในฐานะกรรมการบริษัท: การเปลี่ยนตัวผู้ถือแทนกรรมสิทธิ์ไม่ใช่การโอนกรรมสิทธิ์
ส.มีชื่อถือกรรมสิทธิ์ในที่พิพาทไว้แทนบริษัทจำเลยส.เป็นบุคคลล้มละลายในระหว่างเป็นกรรมการผู้จัดการ ย่อมขาดจากการเป็นกรรมการบริษัทจำเลยตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1154จึง ไม่มีอำนาจถือกรรมสิทธิ์ที่พิพาทแทนบริษัทจำเลยอีกต่อไปดังนั้นการที่ ส. โอนที่พิพาทให้กรรมการอีกคนหนึ่งของบริษัทจึงเป็นการโอนเปลี่ยนตัวผู้ถือกรรมสิทธิ์แทนบริษัทจำเลยเท่านั้นหาใช่เป็นการโอนกรรมสิทธิ์ไม่การโอนจึงไม่เป็นโมฆะ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1194/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีเปลี่ยนแปลงกรรมการบริษัทสิ้นสุดเมื่อโจทก์พ้นสถานะกรรมการและไม่มีส่วนได้เสียในบริษัท
โจทก์ฟ้องคดีในนามของโจทก์ซึ่งเป็นกรรมการบริษัท มิใช่ฟ้อง ในฐานะทำการแทนบริษัทเพื่อบังคับจำเลยให้รับจดทะเบียนเปลี่ยนแปลง กรรมการและอำนาจกรรมการของบริษัทให้โจทก์เป็นกรรมการแต่เพียงผู้เดียว มีอำนาจลงลายมือชื่อและประทับตราสำคัญของบริษัท อันถือได้ว่าโจทก์ เป็นผู้มีส่วนได้เสียโดยตรง จึงมีอำนาจฟ้องคดีในขณะยื่นฟ้อง แต่เมื่อปรากฏว่าโจทก์ได้ลาออกจากการเป็นกรรมการบริษัทและไม่ได้เกี่ยวข้อง กับบริษัทอีกต่อไปแล้วทั้งที่ประชุมวิสามัญของผู้ถือหุ้นได้มีมติเป็นเอกฉันท์ ว่ากรรมการบริษัทประกอบด้วยกรรมการ 2 คน ไม่ใช่โจทก์ จึงถือว่าโจทก์ ไม่มีส่วนได้เสียโดยตรงในคดีนี้อีกต่อไป อำนาจฟ้องของโจทก์จึงหมดลง ศาลย่อมพิพากษายกฟ้องโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2000/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมการบริษัทออกเช็คโดยไม่มีเงินในบัญชี และสั่งห้ามจ่ายเงิน ถือเป็นตัวการออกเช็คโดยเจตนาทุจริต ฟ้องจำเลยในฐานะส่วนตัวได้
จำเลยเป็นกรรมการผู้มีอำนาจลงชื่อแทนบริษัท ธ. การที่จำเลยออกเช็คโดยลงชื่อเป็นผู้สั่งจ่ายและประทับตราของบริษัทให้แก่ผู้เสียหายเพื่อชำระหนี้ของบริษัท เมื่อธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คเพราะจำเลยมีคำสั่งห้ามธนาคารใช้เงินตามเช็ค และไม่มีเงินในบัญชีเงินฝากของบริษัท อันเป็นการออกเช็คโดยเจตนาจะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็คซึ่งเป็นความผิดตามที่โจทก์ฟ้อง ก็ถือว่าจำเลยร่วมกับบริษัทออกเช็ครายนี้ และมีความผิดฐานเป็นตัวการด้วยโจทก์ย่อมฟ้องจำเลยในฐานะส่วนตัวได้
โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยกระทำผิดเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2523 ซึ่งแตกต่างกับที่ปรากฏในการพิจารณาว่าจำเลยกระทำผิดเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2522 ข้อแตกต่างดังกล่าวเป็นข้อแตกต่างในรายละเอียดเกี่ยวกับเวลาที่กระทำผิด ซึ่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 มิให้ถือว่าต่างกันในข้อสาระสำคัญ เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่าการที่โจทก์ฟ้องผิดไปนั้นมิได้เป็นเหตุให้จำเลยหลงต่อสู้ ศาลย่อมลงโทษจำเลยตามฟ้องได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 71/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมการบริษัทร่วมรับผิดในความผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร แม้ไม่ได้รู้เห็นยินยอมโดยตรง และความผิดฐานก่อสร้างโดยไม่ขออนุญาตกับฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงานเป็นคนละกรรม
จำเลยเป็นกรรมการของบริษัท ช. และให้การรับสารภาพว่าได้ร่วมกับบริษัท ช. กระทำความผิดตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 จำเลยจึงต้องร่วมรับผิดกับบริษัท ช. ตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ.2522. มาตรา 72
โจทก์บรรยายฟ้องยืนยันถึงวันเวลาที่จำเลยกับพวกร่วมกันก่อสร้างอาคารพาณิชย์โดยไม่รับอนุญาต กับวันเวลาที่จำเลยกับพวกฝ่าฝืนคำสั่งของเจ้าพนักงานท้องถิ่นเป็นคนละวันและเวลากัน การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 71/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมการบริษัทต้องรับผิดร่วมกับบริษัทในความผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร หากมีส่วนรู้เห็นหรือยินยอม
จำเลยเป็นกรรมการของบริษัท ช. และให้การรับสารภาพว่าได้ร่วมกับบริษัท ช. กระทำความผิดตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 จำเลยจึงต้องร่วมรับผิดกับบริษัท ช. ตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ.2522. มาตรา 72
โจทก์บรรยายฟ้องยืนยันถึงวันเวลาที่จำเลยกับพวกร่วมกันก่อสร้างอาคารพาณิชย์โดยไม่รับอนุญาต กับวันเวลาที่จำเลยกับพวกฝ่าฝืนคำสั่งของเจ้าพนักงานท้องถิ่นเป็นคนละวันและเวลากัน การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2175/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การผลิตและจำหน่ายเครื่องสำอางปลอมและเป็นอันตราย ศาลฎีกายืนโทษจำคุกกรรมการบริษัท
กรรมการบริษัทซึ่งร่วมกันผลิตเพื่อขายเครื่องสำอางที่ไม่ปลอดภัยในการใช้ และเครื่องสำอางปลอม เป็นการเอาเปรียบในอาชีพการค้าและเป็นอันตรายแก่ผู้ใช้เครื่องสำอางที่บริษัทจำเลยผลิตขึ้น จึงไม่ควรรอการลงโทษจำคุกให้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1707/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สถานะกรรมการบริษัทที่ไม่ใช่ลูกจ้าง: การพิจารณาจากลักษณะการทำงานและเจตนาในการรับค่าตอบแทน
การปฏิบัติงานของ ล. กรรมการผู้จัดการบริษัทโจทก์ไม่เป็นกิจจะลักษณะ ไปปฏิบัติงานบ้าง ไม่ปฏิบัติงานบ้าง สุดแท้แต่จะมีสุขภาพดีหรือไม่ ไม่มีหลักเกณฑ์การทำงานแน่นอน แต่อย่างใดแม้เงินเดือนจำน้อย ล. ก็พอใจ เพราะไม่มีเงินก็ขอเอาจากประธานกรรมการบริษัทได้ แสดงว่า ล. เป็นเพียงกรรมการผู้จัดการแต่เพียงในนาม เพราะหาก ล. เป็นลูกจ้างของบริษัทโจทก์ก็จะปฏิบัติตนเช่นนั้นไม่ได้ ล. คงเป็นเพียงกรรมการของบริษัทโจทก์ตามมติที่ประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้นแต่อย่างเดียว มิได้ตกลงทำงานให้แก่บริษัทโจทก์อีกชั้นหนึ่ง ล. จึงมิใช่ลูกจ้างของบริษัทโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 480/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของกรรมการบริษัทต่อการกระทำผิดของโรงงาน แม้ไม่ได้ระบุมาตราในฟ้อง
โจทก์ฟ้องว่าบริษัทจำเลยที่ 1 เจ้าของโรงงาน และจำเลยที่ 2กรรมการผู้มีอำนาจลงชื่อแทนบริษัทได้บังอาจระบายน้ำทิ้งลงในแม่น้ำเป็นการฝ่าฝืนประกาศของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ฯลฯขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ.2512 มาตรา 39, 50เมื่อจำเลยรับสารภาพจึงลงโทษจำเลยตามบทบัญญัติซึ่งโจทก์กล่าวมาในฟ้องแล้วได้ แม้โจทก์จะมิได้ระบุมาตรา 50 ทวิมาด้วยก็ตาม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3804/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีเพิกถอนคำสั่งทางปกครอง: ผู้ถือหุ้น/กรรมการบริษัท ไม่มีสิทธิฟ้องแทนบริษัท
โจทก์ฟ้องว่าโจทก์ทั้งสองเป็นผู้ถือหุ้นและเป็นกรรมการของบริษัท ร. จำเลยที่ 1 โดยจำเลยที่ 2 ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ออกคำสั่งให้ควบคุมบริษัท ร. แล้วตั้งจำเลยที่ 3 ถึงที่ 7 เป็นคณะกรรมการควบคุมซึ่งเป็นการไม่ชอบด้วยกฎหมาย จำเลยที่ 3 ถึงที่ 7 ใช้สิทธิโดยไม่สุจริตเสนอรายงานต่อจำเลยที่ 8 ว่าบริษัท ร. ไม่สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้ จำเลยที่ 8 ซึ่งดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังในขณะนั้นจึงสั่งเพิกถอนใบอนุญาตประกอบธุรกิจเงินทุนและธุรกิจหลักทรัพย์ของบริษัทร. ซึ่งเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ขอให้พิพากษาว่าคำสั่งที่ตั้งจำเลยที่ 3 ถึงที่ 7 เป็นคณะกรรมการควบคุมบริษัท ร. และคำสั่งเพิกถอนใบอนุญาตไม่ชอบด้วยกฎหมายให้จำเลยเพิกถอนเสีย ดังนี้ การกระทำของจำเลยทั้งแปดตามที่โจทก์กล่าวในฟ้องเป็นการกระทำต่อบริษัท ร. ซึ่งเป็นนิติบุคคลมีสิทธิและหน้าที่ต่างหากจากโจทก์ทั้งสองผู้ที่ได้รับความเสียหายเกี่ยวกับสิทธิหรือหน้าที่ก็คือบริษัทร. ถือไม่ได้ว่าโจทก์ทั้งสองในฐานะเป็นผู้ถือหุ้นและกรรมการของบริษัท ร. ถูกโต้แย้งสิทธิ โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง
of 14