คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
กระบวนการพิจารณา

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 154 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 376/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หน้าที่นำสืบตกแก่โจทก์ ศาลพิพากษาโดยไม่ชอบเมื่องดสืบพยาน
ตามคำฟ้องและคำให้การประเด็นพิพาทตกหน้าที่โจทก์นำสืบก่อนที่ศาลชั้นต้นกำหนดให้ฝ่ายจำเลยนำสืบก่อนนั้นไม่ชอบ แม้จำเลยจะไม่ได้คัดค้านไว้เมื่อศาลกำหนดหน้าที่นำสืบก็ตาม แต่การที่ศาลจะพิพากษาให้ฝ่ายใดชนะคดีโดยถือหน้าที่นำสืบเป็นหลักนั้น ต้องถือหน้าที่นำสืบที่ถูกต้องตามกฎหมาย ฉะนั้นเมื่อหน้าที่นำสืบตกโจทก์ การที่ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยานโจทก์จำเลยแล้วพิพากษาให้โจทก์ชนะคดี จึงไม่ชอบด้วยวิธีพิจารณา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1980/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การมอบอำนาจไม่ชอบด้วยกฎหมาย: การดำเนินคดีโดยผู้ไม่มีอำนาจส่งผลให้กระบวนการพิจารณาเป็นโมฆะ
เมื่อศาลชั้นต้นส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องให้จำเลยเพื่อทำคำให้การแก้คดีแล้ว จำเลยโดย ป. ผู้รับมอบอำนาจได้แต่งตั้งให้ ส.เป็นทนายความของจำเลย ส. ยื่นคำให้การของจำเลยและดำเนินกระบวนพิจารณาแทนจำเลยต่อมาจนเสร็จคดีแต่ไม่ปรากฏว่าจำเลยได้มอบอำนาจให้ ป. ดำเนินคดีแทนดังนั้น การที่ บ. เข้ามาดำเนินคดีแทนจำเลยก็ดี แต่งตั้งให้ ส. เป็นทนายจำเลยก็ดี และการที่ ส.ดำเนินกระบวนพิจารณาแทนจำเลยต่อมาจนเสร็จคดีก็ดี จึงเป็นการกระทำของบุคคลภายนอกที่ไม่มีอำนาจดำเนินกระบวนพิจารณาแทน จำเลย การดำเนินกระบวนพิจารณาของบุคคลดังกล่าวจึงเป็นการไม่ชอบด้วยกฎหมายและไม่ผูกพันจำเลย
กรณีดังกล่าวข้างต้นเป็นเรื่องที่มิได้ปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งในข้อที่มุ่งหมายจะยังให้การเป็นไปด้วยความยุติธรรม และเป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 27 แม้จะไม่มีคู่ความฝ่ายใดยกขึ้นอ้าง เมื่อความปรากฏแก่ศาลฎีกา ศาลฎีกาย่อมมีอำนาจยกปัญหานี้ขึ้นวินิจฉัยและให้เพิกถอนกระบวนพิจารณาที่ไม่ชอบนั้นได้ เมื่อปรากฏว่าจำเลยทั้งหมดถูกฟ้องให้รับผิดร่วมกันอันเป็นหนี้ร่วม ก็สมควรให้ยกคำพิพากษาของศาลล่างตลอดไปถึงจำเลยอื่นด้วย (วรรคสองอ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 345/2520)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 483/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ รายงานพนักงานคุมประพฤติใช้ได้แค่พิจารณาโทษ ไม่ใช้พิสูจน์ความผิด
การที่ศาลสั่งให้พนักงานคุมประพฤติสืบเสาะและพินิจจำเลยเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับประวัติความประพฤติ ฯลฯตลอดจนสภาพสิ่งแวดล้อมเกี่ยวกับตัวจำเลยนั้น มิใช่เรื่องที่ศาลสั่งให้มีการสืบพยานเกี่ยวกับการกระทำที่โจทก์ฟ้องว่าเป็นความผิด แต่เป็นเรื่องสืบเสาะข้อเท็จจริงเพื่อนำมาใช้ในการพิจารณาโทษและวิธีการที่จะปฏิบัติต่อจำเลยเท่านั้น ถึงแม้ตามพระราชบัญญัติวิธีดำเนินการคุมประพฤติตามประมวลกฎหมายอาญา พ.ศ.2522 มาตรา13 ศาลจะมีอำนาจรับฟังรายงานของพนักงานคุมประพฤติตามมาตรา 11โดยไม่ต้องมีพยานบุคคลประกอบก็ตาม แต่ก็เป็นพยานสำหรับการพิจารณาเรื่องโทษและวิธีการที่จะดำเนินการต่อผู้กระทำผิดเท่านั้นหาใช่พยานหลักฐานที่จะนำมาวินิจฉัยการกระทำที่ถูกฟ้องด้วยไม่จึงนำข้อเท็จจริงจากรายงานของพนักงานคุมประพฤติมาเป็นเหตุยกฟ้องไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2926-2929/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กระบวนการพิจารณาคดีไม่ชอบ ศาลต้องดำเนินกระบวนพิจารณาใหม่ และการนำสืบไม่เกินขอบเขตคำฟ้อง
จำเลยที่ 2 ขาดนัดยื่นคำให้การวันนัดพร้อมจำเลยที่ 2 มิได้มาศาลศาลชั้นต้นสืบพยานโจทก์ไม่เคยแจ้งวันนัดให้จำเลยที่ 2 ทราบเลย ดังนี้ กระบวนพิจารณาของศาลชั้นต้นในส่วนที่เกี่ยวกับจำเลยที่ 2 นับตั้งแต่วันนัดสืบพยานโจทก์นัดแรกและภายหลังแต่นั้นมาไม่ชอบ และไม่มีผลผูกพัน จำเลยที่ 2 ต้องยกคำพิพากษาของศาลล่าง ให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาใหม่ให้ถูกต้อง
โจทก์บรรยายฟ้องว่า อ. ลูกจ้างของจำเลยขับรถยนต์บรรทุกโดยประมาทล้ำเข้ามาในช่องทางเดินรถด้านขวาด้วยความเร็วสูง เป็นเหตุให้ชนกับรถยนต์นั่ง ทำให้สามีโจทก์ที่ 1 ตาย โจทก์ที่ 2 บาดเจ็บสาหัส ดังนี้ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 172 แล้ว การที่โจทก์นำสืบว่า อ. ขับรถยนต์บรรทุกแซงรถยนต์บรรทุกคันอื่นขึ้นมาเฉี่ยวชนกับรถฝ่ายโจทก์ เป็นการนำสืบถึงรายละเอียด ไม่เป็นการนำสืบนอกคำฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2771/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรวมพิจารณาคดีระหว่างศาลพลเรือนและศาลทหารที่ไม่ชอบตามกฎหมาย และผลกระทบต่ออำนาจศาลอุทธรณ์
ศาลพลเรือนประทับฟ้องแล้วสั่งให้พิจารณารวมกับคดีของศาลทหาร และพิพากษารวมกันมา โดยมีตุลาการศาลทหารและผู้พิพากษาศาลพลเรือนชุดเดียวกันรวมสามนายเป็นองค์คณะพิจารณาพิพากษา เป็นการไม่ชอบตามพระธรรมนูญศาลยุติธรรมว่าด้วยอำนาจศาลและประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 25 เพราะคดีต่างศาลกันจะพิจารณารวมกันไม่ได้ เป็นเรื่องศาลชั้นต้นมิได้ปฏิบัติให้ถูกต้องตามกระบวนพิจารณาต้องถือว่าคดีนี้ยังไม่ได้ผ่านการพิจารณาของศาลชั้นต้นศาลอุทธรณ์จึงยังไม่มีอำนาจพิจารณาพิพากษาต้องให้ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษาใหม่ให้เป็นการถูกต้องเสียก่อน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1945/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การระบุพยานเพิ่มเติมต้องมีเหตุสมควร หากไม่มีเหตุผลรองรับ ศาลย่อมต้องห้ามมิให้รับฟัง
เมื่อไม่มีเหตุสมควรที่จะอนุญาตให้จำเลยระบุพยานเพิ่มเติมตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 88 วรรคสาม แม้ศาลชั้นต้นได้สืบพยานที่ระบุ เพิ่มเติมไปแล้ว ก็ย่อมต้องห้าม มิให้รับฟัง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 597/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กระบวนการล้มละลาย: การไม่อนุญาตให้ยื่นคำให้การหลังเริ่มพิจารณา และการสันนิษฐานเรื่องหนี้สินล้นพ้นตัว
การดำเนินกระบวนพิจารณาคดีฟ้องให้ล้มละลายนั้นกฎหมายไม่ได้กำหนดวันยื่นคำให้การเหมือนคดีแพ่งธรรมดา ฉะนั้นจำเลยจะยื่นคำให้การหรือไม่ยื่นก็ได้และหากจำเลยประสงค์จะยื่นคำให้การก็มีโอกาสยื่นได้ถึง 7 วันเป็นอย่างน้อยก่อนวันนั่งพิจารณาแต่คดีนี้ปรากฏว่าจำเลยไม่มาศาลในวันนั่งพิจารณาและไม่ยื่นคำให้การทั้งมิได้ร้องขอเลื่อนหรือแจ้งเหตุขัดข้องที่ไม่มาศาลเสียก่อนลงมือสืบพยานเพิ่งจะมาศาลภายหลังเมื่อโจทก์สืบพยานเสร็จแล้ว ฉะนั้นที่ศาลมีคำสั่งไม่อนุญาตให้จำเลยยื่นคำให้การจึงชอบแล้ว
จำเลยถูกยึดทรัพย์ตามหมายบังคับคดี และไม่ปรากฏว่าจำเลยมีทรัพย์สินอื่นใดที่โจทก์จะพึงยึดมาชำระหนี้ได้อีกจึงต้องด้วยข้อสันนิษฐานตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 4 ว่าลูกหนี้มีหนี้สินล้นพ้นตัว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 420/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิจารณาคำขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลาย: การไม่นำพยานหลักฐานมายังไม่ถือขาดนัด
คำขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลายได้บัญญัติกระบวนพิจารณาไว้ในพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 โดยเฉพาะ ไม่อาจนำประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งเรื่องการขาดนัดพิจารณามาอนุโลมใช้ในเรื่องนี้ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 284/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขาดนัดพิจารณาคดี: การไม่อนุญาตเลื่อนคดีไม่ใช่การขาดนัด และศาลมีอำนาจเพิกถอนกระบวนการพิจารณาที่ไม่ชอบ
ในวันนัดสืบพยาน จำเลยที่ 2 ได้มาศาลและยื่นคำร้องขอเลื่อนคดีหากแต่ศาลไม่อนุญาตให้เลื่อน ไม่ใช่กรณีที่คู่ความฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่มาศาลในวันสืบพยาน และมิได้ร้องขอเลื่อนคดีหรือแจ้งเหตุขัดข้องที่ไม่มาศาลเสียก่อนลงมือสืบพยาน อันจะถือได้ว่าคู่ความฝ่ายนั้นขาดนัดพิจารณาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 197 วรรคสอง
กรณีมิได้ปฏิบัติให้เป็นไปตามบทบัญญัติว่าด้วยการพิจารณาคดีและการพิจารณาพยานหลักฐาน เป็นปัญหาข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลฎีกามีอำนาจที่จะหยิบยกขึ้นวินิจฉัยให้เพิกถอนคำสั่งและการดำเนินกระบวนพิจารณานั้นเสียได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 27 ประกอบด้วยมาตรา 247

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2737/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กระบวนการพิจารณาเบิกความเท็จ: ศาลอุทธรณ์สั่งให้วินิจฉัยความเท็จ แต่ศาลชั้นต้นมิได้ปฏิบัติตาม
ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานเบิกความเท็จ ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ววินิจฉัยว่าข้อความที่จำเลยเบิกความมิใช่ข้อสำคัญในคดี พิพากษายกฟ้อง ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าข้อความที่จำเลยเบิกความเป็นข้อสำคัญแต่ศาลชั้นต้นยังไม่ได้วินิจฉัยว่าข้อความเหล่านั้นมีมูลเป็นความเท็จหรือไม่ พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาและมีคำสั่งหรือคำพิพากษาใหม่ตามรูปคดี ศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์แล้วมิได้วินิจฉัยพยานหลักฐานในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง กลับหมายเรียกจำเลยแก้คดีมิได้ประทับฟ้อง แล้วสืบพยานโจทก์จำเลยและพิพากษายกฟ้อง ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ดังนี้ กระบวนพิจารณาของศาลชั้นต้นด้วย คำพิพากษาศาลชั้นต้นฉบับที่ 2 คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ฉบับที่ 2 ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ศาลฎีกาพิพากษายกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ฉบับที่ 2 คำพิพากษาศาลชั้นต้นฉบับที่ 2 ให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาและมีคำสั่งหรือคำพิพากษาใหม่ตามรูปคดี ตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ฉบับแรก
of 16