พบผลลัพธ์ทั้งหมด 215 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6007/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดของผู้ขนส่งและหุ้นส่วนจากการสูญหายของสินค้า และขอบเขตความรับผิดในสัญญาขนส่ง
หนังสือรับรองของสำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกรุงเทพมหานครระบุว่าจำเลยที่ 2 มีวัตถุประสงค์รับจ้างขนส่งสินค้าโดยทางบกและทางน้ำ ผู้ตราส่งเป็นผู้ว่าจ้างให้จำเลยที่ 2 เป็นผู้บรรทุกสินค้าจากโกดังสินค้าของผู้ตราส่งไปยังการท่าเรือแห่งประเทศไทย และชำระเงินค่าจ้างขนส่งให้จำเลยที่ 2 ถือว่าจำเลยที่ 2 ทำการรับขนของเพื่อบำเหน็จในทางการค้าปกติของตน ย่อมเป็นผู้ขนส่งตามความหมายแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 608 จำเลยที่ 1 เป็นตัวแทนของบริษัทน.ซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ ณประเทศสิงคโปร์ รับจ้างบริษัทล. ผู้ตราส่งบรรทุกสินค้าลงเรือเพื่อขนส่งไปยังเมืองฮ่องกงทั้งออกใบตราส่งให้แก่ผู้ตราส่งการกระทำของจำเลยที่ 1 เป็นกรณีที่จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นตัวแทนทำสัญญารับขนส่งกับ บริษัทล.ผู้ตราส่งแทนบริษัทน.ผู้ขนส่งตัวการซึ่งอยู่ต่างประเทศและภูมิลำเนาในต่างประเทศ จำเลยที่ 1 จึงต้องรับผิดตามสัญญานั้นแต่ลำพังตนเอง โจทก์ผู้รับประกันภัยได้ชดใช้ค่าเสียหายในการที่สินค้าสูญหายให้แก่บริษัทท.ผู้รับตราส่งซึ่งเป็นผู้รับประโยชน์ตามสัญญาประกันภัยไปแล้ว โจทก์ย่อมเข้ารับช่วงสิทธิของบริษัทล.ผู้เอาประกันภัย และบริษัทท.ผู้รับประโยชน์มาฟ้องจำเลยที่ 1 ที่ 2ผู้ขนส่ง และจำเลยที่ 3 ผู้ต้องร่วมรับผิดกับจำเลยที่ 2 ให้รับผิดเพราะเหตุสินค้าที่ทำการขนส่งสูญหายได้ แม้ตามหนังสือโอนสิทธิที่บริษัทท.ผู้รับประโยชน์จะได้โอนบรรดาสิทธิเกี่ยวกับสินค้าที่เอาประกันภัยไว้ให้โจทก์เรียกร้องเอาจากบริษัทน.และห้างหุ้นส่วนจำกัดน.ก็ตาม หาทำให้โจทก์หมดสิทธิฟ้องร้องจำเลยทั้งสามแต่ประการใด การที่บริษัทล.ผู้ตราส่งลงชื่อสลักหลังโอนใบตราส่งให้แก่บริษัทท.เพื่อให้บริษัทท.นำใบตราส่งเป็นหลักฐานในการรับสินค้ามิใช่บริษัทล.ผู้ตราส่งแสดงความตกลงชัดแจ้งในการยกเว้นหรือจำกัดความรับผิดกับจำเลยที่ 1 ผู้ขนส่ง ข้อยกเว้นและจำกัดความรับผิดของผู้ขนส่งตามที่จำเลยที่ 1 อ้างว่ามีอยู่ในใบตราส่งจึงตกเป็นโมฆะ เมื่อตู้คอนเทนเนอร์ที่บรรจุสินค้าถูกลากจูงไปถึงโกดังของบริษัทท.ผู้รับตราส่งบริษัทส.ได้ทำการสำรวจสินค้าในตู้คอนเทนเนอร์พบว่าสินค้าในตู้คอนเทนเนอร์สูญหายไปทั้งหมดกรณีจึงมิใช่บริษัทท.ผู้รับตราส่งได้รับเอาของไว้แล้วโดยไม่อิดเอื้อน อันจะทำให้ความรับผิดของจำเลยที่ 1 ผู้ขนส่งสิ้นสุดลงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 623 การที่บริษัทล.ผู้ตราส่งว่าจ้างจำเลยที่ 2 ให้เป็นผู้ขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ของจำเลยที่ 1 มายังบริษัทล.เพื่อบรรจุสินค้าลงในตู้ เมื่อบรรจุสินค้าแล้วได้ให้จำเลยที่ 2 ลากตู้คอนเทนเนอร์ไปยังการท่าเรือแห่งประเทศไทย เพื่อส่งให้แก่จำเลยที่ 1 นั้นสัญญารับขนระหว่างบริษัทล.กับจำเลยที่ 2 เป็นคนละฉบับไม่เกี่ยวข้องกันกับสัญญารับขนระหว่างบริษัทล.กับจำเลยที่ 1จึงมิใช่เป็นการขนส่งโดยมีผู้ขนส่งหลายคนหลายทอด ค่าสำรวจสินค้าที่ผู้รับตราส่งเป็นผู้ว่าจ้างบริษัทผู้นำสำรวจมาทำการสำรวจสินค้ามิใช่ค่าเสียหายอันเกิดจากการผิดสัญญารับขนของจำเลยที่ 1 โจทก์จึงเรียกร้องให้จำเลยที่ 1 รับผิดในค่าสำรวจสินค้าไม่ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5581/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดของผู้ขายต่อความชำรุดบกพร่องของสินค้า และค่าเสียหายจากการขนส่งทดแทน
โจทก์ซื้อกระป๋องสำหรับบรรจุปลากับน้ำซอส มะเขือเทศ จากจำเลยเมื่อกระป๋องดังกล่าวเป็นสนิมและมีความชำรุดบกพร่องอย่างอื่น ซึ่งเป็นผลมาจากการผลิตของจำเลย อันเป็นเหตุให้เสื่อมความเหมาะสมแก่ประโยชน์ที่มุ่งหมายโดยสัญญาจำเลยต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายให้โจทก์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 472 แม้โจทก์จะรับของจากจำเลยโดยไม่อิดเอื้อน แต่ขณะที่มีการส่งมอบของนั้นความชำรุดบกพร่องยังไม่เป็นอันเห็นประจักษ์ จำเลยก็หาพ้นจากความรับผิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 473(2) ไม่ จำเลยทราบดีว่าโจทก์ซื้อกระป๋องดังกล่าวเพื่อนำไปขายต่อให้แก่ผู้ซื้อในประเทศพม่า การที่โจทก์ต้องเสียค่าขนส่งกระป๋องทดแทนส่วนที่ชำรุดบกพร่องไปให้ผู้ซื้อเพิ่มเติมจึงเป็นค่าเสียหายอันเกิดแต่พฤติการณ์พิเศษ ซึ่งจำเลยได้คาดเห็นหรือควรจะได้คาดเห็นพฤติการณ์เช่นนั้นล่วงหน้าก่อนแล้ว แม้โจทก์จะนำสืบจำนวนค่าเสียหายส่วนนี้ไม่ได้ความแน่ชัด ศาลก็กำหนดให้โจทก์ตามควรแก่พฤติการณ์.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 425/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดร่วมกันของนายจ้างและลูกจ้างในละเมิดจากการขนส่ง และการประเมินค่าเสียหายที่เหมาะสม
จำเลยที่ 1 เป็นลูกจ้างที่ 2 ที่ 3 และทำละเมิดต่อ โจทก์ในทางการที่จ้างซึ่งจำเลยที่ 2 ที่ 3 ต้องร่วมกันรับผิด ใน ผลแห่งละเมิดนั้นด้วย จำเลยที่ 2 ที่ 3 นำรถยนต์บรรทุกน้ำมันเข้าวิ่งรับขนส่งน้ำมันในนามของจำเลยที่ 4 ซึ่งจำเลยที่ 4ได้ผลประโยชน์ตอบแทนร้อยละสิบ ตามสัญญาขนส่งน้ำมันระหว่างจำเลยที่ 5 กับจำเลย ที่ 4 กำหนดให้จำเลยที่ 4เป็นผู้รับผิดชอบค่าจ้างคนขับรถ ดังนี้ ถือได้ว่ากิจการดังกล่าวเป็นของจำเลยที่ 4 และจำเลยที่ 1 เป็นลูกจ้างของจำเลยที่ 4 ด้วย จำเลยที่ 4 จึงต้องร่วมกันรับผิดกับจำเลยที่ 1 ที่ 2 ที่ 3 ด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 944/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องซ้ำ, ข้อกฎหมายที่ไม่เป็นสาระ, และความผิดฐานขนส่งไม่ประจำทางที่ต่างจากข้อเท็จจริงตามฟ้อง
เมื่อข้อกฎหมายที่ยกขึ้นอุทธรณ์ ไม่มีผลทำให้การวินิจฉัยข้อเท็จจริงของศาลจากพยานหลักฐานที่โจทก์จำเลยนำสืบกันมาเปลี่ยนแปลงเป็นประการอื่นแล้ว ศาลอุทธรณ์ก็ไม่จำต้องวินิจฉัยข้อกฎหมายดังกล่าวให้เพราะเป็นข้อกฎหมายที่ไม่เป็นสาระแก่คดี แม้คดีนี้กับคดีก่อนจะเป็นการกระทำอันเดียวกันและข้อหาอย่างเดียวกัน และศาลได้พิพากษาลงโทษจำเลยในคดีก่อนเสร็จเด็ดขาดไปแล้ว แต่เมื่อมิใช่จำเลยคนเดียวกัน จึงไม่เป็นฟ้องซ้ำ ฟ้องโจทก์ขอให้ลงโทษฐานประกอบการขนส่งไม่ประจำทางข้อเท็จจริงตามทางพิจารณาฟังได้ว่าจำเลยประกอบการขนส่งส่วนบุคคลย่อมไม่อาจลงโทษจำเลยในข้อหานี้ตามที่โจทก์ฟ้องได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 647/2532 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การมอบอำนาจช่วงและการตรวจสอบสินค้า: ไม่ถือเป็นผู้ร่วมขนส่ง
การที่จำเลยได้ ดำเนินการติดต่อ กรมเจ้าท่า และ การท่าเรือแห่งประเทศไทย เพื่อการนำร่องเรือ น. ซึ่ง บรรทุกสินค้ารายพิพาทเข้าสู่ท่าและขอที่จอดเทียบเรือ กับติดต่อ กรมศุลกากร เพื่อให้พนักงานศุลกากรไปตรวจ สินค้าในเรือ รวมทั้งแจ้งเวลาเรือเข้าให้ผู้รับตราส่งทราบ กิจการเหล่านี้เป็นกิจการที่เจ้าของเรือ น. และบริษัท ฟ. ผู้ขนส่งจะต้อง กระทำโดย ตนเองซึ่ง ได้ มอบอำนาจให้บริษัท ซ. เป็นผู้กระทำการแทน แต่ บริษัท ซ.มีภูมิลำเนาอยู่ต่างประเทศ จึงได้ มอบอำนาจช่วงให้จำเลยเป็นผู้ดำเนินกิจการเหล่านั้นแทน การที่จำเลยกระทำไปดังกล่าวยังไม่พอให้ถือได้ว่าจำเลยได้ ทำหน้าที่เป็นผู้เข้าร่วมขนส่งกับเรือ น. และบริษัท ฟ. และเพียงแต่ จำเลยได้ ร่วมตรวจสอบสินค้ารายพิพาทกับพนักงานตรวจสอบสินค้าของ การท่าเรือแห่งประเทศไทยรับมอบใบตราส่งคืนมาแล้วออกใบรับของให้แก่ผู้รับตราส่งกับแจ้งไปยังผู้อำนวยการกองตรวจสอบสินค้าขอเข้า กรมศุลกากร ขอแก้บัญชีสินค้าเพื่อให้ผู้รับตราส่งไปดำเนินพิธีการศุลกากร ก็ยังถือไม่ได้ว่าจำเลยอยู่ในฐานะ เป็นผู้ขนส่งหลายคนหลายทอด.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4502/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องคดีละเมิดจากการขนส่ง: โจทก์มีสิทธิฟ้องผู้ละเมิดแม้จะร่วมกิจการขนส่งกับบริษัทอื่น
โจทก์นำรถยนต์ของโจทก์เข้าร่วมกิจการขนส่งบรรทุกสินค้าอยู่กับบริษัท ป. จำกัด โดยได้รับค่าจ้างเป็นเที่ยว และโจทก์จะต้องรับผิดชอบความเสียหายที่จะถึงเกิดขึ้นแก่สินค้าที่บรรทุกทุกกรณีโจทก์จึงมีอำนาจฟ้องผู้ที่กระทำละเมิดเกี่ยวกับรถยนต์ของโจทก์ที่บรรทุกสินค้าในนามของบริษัท ป. จำกัด ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2161/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดของผู้ประกอบการขนส่งและตัวแทน กรณีเกิดละเมิดจากการขนส่ง
จำเลยเป็นเจ้าของรถบรรทุกคันเกิดเหตุและได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่งส่วนบุคคลด้วยรถบรรทุกคันดังกล่าว แม้จำเลยจะให้ ว. เช่าซื้อรถคันนั้นไป แต่จำเลยก็ยังยื่นขอต่ออายุทะเบียนรถและหาได้บอกเลิกการประกอบการขนส่งที่เป็นสิทธิเฉพาะตัว แก่ทางราชการไม่กลับยอมให้ ว. ขับรถคันเกิดเหตุไปประกอบการขนส่งในชื่อจำเลยอีกต่อไป พฤติการณ์ดังกล่าวถือว่าจำเลยและ ว. ร่วมกันประกอบการขนส่งส่วนบุคคลและ ว. เป็นตัวแทนของจำเลยในกิจการดังกล่าวเมื่อ ว. ขับรถไปกระทำละเมิดอันต้องรับผิดชดใช้ให้โจทก์ภายในขอบอำนาจแห่งฐานะตัวแทน จำเลยซึ่งเป็นตัวการต้องร่วมรับผิดด้วยตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 427, 820 (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 3480/2530)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2161/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดของเจ้าของรถและตัวแทนในการขนส่ง: การร่วมกันกระทำละเมิดและฐานะตัวการ-ตัวแทน
จำเลยเป็นเจ้าของรถบรรทุกคันเกิดเหตุและได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่งส่วนบุคคลด้วยรถบรรทุกคันนั้น แม้จำเลยจะให้ ว. เช่าซื้อรถคันนั้นไป แต่จำเลยก็ยังยื่นขอต่ออายุทะเบียนรถ และหาได้บอกเลิกการประกอบการขนส่งที่เป็นสิทธิเฉพาะตัวแก่ทางราชการไม่ กลับยอมให้ ว.ขับรถคันเกิดเหตุไปประกอบการขนส่งในชื่อจำเลยอีกต่อไปพฤติการณ์ดังกล่าวถือว่าจำเลย และ ว.ร่วมกันประกอบการขนส่งส่วนบุคคล และ ว.เป็นตัวแทนของจำเลยในกิจการดังกล่าว เมื่อว.ขับรถไปกระทำละเมิดอันต้องรับผิดชดใช้ให้โจทก์ภายในขอบอำนาจแห่งฐานะตัวแทน จำเลยซึ่งเป็นตัวการต้องร่วมรับผิดด้วยตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 427,820
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2161/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดของผู้ให้เช่าซื้อรถบรรทุกเมื่อร่วมประกอบการขนส่งและเกิดละเมิด
จำเลยเป็นเจ้าของรถบรรทุกคันเกิดเหตุและได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่งส่วนบุคคลด้วย รถบรรทุกคันดังกล่าว แม้จำเลยจะให้ ว. เช่าซื้อ รถคันนั้นไป แต่ จำเลยก็ยังยื่นขอต่อ อายุทะเบียนรถ และหาได้ บอกเลิกการประกอบการขนส่งที่เป็นสิทธิเฉพาะตัว แก่ทางราชการไม่กลับยอมให้ ว. ขับรถคันเกิดเหตุไปประกอบการขนส่งในชื่อ จำเลยอีกต่อไป พฤติการณ์ดังกล่าวถือว่าจำเลยและ ว. ร่วมกันประกอบการขนส่งส่วนบุคคลและ ว. เป็นตัวแทนของจำเลยในกิจการดังกล่าวเมื่อ ว. ขับรถไปกระทำละเมิดอันต้อง รับผิดชดใช้ให้โจทก์ภายในขอบอำนาจแห่งฐานะ ตัวแทน จำเลยซึ่ง เป็น ตัวการต้อง ร่วม รับผิดด้วย ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 427820(อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 3480/2530).
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2108/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผู้ขนส่งทอดสุดท้าย: จำเลยมีหน้าที่รับผิดชอบการขนส่งและส่งมอบสินค้า จึงถือเป็นผู้ขนส่งตาม ป.พ.พ. มาตรา 608
จำเลยได้ติดต่อว่าจ้างห้างหุ้นส่วนจำกัด ส. ทำการขนถ่ายสินค้าจากเรือใหญ่ลงสู่เรือเล็ก โดยจำเลยเป็นผู้แจ้งให้ผู้ขนถ่ายทราบว่าเป็นเรือลำไหนและจอดที่ใดจำเลยเป็นผู้ชำระค่าจ้างให้ห้าง ส.และหากห้างส. พบความเสียหายของสินค้าที่ขนส่งจะแจ้งความเสียหายให้จำเลยทราบ จำเลยเป็นผู้เช่าเครื่องมือในการขนถ่ายสินค้าขึ้นลงจากเรือและชำระค่าเช่าให้แก่การท่าเรือ ฯจำเลยเป็นผู้ยื่นคำร้องขอนำเรือเข้าเทียบท่า แจ้งข่าวการมาถึงของเรือให้ผู้ซื้อและกรมศุลกากรทราบ เมื่อผู้ซื้อนำใบตราส่งมาที่บริษัทจำเลย จำเลยจะออกใบปล่อยสินค้าให้ ซึ่งจำเลยได้ดำเนินการดังกล่าวเฉพาะในประเทศไทยโดยได้รับมอบหมายจากบริษัท ด. ผู้ขนส่งทุกครั้งไป ดังนี้พฤติการณ์ของจำเลยเป็นผู้มีหน้าที่รับผิดชอบในการดำเนินการขนส่งทอดสุดท้ายขึ้นลงจากเรือไปส่งมอบให้แก่ผู้รับตราส่ง ซึ่งถือได้ว่าเป็นผู้ขนส่งตาม ป.พ.พ. มาตรา608 ส่วนการกล่าวอ้างเอกสารที่ระบุข้อความว่าจำเลยเป็นตัวแทน หรือจำเลยอ้างว่าเป็นตัวแทนก็เป็นเรื่องของจำเลยเองในการดำเนิน การค้าระหว่างผู้ขนส่งกับจำเลยโดยจำเลยได้รับบำเหน็จตอบแทนตามอัตราทาง การค้าปกติของตน หามีผลทำให้ฐานะของจำเลยที่เป็นผู้ขนส่งเปลี่ยนแปลงไปไม่.