คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
คนอนาถา

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 126 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6134/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอุทธรณ์คำสั่งไม่อนุญาตดำเนินคดีอย่างคนอนาถา ต้องมีเหตุผลอันสมควรในการอุทธรณ์คดี มิใช่เพียงยากจน
ศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้องขออุทธรณ์อย่างคนอนาถา ด้วยเหตุคดีฟังไม่ได้ว่าจำเลยเป็นคนยากจนไม่มีทรัพย์สินพอจะเสียค่าธรรมเนียมและคดีจำเลยไม่มีเหตุผลอัน สมควรที่จะอุทธรณ์ จำเลยมิได้อุทธรณ์คำสั่งภายในกำหนด 7 วัน จำเลยย่อมหมดสิทธิที่จะอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 156 วรรคท้ายข้อที่ศาลชั้นต้นชี้ขาดว่าคดีของจำเลยไม่มีเหตุผลอันสมควรที่จะอุทธรณ์จึงเป็นอันยุติ ดังนั้นแม้ศาลจะอนุญาตให้จำเลยนำพยานหลักฐานมาแสดงเพิ่มเติม และฟังได้ว่าจำเลยเป็นคนยากจนไม่มีทรัพย์สินพอจะเสียค่าธรรมเนียม ศาลก็จะอนุญาตให้จำเลยดำเนินคดีอย่างคนอนาถาไม่ได้เพราะการที่จะอนุญาตให้จำเลยดำเนินคดีอย่างคนอนาถาในชั้นอุทธรณ์ได้นั้น คดีของจำเลยจะต้องมีเหตุผลอันสมควรที่จะอุทธรณ์ด้วย การที่จำเลยยื่นคำร้องขอให้พิจารณาคำขอใหม่เพื่ออนุญาตให้จำเลยนำพยานหลักฐานมาแสดงเพิ่มเติมว่าจำเลย เป็นคนยากจน แล้วศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้อง และจำเลยยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้น จะถือว่าเป็นการอุทธรณ์คำสั่งในประเด็นที่ศาลชั้นต้นชี้ขาดว่าคดีของจำเลยไม่มีเหตุผลอันสมควรที่จะอุทธรณ์อยู่ในตัวหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6134/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอุทธรณ์คำสั่งไม่อนุญาตดำเนินคดีอย่างคนอนาถา ต้องมีเหตุผลอันสมควรในการอุทธรณ์
ศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้องขออุทธรณ์อย่างคนอนาถา ด้วยเหตุคดีฟังไม่ได้ว่าจำเลยเป็นคนยากจนไม่มีทรัพย์สินพอจะเสียค่าธรรมเนียมและคดีจำเลยไม่มีเหตุผลอันสมควรที่จะอุทธรณ์ จำเลยมิได้อุทธรณ์คำสั่งภายในกำหนด 7 วัน จำเลยย่อมหมดสิทธิที่จะอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 156 วรรคท้ายข้อที่ศาลชั้นต้นชี้ขาดว่าคดีของจำเลยไม่มีเหตุผลอันสมควรที่จะอุทธรณ์จึงเป็นอันยุติ ดังนั้นแม้ศาลจะอนุญาตให้จำเลยนำพยานหลักฐานมาแสดงเพิ่มเติม และฟังได้ว่าจำเลยเป็นคนยากจนไม่มีทรัพย์สินพอจะเสียค่าธรรมเนียม ศาลก็จะอนุญาตให้จำเลยดำเนินคดีอย่างคนอนาถาไม่ได้เพราะการที่จะอนุญาตให้จำเลยดำเนินคดีอย่างคนอนาถาในชั้นอุทธรณ์ได้นั้น คดีของจำเลยจะต้องมีเหตุผลอันสมควรที่จะอุทธรณ์ด้วย การที่จำเลยยื่นคำร้องขอให้พิจารณาคำขอใหม่เพื่ออนุญาตให้จำเลยนำพยานหลักฐานมาแสดงเพิ่มเติมว่าจำเลยเป็นคนยากจน แล้วศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้อง และจำเลยยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้น จะถือว่าเป็นการอุทธรณ์คำสั่งในประเด็นที่ศาลชั้นต้นชี้ขาดว่าคดีของจำเลยไม่มีเหตุผลอันสมควรที่จะอุทธรณ์อยู่ในตัวหาได้ไม่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5220/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิอุทธรณ์ฎีกาคำสั่งยกคำร้องขออุทธรณ์อย่างคนอนาถา และการรับฟังพยานหลักฐานหักล้างข้อเท็จจริงที่ยุติ
คำสั่งศาลชั้นต้นที่สั่งยกคำร้องขอให้พิจารณาคำขออุทธรณ์อย่างคนอนาถาใหม่ เพื่ออนุญาตให้นำพยานหลักฐานมาแสดงเพิ่มเติมว่าผู้ขอเป็นคนยากจน คู่ความย่อมอุทธรณ์ฎีกาต่อไปได้
จำเลยยื่นคำร้องขอนำพยานหลักฐานมาแสดงเพิ่มเติมว่าจำเลยยากจน แต่ข้อเท็จจริงรับฟังเป็นยุติตามคำฟ้องและคำให้การแล้วว่าจำเลยมีส่วนเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินพิพาทซึ่งจำเลยทำสัญญาจะขายที่ดินส่วนของจำเลยให้โจทก์ในราคาสูงถึง 977,450 บาท ดังนี้แม้จำเลยจะมีพยานหลักฐานเพิ่มเติมอื่นใดก็ไม่อาจรับฟังหักล้างข้อเท็จจริงที่ยุติดังกล่าวแล้วได้ ศาลชั้นต้นจึงชอบที่จะยกคำร้องของจำเลยเสียได้โดยไม่ต้องไต่สวน.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5220/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิอุทธรณ์ฎีกาคำสั่งยกคำร้องขออุทธรณ์อย่างคนอนาถา และการรับฟังพยานหลักฐานหักล้างข้อเท็จจริงที่ยุติแล้ว
คำสั่งศาลชั้นต้นที่สั่งยกคำร้องขอให้พิจารณาคำขออุทธรณ์อย่างคนอนาถาใหม่ เพื่ออนุญาตให้นำพยานหลักฐานมาแสดงเพิ่มเติมว่าผู้ขอเป็นคนยากจน คู่ความย่อมอุทธรณ์ฎีกาต่อไปได้ จำเลยยื่นคำร้องขอนำพยานหลักฐานมาแสดงเพิ่มเติมว่าจำเลยยากจน แต่ข้อเท็จจริงรับฟังเป็นยุติตามคำฟ้องและคำให้การแล้วว่าจำเลยมีส่วนเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินพิพาทซึ่งจำเลยทำสัญญาจะขายที่ดินส่วนของจำเลยให้โจทก์ในราคาสูงถึง 977,450 บาท ดังนี้แม้จำเลยจะมีพยานหลักฐานเพิ่มเติมอื่นใดก็ไม่อาจรับฟังหักล้างข้อเท็จจริงที่ยุติดังกล่าวแล้วได้ ศาลชั้นต้นจึงชอบที่จะยกคำร้องของจำเลยเสียได้โดยไม่ต้องไต่สวน.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5169/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองทรัพย์มรดกแทนทายาทอื่น & ค่าฤชาธรรมเนียมกรณีผู้ฟ้องได้รับอนุญาตฟ้องคดีอย่างคนอนาถา
การที่จำเลยครอบครองทรัพย์สินที่เป็นมรดกของเจ้ามรดกในฐานะทายาทและในฐานะผู้จัดการมรดก ถือได้ว่า เป็นการครอบครองแทนทายาทอื่นด้วย จำเลยยกอายุความ 1 ปี ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1754มาใช้บังคับมิได้ โจทก์ซึ่งเป็นทายาทของเจ้ามรดกย่อมมีอำนาจฟ้องขอแบ่งทรัพย์สินพิพาทจากจำเลยได้ ความรับผิดในค่าฤชาธรรมเนียมของคู่ความในคดี ย่อมตก อยู่แก่ฝ่ายที่แพ้คดี เมื่อโจทก์เป็นฝ่ายชนะคดี ศาลชั้นต้นให้จำเลยใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์แต่โจทก์ได้รับอนุญาตให้ฟ้องคดีอย่างคนอนาถา การที่ศาลชั้นต้นให้ฝ่ายจำเลยชำระค่าฤชาธรรมเนียมที่โจทก์ได้รับยกเว้นให้ฟ้องคดีอย่างคนอนาถากับให้ชำระต่อศาลในนามโจทก์ ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 158 จึงชอบด้วยกฎหมาย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3049/2533 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขอเลื่อนสาบานตัวในคดีคนอนาถา: เหตุผลที่ไม่ชัดเจนไม่ถือเป็นพฤติการณ์พิเศษ
จำเลยที่ 1 ยื่นคำฟ้องอุทธรณ์และคำร้องขอดำเนินคดีในชั้นอุทธรณ์อย่างคนอนาถาพร้อมกับคำร้องขอเลื่อนการสาบานตัวออกไป 7 วัน อ้างว่าไม่สามารถมาศาลเพื่อสาบานตัวได้ โดยมิได้กล่าวอ้างเหตุที่มาศาลไม่ได้เพราะเหตุใดเป็นการกล่าวอ้างอย่างเลื่อนลอย แสดงว่ามิได้มีพฤติการณ์พิเศษตาม ป.วิ.พ. มาตรา 23 ที่ศาลจะสั่งขยายระยะเวลาสาบานตัวที่จำเลยที่ 1 ต้องสาบานตัวพร้อมการยื่นคำฟ้องอุทธรณ์ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 156 ให้ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 26/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองปรปักษ์ต้องปราศจากสิทธิของเจ้าของที่ดิน แม้ครอบครองเกิน 10 ปีก็ไม่เกิดกรรมสิทธิ์ และการได้รับอนุญาตคนอนาถายังต้องรับผิดค่าฤชาธรรมเนียม
ผู้ร้องเข้าอยู่ในที่ดินพิพาทโดย อาศัยสิทธิของเจ้าของที่ดินแม้ครอบครองเป็นเวลาเกิน 10 ปี ก็หาได้ กรรมสิทธิ์โดย การครอบครองปรปักษ์ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1382 ไม่ การได้ รับอนุญาตให้ดำเนินคดีอย่างคนอนาถาโดย ไม่ ต้องเสียค่าธรรมเนียมในการดำเนินคดีในศาลนั้น เป็นคนละเรื่องกับความรับผิดของคู่ความฝ่ายแพ้คดีที่จะต้อง ชำระค่าฤชาธรรมเนียมแทน คู่ความอีกฝ่ายหนึ่ง แม้ผู้ร้องจะได้ รับอนุญาตให้ดำเนินคดีอย่างคนอนาถา แต่ เมื่อผู้ร้องเป็นฝ่ายแพ้คดี ศาลก็ชอบที่จะพิพากษา ให้ผู้ร้องใช้ ค่าฤชาธรรมเนียมแทนผู้คัดค้านได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6487-6488/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องอุทธรณ์อย่างคนอนาถาต้องกระทำด้วยตนเอง ห้ามมอบอำนาจให้ผู้อื่นสาบานตัวแทน
ผู้ที่จะฟ้องอุทธรณ์อย่างคนอนาถาจะต้องสาบานตัวด้วยตันเองจะมอบให้ผู้อื่นสาบานตัวแทนไม่ได้ เพราะการสาบานเป็นเรื่องเฉพาะตัวที่จะต้องกระทำด้วยตนเอง การที่ ส.ผู้รับมอบอำนาจสาบานตัวให้คำชี้แจงต่อพนักงานเจ้าหน้าที่แทนจำเลยทั้งสามจึงเป็นการไม่ชอบ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 273/2531 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทิ้งฟ้องเนื่องจากไม่ชำระค่าฤชาธรรมเนียมตามกำหนด และผลของการไม่รับฟ้องต่อการขอฟ้องคดีอย่างคนอนาถา
โจทก์ยื่นคำร้องขอฟ้องคดีอย่างคนอนาถา ต่อมาโจทก์แถลงไม่ติดใจขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถา และขอขยายเวลาวางเงินค่าฤชาธรรมเนียมอีก 10 วัน ศาลชั้นต้นอนุญาตในวันเดียวกัน และสั่งว่าหากไม่นำเงินมาวางภายใน 10 วันถือว่าโจทก์ทิ้งฟ้อง โดยโจทก์ได้ลงลายมือชื่อในช่องหมายเหตุในคำร้องที่ระบุว่า ข้าพเจ้ารอฟังคำสั่งอยู่ ถ้าไม่รอถือว่าทราบแล้ว ดังนี้ต้องถือว่าโจทก์ทราบคำสั่งศาลในวันนั้นแล้ว เมื่อถึงวันครบกำหนดโจทก์ไม่นำเงินมาชำระค่าธรรมเนียม คำสั่งของศาลชั้นต้นย่อมมีผลทันทีโดยไม่ต้องมีคำสั่งอีกซึ่งคำสั่งทิ้งฟ้องของศาลชั้นต้นเท่ากับเป็นคำสั่งไม่รับฟ้อง และเมื่อศาลไม่รับฟ้องแล้วโจทก์จะร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาโดยขอให้ศาลชั้นต้นไต่สวนคำร้องของโจทก์อีกไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 273/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทิ้งฟ้องคดีเนื่องจากไม่ชำระค่าธรรมเนียมศาลตามกำหนด แม้จะขอขยายเวลา และผลกระทบต่อการขอฟ้องคดีอย่างคนอนาถา
โจทก์ยื่นคำร้องขอฟ้องคดีอย่างคนอนาถา ต่อมาโจทก์แถลงไม่ติดใจขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถา และขอขยายเวลาวางเงินค่าฤชาธรรมเนียมอีก 10 วัน ศาลชั้นต้นอนุญาตในวันเดียวกัน และสั่งว่าหากไม่นำเงินมาวางภายใน 10 วันถือว่าโจทก์ทิ้งฟ้อง โดยโจทก์ได้ลงลายมือชื่อในช่องหมายเหตุในคำร้องที่ระบุว่าข้าพเจ้ารอฟังคำสั่งอยู่ ถ้าไม่รอถือว่าทราบแล้ว ดังนี้ต้องถือว่าโจทก์ทราบคำสั่งศาลในวันนั้นแล้ว เมื่อถึงวันครบกำหนดโจทก์ไม่นำเงินมาชำระค่าธรรมเนียม คำสั่งของศาลชั้นต้นย่อมมีผลทันทีโดยไม่ต้องมีคำสั่งอีกซึ่งคำสั่งทิ้งฟ้องของศาลชั้นต้นเท่ากับเป็นคำสั่งไม่รับฟ้อง และเมื่อศาลไม่รับฟ้องแล้วโจทก์จะร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาโดยขอให้ศาลชั้นต้นไต่สวนคำร้องของโจทก์อีกไม่ได้.
of 13