พบผลลัพธ์ทั้งหมด 109 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1239/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความขัดแย้งในการบรรยายฟ้องฉ้อโกงและยักยอก ทำให้ฟ้องไม่ถูกต้อง
โจทก์ฟ้องบรรยายว่าจำเลยเอาความเท็จ มาหลอกลวงผู้เสียหายว่า จะเอารถยนต์ซึ่งจำเลยเอามามอบให้ผู้เสียหายไว้เป็นประกันเงินกู้ไปบรรทุกผลไม้ เจ้าทุกข์หลงเชื่อ จึงมอบรถให้ไปหรือเจ้าทุกข์มอบรถยนต์ให้จำเลยโดยจำเลยยืมเอาไปรับจ้างบรรทุกผลไม้แล้วจะส่งคืน แล้วจำเลยจึงเอาไปขายเสีย ขอให้ลงโทษตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 304,314 ดังนี้ เป็นฟ้องที่บรรยายการกระทำของจำเลยขัดกันอยู่ในตัวและขาดองค์ความผิดฐานฉ้อโกงและยักยอกเป็นฟ้องไม่ถูกต้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 797/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความขัดแย้งในคำเบิกความของพยานระหว่างชั้นสอบสวนและชั้นศาล ศาลไม่รับฟังและยกฟ้อง
โจทก์ฟ้องว่า วันเกิดเหตุคือคืนวันที่ 5 - 6 พ.ค. 91 (ตรงกับวันแรม 11 - 12 ค่ำ เดือน 5) พะยานโจทก์เบิกความว่า วันเกิดเหตุคือ คืนวันแรม 13 - 14 ค่ำ เดือน 5 โจทก์จึงส่งคำให้การชั้นสอบสวนของนายนุ้ยพะยานโจทก์เป็นพะยานต่อศาล ซึ่งในชั้นสอบสวนนายนุ้ยเบิกความว่าเป็นวันที่ 5 - 6 พ.ค. 91 และจะขอสืบเจ้าพนักงานสอบสวนว่านายนุ้ยพะยานโจทก์ได้ให้การไว้ดังนั้นจริง ดังนี้ ศาลฎีกาเห็นพ้องกับศาลชั้นต้นที่ให้งดสืบพะยานโจทก์ต่อไป และพิพากษายกฟ้องโจทก์เพราะถึงสืบไปก็ไม่มีประโยชน์ เพราะไม่เป็นหลักฐานคำพะยานที่จะยืนยันได้ว่าคำเบิกความของพะยานในศาลนั้นไม่ตรงกับความจริง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 797/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความขัดแย้งคำให้การพยาน การงดสืบพยาน และการพิพากษายกฟ้อง
โจทก์ฟ้องว่า วันเกิดเหตุคือคืนวันที่ 5-6 พ.ค. 91(ตรงกับวันแรม 11-12 ค่ำ เดือน 5) พยานโจทก์เบิกความว่าวันเกิดเหตุคือ คืนวันแรม13-14ค่ำเดือน5โจทก์จึงส่งคำให้การชั้นสอบสวนของนายนุ้ยพยานโจทก์เป็นพยานต่อศาล ซึ่งในชั้นสอบสวนนายนุ้ยเบิกความว่าเป็นวันที่ 5-6 พ.ค. 91 และจะขอสืบเจ้าพนักงานสอบสวนว่านายนุ้ยพยานโจทก์ได้ให้การไว้ดังนั้นจริง ดังนี้ศาลฎีกาเห็นพ้องกับศาลชั้นต้นที่ให้งดสืบพยานโจทก์ต่อไปและพิพากษายกฟ้องโจทก์เพราะถึงสืบไปก็ไม่มีประโยชน์เพราะไม่เป็นหลักฐานคำพยานที่จะยืนยันได้ว่าคำเบิกความของพยานในศาลนั้นไม่ตรงกับความจริง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 969/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตการฟ้องยักยอกทรัพย์: การสืบพยานหลักฐานขัดแย้งกับข้อกล่าวหาในฟ้อง
ในคดียักยอก โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทำผิดเริ่มตั้งแต่วันที่ 30 มิถุนายน 2489 และต่อ ๆ มา จนถึงวันที่ 25 สิงหาคม 2489 แต่โจทก์นำสืบว่าจำเลยทำผิดก่อนวันที่ 30 มิถุนายน 2489 ดังนี้ ข้อเท็จจริงที่โจทก์สืบได้ย่อมต่างกับฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 412/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับใช้กฎหมายควบคุมเครื่องอุปโภคบริโภคและกฎหมายสำรวจห้ามกักกันข้าวควบคู่กัน โดยมิได้ขัดแย้งกัน
จำเลยขนย้ายข้าวสารจากตำบลหนึ่งไปยังอีกตำบลหนึ่งภายในจังหวัดเดียวกัน ซึ่งอยู่ภายในขอบเขตที่คณะกรรมการสำรวจห้ามกักกันข้าวได้ประกาศอนุญาตไว้ให้ขนย้ายได้ภายในแต่ละจังหวัดแต่เป็นฝ่าฝืนประกาศข้าหลวงประจำจังหวัดซึ่งออกโดยอาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องอุปโภคบริโภค 2488 นั้น ถ้าโจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานฝ่าฝืนประกาศ ซึ่งออกตามอำนาจในพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องอุปโภคบริโภคฯลฯแล้ว ก็ต้องใช้ พระราชบัญญัติควบคุมเครื่องอุปโภคบริโภค ฯลฯ 2488 มาบังคับและจำเลยต้องมีความผิดตามพระราชบัญญัตินี้เพราะพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องอุปโภคบริโภคฯลฯ 2488 และพระราชบัญญัติสำรวจและห้ามกักกันข้าว 2489 มิใช่กฎหมายที่ใช้แทนกันหรือขัดกันโดยมีความมุ่งหมายต่างกัน ผู้ใดละเมิดกฎหมายฉบับใดก็ต้องใช้กฎหมายฉบับนั้นบังคับ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 128/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณาพยานหลักฐาน ศาลต้องพิจารณาประกอบทุกส่วน ไม่ยึดถือเพียงบางส่วนที่ขัดแย้งกับพยานหลักฐานอื่น
ศาลจำต้องพิเคราะห์คำพยานประกอบกันทั้งหมด แล้ววินิจฉัยตามเหตุผลที่ควรจะเป็นจริง จะถือเอาคำพยานของโจทก์เพียงบางปากที่เบิกความเป็นปรปักษ์ต่อคำฟ้องของโจทก์ขึ้นชี้ขาดนั้นหาควรไม่
เจ้าทรัพย์และบุตรเบิกความในชั้นศาลว่า เกิดเหตุวันแรม 2 ค่ำ แต่คำพยานปากอื่น ๆ ของโจทก์ตลอดจนพนักงานสอบสวน ผู้สอบสวนภายหลังเกิดเหตุเพียง 2 วัน ก็ว่าประจักษ์พยานของโจทก์ทุกปาก ยืนยันในชั้นสอบสวนว่า เหตุเกิดวันแรม 1 ค่ำ ตรงกับฟ้องทั้งนั้น ดังนี้ ย่อมฟังได้ว่า เกิดเหตุวันแรม 1 ค่ำ
เจ้าทรัพย์และบุตรเบิกความในชั้นศาลว่า เกิดเหตุวันแรม 2 ค่ำ แต่คำพยานปากอื่น ๆ ของโจทก์ตลอดจนพนักงานสอบสวน ผู้สอบสวนภายหลังเกิดเหตุเพียง 2 วัน ก็ว่าประจักษ์พยานของโจทก์ทุกปาก ยืนยันในชั้นสอบสวนว่า เหตุเกิดวันแรม 1 ค่ำ ตรงกับฟ้องทั้งนั้น ดังนี้ ย่อมฟังได้ว่า เกิดเหตุวันแรม 1 ค่ำ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 193/2485 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ความตายจากความขัดแย้ง หมิ่นประมาท และการยั่วโทสะ
ผู้ตายไปด่าจำเลยถึงบ้านว่าเป็นสัตว์เป็นหมา จำเลยจึงกระทืบเอา 4-5 ทีถึงตายโดยเจตนาฆ่า ชื่อว่ากระทำโดยถูกยั่วโทษะตามมาตรา 55.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 820/2477
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับฟังพยานหลักฐานชั้นไต่สวนที่ไม่ได้เบิกความต่อศาล และความขัดแย้งของพยานหลักฐาน
คำให้การชั้นไต่สวนฟังประกอบพิจารณาได้เพียงไร คำให้การพะยานชั้นไต่สวนซึ่งไม่ได้มาเบิกความต่อศาลแม้ไม่ปรากฎเหตุขัดข้องถ้าหากโจทก์เป็นผู้อ้างและคำให้การนั้นเป็นประโยชน์แก่ฝ่ายจำเลยแล้ว ศาลรับฟังประกอบข้อต่อสู้ของจำเลยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 89/2475
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแจ้งความเท็จจากคำให้การที่ขัดแย้งกัน: การรับสารภาพในชั้นไต่สวนแล้วปฏิเสธในศาลถือเป็นความเท็จ
ให้การขั้นไต่สวนว่ารู้เรื่องผู้ร้ายรับของโจรภายหลังยื่นคำร้องขอถอนคำให้การนั้นและกล่าวในคำร้องว่าไม่ได้รู้เห็นแต่มาใ่นศาลให้การอย่างขั้นไต่สวน จำเลยมีผิดฐานแจ้งความเท็จวิธีพิจารณาอาชญา หน้าที่นำสืบ ฟ้องหาว่าแจ้งความเท็จโจทก์มีแต่คำให้การจำเลย ขั้นไต่สวนกับคำร้อง ขอถอนคำให้การชั้นไต่สวน โดยไม่มีพะยานอื่นอีกก็ลงโทษได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 262/2474
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแจ้งความเท็จ: คำให้การขัดแย้งในชั้นไต่สวนและศาล ไม่ถือเป็นความเท็จหากไม่มีหลักฐานยืนยัน
ให้การซัดในชั้นไต่สวนในฐานเป็นจำเลย ไม่มีผิดฐานแจ้งความเท็จ (เทียบฎีกาที่ 71/2460) หน้าที่นำสืบหาว่าแจ้งความเท็จโจทก์ต้องสืบให้สมหลักวินิจฉัยการที่จำเลยให้การในฐานเป็นจำเลยแม้จะจดข้อความในแบบคำให้การพะยานก็ไม่ทำให้รูปคดีเปลี่ยนไปได้