พบผลลัพธ์ทั้งหมด 140 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 664/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเช่าเพื่อค้าแล้วเปลี่ยนเป็นที่อยู่อาศัยโดยไม่ยินยอม ผู้เช่ามิได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า
เช่าตึกเพื่อทำการค้า แต่ก่อนจะหมดอายุสัญญาเช่า 1 ปีเศษ ผู้เช่าเลิกการค้าใช้ตึกเป็นที่อยู่อาศัยอย่างเดียว โดยผู้ให้เช่ามิได้รู้เห็นยินยอมด้วยเมื่อครบกำหนดสัญญาเช่าแล้วผู้ให้เช่าฟ้องขับไล่ ผู้เช่าจะอ้างความคุ้มครองจาก พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1742/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเช่าห้องเพื่อทำการค้า: พฤติการณ์ที่แสดงเจตนาใช้เพื่อการค้า ทำให้ไม่ได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า
จำเลยเช่าห้องซึ่งตั้งอยู่ในทำเลการค้า สัญญาเช่าก็ระบุว่าเช่าเพื่อทำการค้า และเมื่อทำสัญญาแล้วจำเลยไปจดทะเบียนการค้าและยกป้ายร้านไว้หน้าห้อง การค้าของจำเลยคือรับผลไม้มาขายโดยนำไปขายที่แผงลอยอีกแห่งหนึ่ง และที่ห้องพิพาทก็มีการขายของอื่นอีกบ้าง แม้จำเลยจะใช้ห้องพิพาทเป็นที่อยู่อาศัยก็ต้องถือว่าเช่าเพื่อการค้า ไม่ได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ. ควบคุมค่าเช่าฯ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1667/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
บริวารผู้เช่าไม่ได้รับความคุ้มครองจากพ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าเมื่อไม่มีนิติสัมพันธ์กับเจ้าของที่ดินโดยตรง
พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขันคุ้มครองแต่ผู้เช่าเท่านั้น เมื่อฟังว่าผู้ร้องเป็นแต่บริวารของจำเลยซึ่งยินยอมว่าจะออกไปจากที่ของโจทก์ ผู้ร้องก็ไม่ได้รับความคุ้มครองจากกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1367/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบอกเลิกสัญญาเช่าเมื่อผู้เช่าค้างค่าเช่าหลายเดือน ทำให้ไม่ได้รับการคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า
จำเลยผิดนัดชำระค่าเช่าติดต่อกันถึง 9 เดือน จำเลยย่อมไม่อยู่ในข่ายได้รับความคุ้มครองตามพ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าฯ เมื่อโจทก์ซึ่งเป็นเจ้าของห้องเช่าบอกเลิกการเช่าจำเลยก็ต้องออกจากห้องเช่า ในกรณีเช่นนี้ การบอกกล่าวตาม ม.560 แห่งประมวลแพ่งฯ ก็มิต้องนำมาใช้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1367/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบอกเลิกสัญญาเช่าเมื่อผู้เช่าผิดนัดชำระค่าเช่าหลายเดือน มิได้รับความคุ้มครองตาม พรบ.ควบคุมค่าเช่า
จำเลยผิดนัดชำระค่าเช่าติดต่อกันถึง 9 เดือน จำเลยย่อมไม่อยู่ในข่ายได้รับความคุ้มครองตาม พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ เมื่อโจทก์ซึ่งเป็นเจ้าของห้องเช่าบอกเลิกการเช่าจำเลยก็ต้องออกจากห้องเช่า ในกรณีเช่นนี้การบอกกล่าวตาม มาตรา 560 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งฯ ก็มิต้องนำมาใช้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 772/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเช่าช่วง: สิทธิของผู้เช่าช่วงแม้สัญญาเช่าเดิมสิ้นสุด และได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า
เช่าช่วงเคหะบางส่วนโดยผู้ให้เช่าเดิมยินยอมแม้ต่อมาสัญญาเช่าระหว่างผู้ให้เช่าเดิมกับผู้เช่าจะสิ้นอายุหรือผู้เช่ากับผู้ให้เช่าเดิมตกลงเลิกสัญญาเช่ากันแล้วจนผู้เช่าออกไปจากห้องเช่าแล้วก็ตามผู้เช่าช่วงก็อยู่ในฐานะเป็นผู้เช่า ไม่ใช่บริวารของผู้เช่า(เดิม)จึงได้รับความคุ้มครองตาม พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯลฯ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 286/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเช่าพื้นที่เพื่อประกอบธุรกิจเลี้ยงเป็ดไม่ได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า
จำเลยได้เช่าที่ดินทำการเลี้ยงเป็ดประมาณพันตัวไว้และขายไข่เป็นอาชีพและเช่าโรงเลี้ยงเป็ด โรงเตาต้มอาหารเป็ด จำเลยและครอบครัวก็อาศัยกินอยู่หลับนอนในที่บริเวรเขตติดต่อสองด้านมีคนเลี้ยงเป็นเป็นอาชีพเช่นจำเลยพวกที่เลี้ยงเป็ดข้างเคียงก็อาศัยกินอยู่หลับนอนในที่ในเขตตำบลเดียวกับที่จำเลยเช่า ที่ใกล้เคียงมีผู้ประกอบอาชีพในการเลี้ยงเป็ดประมาณ 100 หลังคาเรือนขึ้นไป ที่ ๆ จำเลยเช่าอยู่นี้อยู่ในเขตเทศบาลด้วยเช่นนี้เห็นได้ว่าเนื้อแท้ของการเช่าก็เพื่อประกอบธุระกิจเลี้ยงเป็ดขายไข่เป็นอาชีพตามทำเลที่กระทำกันในถิ่นนั้นทั่ว ๆ ไป การที่ต้องเข้าไปอาศัยอยู่ด้วยก็เพื่อประกอบธุระกิจตามที่มุ่งเช่ามาจึงไม่ได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯ พ.ศ.2489 ม.16
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 186/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเช่าเพื่ออยู่อาศัยย่อมได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า แม้มีการประกอบกิจการค้าเล็กน้อยเป็นครั้งคราว
ในคดีที่ฎีกาได้เฉพาะแต่ปัญหาข้อกฎหมายศาลฎีกาจำต้องถือข้อเท็จจริงตามที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยมาจากพยานหลักฐานในท้องสำนวน
เมื่อปรากฏว่าจำเลยเช่าห้องโดยเจตนาเป็นที่อยู่อาศัยตั้งแต่แรกซึ่งต่อมาได้ประกอบกิจการค้าบ้างเล็กๆ น้อยๆ เป็นการชั่วคราวและต่อมาก็ได้เลิกกิจการค้าไปแล้ว ดังนี้ห้องเช่ารายพิพาทก็ยังคงถือว่าเป็น 'เคหะ' อันพึงได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯเจ้าของห้องหามีสิทธิฟ้องขับไล่ได้ไม่
เมื่อปรากฏว่าจำเลยเช่าห้องโดยเจตนาเป็นที่อยู่อาศัยตั้งแต่แรกซึ่งต่อมาได้ประกอบกิจการค้าบ้างเล็กๆ น้อยๆ เป็นการชั่วคราวและต่อมาก็ได้เลิกกิจการค้าไปแล้ว ดังนี้ห้องเช่ารายพิพาทก็ยังคงถือว่าเป็น 'เคหะ' อันพึงได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯเจ้าของห้องหามีสิทธิฟ้องขับไล่ได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1300-1315/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ละเมิดจากรถไฟชำรุด: ความประมาทเลินเล่อของเจ้าหน้าที่รถไฟทำให้เกิดเพลิงไหม้ แม้จะอ้าง พ.ร.บ.รถไฟ ก็ไม่ได้รับความคุ้มครอง
โจทก์ขอฟ้องคดีอย่างคนอนาถาศาลไม่อนุญาตสั่งให้โจทก์นำเงินค่าธรรมเนียมมาชำระ แม้โจทก์จะไม่นำเงินมาชำระภายในกำหนด ต่อมาภายหลังโจทก์ก็ยังมีสิทธิที่จะนำคดีมาฟ้องร้องได้ภายในกำหนดอายุความ
การที่กรมรถไฟใช้รถจักรเก่าจูงลากรถจนเป็นเหตุให้เกิดไฟไหม้เสมอๆ โดยมิได้ป้องกันแต่อย่างใดนั้น กรมรถไฟจะอ้างความคุ้มครองจาก พระราชบัญญัติจัดการวางรถไฟและทางหลวง พ.ศ.2464มาตรา 48 ไม่ได้
การที่กรมรถไฟใช้รถจักรเก่าจูงลากรถจนเป็นเหตุให้เกิดไฟไหม้เสมอๆ โดยมิได้ป้องกันแต่อย่างใดนั้น กรมรถไฟจะอ้างความคุ้มครองจาก พระราชบัญญัติจัดการวางรถไฟและทางหลวง พ.ศ.2464มาตรา 48 ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1144/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คดีมโนสาเร่ ค่าเช่าต่ำ & การใช้ห้องเช่าเพื่อค้า ไม่ได้รับความคุ้มครอง พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า
คดีฟ้องขับไล่ออกจากห้องเช่าเดือนละ 12 บาท เป็นคดีมโนสาเร่อันต้องห้ามอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงตาม ม.224 เมื่อฟ้องอุทธรณ์ส่วนมากเป็นข้อเท็จจริงและศาลชั้นต้นสั่ง "รับอุทธรณ์" เฉย ๆ ไม่มีข้อความแสดงว่ารับรองว่าให้อุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงด้วย กรณีก็ไม่ต้องด้วยข้อยกเว้น ศาลอุทธรณ์หาจำต้องรับวินิจฉัยให้ไม่
อันว่าสิทธิรับมอบให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตาม ม.248 นั้นต้องเป็นข้อที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยแล้ว คดีนี้ข้อเท็จจริงต้องห้ามมาแต่ชั้นอุทธรณ์แล้วจะกลับมารับรองเพื่อรื้อฟื้นให้ศาลฎีกาวินิจฉัยใหม่หาได้ไม่
การใช้ห้องเช่าทำเป็นร้านตัดผมเป็นการใช้เพื่อทำการค้าหาใช่เคหะอันจะได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯ ไม่
อันว่าสิทธิรับมอบให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตาม ม.248 นั้นต้องเป็นข้อที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยแล้ว คดีนี้ข้อเท็จจริงต้องห้ามมาแต่ชั้นอุทธรณ์แล้วจะกลับมารับรองเพื่อรื้อฟื้นให้ศาลฎีกาวินิจฉัยใหม่หาได้ไม่
การใช้ห้องเช่าทำเป็นร้านตัดผมเป็นการใช้เพื่อทำการค้าหาใช่เคหะอันจะได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯ ไม่