พบผลลัพธ์ทั้งหมด 165 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1750/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความจำเป็นในการกระทำผิด: จำเลยถูกข่มขู่บังคับ ช่วยเหลือคนร้ายเพื่อความปลอดภัยของตนเอง จึงไม่มีความผิด
จำเลยถูกคนร้ายที่มีสมัครพรรคพวกหลายคนแต่ละคนมีอาวุธปืนครบมือ ใช้ปืนจี้ขู่บังคับให้เอาเรือรับส่งข้ามฟากเพื่อช่วยคนร้ายให้พ้นจากการจับกุม ดังนี้ เป็นการที่จำเลยกระทำไปเพราะอยู่ในที่บังคับหรือภายใต้อำนาจซึ่งไม่สามารถหลีกเลี่ยงขัดขืนได้ จึงเป็นการกระทำความผิดด้วยความจำเป็น จำเลยไม่ต้องรับโทษ
เมื่อปรากฏว่าจำเลยกระทำความผิดด้วยความจำเป็นไม่ต้องรับโทษแม้จำเลยจะไม่ได้ฎีกาขึ้นมา ศาลฎีกาก็มีอำนาจพิพากษาให้เป็นคุณแก่จำเลยได้
เมื่อปรากฏว่าจำเลยกระทำความผิดด้วยความจำเป็นไม่ต้องรับโทษแม้จำเลยจะไม่ได้ฎีกาขึ้นมา ศาลฎีกาก็มีอำนาจพิพากษาให้เป็นคุณแก่จำเลยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1750/2514
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความจำเป็นในการกระทำความผิด: จำเลยถูกขู่บังคับช่วยเหลือคนร้ายภายใต้สถานการณ์คับขัน จึงไม่มีความผิด
จำเลยถูกคนร้ายที่มีสมัครพรรคพวกหลายคนแต่ละคนมีอาวุธปืนครบมือ ใช้ปืนจี้ขู่บังคับให้เอาเรือรับส่งข้ามฟากเพื่อช่วยคนร้ายให้พ้นจากการจับกุม ดังนี้ เป็นการที่จำเลยกระทำไปเพราะอยู่ในที่บังคับหรือภายใต้อำนาจซึ่งไม่สามารถหลีกเลี่ยงขัดขืนได้ จึงเป็นการกระทำความผิดด้วย ความจำเป็น จำเลยไม่ต้องรับโทษ
เมื่อปรากฏว่าจำเลยกระทำความผิดด้วยความจำเป็น ไม่ต้องรับโทษแม้จำเลยจะไม่ได้ฎีกาขึ้นมา ศาลฎีกาก็มีอำนาจพิพากษาให้เป็นคุณแก่จำเลยได้
เมื่อปรากฏว่าจำเลยกระทำความผิดด้วยความจำเป็น ไม่ต้องรับโทษแม้จำเลยจะไม่ได้ฎีกาขึ้นมา ศาลฎีกาก็มีอำนาจพิพากษาให้เป็นคุณแก่จำเลยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1036/2513
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวเกินสมควรแก่เหตุจากการถูกยิงก่อน การใช้กำลังป้องกันต้องสมเหตุสมผล
ผู้ตายกับพวกลักโคของนายแดงพ่อตาจำเลย แล้วพาไปในเวลากลางคืน พอติดตามทันผู้ตายได้ใช้ปืนยิงจำเลยก่อน 1 นัดกระสุนปืนไม่ถูกจำเลย ดังนี้ การที่จำเลยได้ใช้มีดพร้าบ้องฟันผู้ตายในเวลาเดียวซ้ำถึง 4 ที เป็นบาดแผลถึง 5 แห่ง บาดแผลบางแห่งถูกอวัยวะสำคัญทำให้ผู้ตายถึงแก่ความตายทันที จึงเป็นการกระทำเพื่อป้องกันเกินสมควรแก่เหตุ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 246/2512
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวและการใช้กำลังสมควรแก่เหตุเมื่อถูกทำร้าย
จำเลยแทงผู้เสียหายในขณะผู้เสียหายใช้มือทั้งสองเค้นคอจำเลยอยู่. จำเลยว่าหายใจไม่ออก จำเลยไม่มีทางจะหลีกเลี่ยง ถ้าหากจำเลยไม่ใช้มีดแทงผู้เสียหาย. จำเลยอาจถึงแก่ความตายได้. เพราะผู้เสียหายรูปร่างใหญ่โตแข็งแรงกว่าจำเลย. ฉะนั้น การที่จำเลยใช้มีดแทงผู้เสียหาย จึงเป็นการป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1899/2512
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลื่อนคดีและการแต่งตั้งทนาย: ศาลต้องพิจารณาเหตุผลความจำเป็นและประโยชน์แห่งความยุติธรรม
หลังจากโจทก์ถอนทนายเดิมแล้ว 20 วัน ได้มีการยื่นใบแต่งทนายใหม่ในวันนัดสืบพยานโจทก์. วันที่ยื่นใบแต่งทนายเป็นแต่เพียงการแสดงต่อศาลว่าขอแต่งตั้งทนายให้เป็นผู้ว่าความ. มิได้หมายความว่า.โจทก์เพิ่งไปหาทนายในเช้าวันนัด. อันจะถือว่าโจทก์ไม่นำพาต่อคดีของตน.
เมื่อโจทก์หาทนายได้แล้ว แต่บังเอิญทนายติดว่าความในคดีอื่นซึ่งนัดไว้ก่อน. ย่อมเป็นกรณีที่มีความจำเป็นอันไม่อาจก้าวล่วงเสียได้. กรณีที่ทนายโจทก์ขอเลื่อนคดีเป็นครั้งแรก แม้โจทก์จะยังมิได้ยื่นบัญชีระบุพยานไว้.แต่ตามพฤติการณ์แห่งคดีไม่มีเหตุที่จะแสดงว่าโจทก์แกล้งประวิงคดี. และประกอบกับเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม ย่อมมีเหตุสมควรที่ศาลจะอนุญาตให้เลื่อนคดีไปได้.
โจทก์ตั้งทนายโดยทำเป็นหนังสือลงลายมือโจทก์และทนายโจทก์แล้วยื่นต่อศาล. โดยให้ผู้รับมอบฉันทะจากทนายโจทก์ให้มายื่นคำร้องขอเลื่อนคดียื่นใบแต่งทนายพร้อมคำร้องนั้น. และศาลได้สั่งใบแต่งทนายรวมไว้ในสำนวนแล้ว. ย่อมถือได้ว่าทนายซึ่งโจทก์ตั้ง เป็นทนายของโจทก์แล้ว.
เมื่อโจทก์หาทนายได้แล้ว แต่บังเอิญทนายติดว่าความในคดีอื่นซึ่งนัดไว้ก่อน. ย่อมเป็นกรณีที่มีความจำเป็นอันไม่อาจก้าวล่วงเสียได้. กรณีที่ทนายโจทก์ขอเลื่อนคดีเป็นครั้งแรก แม้โจทก์จะยังมิได้ยื่นบัญชีระบุพยานไว้.แต่ตามพฤติการณ์แห่งคดีไม่มีเหตุที่จะแสดงว่าโจทก์แกล้งประวิงคดี. และประกอบกับเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม ย่อมมีเหตุสมควรที่ศาลจะอนุญาตให้เลื่อนคดีไปได้.
โจทก์ตั้งทนายโดยทำเป็นหนังสือลงลายมือโจทก์และทนายโจทก์แล้วยื่นต่อศาล. โดยให้ผู้รับมอบฉันทะจากทนายโจทก์ให้มายื่นคำร้องขอเลื่อนคดียื่นใบแต่งทนายพร้อมคำร้องนั้น. และศาลได้สั่งใบแต่งทนายรวมไว้ในสำนวนแล้ว. ย่อมถือได้ว่าทนายซึ่งโจทก์ตั้ง เป็นทนายของโจทก์แล้ว.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1708/2512
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันสิทธิโดยเข้าใจผิด: การยิงเพื่อป้องกันตัวในสถานการณ์ที่สุ่มเสี่ยง
จำเลยผู้เดียวนอนเฝ้ากระบือและเครื่องสูบน้ำที่ห้างนา ในท้องที่ที่มีการปล้นการลักกันเสมอ. ตกใจตื่นโดยได้ยินเสียงก๊อกแก๊กทางปลายเท้า เห็นเงาคนดำๆ ห่าง 1 วาเศษเข้าใจว่าเป็นคนร้ายจะมาทำการปล้น. จึงใช้ปืนยิงไป1 นัด ถูกผู้นั้นตาย ในขณะเข้าใจผิดคิดว่าเป็นคนร้ายย่อมถือได้ว่าเป็นการกระทำที่พอสมควรแก่เหตุ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1698/2512
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำเพื่อปกป้องบุตรจากผู้บุกรุกและการป้องกันตัวที่สมควรแก่เหตุ
ผู้เสียหายมาขอน้ำบุตรสาวจำเลยกิน. บุตรจำเลยเข้าไปในครัวจะตักน้ำให้ ผู้เสียหายตามเข้าไปจับมือและเข้ากอดบุตรจำเลยในครัว. เมื่อจำเลยกลับมาบ้านได้ยินเสียงบุตรสาวร้องเรียกให้ช่วย. จำเลยจึงได้เข้าไปใช้มีดแทงผู้เสียหาย 2 ครั้ง. ครั้งแรกเพื่อให้ผู้เสียหายปล่อยจากกอดบุตรสาว และผู้เสียหายหันกลับมาสู้ จำเลยจึงแทงป้องกันตัวไปอีก ถือว่าจำเลยทำร้ายผู้เสียหายพอสมควรแก่เหตุ. จำเลยจึงยังไม่มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 68.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1912/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำโดยป้องกันตัว: การใช้กำลังเพื่อปกป้องตนเองและผู้อื่นจากภยันตรายใกล้จะถึง
ผู้ตายถือปืนจ้องไปที่จำเลยที่ 1 เป็นเหตุให้จำเลยที่ 1 เข้าใจว่าผู้ตายจะยิงทำร้ายจำเลยที่ 1 จึงจับปืนผลักผู้ตายเซหมุนตัวไป แล้วแทงถูกด้านหลังผู้ตาย การกระทำของจำเลยที่ 1 เป็นการป้องกันตัวให้พ้นภยันตรายที่จะได้รับและพอสมควรแก่เหตุ
เมื่อจำเลยที่ 1 แทงแล้วก็วิ่งหนี ผู้ตายถือปืนไล่ยิงจำเลยที่ 1 พอผ่านจำเลยที่ 2 จำเลยที่ 2 จึงใช้มีดแทงกลางหลังผู้ตายอีก 1 ที การกระทำของจำเลยที่ 2 จึงเป็นการป้องกันมิให้จำเลยที่ 1 ได้รับภยันตรายจากการที่ผู้ตายจะยิงจำเลยที่ 1 จึงเป็นการกระทำที่พอสมควรแก่เหตุเช่นเดียวกัน
เมื่อจำเลยที่ 1 แทงแล้วก็วิ่งหนี ผู้ตายถือปืนไล่ยิงจำเลยที่ 1 พอผ่านจำเลยที่ 2 จำเลยที่ 2 จึงใช้มีดแทงกลางหลังผู้ตายอีก 1 ที การกระทำของจำเลยที่ 2 จึงเป็นการป้องกันมิให้จำเลยที่ 1 ได้รับภยันตรายจากการที่ผู้ตายจะยิงจำเลยที่ 1 จึงเป็นการกระทำที่พอสมควรแก่เหตุเช่นเดียวกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1660/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยิงช้างที่บุกรุกสวน: การกระทำเพื่อป้องกันภัยอันตรายใกล้ถึงตัว
มีผู้นำช้างไปล่ามไว้ใกล้กับสวนของจำเลยโดยจำเลยไม่รู้ กลางคืนช้างหลุดจากโซ่ พังรั้วลวดหนามเข้าไปในสวนของจำเลย ซึ่งมีบ้านพักของจำเลยกับคนงานปลูกอยู่คนงานได้ยินเสียงหักขัาวโพดจึงบอกจำเลย จำเลยถือปืนเดินไปดูกับคนงาน จำเลยโผล่จากไร่ข้าวโพดพบช้างอยู่กลางไร่ข้าวโพดห่างประมาณ 4 วา โดยไม่ทันรู้ตัวและกำลังเดินเข้ามาหาจำเลย จำเลยเข้าใจว่าเป็นช้างป่า ซึ่งยังมีอยู่ในป่าบริเวณไร่ของจำเลย จึงผลักคนงานให้หลบแล้วเอาปืนยิงช้างไป 2 นัดแล้ววิ่งหนี ดังนี้ ถือว่าการที่จำเลยยิงช้างของผู้เสียหาย เป็นการตัดสินใจโดยกระทันหันด้วยความจำเป็นเพื่อให้พ้นจากภยันตรายที่ใกล้จะถึงตัวจำเลยกับคนงาน โดยจำเลยไม่สามารถหลีกเลี่ยงให้พ้นโดยวิธีอื่นได้ และการกระทำของจำเลยไม่เกินสมควรแก่เหตุจำเลยจึงไม่ต้องรับโทษฐานทำให้เสียทรัพย์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1474/2510
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลื่อนการพิจารณาคดีขัดทรัพย์: เหตุผลความจำเป็นและประโยชน์แห่งความยุติธรรม
คดีร้องขัดทรัพย์ ในวันนัดสืบพยานผู้ร้องนัดแรก ผู้ร้องขอเลื่อนการพิจารณาโดยอ้างว่าตัวผู้ร้องซึ่งเป็นพยานด้วย ไปราชการต่างจังหวัดกับทนายความติดว่าความอีกศาลหนึ่ง เมื่อได้ความว่าการกำหนดวันนัด ผู้ร้องและทนายความมิได้มาศาลตกลงกำหนดวันนัดด้วย ดังนี้นับได้ว่ามีความจำเป็นพอสมควรที่ศาลจะอนุญาตให้เลื่อนการพิจารณาไปได้