คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ความชอบด้วยกฎหมาย

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 178 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 160/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความชอบด้วยกฎหมายของฟ้องอาญาและการรอการลงโทษจำคุกจากพฤติการณ์ผู้กระทำผิด
ฟ้องโจทก์บรรยายว่า จำเลยมีเครื่องชั่งที่ผิดอัตราไว้เพื่อใช้เอาเปรียบในการค้า โดยชั่งสินค้าจำหน่ายแก่ผู้ซื้อ กับได้ ใช้เครื่องชั่งที่ผิดอัตรานั้นทำการชั่งสินค้าจำหน่ายแก่ลูกค้าผู้ซื้อเพื่อเอาเปรียบในการค้า ฟ้องของโจทก์จึงชัดแจ้งแล้วว่าจำเลยมีเจตนากระทำผิดต่อ พ.ร.บ. มาตราชั่ง ตวง วัดฯ และ ป.อ.มาตรา 270 ตามที่โจทก์ขอให้ลงโทษจำเลย ส่วน บุคคลที่เสียหายจะเป็นใครนั้น หาใช่สาระสำคัญที่โจทก์จำต้องกล่าวมาในฟ้องด้วยไม่เพราะเป็นรายละเอียดที่โจทก์อาจนำสืบได้ในชั้นพิจารณา ฟ้องของโจทก์ชอบด้วย ป.วิ.อ. มาตรา 158(5) แล้ว จำเลยรับจ้าง ศ. ซึ่งเป็นญาติขายอาหารสำเร็จรูปประเภทขนมปังกรอบในที่เกิดเหตุ โดยจำเลยเป็นผู้ครอบครองเครื่องชั่งที่ผิดอัตราเท่านั้น หาใช่เจ้าของกิจการพาณิชย์ ตามฟ้องไม่ และจำเลยมีภาระต้องเลี้ยงดูภริยา และให้ความอุปการะบุตรที่ยังอยู่ระหว่างการศึกษาเล่าเรียนอีก 3 คน ทั้งระหว่างถูกคุมความประพฤติตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น จำเลยก็ได้ไปรายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติตามกำหนดนัดอีกด้วย เมื่อไม่ปรากฏว่าจำเลยได้รับโทษจำคุกมาก่อนจึงสมควรให้โอกาสจำเลยประพฤติตนเป็นคนดีต่อไป โดยรอการลงโทษจำคุกให้และคุมความประพฤติจำเลยไว้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1040/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความชอบด้วยกฎหมายของฟ้องอาญาฐานสนับสนุนเจ้าพนักงานกระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ และการพิพากษาจำเลย
โจทก์บรรยายฟ้องสำหรับจำเลยที่ 5 ว่า ระหว่างวันที่ 11 ตุลาคม 2521 เวลาใดไม่ปรากฏชัดถึงวันที่ 26 ตุลาคม 2521 เวลากลางวันจำเลยที่ 5 และที่ 8 กับพวกอีกหลายคนซึ่งบางคนถึงแก่กรรมไปแล้วได้ร่วมกันช่วยเหลือให้ความสะดวกในการที่เจ้าพนักงานได้ร่วมกันดำเนินการให้จำเลยที่ 8 ได้มีบัตรประจำตัวประชาชนใหม่ ในนามของนางสาว นภาพร บุญมา ซึ่งไม่ตรงต่อความเป็นจริง และเป็นความผิดโดยจำเลยที่ 5 และที่ 8 กับพวกได้ร่วมกันจ้าง หรือวาน หรือมิฉะนั้นก็ได้ใช้ให้จำเลยที่ 1 กับที่ 4 ฟ้องโจทก์ดังกล่าวได้บรรยายโดยแจ้งชัดแล้วว่าจำเลยที่ 5 กับพวกเป็นผู้สนับสนุนจำเลยอื่นซึ่งเป็นเจ้าพนักงานให้ดำเนินการให้จำเลยที่ 8 ได้มีบัตรประจำตัวประชาชนในนามของผู้อื่น แม้ในตอนหลังจะบรรยายว่าจำเลยที่ 5 กับพวกได้ร่วมกันจ้าง หรือวาน หรือใช้ให้จำเลยอื่นกระทำผิดตามฟ้องก็หาได้ขัดแย้งกันเองไม่ เพราะแม้ว่าทางพิจารณาจะได้ความทางใดทางหนึ่ง จำเลยที่ 5 ก็ย่อมมีความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนให้เจ้าพนักงานกระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่เช่นเดียวกัน ส่วนการที่จำเลยที่ 5 ได้ช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกแก่จำเลยอื่นซึ่งเป็นเจ้าพนักงานคนใดและอย่างใดนั้น เป็นรายละเอียดที่โจทก์จะนำสืบในชั้นพิจารณา หาจำเป็นต้องบรรยายมาในฟ้องไม่ ฟ้องของโจทก์เกี่ยวกับจำเลยที่ 5 จึงชอบด้วยกฎหมาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1040/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความชอบด้วยกฎหมายของฟ้องอาญาฐานสนับสนุนเจ้าพนักงานกระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ และการพิสูจน์ความผิดของจำเลย
โจทก์บรรยายฟ้องสำหรับจำเลยที่ 5 ว่า ระหว่างวันที่ 11 ตุลาคม2521 เวลาใดไม่ปรากฏชัดถึงวันที่ 26 ตุลาคม 2521 เวลากลางวันจำเลยที่ 5 และที่ 8 กับพวกอีกหลายคนซึ่งบางคนถึงแก่กรรมไปแล้วได้ร่วมกันช่วยเหลือให้ความสะดวกในการที่เจ้าพนักงานได้ร่วมกันดำเนินการให้จำเลยที่ 8 ได้มีบัตรประจำตัวประชาชนใหม่ ในนามของนางสาว นภาพร บุญมา ซึ่งไม่ตรงต่อความเป็นจริง และเป็นความผิดโดยจำเลยที่ 5 และที่ 8 กับพวกได้ร่วมกันจ้าง หรือวาน หรือมิฉะนั้นก็ได้ใช้ให้จำเลยที่ 1 กับที่ 4 ฟ้องโจทก์ดังกล่าวได้บรรยายโดยแจ้งชัดแล้วว่าจำเลยที่ 5 กับพวกเป็นผู้สนับสนุนจำเลยอื่นซึ่งเป็นเจ้าพนักงานให้ดำเนินการให้จำเลยที่ 8 ได้มีบัตรประจำตัวประชาชนในนามของผู้อื่น แม้ในตอนหลังจะบรรยายว่าจำเลยที่ 5 กับพวกได้ร่วมกันจ้าง หรือวาน หรือใช้ให้จำเลยอื่นกระทำผิดตามฟ้องก็หาได้ขัดแย้งกันเองไม่ เพราะแม้ว่าทางพิจารณาจะได้ความทางใดทางหนึ่ง จำเลยที่ 5 ก็ย่อมมีความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนให้เจ้าพนักงานกระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่เช่นเดียวกัน ส่วนการที่จำเลยที่ 5 ได้ช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกแก่จำเลยอื่นซึ่งเป็นเจ้าพนักงานคนใดและอย่างใดนั้น เป็นรายละเอียดที่โจทก์จะนำสืบในชั้นพิจารณา หาจำเป็นต้องบรรยายมาในฟ้องไม่ ฟ้องของโจทก์เกี่ยวกับจำเลยที่ 5 จึงชอบด้วยกฎหมาย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3527/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประนอมหนี้ที่ทำไปโดยชอบด้วยกฎหมาย แม้มีการขู่ว่าจะฟ้อง ไม่ทำให้สัญญาเป็นโมฆียะ
จำเลยทำสัญญาประนอมหนี้กับโจทก์ที่สถานีตำรวจโดยโจทก์พูดว่า "ให้เอาเงินมาใช้เสีย ถ้าไม่ใช้จะฟ้องและติดตะราง" พวกของโจทก์พูดว่า "ใช้เสียน้องเอ๋ย ถึงคราวจำเป็นแล้ว ถ้าไม่ใช้จะถูกฟ้องให้ติดตะราง" และพนักงานสอบสวนพูดว่า "ผู้ใหญ่ใช้เสียเรา มีวินัยอยู่มิฉะนั้นจะเป็นโทษอาญานะ" เป็นเรื่องที่โจทก์กับพวกขู่ว่าถ้าจำเลยไม่ใช้เงินโจทก์จะฟ้องเอาผิดกับจำเลยทางอาญา อันเป็นการใช้สิทธิทางศาลโดยสุจริต เป็นการขู่ว่าจะใช้สิทธิตามปกตินิยม ไม่เป็นการข่มขู่อันจะทำให้นิติกรรมเป็นโมฆียะ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 126 สัญญาประนอมหนี้จึงสมบูรณ์ใช้บังคับได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1760/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความชอบด้วยกฎหมายของคำร้องทุกข์และคำให้การที่มีการใช้ล่ามแปล
แม้คำร้องทุกข์และคำให้การชั้นสอบสวนของผู้เสียหายคนหนึ่ง จะมีผู้เสียหายอีกคนหนึ่งเป็นล่ามแปล ก็เป็นคำร้องทุกข์และคำให้การที่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะ ไม่มีกฎหมายบัญญัติห้ามมิให้พนักงานสอบสวนให้ผู้เสียหายเป็นล่าม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2136/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความชอบด้วยกฎหมายของคำฟ้องอาญาตาม พ.ร.บ.วัสดุลามก แม้บทลงโทษเดิมถูกยกเลิก
คำฟ้องของโจทก์อ้างพระราชบัญญัติปรามการให้แพร่หลายและการค้าวัสดุอันลามก พ.ศ. 2471 มาตรา 3 อันเป็นมาตราในกฎหมายซึ่งบัญญัติว่าการกระทำเช่นนั้นเป็นความผิดแล้ว แม้บทมาตราดังกล่าวจะระบุให้ผู้กระทำผิดต้องระวางโทษตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 240แห่งกฎหมายลักษณะอาญาที่ถูกยกเลิกไปแล้วและโจทก์ไม่ได้อ้างพระราชบัญญัติ ให้ใช้ประมวลกฎหมายอาญา พุทธศักราช 2499 มาตรา 8หรือบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายอาญามาในฟ้องด้วย ก็ถือได้ว่าเป็นคำฟ้องที่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(6)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2136/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความชอบด้วยกฎหมายของคำฟ้องอาญาตาม พ.ร.บ.วัสดุอันลามก แม้กฎหมายลักษณะอาญาถูกยกเลิก
คำฟ้องของโจทก์อ้างพระราชบัญญัติปรามการให้แพร่หลายและการค้าวัสดุอันลามก พ.ศ.2471 มาตรา 3 อันเป็นมาตราในกฎหมายซึ่งบัญญัติว่าการกระทำเช่นนั้นเป็นความผิดแล้ว แม้บทมาตราดังกล่าวจะระบุให้ผู้กระทำผิดต้องระวางโทษตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 240 แห่งกฎหมายลักษณะอาญาที่ถูกยกเลิกไปแล้วและโจทก์ไม่ได้อ้างพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายอาญาพุทธศักราช 2499 มาตรา 8 หรือบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายอาญามาในฟ้องด้วย ก็ถือได้ว่าเป็นคำฟ้องที่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(6).

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5892-5894/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ รวมพิจารณาคดีอาญาหลายสำนวน: ความชอบด้วยกฎหมายและการไม่เสียเปรียบ
คดีสามสำนวนค้างพิจารณาอยู่ในศาลชั้นต้นเดียวกัน โจทก์และจำเลยทั้งสามสำนวนเป็นคู่ความรายเดียวกัน พยานโจทก์และพยานจำเลยทั้งสามสำนวนส่วนใหญ่เป็นพยานชุดเดียวกัน จะเป็นการสะดวกหากพิจารณารวมกันจำเลยยื่นคำร้องขอให้ร่วมพิจารณาพิพากษาคดีทั้งสามสำนวนเข้าด้วยกันหลังจากคดีสำนวนแรกสืบพยานโจทก์เสร็จแล้วและสืบพยานจำเลยไปบ้างแล้ว ส่วนคดีอีกสองสำนวนเพียงแต่สืบพยานโจทก์เสร็จซึ่งเป็นเวลาก่อนที่ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาทั้งสามสำนวน โจทก์มีโอกาสสืบพยานโจทก์ทั้งสามสำนวนและซักค้านพยานจำเลยได้เต็มที่ในสำนวนแรก แม้จำเลยจะงดสืบพยานจำเลยอีกสองสำนวนก็มิได้ทำให้โจทก์เสียเปรียบในเชิงคดี การที่ศาลชั้นต้นสั่งให้พิจารณาพิพากษาคดีทั้งสามสำนวนเข้าด้วยกันจึงเป็นการชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธี พิจารณาความอาญา มาตรา 15 และประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 28

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2290/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ประกันภัยรถยนต์: ใบอนุญาตขับรถขาดต่ออายุ ยังถือว่ามีใบอนุญาตโดยชอบตามเจตนาของคู่สัญญา
คู่ความตกลงท้ากันให้นายทะเบียนยานพาหนะฯ วินิจฉัยว่าส.มีใบอนุญาตขับรถยนต์โดยชอบด้วยกฎหมายที่ได้รับจากนายทะเบียนฯในขณะเกิดเหตุคดีนี้หรือไม่ ถ้า นายทะเบียนวินิจฉัยว่า ส. มีใบอนุญาตขับรถยนต์ที่ได้รับจากนายทะเบียนฯ โดยชอบ โจทก์ยอมแพ้หากวินิจฉัยตรงกันข้ามจำเลยยอมแพ้ ดังนี้เมื่อหัวหน้าแผนกขับขี่รถยนต์ที่ศาลหมายเรียกมาสอบถามแถลงว่าไม่สามารถวินิจฉัยได้ว่า ส.มีใบอนุญาตขับรถยนต์โดยชอบด้วยกฎหมายที่ได้รับจากนายทะเบียนฯในขณะที่เกิดเหตุหรือไม่ คู่ความจึงต้องสืบพยานกันต่อไปเฉพาะ ในประเด็นตามคำท้า เมื่อข้อเท็จจริงที่คู่ความนำสืบมารับฟังได้ว่าในวันเกิดเหตุส. มีใบอนุญาตขับรถยนต์ส่วนบุคคลที่ออกให้โดยนายทะเบียนยานพาหนะฯแต่ขาดต่ออายุ การวินิจฉัยคดีว่าฝ่ายใดจะชนะหรือแพ้คดีตามคำท้าย่อมจะต้องพิจารณาถึงเงื่อนไขในกรมธรรม์ประกันภัยรายพิพาทประกอบด้วยซึ่งเห็นได้ว่าเงื่อนไขในกรมธรรม์ประกันภัยฯ มีไว้เพื่อไม่ให้ผู้ที่ขับรถยนต์ไม่เป็นหรือไม่ได้รับใบอนุญาตขับรถยนต์มาขับรถยนต์ที่เอาประกันเพราะเกรงจะเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย การที่ ส. เพียงแต่ขาดต่ออายุใบอนุญาตฯ จึงถือได้ว่า ส. มีใบอนุญาตขับรถยนต์โดยชอบด้วยกฎหมายตามคำท้า โจทก์ต้องเป็นฝ่ายแพ้คดี.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 146/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลฎีกาในคดีคัดค้านการเลือกตั้ง และการพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของคำร้อง
กระบวนพิจารณาคดีการคัดค้านการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรนั้น พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2522 บัญญัติไว้เป็นพิเศษในมาตรา 78 และ 79 ว่าการดำเนินกระบวนพิจารณาของศาลจังหวัดหรือศาลแพ่งในคดีคัดค้านการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาที่กฎหมายมอบหมายให้ศาลจังหวัดหรือศาลแพ่งกระทำการแทนศาลฎีกา ส่วนความเห็นของศาลหนึ่งศาลใดดังกล่าวที่ได้ส่งมายังศาลฎีกาพร้อมกับสำนวนนั้นก็เป็นเพียงข้อเสนอแนะต่อศาลฎีกาโดยตรง ไม่มีลักษณะเป็นคำพิพากษาหรือคำวินิจฉัยชี้ขาดคดีที่คู่ความหรือผู้มีส่วนได้เสียจะโต้แย้งคัดค้านได้ และในการวินิจฉัยชี้ขาดคดีศาลฎีกาก็มิได้ถูกผูกมัดโดยความเห็นของศาลหนึ่งศาลใดดังกล่าวนั้นด้วย ในกรณีที่เห็นสมควร ศาลฎีกาอาจจะมีคำวินิจฉัยคดีคัดค้านการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไปได้โดยไม่จำต้องรอฟังความเห็นของศาลจังหวัดหรือศาลแพ่ง.
ในคดีคัดค้านการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เมื่อผู้คัดค้านยื่นคำร้องต่อศาลแพ่ง ขอให้วินิจฉัยชี้ขาดปัญหาข้อกฎหมายเบื้องต้นศาลแพ่งมีคำสั่งว่า จะพิจารณารวมสั่งเมื่อมีคำสั่ง ผู้คัดค้านย่อมมีอำนาจยื่นฎีกาขอให้ศาลฎีกาวินิจฉัยเสียเองได้
คำร้องบรรยายว่า เจ้าพนักงานผู้ดำเนินการเลือกตั้งและเจ้าหน้าที่คะแนนประจำหน่วยเลือกตั้งในเขต 8 กรุงเทพมหานครทุกหน่วยจงใจนับบัตรเลือกตั้งหรือคะแนนของผู้คัดค้านที่ 2 ให้ผิดไปจากความจริงหรือรวมคะแนนให้ผิดไปจากความเป็นจริงโดยกรรมการตรวจนับคะแนนประจำหน่วยเลือกตั้งทุกหน่วยได้จงใจนับบัตรเลือกตั้งที่ลงคะแนนให้แก่ผู้คัดค้านที่ 2 ซึ่งเป็นบัตรเสียให้เป็นบัตรดีจำนวน 50 คะแนน ทำให้ผู้คัดค้านที่ 2ได้รับคะแนนเพิ่มไปจากความเป็นจริง 50 คะแนน ดังรายละเอียดปรากฏตามบัตรเลือกตั้งและหน่วยเลือกตั้งบัญชีท้ายคำร้องหมายเลข1 และกรรมการตรวจนับคะแนนประจำหน่วยเลือกตั้งทุกหน่วยได้จงใจนับบัตรเลือกตั้งที่ลงคะแนนให้แก่ผู้ร้องซึ่งเป็นบัตรดีให้เป็นบัตรเสียจำนวน 690 คะแนน ดังรายละเอียดปรากฏตามบัตรเลือกตั้งและหน่วยเลือกตั้ง บัญชีท้ายคำร้องหมายเลข 2 ทำให้ผู้ร้องได้คะแนนน้อยไปจากความเป็นจริง 690 คะแนน เช่นนี้จึงเป็นการกล่าวอ้างว่าการเลือกตั้งเป็นไปโดยมิชอบ อันเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 51 แห่งพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2522 ซึ่งผู้ร้องมีสิทธิที่จะยื่นคำร้องคัดค้านการเลือกตั้งดังกล่าวได้ตามมาตรา 78 และบัญชีท้ายคำร้องหมายเลข 1 และหมายเลข 2 ซึ่งถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของคำร้องก็มีรายละเอียดชัดเจนเพียงพอที่จะทำให้ผู้คัดค้านทั้งสองเข้าใจและต่อสู้คดีได้ถูกต้อง นับได้ว่าคำร้องได้แสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาของผู้ร้องและคำขอบังคับ ทั้งข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาเช่นว่านั้น กรณีต้องตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 172 โดยชอบแล้ว คำร้องของผู้ร้องไม่เคลือบคลุม.
of 18