พบผลลัพธ์ทั้งหมด 139 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 846/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณาความถูกต้องของวันเกิดเหตุในฟ้องคดีอาญา แม้พยานเบิกความผิดพลาด แต่หากการสอบสวนยืนยันวันเกิดเหตุเดิมได้ ถือว่าข้อเท็จจริงไม่ต่างกับฟ้อง
แม้ตัวผู้เสียหายจะเบิกความวันเกิดเหตุผิดจากฟ้องก็ดี และพยานโจทก์คนอื่นจำได้แต่เดือน ส่วนวันจำไม่ได้ก็ดี แต่พยานโจทก์เหล่านี้ก็ได้ให้การชั้นสอบสวนหลังจากเกิดเหตุเพียงเล็กน้อย ระบุวันเกิดเหตุตรงตามฟ้อง ดังนี้ ถือได้ว่า ข้อเท็จจริงไม่ต่างกับฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1073/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ใบแดงแจ้งโทษท้ายฟ้องเป็นส่วนหนึ่งของคำฟ้อง การรื้อฟื้นคดีในประเด็นความถูกต้องของใบแดงแจ้งโทษจึงต้องห้ามตามกฎหมาย
ใบแดงแจ้งโทษท้ายฟ้อง ย่อมถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของคำฟ้อง
ในชั้นพิจารณาของศาลชั้นต้น จำเลยรับว่า จำเลยรับว่าจำเลยเคยต้องโทษและพ้นโทษจริงตามใบแดงแจ้งโทษท้ายฟ้องทุกครั้ง เมื่อศาลได้พิพากษาลงโทษจำเลยฐานลักทรัพย์และลงโทษกักกันจำเลยจนคดีถึงที่สุดไปแล้ว จำเลยจะมาร้องขอให้ศาลรื้อฟื้นคดีขึ้นพิจารณาในปัญหาที่ว่า ใบแดงแจ้งโทษท้ายฟ้องมิใช่ใบแดงแจ้งโทษความผิดของจำเลยหาได้ไม่ ต้องห้ามตาม ป.วิ.อ. มาตรา 39 (4)
ในชั้นพิจารณาของศาลชั้นต้น จำเลยรับว่า จำเลยรับว่าจำเลยเคยต้องโทษและพ้นโทษจริงตามใบแดงแจ้งโทษท้ายฟ้องทุกครั้ง เมื่อศาลได้พิพากษาลงโทษจำเลยฐานลักทรัพย์และลงโทษกักกันจำเลยจนคดีถึงที่สุดไปแล้ว จำเลยจะมาร้องขอให้ศาลรื้อฟื้นคดีขึ้นพิจารณาในปัญหาที่ว่า ใบแดงแจ้งโทษท้ายฟ้องมิใช่ใบแดงแจ้งโทษความผิดของจำเลยหาได้ไม่ ต้องห้ามตาม ป.วิ.อ. มาตรา 39 (4)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 442/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดตาม พ.ร.บ.มาตราชั่งตวงวัด กรณีเครื่องชั่งผิดพลาดจากอายุการใช้งาน
มาตรา 31 แห่ง พระราชบัญญัติมาตราชั่งตวงวัด พ.ศ.2466 ซึ่งถือว่าผู้ใดผู้หนึ่ง ในกิจการต่อเนื่องกับผู้อื่นหรือในพาณิชยกิจใดๆกระทำการชั่งตวงวัดโดยใช้เครื่องชั่งเครื่องตวง เครื่องวัด หรือสิ่งใดซึ่งไม่ถูกต้องตามความประสงค์ทุกประการของ พระราชบัญญัตินี้หรือผู้ใดผู้หนึ่งมีเครื่องชั่ง เครื่องตวง เครื่องวัดดังที่กล่าวมานั้นไว้ในความกครองของตนเพื่อใช้ในกิจการต่อเนื่องกับผู้อื่นหรือในพาณิชยกิจใดๆมีความผิดนั้นหากตามข้อเท็จจริงปรากฏว่า ความผิดพลาดเกิดในตัวเครื่องชั่งเองเนื่องจากใช้มานานเพียงเท่านี้ไม่ทำให้จำเลยผู้มีเครื่องชั่งนั้นกลับมีความผิดขึ้นมาตามมาตรานี้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 980/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พินัยกรรมไม่เป็นไปตามแบบเอกสารลับ แต่ถูกต้องตามแบบธรรมดา ย่อมใช้ได้
พินัยกรรมที่ทำเป็นเอกสารลับนั้น ผู้ทำจะต้องนำพินัยกรรมที่ผนึกซองแล้วและพยานไปแสดงต่อกรมการอำเภอ จะให้กรมการอำเภอมาทำนอกที่ว่าการอำเภออย่างพินัยกรรมฝ่ายเมืองดังที่บัญญัติไว้ในมาตรา 1659 ไม่ได้
เมื่อพินัยกรรมที่ทำอย่างเอกสารลับจะไม่สมบูรณ์ตามที่กฎหมายกำหนดไว้ แต่ถูกต้องตามแบบพินัยกรรมธรรมดา ตามมาตรา 1656 แล้ว ก็เป็นอันใช้ได้
เมื่อพินัยกรรมที่ทำอย่างเอกสารลับจะไม่สมบูรณ์ตามที่กฎหมายกำหนดไว้ แต่ถูกต้องตามแบบพินัยกรรมธรรมดา ตามมาตรา 1656 แล้ว ก็เป็นอันใช้ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 614/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความถูกต้องของวันเวลากระทำผิดและการรับฟังพยานหลักฐานในคดีอาญา
โจทก์บรรยายฟ้องว่าเหตุเกิดวันที่ 6 พ.ค. 97 เวลากลางคืนก่อนเที่ยงซึ่งตรงกับวันขึ้น 4 ค่ำเดือน 6 แต่ผู้เสียหายและพยานโจทก์ว่าเหตุเกิดเวลากลางคืนขึ้น 3 ค่ำ เดือน 6 ตรงกับ วันที่ 5 พ.ค. 97
เมื่อคดีได้ความว่าที่ต่างกันนี้เพราะในบรรยายฟ้องโจทก์นับวันเวลาตามสุริยคติคือนับต่อจาก 24.00 น. เป็นเวลากลางคืนก่อนเที่ยงไปจนถึง 6.00 น. เป็นอีกวันหนึ่ง แต่พยานโจทก์ให้การตามวิธีนับทางจันทรคติสิ้นสุดลงในเวลาย่ำรุ่งเมื่อคดีนี้เหตุเกิดเมื่อวันที่ 5 พ.ค. 97และเวลา 2 ยามไปแล้ว จึงตรงกับวันที่ 6 พ.ค. 97เวลากลางคืนก่อนเที่ยงข้อเท็จจริงในทางพิจารณาจึงไม่ต่างกับข้อเท็จจริงในฟ้อง
เมื่อคดีได้ความว่าที่ต่างกันนี้เพราะในบรรยายฟ้องโจทก์นับวันเวลาตามสุริยคติคือนับต่อจาก 24.00 น. เป็นเวลากลางคืนก่อนเที่ยงไปจนถึง 6.00 น. เป็นอีกวันหนึ่ง แต่พยานโจทก์ให้การตามวิธีนับทางจันทรคติสิ้นสุดลงในเวลาย่ำรุ่งเมื่อคดีนี้เหตุเกิดเมื่อวันที่ 5 พ.ค. 97และเวลา 2 ยามไปแล้ว จึงตรงกับวันที่ 6 พ.ค. 97เวลากลางคืนก่อนเที่ยงข้อเท็จจริงในทางพิจารณาจึงไม่ต่างกับข้อเท็จจริงในฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 120/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
แผนที่ระวางเอกสารมหาชนมีผลสันนิษฐานความถูกต้อง จำเลยต้องพิสูจน์ความไม่ถูกต้อง
แผนที่ระวางเป็นเอกสารมหาชนซึ่งพนักงานเจ้าหน้าที่ได้ทำขึ้นตาม ป.วิ.แพ่ง ม.127 ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นของแท้จริงและถูกต้อง เมื่อโจทก์อ้างมาเป็นพยานจึงเป็นหน้าที่ของจำเลยซึ่งถูกอ้างเอกสารนั้นมายันจะต้องนำสืบความไม่บริสุทธิ์หรือความไม่ถูกต้อง จำเลยไม่สืบก็ต้องแพ้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 245/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิพากษาคดีป่าไม้: ความถูกต้องของเอกสารอนุญาตตัดไม้ และขอบเขตการริบไม้ของกลาง
โจทก์บรรยายฟ้องว่า ระหว่างวันที่ 1 มกราคม ถึง 2กรกฎาคม 2496 เวลาใดไม่ปรากฏจำเลยตัดฟันชักลากและมีไม้โดยไม่ได้รับอนุญาตเจ้าพนักงานจับไม้ของกลางได้เมื่อวันที่ 9 ก.ค.96 ดังนี้แม้ทางพิจารณาจะฟังว่าจับของกลางได้เมื่อวันที่ 2 ก.ค.96 ซึ่งผิดวันกันก็จริง แต่ข้อที่ผิดกันเช่นนี้ยังไม่เรียกว่าข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในการพิจารณาต่างกับข้อเท็จจริงในฟ้องไม่ เพราะข้อที่ผิดกันนี้เป็นแต่เพียงรายละเอียดข้อปลีกย่อยเท่านั้น มิใช่ในข้ออันเป็นมูลฐานแห่งข้อกล่าวหาว่าจำเลยกระทำผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 244/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ไขเอกสารสัญญากู้ยืมเงินมีผลทำให้เอกสารเสียความน่าเชื่อถือ โจทก์ต้องพิสูจน์ความถูกต้อง
โจทก์ฟ้องเรียกเงินกู้ตามสัญญากู้เป็นจำนวนเงิน 1,000 บาท จำเลยรับว่าได้ทำสัญญากู้เงินจากโจทก์จริง แต่เป็นจำนวนเงิน 100 บาท ไม่ใช่ 1,000 บาท โจทก์แกด้จำนวนเงินจาก 100 บาทเป็น 1,000 บาท และในวันชี้สองสถานโจทก์นำต้นฉบับสัญญากู้ส่งต่อศาลจำเลยดูแล้วก็ยังรับว่าได้ทำสัญญากู้ดังโจทก์กล่าวจริง แต่กู้เพียง 100 บาท โจทก์แก้จำนวนเงินในสัญญาเป็น 1,000 บาท ดังนี้เป็นหน้าที่โจทก์จะต้องนำสืบก่อนตามที่กล่าวอ้าง เมื่อทั้งสองฝ่ายต่างไม่สืบพยาน โจทก์ก็ต้องเป็นฝ่ายแพ้คดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 225/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องคดีอาญาโดยไม่ตรงกับข้อเท็จจริงตามการพิจารณา ศาลต้องยกฟ้อง
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานวิวาททำให้ตายในที่วิวาทโดยไม่ระบุว่าใครทำใคร ตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 253แต่เมื่อทางพิจารณาปรากฏว่าไม่ใช่เรื่องวิวาทกัน แต่เป็นเรื่องที่ผู้ตายออกมาห้ามแต่โดยดี กลับถูกจำเลยผู้มีชื่อคนหนึ่ง แทงเอาถึงตายดังนี้ เป็นเรื่องข้อเท็จจริงตามทางพิจารณาต่างกับข้อเท็จจริงที่กล่าวในฟ้องจะลงโทษจำเลยไม่ได้ ต้องพิพากษายกฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2084/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณาความถูกต้องของวันเกิดเหตุและการสั่งริบปืนในคดีอาญา
เกี่ยวกับวันเกิดเหตุโจทก์ฟ้องว่าวันขึ้น 2 ค่ำ พยานโจทก์ 2 ปากแรกให้การชั้นศาลว่า วันแรม 2 ค่ำ พยานโจทก์ 2 ปากหลังให้การชั้นศาลว่าวันขึ้น 2 ค่ำแต่ชั้นสอบสวนซึ่งเป็นเวลาหลังเกิดเหตุเพียง 2 วัน พยานโจทก์ 2 ปากแรกก็ได้ให้การว่าวันขึ้น 2 ค่ำเมื่อข้อเท็จจริงยังฟังได้ว่าวันเกิดเหตุเป็นวันข้างขึ้นตามฟ้อง วันที่พยานโจทก์ 2 ปากแรกเบิกความชั้นศาลนั้นคลาดเคลื่อนไปดังนี้จะฟังว่าโจทก์ฟ้องผิดวันยังไม่ได้
ในคดีที่ฟ้องว่าจำเลยใช้ปืนยิงคนโดยเจตนานั้น เมื่อฟ้องกล่าวว่าเป็นปืนของผู้มีชื่อขอให้ริบ ทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยเอาปืนไปจากนายบ่ายซึ่งเป็นผู้ถือปืนอยู่ นายบ่ายจะได้ปืนมาอย่างใดและจะจดทะเบียนหรือไม่ ๆ ปรากฎเพียงเท่านี้ยังไม่พอจะสั่งให้ริบปืนของกลาง
ในคดีที่ฟ้องว่าจำเลยใช้ปืนยิงคนโดยเจตนานั้น เมื่อฟ้องกล่าวว่าเป็นปืนของผู้มีชื่อขอให้ริบ ทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยเอาปืนไปจากนายบ่ายซึ่งเป็นผู้ถือปืนอยู่ นายบ่ายจะได้ปืนมาอย่างใดและจะจดทะเบียนหรือไม่ ๆ ปรากฎเพียงเท่านี้ยังไม่พอจะสั่งให้ริบปืนของกลาง