พบผลลัพธ์ทั้งหมด 337 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1149/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิสูจน์ความผิดทางอาญาจากพยานหลักฐานที่ไม่เพียงพอ พยานบอกเล่าและคำรับสารภาพที่ไม่สมัครใจ
โจทก์ไม่มีประจักษ์พยานมาเบิกความว่าเห็นจำเลยเป็นคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงผู้ตาย คงมีเพียงพนักงานสอบสวนมาเบิกความว่าได้สอบสวนพยานผู้รู้เห็นเหตุการณ์ คือ ล.บ. และ ช. ทราบว่าจำเลยใช้อาวุธปืนยิงผู้ตาย ซึ่งเป็นเพียงพยานบอกเล่าเท่านั้น ทั้งคำรับสารภาพของจำเลยในชั้นจับกุมและสอบสวนจำเลยก็ปฏิเสธว่าไม่ได้ให้การรับสารภาพด้วยความสมัครใจ คำรับสารภาพของจำเลยดังกล่าวจึงไม่มีน้ำหนักในการรับฟัง ลำพังบันทึกคำให้การในชั้นสอบสวนที่ไม่มีพยานหลักฐานอื่นมาสนับสนุนจะนำมารับฟังเพื่อลงโทษจำเลยไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 477/2535 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อุทธรณ์ปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามตามกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา และผลของการแก้ไขกฎหมาย
การอุทธรณ์โต้เถียงดุลพินิจในการรับฟังพยานหลักฐานของ ศาลชั้นต้นเป็นอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง การพิจารณาว่าคดีใดจะอุทธรณ์ได้หรือไม่นั้น ต้องพิจารณาตามบทกฎหมายที่ใช้อยู่ในขณะยื่นอุทธรณ์.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3461/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำความผิดทางอาญาของผู้ป่วยจิตเวช: การพิสูจน์ความสามารถในการรู้ผิดชอบ
จำเลยมีอาการผิดปกติทางจิต หรือมีจิตบกพร่องหวาดระแวงว่าโจทก์ร่วมเป็นคนร้ายที่จะมาฆ่าจำเลยจึงได้ใช้มีดแทงโจทก์ร่วมไปและจากคำเบิกความของนายแพทย์ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจิตเวชเบิกความยืนยันว่า ลักษณะอาการประสาทของจำเลยตามหลักวิชาการจำเลยยังสามารถรับผิดชอบอยู่ ภรรยาของจำเลยก็เบิกความว่าปกติจำเลยสามารถทำงานได้ แต่เวลามีอาการจำเลยจะมีลักษณะกลัวคนจำเลยนั่งซึมนานประมาณ 10 วันจึงเกิดเหตุหลังเกิดเหตุแล้วจำเลยไม่ได้หลบหนีคงนั่งซึมจนถูกจับตัวส่งตำรวจ ดังนี้พฤติการณ์ของจำเลยก่อนและหลังการกระทำผิดดังกล่าว ไม่พอฟังว่าจำเลยกระทำผิดเพราะไม่สามารถบังคับตนเองได้ ถือว่าจำเลยกระทำผิดขณะยังสามารถรู้ผิดชอบอยู่บ้าง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3461/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดทางอาญาของผู้ป่วยจิตเวช: การประเมินความสามารถในการรู้ผิดชอบและควบคุมตนเอง
จำเลยมีอาการป่วยทางจิต เป็นโรควิตกกังวล จำเลยใช้มีดแทงโจทก์ร่วมโดยไม่มีสาเหตุ เมื่อเกิดเหตุแล้วจำเลยไม่หลบหนีคงนั่งซึมอยู่ที่บ้านจนถูกนำตัวส่งเจ้าพนักงานตำรวจ ชั้นสอบสวนจำเลยให้การว่า เกิดประสาทหลอนคิดว่าจะมีคนมาฆ่าจึงหยิบมีดขึ้นมาถือหลังจากนั้นมีดจะไปแทงถูกโจทก์ร่วมอย่างไรจำเลยไม่ทราบ ตามปกติจำเลยสามารถทำงานได้ แต่เวลาจำเลยมีอาการจะมีลักษณะกลัวคนซึ่งตามหลักวิชาการจำเลยยังสามารถรู้ผิดชอบอยู่ ขณะกระทำผิดจำเลยจึงยังสามารถรู้ผิดชอบและสามารถบังคับตนเองได้บ้างตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 65 วรรคสอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3106/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดทางอาญาของผู้ป่วยปัญญาอ่อน: การพิสูจน์ความสามารถในการรู้ผิดชอบ
จำเลยกระทำความผิดในขณะที่ไม่สามารถรู้ผิดชอบเพราะมีจิตบกพร่องด้วยเหตุป่วยเป็นโรคปัญญาอ่อนมาตั้งแต่กำเนิดเป็นเหตุให้ไม่ต้องรับโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 65 วรรคแรก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 242/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิสูจน์ความผิดทางอาญาจากพยานแวดล้อมและการรับสารภาพ
โจทก์ไม่มีประจักษ์พยานรู้เห็นคนร้ายขณะเกิดเหตุ คงมีแต่พยานแวดล้อมเห็นจำเลยกับพวกชวนผู้ตายไปที่บ้าน อ. ก่อนเวลาเกิดเหตุเพื่อชวน ม. ภรรยาผู้ตายกลับบ้าน เมื่อ ม.ไม่ยอมกลับผู้ตายก็เดินกลับบ้านคนเดียว ทั้งโจทก์มีพนักงานสอบสวนเบิกความยืนยันว่าวันรุ่งขึ้นหลังเกิดเหตุ อ. พาจำเลยกับพวกเข้ามอบตัวให้การรับสารภาพ และจำเลยได้นำพนักงานสอบสวนไปยึดเหล็กบ่วงที่ใช้ตีผู้ตายเป็นของกลาง พยานโจทก์จึงฟังได้ว่าจำเลยเป็นคนร้ายฆ่าผู้ตาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2255/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความทางแพ่งในมูลหนี้ละเมิดที่เชื่อมโยงกับความผิดทางอาญา: ใช้หลักอายุความทางอาญา
โจทก์ฟ้องให้จำเลยรับผิดตามสัญญาค้ำประกันในมูลหนี้ละเมิดที่ ช. ลูกหนี้ก่อขึ้น เมื่อมูลหนี้ละเมิดนั้นเป็นความผิดที่มีโทษตามประมวลกฎหมายอาญาด้วย จึงต้องตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 448 วรรคสอง ซึ่งบัญญัติให้นำอายุความทางอาญาที่ยาวกว่ามาใช้บังคับ มิใช่ถืออายุความ1 ปี นับแต่วันที่ผู้เสียหายรู้ถึงการละเมิดและรู้ตัวผู้ทำละเมิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1698/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำความผิดฐานโกงเจ้าหนี้ แม้ยังไม่มีคำพิพากษา ศาลฎีกาชี้เพียงรู้ว่าเจ้าหนี้จะฟ้องก็ถือเป็นความผิดได้
ความผิดฐานโกงเจ้าหนี้ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 350มิได้ถือเอาคำพิพากษาของศาลให้รับผิดในทางแพ่งเป็นองค์ประกอบความผิดทางอาญา องค์ประกอบความผิดทางอาญาของมาตรานี้อยู่ที่ว่าผู้กระทำเพียงแต่รู้ว่าเจ้าหนี้จะใช้สิทธิเรียกร้องทางศาลให้ชำระหนี้ได้ย้ายไปเสีย ซ่อนเร้นหรือโอนไปให้แก่ผู้อื่นซึ่งทรัพย์ใด แกล้งให้ตนเองเป็นหนี้จำนวนใดอันไม่เป็นความจริงเพื่อมิให้เจ้าหนี้ของตนหรือของผู้อื่นได้รับชำระหนี้ทั้งหมดหรือแต่บางส่วน ก็เป็นความผิดแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1078/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายทองผ่อนส่งและการพิสูจน์ความผิดฐานยักยอกทรัพย์ กรณีไม่มีเจตนาทุจริต
จำเลยซื้อทองจากโจทก์โดยวิธีผ่อนส่ง โดยโจทก์จะทำหลักฐานการผ่อนชำระเงินเป็น 2 ฉบับ โจทก์จำเลยเก็บไว้คนละฉบับ แต่โจทก์ให้จำเลยลงชื่อในสัญญารับเป็นตัวแทนไว้โดยจำเลยมิได้เป็นตัวแทนของโจทก์ การปฏิบัติระหว่างโจทก์จำเลยดังนี้ ไม่ใช่เรื่องตัวการตัวแทน แม้จำเลยยังไม่ได้ชำระเงินค่าทองให้โจทก์ ก็เป็นเรื่องผิดสัญญาทางแพ่งเท่านั้น การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดฐานยักยอกทรัพย์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5255/2534 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การหน่วงเหนี่ยวกักขังเพื่อบังคับชำระหนี้ ไม่ถือเป็นค่าไถ่ตาม ป.อ.มาตรา 313
การที่จำเลยจับโจทก์ร่วมไปหน่วงเหนี่ยวกักขังแล้วบังคับให้เขียนจดหมายถึงมารดาโจทก์ร่วม ให้โอนที่ดินจำนองเพื่อชำระหนี้แก่แม่ยายจำเลยหรือจำเลยนั้น จำเลยมีเจตนาเพียงเพื่อจะบังคับให้มารดาโจทก์ร่วมชำระหนี้ โดยจำเลยเชื่อว่ากระทำได้ ดังนั้น ประโยชน์ที่จำเลยเรียกร้องเอาจึงไม่ใช่ค่าไถ่ ตาม ป.อ.มาตรา 1(13).