พบผลลัพธ์ทั้งหมด 323 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2708/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขาดนัดพิจารณาคดีโดยทนายความ: ความรับผิดชอบของจำเลยและผลของการขาดนัดโดยจงใจ
จำเลยทั้งสองได้แต่งตั้ง ธ. เป็นทนายความให้ดำเนินคดีแทน ธ. ได้ยื่นคำให้การต่อสู้คดี และลงลายมือชื่อทราบวันนัดสืบพยานโจทก์ แต่ในวันดังกล่าวจำเลยทั้งสองขาดนัดพิจารณาศาลจึงพิจารณาพิพากษาคดีโจทก์ ไปฝ่ายเดียว จำเลยทั้งสองยื่นคำร้องขอให้ พิจารณาใหม่ไว้ในคำให้การแล้ว การที่ธ. ป่วย ด้วยโรคท้องเดินไม่สามารถไปศาลได้นั้นก็เพียงแต่มีอาการ อ่อนเพลียแต่ยังสามารถช่วยเหลือตนเองได้ การป่วย ของ ธ. ไม่ร้ายแรงถึงขนาดจะไปศาลไม่ได้หรือจนไม่สามารถที่จะมอบให้ผู้อื่นไปขอเลื่อนคดีแทน เมื่อเป็นเช่นนี้แม้ธ. ไม่ได้แจ้งวันนัดสืบพยานโจทก์ให้จำเลยทั้งสองทราบ และในวันนัดธ. สามารถติดต่อกับจำเลยทั้งสองได้ก็ถือได้ว่าเป็นการขาดนัด พิจารณาโดยจงใจที่ไม่อาจขอให้พิจารณาใหม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2385/2536 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดชอบของหน่วยงานราชการต่อหนี้ที่เกิดจากการปฏิบัติงานของส่วนราชการในสังกัด
ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 218 เป็นกฎหมายว่าด้วยการจัดระเบียบบริหารราชการแผ่นดินและกำหนดหน้าที่ของผู้ว่าราชการจังหวัดในการบริหารงานส่วนจังหวัด ผู้ว่าราชการจังหวัดมีอำนาจหน้าที่ควบคุมดูแลให้การดำเนินการต่าง ๆ ตามโครงการของสำนักงานเร่งรัดพัฒนาชนบทจังหวัดมหาสารคามที่จำเลยอนุมัติเป็นไปตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุเพื่อความสะดวกในการปฏิบัติราชการเท่านั้น การที่ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคามอนุมัติและมอบอำนาจให้หัวหน้าสำนักงานเร่งรัดพัฒนาชนบทจังหวัดมหาสารคามทำสัญญาซื้อน้ำมันเป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ เป็นการทำหน้าที่แทนจำเลยตามกฎหมาย จำเลยซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรงต้องรับผิดชอบในการกระทำของสำนักงานเร่งรัดพัฒนาชนบทจังหวัดมหาสารคาม เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าสำนักงานเร่งรัดพัฒนาชนบทจังหวัดมหาสารคามเป็นหนี้โจทก์จำเลยจึงต้องมีหน้าที่ชำระหนี้แก่โจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 321/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดพยายามฆ่า บุกรุก และทำให้เสียทรัพย์ของผู้ป่วยจิตเวช: ศาลพิจารณาความสามารถในการรับผิดชอบและลดโทษ
จำเลยป่วยเป็นโรคจิตได้บุกรุกเข้าไปในบ้านผู้เสียหายและใช้อาวุธปืนยิงพยายามฆ่าผู้เสียหาย จากนั้นจำเลยวิ่งหลบหนีการจับกุมของเจ้าพนักงานตำรวจเข้าไปในบ้านร้างแล้วจำเลยแกล้งยิงปืน 1 นัดและใช้เท้ากระทืบพื้น เป็นการลวงว่าจำเลยฆ่าตัวตายเพื่อให้พวกเจ้าพนักงานตำรวจขึ้นไปบนบ้าน จำเลยจะได้ยิงบุคคลเหล่านั้น แต่เมื่อผู้กำกับการตำรวจมาถึงจำเลยก็ยินยอมมอบตัวโดยดี ตามพฤติการณ์ดังกล่าวจำเลยยังสามารถรู้ผิดชอบและยังสามารถบังคับตนเองได้ศาลจะลงโทษจำเลยน้อยกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดนั้นก็ได้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 65 วรรคสอง สำหรับปัญหาว่า การที่จำเลยถืออาวุธปืนบังคับให้ผู้เสียหายเปิดประตูบ้านแล้วเข้าไปในบ้านกับผู้เสียหาย จำเลยไม่ได้ยิงผู้เสียหายทันที แต่เพิ่งยิงผู้เสียหายเมื่อผู้เสียหายไม่ยอมเข้าไปในห้องนอนกับจำเลยตามที่จำเลยต้องการ และกระสุนปืนถูกกระจกหน้าต่างและโต๊ะของผู้เสียหายด้วย จะเป็นความผิดกรรมเดียวหรือหลายกรรมนั้น เห็นว่าเจตนาของจำเลยที่บุกรุกเข้าไปในเคหสถานของผู้เสียหายนั้น จำเลยมิได้มีเจตนาแต่แรกที่จะเข้าไปยิงผู้เสียหายจึงเป็นความผิดสองกรรม แต่การที่จำเลยใช้อาวุธปืนยิงพยายามฆ่าผู้เสียหาย และกระสุนปืนยังไปถูกกระจกหน้าต่างและโต๊ะของผู้เสียหายอันเป็นการทำให้เสียทรัพย์ด้วยนั้น จำเลยมีเจตนายิงผู้เสียหายเป็นสำคัญ การกระทำของจำเลยฐานพยายามฆ่าและทำให้เสียทรัพย์นั้นเป็นกรรมเดียวกันเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2983/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดชอบต่อการกระทำของทนายความที่แต่งตั้งในชั้นบังคับคดี
จำเลยได้แต่งตั้ง ล. เป็นทนายความดำเนินการในชั้นบังคับคดีจำเลยมิได้กล่าวอ้างว่าใบแต่งทนายไม่ถูกต้อง การที่จำเลยแต่งตั้งทนายความให้ว่าต่างและดำเนินกระบวนพิจารณาแทนตน จำเลยก็จะต้องรับผิดชอบในการกระทำของทนายความที่ตนแต่งตั้ง จำเลยจะอ้างว่าทนายของตนดำเนินกระบวนพิจารณาในชั้นบังคับคดีคลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริงหรือไม่ตรงกับความเป็นจริงโดยจำเลยไม่ทราบเรื่องหาได้ไม่หากทนายจำเลยดำเนินคดีผิดพลาดประการใด ย่อมต้องถือว่าเป็นความผิดพลาดของจำเลยด้วย จำเลยจึงไม่อาจร้องขอให้ศาลเพิกถอนคำคู่ความและกระบวนพิจารณาในชั้นบังคับคดีที่ ล. กระทำไปแล้วได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2458/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องเวนคืน: นิติบุคคลต้องรับผิดชอบการกระทำของผู้แทน แม้กฎหมายมอบอำนาจให้เจ้าหน้าที่
ทางหลวงที่จะสร้างตามพระราชกฤษฎีกากำหนดแนวทางที่จะสร้างทางหลวงเทศบาลสายเชื่อมถนนสุขุมวิท 39(พร้อมพงษ์) กับถนนเพชรบุรี พ.ศ. 2524 เป็นทางหลวงเทศบาลอันเป็นเรื่องที่อยู่ในกิจการของกรุงเทพมหานครจำเลยจะต้องดำเนินการ แต่จำเลยเป็นนิติบุคคลการดำเนินการต่าง ๆ ต้องดำเนินการโดย ผู้แทนทั้งหลายของจำเลย ดังนั้น การที่พระราชกฤษฎีกากำหนดให้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร หรือบทกฎหมายกำหนดอำนาจไว้ให้เป็นของเจ้าหน้าที่ก็ดีก็เป็นการกำหนดตัวบุคคลผู้จะต้องปฏิบัติแทนนิติบุคคลนั้นในฐานะผู้แทนทั้งหลายในเมื่อการกระทำของผู้แทนทั้งหลายของจำเลยเป็นการโต้แย้งสิทธิโจทก์โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องจำเลยได้โดยตรง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2304/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตความรับผิดชอบของจำเลยในคดีรับของโจร: การคืนหรือใช้ราคาเฉพาะทรัพย์ที่ได้รับไป
กล้องถ่ายรูปและแว่นตากันแดด ของผู้เสียหายถูกคนร้ายลักไปแต่ตามคำฟ้องและคำให้การของจำเลยที่รับสารภาพฐานรับของโจรฟังได้ว่าจำเลยรับเอากล้องถ่ายรูปไม่ได้รับเอาแว่นตากันแดด ไว้จึงไม่ชอบที่ศาลจะสั่งให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาแว่นตากันแดด แก่ผู้เสียหาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2174/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หนังสือมอบอำนาจประกันตัว: การตีความขอบเขตความรับผิดชอบของผู้มอบอำนาจและผู้รับมอบอำนาจ
หนังสือมอบอำนาจมีข้อความว่า จำเลยที่ 1 ขอมอบอำนาจให้จำเลยที่ 2 นำโฉนดที่ดินมาประกันตัว ช. ผู้ต้องหาต่อพนักงานสอบสวนเป็นที่เข้าใจได้ว่า จำเลยที่ 1 มอบอำนาจให้จำเลยที่ 2มาประกันตัวผู้ต้องหาแทนจำเลยที่ 1 มิใช่จำเลยที่ 1 มอบอำนาจให้จำเลยที่ 2 มาประกันตัวผู้ต้องหาในนามจำเลยที่ 2 เองและแม้ว่าคำร้องขอประกันและสัญญาประกันจะไม่มีข้อความให้จำเลยที่ 1 ต้องรับผิดชอบและไม่มีลายมือชื่อของจำเลยที่ 1ด้วยก็ตาม แต่คำร้องและสัญญาดังกล่าวก็ได้ระบุเลขที่โฉนดที่ดินของจำเลยที่ 1 ไว้เป็นประกันด้วย และการทำสัญญาประกันก็เนื่องมาจากมีหนังสือมอบอำนาจเป็นส่วนสำคัญ การวินิจฉัยความรับผิดจะวินิจฉัยแต่เพียงคำร้องขอประกันและสัญญาประกันหาได้ไม่แต่ต้องวินิจฉัยหนังสือมอบอำนาจประกอบด้วย และถือได้ว่าจำเลยที่ 1 มอบอำนาจให้จำเลยที่ 2 นำโฉนดที่ดินมาทำสัญญาประกันตัวผู้ต้องหา จำเลยที่ 1 จึงต้องร่วมรับผิดตามสัญญาประกันด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1708/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พรากผู้เยาว์เพื่ออนาจาร-ละเลยความรับผิดชอบ-สร้างความเสียหาย-ศาลฎีกายืนโทษจำคุก
การที่จำเลยพาผู้เสียหายไปจากมารดาและร่วมประเวณีกับผู้เสียหายหากจำเลยมีเจตนาที่จะอยู่กินกับผู้เสียหายฉันสามีภริยาจริง เมื่อผู้เสียหายตั้งครรภ์จำเลยก็น่าจะต้องรับผิดชอบเลี้ยงดูผู้เสียหาย แต่จำเลยกลับปฏิเสธไม่ยอมรับผิดชอบ เมื่อถูกดำเนินคดีจำเลยก็มิได้มีความสำนึกในความรับผิดกลับต่อสู้คดีเบิกความถึงผู้เสียหายว่าเคยมีความสัมพันธ์กับชายอื่นมาแล้วถึงสองคนเป็นการสร้างความเสียหายให้แก่ผู้เสียหายมากขึ้น แม้ขณะเกิดเหตุจำเลยจะอายุ 19 ปีเศษ และไม่เคยกระทำผิดมาก่อน แต่จำเลยเรียนหนังสือในระดับชั้นประกาศนียบัตรวิชาชีพ ย่อมจะมีความรู้สึกผิดชอบชั่วดี แต่จำเลยหาได้มีความสำนึกในความผิดของตนไม่กรณีจึงไม่มีเหตุอันควรปรานี สมควรให้ลงโทษจำคุกจำเลยโดยไม่รอการลงโทษ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1263/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเช่าซื้อรถยนต์และการพิสูจน์ความรู้เห็นเป็นใจในความผิด ผู้ให้เช่าซื้อไม่ต้องรับผิดชอบหากไม่ทราบถึงการกระทำผิด
ผู้ร้องเป็นนิติบุคคล มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่กรุงเทพมหานครจำเลยที่ 8 ที่ 12 และที่ 13 ซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ที่จังหวัดตากและจังหวัดสุโขทัย ได้ทำสัญญาเช่าซื้อรถยนต์บรรทุกของกลางจากผู้ร้อง ที่สำนักงานใหญ่ของผู้ร้อง การที่ผู้ร้องกับจำเลยดังกล่าวมีที่อยู่ห่างไกลคนละจังหวัดเช่นนี้ ผู้ร้องย่อมไม่ทราบว่าจำเลยดังกล่าวจะเอารถยนต์บรรทุกที่เช่าซื้อไปกระทำผิดเมื่อไร จึงฟังไม่ได้ว่าผู้ร้องรู้เห็นเป็นใจในการกระทำผิดของจำเลยดังกล่าวต้องคืนรถยนต์บรรทุกของกลางของผู้ร้องให้แก่ผู้ร้องไป.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 912/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดชอบของผู้ขับรถประมาท การหลบหนี และการช่วยเหลือผู้ประสบภัย
จำเลยขับรถยนต์โดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และได้รับบาดเจ็บ จำเลยแจ้งให้เจ้าพนักงานตำรวจซึ่งมายังที่เกิดเหตุทราบว่าจำเลยเป็นคนขับรถยนต์คันเกิดเหตุ และมีผู้อื่นนำส่งผู้บาดเจ็บไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลเรียบร้อยแล้ว แม้ต่อมาจำเลยหลบหนีไป รูปคดีก็ยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยไม่ได้ให้ความช่วยเหลือตามสมควรแก่ผู้ตายและผู้บาดเจ็บ ทั้งไม่ได้แสดงตัวและแจ้งเหตุต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ที่ใกล้เคียงทันที