พบผลลัพธ์ทั้งหมด 105 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 560/2513
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำท้าพิสูจน์ลายมือชื่อ: ความเห็นผู้เชี่ยวชาญถือเป็นการยอมรับตามคำท้า แม้ไม่ฟันธง 100%
ท้ากันว่า ถ้าผู้เชี่ยวชาญมีความเห็นว่าลายเซ็นในสัญญากู้เป็นลายเซ็นของจำเลยจริง จำเลยยอมแพ้คดี ถ้าเห็นว่าไม่ใช่ โจทก์ยอมแพ้ เมื่อผู้เชี่ยวชาญรายงานว่าได้ตรวจลายเซ็นผู้กู้ในสัญญากู้ เปรียบเทียบกับตัวอย่างลายเซ็นของจำเลยแล้ว เห็นว่า น่าเชื่อว่าเป็นลายเซ็นของบุคคลคนเดียวกัน ดังนี้ เท่ากับมีความเห็นว่าเป็นลายเซ็นของจำเลยจริงตรงตามคำท้าแล้วไม่ใช่ว่ายังไม่แน่ใจ
ในคดีแพ่งผู้เชี่ยวชาญจะแสดงความเห็นเป็นหนังสืออย่างเดียวก็ได้
ในคดีแพ่งผู้เชี่ยวชาญจะแสดงความเห็นเป็นหนังสืออย่างเดียวก็ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1735/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การปฏิบัติคำท้าพิสูจน์ข้อเท็จจริงต้องเป็นไปตามที่คู่ความตกลง หากไม่ตรงตามข้อตกลง ศาลยังไม่สามารถพิพากษาคดีได้
สำเนาคำฟ้องฎีกา เมื่อเจ้าพนักงานศาลรายงานว่า สั่งให้จำเลยฎีกาไม่ได้เพราะตัวจำเลยตาย ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้โจทก์ฎีกาแถลงมาภายใน 5 วัน โจทก์ทราบคำสั่งแล้วครบกำหนด 5 วันไม่แถลงให้ศาลทราบย่อมถือได้ว่าโจทก์ทิ้งฟ้องฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 174(2) ได้
คู่ความตกลงท้ากันให้พนักงานที่ดินอำเภอและปลัดอำเภอ คนใดคนหนึ่งแล้วแต่นายอำเภอจะกำหนดตัวพากันไปดูที่พิพาทร่วมกับคู่ความ เพื่อต้องการทราบว่าที่พิพาทอยู่หมู่ที่ 2 หรือหมู่ที่ 3 ตำบลสำโรงชัย แล้วรายงานมายังศาล ถ้าที่พิพาทอยู่หมู่ที่ 3 ให้ศาลพิพากษาให้โจทก์ชนะถ้าที่พิพาทอยู่หมู่ที่ 2 ให้ศาลพิพากษาให้จำเลยชนะ เมื่อปรากฏว่าเสมียนพนักงานที่ดินกับปลัดอำเภอไปดูที่พิพาทแทนตัวพนักงานที่ดินจึงไม่ตรงกับความประสงค์ของคู่ความที่ท้ากัน ถือได้ว่ายังไม่มีการปฏิบัติโดยถูกต้องตามคำท้า ศาลจะพิพากษาให้ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดชนะคดียังไม่ได้
คู่ความตกลงท้ากันให้พนักงานที่ดินอำเภอและปลัดอำเภอ คนใดคนหนึ่งแล้วแต่นายอำเภอจะกำหนดตัวพากันไปดูที่พิพาทร่วมกับคู่ความ เพื่อต้องการทราบว่าที่พิพาทอยู่หมู่ที่ 2 หรือหมู่ที่ 3 ตำบลสำโรงชัย แล้วรายงานมายังศาล ถ้าที่พิพาทอยู่หมู่ที่ 3 ให้ศาลพิพากษาให้โจทก์ชนะถ้าที่พิพาทอยู่หมู่ที่ 2 ให้ศาลพิพากษาให้จำเลยชนะ เมื่อปรากฏว่าเสมียนพนักงานที่ดินกับปลัดอำเภอไปดูที่พิพาทแทนตัวพนักงานที่ดินจึงไม่ตรงกับความประสงค์ของคู่ความที่ท้ากัน ถือได้ว่ายังไม่มีการปฏิบัติโดยถูกต้องตามคำท้า ศาลจะพิพากษาให้ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดชนะคดียังไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1735/2513
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การปฏิบัติคำท้าพิสูจน์ข้อเท็จจริงต้องตรงตามความประสงค์คู่ความ หากไม่ตรง ศาลไม่ถือเป็นข้อพิสูจน์
สำเนาคำฟ้องฎีกา เมื่อเจ้าพนักงานศาลรายงานว่า สั่งให้จำเลยฎีกาไม่ได้เพราะตัวจำเลยตาย ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้โจทก์ฎีกาแถลงมาภายใน 5 วัน โจทก์ทราบคำสั่งแล้วครบกำหนด 5 วันไม่แถลงให้ศาลทราบย่อมถือได้ว่าโจทก์ทิ้งฟ้องฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 174(2) ได้
คู่ความตกลงท้ากันให้พนักงานที่ดินอำเภอและปลัดอำเภอคนใดคนหนึ่งแล้วแต่นายอำเภอจะกำหนดตัวพากันไปดูที่พิพาทร่วมกับคู่ความ เพื่อต้องการทราบว่าที่พิพาทอยู่หมู่ที่ 2 หรือหมู่ที่ 3 ตำบลสำโรงชัย แล้วรายงานมายังศาล ถ้าที่พิพาทอยู่หมู่ที่ 3 ให้ศาลพิพากษาให้โจทก์ชนะถ้าที่พิพาทอยู่หมู่ที่ 2 ให้ศาลพิพากษาให้จำเลยชนะ เมื่อปรากฏว่าเสมียนพนักงานที่ดินกับปลัดอำเภอไปดูที่พิพาทแทนตัวพนักงานที่ดินจึงไม่ตรงกับความประสงค์ของคู่ความที่ท้ากัน ถือได้ว่ายังไม่มีการปฏิบัติโดยถูกต้องตามคำท้า ศาลจะพิพากษาให้ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดชนะคดียังไม่ได้
คู่ความตกลงท้ากันให้พนักงานที่ดินอำเภอและปลัดอำเภอคนใดคนหนึ่งแล้วแต่นายอำเภอจะกำหนดตัวพากันไปดูที่พิพาทร่วมกับคู่ความ เพื่อต้องการทราบว่าที่พิพาทอยู่หมู่ที่ 2 หรือหมู่ที่ 3 ตำบลสำโรงชัย แล้วรายงานมายังศาล ถ้าที่พิพาทอยู่หมู่ที่ 3 ให้ศาลพิพากษาให้โจทก์ชนะถ้าที่พิพาทอยู่หมู่ที่ 2 ให้ศาลพิพากษาให้จำเลยชนะ เมื่อปรากฏว่าเสมียนพนักงานที่ดินกับปลัดอำเภอไปดูที่พิพาทแทนตัวพนักงานที่ดินจึงไม่ตรงกับความประสงค์ของคู่ความที่ท้ากัน ถือได้ว่ายังไม่มีการปฏิบัติโดยถูกต้องตามคำท้า ศาลจะพิพากษาให้ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดชนะคดียังไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 87/2512 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การชี้ขาดข้อพิพาทตามคำท้า และหน้าที่การนำสืบพยานเมื่อคู่ความไม่สืบ
คู่ความท้ากันว่า ถ้าจำเลยนำหนังสือซื้อขายที่ดินหรือสำเนาที่อำเภอรับรองมาจากอำเภอได้โจทก์ยอมแพ้ ถ้าไม่มีหนังสือดังกล่าวที่พิพาทตกเป็นของโจทก์เมื่ออำเภอมีหนังสือแจ้งมาว่าค้นไม่พบคู่ความท้ากันใหม่ว่าให้ศาลเอาหนังสือตอบนี้ไปประกอบกับคำท้าเดิมแล้ววินิจฉัยว่าที่พิพาทจะเป็นของฝ่ายใด ศาลวินิจฉัยว่าตามหนังสือตอบของอำเภอฟังไม่ถนัดว่ามีหนังสือซื้อขายที่พิพาทหรือไม่จึงชี้ขาดให้แพ้ชนะกันตามคำท้าไม่ได้ เมื่อต่างแถลงไม่สืบพยานคดีนี้ หน้าที่นำสืบตกแก่โจทก์ โจทก์จึงต้องแพ้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 226/2510
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อตกลงยอมแพ้คดีตามคำท้า และการชี้ขาดสิทธิครอบครองโดยนิคมฯ
คู่ความต่างท้ากันว่า หากเจ้าหน้าที่นิคมสร้างตนเองชี้ขาดตามหลักฐานที่มีอยู่ที่นิคมฯ ว่าฝ่ายใดเป็นฝ่ายมีสิทธิครอบครองโดยชอบแล้ว อีกฝ่ายหนึ่งยอมแพ้คดี โดยถือเอาหลักฐานที่มีอยู่ในนิคมเป็นใหญ่ และไม่ติดใจสู้ในประเด็นข้ออื่นอีกต่อไปดังนี้ เมื่อโจทก์ไม่ได้อ้างหลักฐานที่มีอยู่ที่นิคมสร้างตนเองและเจ้าหน้าที่มาเป็นพยานแต่ฝ่ายจำเลยอ้างเจ้าหน้าที่นิคมและเอกสารหลักฐานจากนิคมเป็นพยานเจ้าหน้าที่นิคมเบิกความประกอบเอกสารดังกล่าวและยืนยันว่าทางนิคมได้จัดสรรที่ดินให้จำเลยได้เข้าครอบครองทำกินตลอดมา จึงฟังได้ว่าเจ้าหน้าที่นิคมฯได้ชี้ขาดตามหลักฐานที่มีอยู่ที่นิคมว่าที่พิพาทเป็นของจำเลยตรงตามคำท้าระหว่างโจทก์จำเลยแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 762/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตการพิสูจน์ในคำท้า: จำนวนและขนาดเสาเข็มสำคัญอย่างไรในการทำละเมิด
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยทำละเมิดโดยขุดดินล้ำเข้ามาในที่โจทก์ ขุดลงเสาเข็มลึกประมาณ 2 เมตร ฐานคอนกรีตฝังลึกจากพื้นดิน 1 เมตร เป็นเหตุให้เรือนโจทก์ทรุดเอียง จำเลยให้การปฏิเสธว่าจำเลยไม่ได้ขุดดินล้ำในที่โจทก์ แต่รับว่าจำเลยได้ขุดดินในที่จำเลยแล้วหล่อฐานคอนกรีตขึ้น ไม่เป็นเหตุให้เรือนทรุด ส่วนการขุดดินลงเสาจำเลยมิได้ให้การปฏิเสธโดยชัดแจ้ง คู่ความท้ากันให้มีการขุดใต้คานคอนกรีตเพื่อพิสูจน์ว่ามีเสาเข็มซิเมนต์ไม่น้อยกว่า 10 ต้น แต่ละต้นยาวไม่น้อยกว่า 2 เมตร ก่อนท้ากันจำเลยได้เถียงยืนยันต่อหน้าศาลว่าจำเลยมิได้ตอกเสาเข็มใต้คานคอดิน การท้าจึงเกิดขึ้น ดังนี้ ชี้ให้เห็นว่าเจตนาทั้งสองฝ่ายมุ่งถึงว่ามีจำนวนเสาเข็มไม่น้อยกว่า 10 ต้นอยู่ตามแนวคานคอนกรีตหรือไม่ ส่วนเสาต้นใดมีความยาวมากน้อยเท่าใดย่อมเป็นเพียงส่วนประกอบเท่านั้น.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 762/2509
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตการพิสูจน์ตามคำท้า การขุดเสาเข็มเพื่อพิสูจน์จำนวนและตำแหน่ง ไม่จำเป็นต้องพิสูจน์ความยาวทุกต้น
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยทำละเมิดโดยขุดดินล้ำเข้ามาในที่โจทก์ขุดลงเสาเข็มลึกประมาณ 2 เมตรฐานคอนกรีตฝังลึกจากพื้นดิน 1 เมตรเป็นเหตุให้เรือนโจทก์ทรุดเอียงจำเลยให้การปฏิเสธว่าจำเลยไม่ได้ขุดดินล้ำในที่โจทก์ แต่รับว่าจำเลยได้ขุดดินในที่จำเลยแล้วหล่อฐานคอนกรีตขึ้นไม่เป็นเหตุให้เรือนทรุดส่วนการขุดดินลงเสาจำเลยมิได้ให้การปฏิเสธโดยชัดแจ้ง คู่ความท้ากันให้มีการขุดใต้คานคอนกรีตเพื่อพิสูจน์ว่ามีเสาเข็มซิเมนต์ไม่น้อยกว่า 10 ต้น แต่ละต้นยาวไม่น้อยกว่า 2 เมตร ก่อนท้ากันจำเลยได้เถียงยืนยันต่อหน้าศาลว่าจำเลยมิได้ตอกเสาเข็มใต้คานคอดินการท้าจึงเกิดขึ้น ดังนี้ ชี้ให้เห็นว่าเจตนาทั้งสองฝ่ายมุ่งถึงว่ามีจำนวนเสาเข็มไม่น้อยกว่า 10 ต้นอยู่ตามแนวคานคอนกรีตหรือไม่ ส่วนเสาต้นใดมีความยาวมากน้อยเท่าใดย่อมเป็นเพียงส่วนประกอบเท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 379/2509
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผลผูกพันตามคำท้าพิสูจน์ หากผลเป็นไปตามเงื่อนไขที่ตกลงกัน ศาลต้องตัดสินตามข้อเท็จจริงที่ปรากฏ
ประเด็นสำคัญที่คู่ความท้ากันมีอยู่เพียงประการเดียวคือให้ฟังความเห็นของเจ้าพนักงานบังคับคดีผู้ออกไปรังวัดที่พิพาทอยู่ในเขตที่ดินที่ศาลได้ทำการขายทอดตลาดให้โจทก์หรือไม่โดยคู่ความยืนยันรับรองว่าหากเขตที่ดินพิพาทอยู่ในเขตที่ดินที่ศาลได้ทำการขายทอดตลาดให้โจทก์จำเลยยอมแพ้คดี หากอยู่นอกเขตโจทก์ก็ยอมแพ้ดังนี้ เป็นเรื่องที่คู่ความยอมรับข้อเท็จจริงกันในศาลประการหนึ่ง โดยมีเงื่อนไขให้ถือเอาการรังวัดของเจ้าพนักงานบังคับคดีเป็นข้อแพ้ชนะกัน ฉะนั้น เมื่อเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ไปทำการรังวัดและรายงานว่าที่พิพาทอยู่ในที่ของโจทก์ซึ่งประมูลซื้อได้จากการขายทอดตลาดอันเป็นการปฏิบัติตามเงื่อนไขที่คู่ความตกลงท้ากันครบถ้วนแล้วศาลก็ต้องพิพากษาคดีไปตามข้อเท็จจริงที่ปรากฏนั้น จำเลยไม่มีสิทธิจะโต้แย้งว่าจำเลยเข้าใจผิดในเรื่องเส้นทางสายโทรเลขเก่าว่าอยู่ทิศใดของที่พิพาทตามที่อ้างในคำร้องขอถอนคำท้าเพราะไม่มีประเด็นนี้ในคำท้า และข้อเท็จจริงแห่งคดีเป็นอันยุติไปตามคำท้ากันนั้นแล้วจำเลยจึงต้องเป็นฝ่ายแพ้คดีตามคำท้า
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 433/2507
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผลผูกพันตามคำท้าตรวจพิสูจน์ลายมือชื่อ: การยอมรับผลจากความเห็นผู้เชี่ยวชาญ
ท้ากันให้ตรวจพิสูจน์ลายเซ็นผู้ค้ำประกันในเอกสารที่โจทก์อ้างเทียบเคียงกับลายเซ็นตัวอย่างของจำเลยว่าเป็นลายเซ็นของบุคคลคนเดียวกันหรือไม่ ถ้าผู้เชี่ยวชาญยืนยันหรือกล่าวทำนองยืนยันว่าเป็นของบุคคลคนเดียวกันแล้ว จำเลยยอมแพ้หากปฏิเสธหรือกล่าวทำนองปฏิเสธโจทก์ยอมแพ้ เมื่อผู้ตรวจพิสูจน์ลงความเห็นว่า น่าเชื่อว่าเป็นลายมือชื่อของบุคคลเดียวกัน ดังนี้ ถือว่า มีลักษณะเป็นการยืนยันหรือทำนองยืนยัน ตรงตามคำท้าของคู่ความแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 982/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผลผูกพันคำท้าของคู่ความหลังการตายของโจทก์ การสาบานยังใช้ได้
คำท้าของคู่ความในศาลนั้น แม้คู่ความฝ่ายหนึ่งตายก็ยังมีผลผูกพันคู่ความอีกฝ่ายอยู่ ฉะนั้น การสาบานของพยานคนกลางตามคำท้าของคู่ความนั้น แม้จะสาบานภายหลังที่คู่ความฝ่ายหนึ่งตาย และอยู่ในระหว่างที่ยังไม่มีผู้ใดร้องขอเข้ามาเป็นคู่ความแทนก็ตามจึงหาตกเป็นโมฆะไม่.