คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ค่าทนายความ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 111 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1130/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การคำนวณค่าทนายความตามตาราง 6: ใช้ทุนทรัพย์ที่ฟ้อง ไม่ใช่ทุนทรัพย์ที่ชนะ
การกำหนดอัตราค่าทนายความให้จำเลยใช้แทนโจทก์ตามตาราง 6 ท้ายประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งนั้น คิดคำนวณจากทุนทรัพย์ตามฟ้อง มิใช่คำนวณจากทุนทรัพย์ที่ศาลพิพากษาให้โจทก์ชนะคดี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 761/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่โดยสุจริตตามรายงาน ไม่ถือเป็นการละเมิด แม้จะรังวัดที่ดินตามคำกล่าวอ้างที่ไม่ถูกต้อง และสิทธิเรียกร้องค่าทนายความ
ที่ดินที่โจทก์ขอออกโฉนดมิใช่ที่สงวนไว้เป็นที่เลี้ยงสัตว์ตามประกาศหวงห้ามฯ นายอำเภอสั่งคนไปรังวัดสำรวจคัดค้านการออกโฉนดว่าเป็นที่สงวนตามประกาศหวงห้าม แต่คนเหล่านั้นปฏิบัติหน้าที่โดยสุจริตตามที่กำนันผู้ใหญ่บ้านรายงานมา ไม่จงใจหรือประมาทเลินเล่อ ไม่เป็นละเมิด
โจทก์ไม่ได้แต่งทนายความ ไม่มีค่าทนายความที่โจทก์ต้องเสียศาลไม่ให้จำเลยผู้แพ้คดีใช้ค่าทนายความแก่โจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2434/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าทนายความในคดีที่โจทก์ดำเนินคดีเอง แม้เป็นทนายความก็ไม่ถือว่ามีค่าทนาย
โจทก์ชนะคดี โดยโจทก์ดำเนินคดีด้วยตนเองตลอดมา มิได้แต่งทนายแม้โจทก์จะมีอาชีพเป็นทนายความ ก็ไม่มีค่าทนายความที่จำเลยควรจะใช้แทน ศาลไม่พิพากษาให้จำเลยใช้ค่าทนายแก่โจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2654/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เบี้ยปรับสัญญาค้ำประกัน-ความรับผิดหุ้นส่วน-อำนาจฟ้อง-ค่าทนายความ
โจทก์มีสิทธิ์เรียกเบี้ยปรับจากจำเลยได้ตามสัญญา เมื่อธนาคารผู้ค้ำประกันการปฏิบัติตามสัญญาได้ชำระเงินให้โจทก์จำนวนหนึ่งแล้ว โจทก์ยังมีสิทธิ์เรียกให้จำเลยชำระเบี้ยปรับจำนวนที่ยังเหลือได้ หาใช่เป็นการเรียกค่าปรับซ้อนกันไม่
แม้จำเลยที่ 2 ลงลายมือชื่อในสัญญาในฐานะตัวแทนห้างหุ้นส่วนจำกัดจำเลยที่ 1 มิใช่ในฐานะส่วนตัว แต่เมื่อจำเลยที่ 2 เป็นหุ้นส่วนประเภทไม่จำกัดความรับผิดและเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการของจำเลยที่ 1 จึงต้องร่วมรับผิดกับจำเลยที่ 1 ด้วย
กรมตำรวจเป็นกรมในรัฐบาลย่อมเป็นนิติบุคคลมีอำนาจฟ้องหรือเป็นโจทก์ได้ ไม่จำต้องให้กระทรวงมหาดไทยเป็นโจทก์ ทั้งมีอำนาจมอบให้หัวหน้ากองพลาธิการ กรมตำรวจฟ้องคดีได้ด้วย
แม้ในใบมอบอำนาจระบุให้ฟ้องจำเลยที่ 1 เท่านั้น แต่เมื่อจำเลยที่ 2 เป็นหุ้นส่วนของจำเลยที่ 1 ประเภทไม่จำกัดความรับผิด และเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ ต้องรับผิดตามสัญญาร่วมกับจำเลยที่ 1 ด้วย การฟ้องคดีของโจทก์จึงถูกต้องตามใบมอบอำนาจแล้ว
โจทก์ฟ้องเรียกเบี้ยปรับหรือนัยหนึ่งค่าเสียหายที่กำหนดไว้ล่วงหน้าของคู่สัญญาจึงไม่จำเป็นต้องบรรยายอีกว่าเสียหายอะไร อย่างไร ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม
ความเสียหายที่คู่กรณีได้กำหนดไว้ล่วงหน้าเป็นค่าปรับในสัญญาแล้วนั้น การปรับตามสัญญาไม่ได้หมายความเฉพาะแต่ในการส่งทรัพย์สินล่าช้าเท่านั้น หากแต่รวมถึงการไม่ส่งด้วย
เมื่อศาลพิพากษาให้จำเลยชดใช้เงินให้โจทก์จำนวนหนึ่งแล้ว สิทธิ์ของโจทก์ในการคิดดอกเบี้ยย่อมมีขึ้นหากจำเลยชำระหนี้ตามคำพิพากษาล่าช้า และศาลมีอำนาจกำหนดให้จำเลยชำระได้นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142(3)
คดีแพ่งและทนายโจทก์เป็นข้าราชการกรมอัยการ เมื่อจำเลยแพ้คดี ศาลก็มีอำนาจให้จำเลยชำระค่าทนายความแทนโจทก์ได้ เป็นการชำระให้แก่คู่ความที่ชนะคดี ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 161

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 748/2513

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประนีประนอมยอมความ ค่าทนายความเกินสมควร ศาลลดเบี้ยปรับ
จำเลยที่ 1 เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคลทำหนังสือรับสภาพหนี้และประนีประนอมยอมความให้โจทก์เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2506 โจทก์ฟ้องคดี พ.ศ. 2507 จึงไม่ขาดอายุความ
ตามกฎหมายวิธีพิจารณาความไม่ได้บังคับว่า โจทก์ต้องแสดงใบรับเงินค่าจ้างทนายมาพร้อมฟ้อง
หนังสือสัญญารับสภาพหนี้และยอมความมีใจความว่าถ้าลูกหนี้ผิดนัดยอมให้เจ้าหนี้ฟ้อง ลูกหนี้ยอมใช้ค่าเสียหายที่เจ้าหนี้จ่ายเป็นค่าจ้างทนายความตามที่จ้างจริง โดยตกลงกำหนดเบี้ยปรับสำหรับค่าจ้างไว้เป็นเงิน 4,500 บาท หนี้สินรายนี้มีจำนวน 22,340 บาทนับว่าสูงเกินส่วน แม้โจทก์จ่ายเงินไปแล้วจริง 4,500 บาท ก็เป็นเรื่องที่โจทก์ตกลงว่าจ้างแพงเกินควรที่จะให้จำเลยรับผิดศาลฎีกาเห็นควรลดเบี้ยปรับค่าจ้างทนายลงเหลือ 2,500 บาท
ฎีกาที่ว่า ข้อตกลงเรื่องให้จำเลยเสียค่าทนาย 4,500 บาทเป็นข้อตกลงที่ใช้บังคับกันไม่ได้ เพราะขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชนนั้น จำเลยไม่ได้ยกขึ้นว่าในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ และไม่ใช่ปัญหาข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 951/2505

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อัตราค่าทนายความตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง และการตกลงค่าจ้างทนายความ
อัตราค่าทนายความท้ายประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง เป็นอัตราสำหรับศาลจะพิพากษาให้คู่ความชดใช้แทนกันเท่านั้นส่วนการกำหนดจำนวนค่าจ้างว่าความย่อมเป็นไปตามที่ตกลงกันไว้ และในกรณีที่ไม่ปรากฏการตกลงค่าจ้างกันโดยชัดแจ้งศาลก็กำหนดให้ตามที่เห็นสมควรแล้วแต่งานที่ทำ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1228/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลในการกำหนดค่าทนายความในคดีล้มละลาย โดยให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์พิจารณา
ศาลอาจมีคำสั่งในเรื่องค่าฤชาธรรมเนียมไว้ในคำพิพากษาว่า ค่าทนายความในชั้นศาลของเจ้าหนี้ผู้เป็นโจทก์ ซึ่งผู้ล้มละลายจะต้องใช้แก่โจทก์นั้น ให้ใช้ตามจำนวนที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จะเห็นควรกำหนดให้ก็ได้
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 29/2505)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1228/2505

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลกำหนดค่าทนายความในคดีล้มละลาย
ในคดีล้มละลายศาลอาจมีคำสั่งในเรื่องค่าฤชาธรรมเนียมไว้ในคำพิพากษาว่าค่าทนายความในชั้นศาลของเจ้าหนี้ผู้เป็นโจทก์ซึ่งผู้ล้มละลายจะต้องใช้แก่โจทก์นั้น ให้ใช้ตามจำนวนที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จะเห็นควรกำหนดให้ก็ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1707/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขยายเวลาวางค่าฤชาธรรมเนียมและค่าทนายความ: ศาลมีอำนาจขยายเวลาได้ตามความเหมาะสมของคดี
โจทก์ยื่นอุทธรณ์และขอทุเลาการบังคับคดีในเรื่องค่าธรรมเนียมและค่าทนายความที่จะต้องใช้แทนจำเลย ศาลชั้นต้นสั่งรับเป็นฟ้องอุทธรณ์แล้ว ต่อมาอีก 4 เดือนเศษโจทก์จึงนำเงินค่าธรรมเนียมและค่าทนายมาวางศาล เช่นนี้ ศาลอุทธรณ์ไม่ควรยกอุทธรณ์ของโจทก์เสียทีเดียว เพราะตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 23 ศาลมีอำนาจขยายเวลาวางเงินค่าฤชาธรรมเนียมที่จะต้องใช้แทนอีกฝ่ายหนึ่งได้ และตามพฤติการณ์แห่งคดี ศาลเห็นสมควรขยายเวลาให้ได้ ทั้งโจทก์ก็ได้นำเงินค่าฤชาธรรมเนียมและค่าทนายมาวางศาลแล้วด้วย กรณีเช่นนี้ให้ศาลอุทธรณ์รับอุทธรณ์ของโจทก์ไว้พิจารณาพิพากษาต่อไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8805/2558

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาไม่ชอบด้วยกฎหมาย: จำเลยต้องวางค่าทนายความก่อนฎีกา มิเช่นนั้นฎีกาเป็นโมฆะ
ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำเลยที่ 5 ใช้ค่าทนายความในชั้นอุทธรณ์ 1,500 บาท แทนโจทก์ เมื่อจำเลยที่ 5 ฎีกาขอให้ศาลฎีกาพิพากษากลับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้ยกคำร้องของโจทก์ จำเลยที่ 5 จึงต้องนำเงินค่าทนายความตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ซึ่งเป็นค่าธรรมเนียมอย่างหนึ่งที่จะต้องใช้แก่คู่ความอีกฝ่ายมาวางศาลพร้อมกับฎีกาตาม ป.วิ.พ. มาตรา 229 ประกอบมาตรา 247 เมื่อจำเลยที่ 5 ไม่นำเงินค่าทนายความมาวางศาลพร้อมฎีกา แม้ศาลชั้นต้นสั่งรับฎีกาของจำเลยที่ 5 ก็ถือว่าเป็นฎีกาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายตามบทบัญญัติดังกล่าว
of 12