พบผลลัพธ์ทั้งหมด 102 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1248/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบอำนาจตัวแทน: การจำนำทรัพย์โดยแลกเปลี่ยนกับทรัพย์เดิม ผูกพันบุคคลภายนอกเมื่อมีมูลเหตุเชื่อถือได้
ตัวการมอบพวงคอเพ็ชรให้แก่ตัวแทนเพื่อไปขายแก่บุคคลภายนอกแต่ตัวแทนกลับนำพวงคอเพ็ชรนั้นไปเป็นหลักประกันแทนแหวนเพ็ชร ที่ตัวแทนจำนำไว้กับบุคคลภายนอก โดยบอกกับบุคคลภายนอกว่าตัวการให้นำพวงคอเพ็ชรมาเป็นหลักประกันแทนแหวนเพ็ชรและขอรับแหวนเพ็ชรกลับไป ดังนี้ ถือว่าทางปฏิบัติของตัวการที่เคยใช้ตัวแทนให้จำนำทรัพย์แก่บุคคลภายนอกมาแล้วนั้น ทำให้บุคคลภายนอกมีมูลเหตุอันสมควรจะเชื่อว่า การจำนำโดยการแลกเปลี่ยนกับทรัพย์ที่จำนำไว้นั้นอยู่ภายในขอบอำนาจของตัวแทนตามที่ตัวแทนบอกยืนยันตัวการ จึงต้องผูกพันต่อบุคคลภายนอกในกิจการที่ตัวแทนได้ทำไปตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 820,822
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1044/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
จำนำ/ขายฝากที่ดินก่อนประมวลกฎหมายแพ่ง: ดูตามกิริยา ไม่ใช่ข้อสัญญา
สัญญาจำนำที่นาทำกันเมื่อ พ.ศ.2467 เป็นเวลาก่อนประกาศใช้ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 3 กรณีต้องบังคับตามพ.ร.บ.การขายฝากและจำนำที่ดิน ร.ศ.115 และประกาศเรื่องจำนำและขายฝาก ร.ศ.118
คดีเรื่องจำนำ(จำนอง)หรือขายฝากที่ดิน(ก่อนประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 3)นั้น ให้ดูกิริยาที่คู่สัญญาประพฤติต่อกันว่าเป็นจำนำหรือขายฝาก แม้ในสัญญาจะมีข้อความเป็นอย่างอื่น ก็ต้องถือตามกิริยาที่ประพฤติต่อกัน (อ้างฎีกาที่ 22 ร.ศ.117, ที่ 25 ร.ศ.123,467/2487,81/2469,790/2469)
โจทก์ได้มอบที่ดินให้จำเลยทำกินต่างดอกเบี้ยมาตั้งแต่พ.ศ.2470 อันเป็นการปฏิบัติตามสัญญาจำนำที่ทำกันขึ้นเมื่อ พ.ศ.2467จึงเป็นกิริยาการขายฝากเมื่อไม่ไถ่ภายใน 10 ปี ที่นาก็หลุดเป็นสิทธิแก่จำเลยตามลักษณะขายฝากโจทก์ไม่มีสิทธิฟ้องขอไถ่ได้ (อ้างฎีกาที่ 760/2469)
คดีเรื่องจำนำ(จำนอง)หรือขายฝากที่ดิน(ก่อนประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 3)นั้น ให้ดูกิริยาที่คู่สัญญาประพฤติต่อกันว่าเป็นจำนำหรือขายฝาก แม้ในสัญญาจะมีข้อความเป็นอย่างอื่น ก็ต้องถือตามกิริยาที่ประพฤติต่อกัน (อ้างฎีกาที่ 22 ร.ศ.117, ที่ 25 ร.ศ.123,467/2487,81/2469,790/2469)
โจทก์ได้มอบที่ดินให้จำเลยทำกินต่างดอกเบี้ยมาตั้งแต่พ.ศ.2470 อันเป็นการปฏิบัติตามสัญญาจำนำที่ทำกันขึ้นเมื่อ พ.ศ.2467จึงเป็นกิริยาการขายฝากเมื่อไม่ไถ่ภายใน 10 ปี ที่นาก็หลุดเป็นสิทธิแก่จำเลยตามลักษณะขายฝากโจทก์ไม่มีสิทธิฟ้องขอไถ่ได้ (อ้างฎีกาที่ 760/2469)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 944/2490
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าหนี้มีอำนาจยึดทรัพย์ของลูกหนี้ แม้มีการจำนำหรือวางเป็นประกัน ผู้มีสิทธิอื่นต้องเรียกร้องในคดีบังคับคดี
เจ้าหนี้ตามคำพิพากษามีอำนาจยึดทรัพย์สินอันเป็นกรรมสิทธิ์ของลูกหนี้มาใช้หนี้ตามคำพิพากษาได้เสมอ แม้ลูกหนี้จะได้เอาทรัพย์นั้นไปวางเป็นประกันเงินกู้ หรือจำนำไว้แก่ผู้ใด หรือผู้ใดจะมีบุริมสิทธิหรือสิทธิยึดหน่วงในทรัพย์นั้นอย่างไร ผู้นั้นก็ร้องขอให้ปล่อยทรัพย์นั้นไม่ได้คงได้แต่เรียกร้องบังคับตามสิทธิได้ในการบังคับคดีตามกำหนดเวลาในกฎหมายว่าด้วยการนั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 602/2490 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความฟ้องเรียกทรัพย์จำนำ: เริ่มนับเมื่อขอชำระหนี้
การฟ้องร้องคดีแพ่งย่อมอยู่ภายใต้บังคับแห่งอายุความ
การฟ้องเรียกทรัพย์ที่จำนำคืน ก็ต้องอยู่ภายในอายุความ
การฟ้องเรียกทรัพย์ที่จำนำคืน ต้องเริ่มนับอายุความตั้งแต่ผู้จำนำขอชำระหนี้ ถ้ายังไม่ขอชำระหนี้ก็ยังไม่เริ่มนับอายุความ
การฟ้องเรียกทรัพย์ที่จำนำคืน ก็ต้องอยู่ภายในอายุความ
การฟ้องเรียกทรัพย์ที่จำนำคืน ต้องเริ่มนับอายุความตั้งแต่ผู้จำนำขอชำระหนี้ ถ้ายังไม่ขอชำระหนี้ก็ยังไม่เริ่มนับอายุความ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 602/2490
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความฟ้องเรียกทรัพย์จำนำ: เริ่มนับเมื่อผู้จำนำขอชำระหนี้ ไม่ใช่แค่วันทำสัญญา
การฟ้องร้องคดีแพ่งย่อมอยู่ภายใต้บังคับแห่งอายุความ
การฟ้องเรียกทรัพย์ที่จำนำคืน ก็ต้องอยู่ภายในอายุความ
การฟ้องเรียกทรัพย์ที่จำนำคืน ต้องเริ่มนับอายุความตั้งแต่ผู้จำนำขอชำระหนี้ ถ้ายังไม่ขอชำระหนี้ ก็ยังไม่เริ่มนับอายุความประชุมใหญ่ครั้งที่5/2490
การฟ้องเรียกทรัพย์ที่จำนำคืน ก็ต้องอยู่ภายในอายุความ
การฟ้องเรียกทรัพย์ที่จำนำคืน ต้องเริ่มนับอายุความตั้งแต่ผู้จำนำขอชำระหนี้ ถ้ายังไม่ขอชำระหนี้ ก็ยังไม่เริ่มนับอายุความประชุมใหญ่ครั้งที่5/2490
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 133/2490 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญจำนำ/ขายฝาก: แม้ใช้ ป.ม.แพ่งฯ ก็ยึดตามสภาพสัญญาเดิม อายุความไถ่ 10 ปี
ทำสัญญาจำนำที่ดินก่อน ป.ม.แพ่งฯ แล้วมอบที่ให้ผู้รับจำนำนั้น ถือว่าเป็นการขายฝาก
เมื่อรับว่าได้ทำสัญญาขายฝากแล้ว แม้จะบังคับตามกฎหมายเก่าหรือตาม ป.ม.แพ่งฯ ก็มีอายุความไถ่ไม่เกิน 10 ปี
ทำสัญญาขายฝากกันก่อน ป.ม.แพ่งฯ การประกาศใช้ ป.ม.แพ่งฯก็ไม่ทำให้นิติกรรมขายฝากนั้นกลายเป็นจำนำไปได้
เมื่อรับว่าได้ทำสัญญาขายฝากแล้ว แม้จะบังคับตามกฎหมายเก่าหรือตาม ป.ม.แพ่งฯ ก็มีอายุความไถ่ไม่เกิน 10 ปี
ทำสัญญาขายฝากกันก่อน ป.ม.แพ่งฯ การประกาศใช้ ป.ม.แพ่งฯก็ไม่ทำให้นิติกรรมขายฝากนั้นกลายเป็นจำนำไปได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 167/2489
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประกอบธุรกิจรับจำนำต้องเป็นปกติธุระ มิใช่รับจำนำจากความเกรงใจ
ที่จะเป็นผิดตามมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัติโรงรับจำนำ จำเลยต้องเอาทรัพย์สิ่งของไว้เป็นประกันเงินที่ยืมเป็นปกติธุระ
หากผู้ยืม 2-3 คนเกรงใจจำเลย ขืนใจให้จำเลยเอาเสื้อผ้าไว้เป็นประกันการยืม จำเลยรับไว้ไม่บ่อยครั้ง ไม่ถือว่าเป็นปกติธุระและไม่ผิดตาม พระราชบัญญัติโรงรับจำนำ
หากผู้ยืม 2-3 คนเกรงใจจำเลย ขืนใจให้จำเลยเอาเสื้อผ้าไว้เป็นประกันการยืม จำเลยรับไว้ไม่บ่อยครั้ง ไม่ถือว่าเป็นปกติธุระและไม่ผิดตาม พระราชบัญญัติโรงรับจำนำ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 102/2485 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาทุจริตตั้งแต่แรกในการเช่าซื้อแล้วจำนำทรัพย์ ถือเป็นความผิดฐานฉ้อโกง
ใช้อุบายหลอกลวงทำสัญญาเช่าซื้อจักร์ แล้วนำไปจำนำเสียในวันเดียวกันนั้นเอง เป็นผิดฐานฉ้อโกง เพราะแสดงว่ามีเจตนาทุจจริตมาแต่แรก.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 102/2485
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฉ้อโกงจากการเช่าซื้อและจำนำ: เจตนาทุจริตตั้งแต่แรก
ใช้อุบายหลอกลวงทำสัญญาเช่าซื้อจักร แล้วนำไปจำนำเสียในวันเดียวกันนั้นเอง เป็นผิดฐานฉ้อโกง เพราะแสดงว่ามีเจตนาทุจริตมาแต่แรก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 796/2484
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การหลอกลวงโดยอ้างว่าเป็นทองคำ แม้ไม่มีการรับรองโดยชัดแจ้งเข้าข่ายฉ้อโกง
จำเลยเอาสายสร้อยเก๊ไปจำนำอย่างสร้อยทองคำโดยกล่าวว่าได้มาจากช่างทอง แม้จำเลยจะมิได้ออกวาจารับรองว่าเป็นทองคำ ก็ถือได้ว่าจำเลยได้ใช้อุบายหลอกลวงอันเป็นผิดฐานฉ้อโกง