คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
นิติสัมพันธ์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 131 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2472-2474/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแปลงหนี้ต้องมีสัญญาใหม่ที่ชัดเจน การแจ้งการโอนสิทธิเรียกร้องไม่เพียงพอที่จะก่อให้เกิดหนี้ใหม่
หนี้ที่เกิดจากสัญญาซื้อขายซึ่งเป็นสัญญาต่างตอบแทนนั้นฐานะของคู่สัญญามิได้เป็นเจ้าหนี้หรือลูกหนี้ฝ่ายเดียวแต่ละฝ่ายต่างมี 2 ฐานะคือเป็นทั้งเจ้าหนี้และลูกหนี้ด้วยการโอนสิทธิเรียกร้องให้บุคคลอื่นต่อไปนั้น จะใช้วิธีการแบบโอนสิทธิเรียกร้องธรรมดาตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 306 หาได้ไม่เมื่อจำเลยได้ทำสัญญาจะขายที่ดินให้แก่มารดาโจทก์แต่ละสำนวนและมารดาโจทก์แต่ละสำนวนได้โอนสิทธิให้โจทก์กรณีเป็นเรื่องแปลงหนี้โดยเปลี่ยนตัวเจ้าหนี้ลูกหนี้ต้องบังคับตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา350 คือจะต้องทำสัญญาต่อกัน ซึ่งบางกรณีต้องทำเป็นหนังสือด้วยและต้องไม่ขืนใจลูกหนี้ซึ่งหมายความว่าทั้งลูกหนี้เจ้าหนี้ต้องยินยอมต่อกันนั่นเองหาใช่เพียงแต่แจ้งการโอนให้ลูกหนี้ทราบก็เกิดสัญญาแปลงหนี้ใหม่ได้ไม่ เมื่อฟังไม่ได้ว่าโจทก์จำเลยได้มีการทำสัญญากันใหม่หนี้ใหม่ก็ไม่เกิดขึ้นโจทก์จึงไม่มีนิติสัมพันธ์กับจำเลยแต่อย่างใด และไม่เกิดอำนาจฟ้องบังคับให้จำเลยโอนที่พิพาทให้โจทก์ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 370/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องขับไล่ผู้เช่า, นิติสัมพันธ์เทศบาล/กรุงเทพมหานคร, การประวิงคดี และค่าเสียหายจากการ占ครองพื้นที่
การที่จำเลยเช่าที่ดินบริเวณสวนลุมพินีกับเทศบาลนครกรุงเทพโจทก์คราวละ 1 ปีนั้น เพื่อให้เป็นไปตามระเบียบที่กระทรวงมหาดไทยกำหนดไว้ หากเช่าเกินกว่า 1 ปี ต้องได้รับอนุมัติจากกระทรวงมหาดไทยก่อน เช่นนี้เป็นการแสดงอยู่ในตัวแล้วว่ากระทรวงมหาดไทยให้โจทก์มีอำนาจให้เช่าที่พิพาทได้คราวละ 1 ปี โจทก์จึงมีสิทธิให้จำเลยเช่าที่พิพาทได้เมื่อโจทก์มีสิทธิให้เช่าแล้วโจทก์ก็มีอำนาจฟ้องขับไล่ผู้เช่าตามสัญญาได้
เดิมเทศบาลนครกรุงเทพเป็นโจทก์ฟ้องจำเลย แต่ในระหว่างพิจารณาคดีของศาลชั้นต้นได้มีประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ 25 ลงวันที่ 21 ธันวาคม 2514 ให้รวมเทศบาลนครกรุงเทพและเทศบาลนครธนบุรี จัดตั้งเป็นเทศบาลนครหลวง ประกาศของคณะปฏิวัติมีสภาพเป็นกฎหมายและตามประกาศฉบับนี้ข้อ 6 ให้เทศบาลนครหลวงมีอำนาจหน้าที่เช่นเดียวกับเทศบาลตามกฎหมายว่าด้วยเทศบาล และข้อ 13 ให้นำบทบัญญัติแห่งกฎหมายว่าด้วยเทศบาล กฏกระทรวง ระเบียบ ข้อบังคับหรือคำสั่งเกี่ยวกับเทศบาลมาใช้บังคับแก่เทศบาลนครหลวงโดยอนุโลมเท่าที่ไม่ขัดแย้งกับประกาศของ คณะปฏิวัติฉบับนี้ และคำว่าเทศบาลในกฎหมายดังกล่าวให้หมายรวมถึงเทศบาลนครหลวงด้วย เช่นนี้ตามข้อบัญญัติแห่งประกาศของคณะปฏิวัติดังกล่าวย่อมแปลได้ว่าเทศบาลนครหลวงเป็นนิติบุคคลตามพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ.2496 เมื่อรวมเทศบาลกรุงเทพ เทศบาลธนบุรี เป็นเทศบาลนครหลวงแล้วสิทธิและหน้าที่ของเทศบาลนครกรุงเทพที่ได้ทำไว้แต่เดิมจึงเปลี่ยนมาเป็นของเทศบาลนครหลวง เทศบาลนครหลวงจึงมีสิทธิดำเนินคดีต่อจากเทศบาลนครกรุงเทพได้ อนึ่ง ปรากฏต่อมาว่าขณะที่คดีนี้ยังอยู่ในระหว่างพิจารณาของศาลอุทธรณ์ เทศบาลนครหลวงได้ถูกยุบเลิกไปโดยประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ 335 ลงวันที่ 13 ธันวาคม 2515 ได้มีการจัดระเบียบบริหารใหม่ให้เป็นกรุงเทพมหานคร และให้ถือเป็นจังหวัดตามประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 218 ลงวันที่ 29 กันยายน 2515 ข้อ 48 มีฐานะเป็นนิติบุคคล โดยให้โอนกิจการทรัพย์สิน หนี้ ฯลฯ ของเทศบาลนครหลวงไปเป็นของกรุงเทพมหานครซึ่งมีผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครเป็นผู้รับผิดชอบในการบริหารตามนโยบายของรัฐบาล ฯลฯ จึงถือได้ว่ากรุงเทพมหานครเป็นนิติบุคคล กรุงเทพมหานครโดยผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครจึงมีสิทธิดำเนินคดีต่อจากเทศบาลนครหลวงได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2664/2517

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ นิติสัมพันธ์สัญญาประกันภัย: โจทก์ผู้ออกเงินค่าประกันภัยไม่มีอำนาจฟ้องผู้รับประกันภัยโดยตรง
โจทก์เช่าซื้อรถยนต์จากจำเลยที่ 1 โดยมีข้อตกลงในสัญญาเช่าซื้อว่า โจทก์เป็นผู้เสียค่าประกันภัยรถยนต์ในนามจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นเจ้าของรถ แล้วจำเลยที่ 1 ได้ไปทำสัญญาประกันภัยรถคันนี้กับจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นผู้รับประกันภัย และโจทก์เป็นผู้ออกเงินในการประกัน ดังนี้ ถือไม่ได้ว่าโจทก์ได้ร่วมกับจำเลยที่ 1 เอาประกันภัยรถคันที่เช่าซื้อ โจทก์จึงไม่มีนิติสัมพันธ์กับจำเลยที่ 2 และไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยที่ 2 ให้รับผิดใช้เงินค่ารถยนต์คันที่เช่าซื้อซึ่งได้หายไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 771/2516 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยกที่ดินให้ผู้อื่น และความยินยอมของคู่สมรส ไม่ทำให้เกิดนิติสัมพันธ์ระหว่างผู้ยกและผู้รับ
ภริยาโจทก์ยกที่ดินให้จำเลยโดยทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ และโจทก์เป็นผู้ให้ความยินยอมในฐานะสามีถึงหากที่ดินนั้นจะเป็นของโจทก์และภริยาร่วมกัน เมื่อเอกสารมีข้อความชัดแจ้งว่าภริยาโจทก์เป็นผู้ยกที่ดินให้จำเลย กรณีก็ต้องบังคับตามข้อความในเอกสาร ที่โจทก์ให้ความยินยอมก็เป็นเพียงอนุญาตให้ภริยาทำการผูกพันสินบริคณห์ได้เท่านั้น โจทก์หามีนิติสัมพันธ์อย่างใดกับจำเลยด้วยไม่ โจทก์จึงมิใช่ผู้ให้ทรัพย์สินแก่จำเลย และไม่มีสิทธิฟ้องเรียกถอนคืนการให้เพราะเหตุผู้รับประพฤติเนรคุณ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 771/2516

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยกที่ดินให้ผู้อื่นโดยภริยา และความยินยอมของสามี ไม่สร้างนิติสัมพันธ์ระหว่างสามีกับผู้รับ
ภริยาโจทก์ยกที่ดินให้จำเลยโดยทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ และโจทก์เป็นผู้ให้ความยินยอมในฐานะสามี ถึงหากที่ดินนั้นจะเป็นของโจทก์และภริยาร่วมกัน เมื่อเอกสารมีข้อความชัดแจ้งว่าภริยาโจทก์เป็นผู้ยกที่ดินให้จำเลย กรณีก็ต้องบังคับตามข้อความในเอกสาร ที่โจทก์ให้ความยินยอมก็เป็นเพียงอนุญาตให้ภริยาทำการผูกพันสินบริคณห์ได้เท่านั้น โจทก์หามีนิติสัมพันธ์อย่างใดกับจำเลยด้วยไม่ โจทก์จึงมิใช่ผู้ให้ทรัพย์สินแก่จำเลย และไม่มีสิทธิฟ้องเรียกถอนคืนการให้เพราะเหตุผู้รับประพฤติเนรคุณ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2735/2516 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การมอบอำนาจ สัตยาบันโดยปริยาย และนิติสัมพันธ์จากการรับผลประโยชน์การซ่อมรถ
บริษัทจำเลยทำหนังสือมอบอำนาจให้ ส. นำหลักฐานการเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์รถยนต์ซึ่งผู้ที่เช่าซื้อไปจากจำเลย นำไปให้อู่รถของโจทก์ทำการซ่อมเพื่อรับรถกลับคืนไปยังบริษัทจำเลย ดังนี้ย่อมแสดงว่าจำเลยได้รู้เห็นและยอมรับเอาผลการซ่อมรถของโจทก์แล้วโจทก์จำเลยจึงมีนิติสัมพันธ์ต่อกัน และในการรับรถคืนไปนี้ส. ได้บันทึกจำนวนเงินค่าแรงซ่อมและเครื่องอะไหล่ให้โจทก์ไว้เป็นหลักฐานเพื่อให้โจทก์ไปรับเงินจากบริษัทจำเลย ถือว่าการกระทำของ ส. เป็นไปภายในขอบเขตวัตถุประสงค์ของการมอบอำนาจทั้งเมื่อบริษัทจำเลยทราบเรื่องที่ ส. ได้บันทึกหนี้สินไว้กับโจทก์แล้วก็ไม่ทักท้วง กลับนิ่งเฉยและรับเอาผลการซ่อมรถ จึงเป็นการให้สัตยาบันโดยปริยายด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2735/2516

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การให้สัตยาบันโดยปริยายจากตัวแทน การเกิดนิติสัมพันธ์จากผลการกระทำของตัวแทน และความผูกพันตามหนี้ที่ตัวแทนสร้าง
บริษัทจำเลยทำหนังสือมอบอำนาจให้ ส. นำหลักฐานการเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์รถยนต์ซึ่งผู้ที่เช่าซื้อไปจากจำเลย นำไปให้อู่รถของโจทก์ทำการซ่อมเพื่อรับรถกลับคืนไปยังบริษัทจำเลย ดังนี้ ย่อมแสดงว่าจำเลยได้รู้เห็นและยอมรับเอาผลการซ่อมรถของโจทก์แล้วโจทก์จำเลยจึงมีนิติสัมพันธ์ต่อกัน และในการรับรถคืนไปนี้ ส. ได้บันทึกจำนวนเงินค่าแรงซ่อมและเครื่องอะไหล่ให้โจทก์ไว้เป็นหลักฐานเพื่อให้โจทก์ไปรับเงินจากบริษัทจำเลย ถือว่าการกระทำของ ส. เป็นไปภายในขอบเขตวัตถุประสงค์ของการมอบอำนาจทั้งเมื่อบริษัทจำเลยทราบเรื่องที่ ส. ได้บันทึกหนี้สินไว้กับโจทก์แล้วก็ไม่ทักท้วง กลับนิ่งเฉยและรับเอาผลการซ่อมรถ จึงเป็นการให้สัตยาบันโดยปริยายด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1730/2516

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การต่อสู้คดีเรื่องนิติสัมพันธ์จริงของหนี้ และการนำสืบพยานตามข้อต่อสู้
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกู้เงินโจทก์ซึ่งจำเลยได้รับเงินไปแล้ว และจำเลยได้จำนองที่ดินเป็นประกันเงินที่กู้ไป จำเลยให้การต่อสู้ว่าจำเลยไม่ได้กู้เงินโจทก์และไม่ได้รับเงินจากโจทก์ ความจริงเป็นเรื่องการเช่าซื้อรถยนต์กันระหว่างสามีโจทก์กับสามีจำเลย สามีโจทก์เกรงจะไม่ได้เงินค่าเช่าซื้อจึงให้จำเลยนำที่ดินมาจำนองค้ำประกันสัญญาเช่าซื้อนั้น โดยให้โจทก์เป็นเจ้าหนี้ผู้รับจำนองแทนเพราะสามีโจทก์เป็นคนต่างด้าว สัญญาจำนองไม่สมบูรณ์ และหนี้ตามสัญญาจำนองได้ระงับสิ้นไปเพราะสามีโจทก์ได้เรียกเอารถยนต์คืนไปแล้ว และในระหว่างที่รถยนต์ที่เช่าซื้อยังอยู่ที่สามีจำเลย สามีจำเลยก็ได้ส่งเงินให้สามีโจทก์ และไม่เคยติดค้างดอกเบี้ยคำให้การจำเลยเช่นนี้เป็นคำให้การที่ต่อสู้คดีว่าจำเลยมีนิติสัมพันธ์ตามสัญญาที่พิพาทอยู่กับสามีโจทก์ แต่การที่ปรากฏมีชื่อโจทก์เป็นเจ้าหนี้จำเลย ก็โดยมีเจตนาจะอำพรางตัวเจ้าหนี้ที่แท้จริงไว้ ทั้งจำเลยยังต่อสู้ว่าหนี้ตามสัญญาที่พิพาทเป็นหนี้สืบเนื่องมาจากหนี้ตามสัญญาค้ำประกันการเช่าซื้อรถยนต์ ซึ่งจำเลยอ้างด้วยว่าหนี้ตามสัญญาเช่าซื้อรถยนต์ไม่มีติดค้างอยู่ระหว่างสามีโจทก์และสามีจำเลย หากฟังได้สมจริงดังจำเลยต่อสู้หนี้ตามสัญญากู้ยืมและสัญญาจำนองตามที่โจทก์ฟ้องก็อาจจะไม่สมบูรณ์ จำเลยจึงมีสิทธินำสืบตามข้อต่อสู้ของจำเลยได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94 วรรคท้าย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2081-2087/2514

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจจัดการทรัพย์สินบุตรผู้เยาว์ & นิติสัมพันธ์จากการมอบอำนาจ/มอบกรรมสิทธิ์
บิดาผู้ใช้อำนาจปกครองมีอำนาจจัดการและจำหน่ายทรัพย์สินอันเป็นสังหาริมทรัพย์ของบุตรผู้เยาว์ได้โดยไม่ต้องได้รับความยินยอมของบุตร เว้นแต่ในกิจการใดประโยชน์ของผู้ใช้อำนาจปกครองขัดกับประโยชน์ของผู้เยาว์ จะต้องได้รับอนุญาตของศาลก่อน มิฉะนั้นเป็นโมฆะ
บิดานำหุ้นของบุตรผู้เยาว์ไปโอนตีใช้หนี้ส่วนตัวของบิดาประโยชน์ของบิดาผู้ใช้อำนาจปกครองย่อมขัดกับประโยชน์ของบุตรผู้เยาว์หากทำโดยไม่ได้รับอนุญาตจากศาล แม้บุตรผู้เยาว์จะทำหนังสือให้ความยินยอมด้วย ก็เป็นโมฆะ
ผู้ถือหุ้นทำหนังสือมอบกรรมสิทธิ์ในหุ้นของตนให้บิดา บิดานำหุ้นนั้นไปโอนตีใช้หนี้ให้โจทก์ แต่ทำการโอนหุ้นกันไม่ได้ เพราะขัดกับข้อบังคับของบริษัท ดังนี้ ผู้ถือหุ้นนั้นไม่ต้องรับผิดคืนเงินค่าหุ้นให้โจทก์เพราะไม่มีนิติสัมพันธ์กับโจทก์
ผู้ถือหุ้นทำหนังสือมอบอำนาจให้บิดานำหุ้นของตนไปจำนำประกันเงินกู้ ขายโอนหรือจำหน่ายด้วยประการใด ๆ บิดานำหุ้นนั้นไปโอนตีใช้หนี้ให้โจทก์ ถือได้ว่าเป็นการก่อนิติสัมพันธ์ตามที่ได้รับมอบอำนาจ ซึ่งผูกพันผู้ถือหุ้นซึ่งมอบอำนาจนั้นด้วย เมื่อต่อมาปรากฏว่าโอนหุ้นให้โจทก์ไม่ได้ ผู้ถือหุ้นย่อมต้องรับผิดคืนเงินค่าหุ้นให้โจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1413/2513

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเข้าใช้ประโยชน์ในที่ของผู้อื่นโดยไม่มีนิติสัมพันธ์ ถือเป็นการละเมิด เจ้าของมีสิทธิฟ้องขับไล่ได้
โจทก์เป็นเจ้าของแผงลอยพิพาท ได้ทำสัญญาให้ ช. เช่า เมื่อ ช. ตาย สัญญาเช่าจึงระงับไป จำเลยผู้เป็นน้องชายของ ช. เข้าใช้แผงลอยนี้ต่อมาโดยไม่มีนิติสัมพันธ์กับโจทก์ เป็นการละเมิดต่อโจทก์ โจทก์มีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลย แม้โจทก์จะได้ทำสัญญาให้ ก. เช่าเพื่อสร้างอาคารใหม่ก็ไม่ทำให้อำนาจฟ้องของโจทก์ระงับไป
โจทก์ทำสัญญาให้ ก. เช่าตลาดโดยให้รื้อตึกเก่าและแผงลอยออกแล้วสร้างตึกใหม่และมอบอำนาจให้ ก. เป็นโจทก์ฟ้องขับไล่ผู้เช่าตึกและแผงลอย ไม่ใช่เป็นเรื่องโจทก์ตั้งให้ ก. เป็นตัวแทนไปตกลงเรื่องจะให้ค่าขนย้ายออกจากแผงลอย การที่ ก. ตกลงจะให้ค่าขนย้ายแก่ผู้ที่อยู่ในแผงลอย จึงไม่ผูกพันโจทก์
of 14